บัตรเครดิต 50,000 ยึดบ้านและถูก ธอส.ซื้อจากกรมบังคับคดี สุดท้าย ดอกเบีย ธอส.บานกว่าบัตรเครดิตซ

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกท่าน

เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ดิฉัน เพิ่งทราบมาเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ เอง ทำให้ดิฉัน รู้สึกว่า ประชาชนตาดำๆอย่างเรา ถูกเอารัดเอาเปรียบจากธนาคาร อย่างมาก ดิฉันจึงอยากนำเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาเป็นอุทธาหรณ์ สอนใจ กับคนที่อยากเป็นคนยิ้มสู้หนี้ เหมือนๆกัน แต่การยิ้มสูหนี้ ของเรา กลับถูกธนาคาร อาคารสงเคราะห์ ที่บอกว่า ช่วยประชาชน กลับไปเอื้อประโยชน์ กับ บริษัทนายหน้าขายที่ดิน มากกว่า เราผู้เป็นลูกหนี้ธนาคารเสียอีก จนบางครัั้ง ทำให้นึกถึง คำพูดลูกชายที่ว่า '' แม่รู้มั๊ย คนทำดีไม่เห็นได้อะไรเลย คนที่มันโกงต่างหาก รวยกว่าแม่ซะอีก ''

เมื่อ 1 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เอาป้ายมาแปะที่บ้านดิฉัน ขายในราคา 1,140,000 บาท นั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ดิฉัน ไม่ทราบข้อมูลอะไรเลย ครั้งแรก ดิฉัน คิดว่า ธนาคารขายบ้านสูงกว่า ราคาหนี้ เราคงจะปลดหนี้ บัตรเครดิต 5 หมื่น ที่ฟ้องได้ 1 แบงค์ และ คงปลดหนี้ ธอส.ได้ด้วย แต่ปล่าวเลย เป็นความคิด ของคนโง่ ประชาชนตาดำ ที่หาเช้า กินค่ำ ที่ ต้องส่งเสีย ลูก ตามลำพัง อย่างเรา

อ้อ ต้องขอบอกก่อนน่ะค่ะว่า ดิฉันก็เลิกส่งบ้าน เพราะเหตุผล ที่ว่า ช่วงนั้น ดิฉันเลิกกับสามี มีภาระ ส่งบัตรเครดิต ด้วย ลูก 2 คน กำลังเรียน มหาวิทยาลัย ด้วย มันเป้นภาระที่หนักสำหรับ ดิฉัน ทีเดียว ที่ต้องคิด และ จดการทุกอย่างเอง ถึงแม้ ทาง พ่อเด็ก ยังช่วยค่าใช้จ่ายบ้าง เขาเป็นแค่ คนขับแท๊กซี่ แต่ก็ยังช่วย ค่าใช้จ่ายทุกเดือนตามหน้าที่พ่อที่ดี แต่ถึงจะช่วย หลายๆคน คงทราบว่า ภาระ อื่นๆ ที่ผู้หญิง อย่างเราต้องแบก เอาไว้ ต้องจัดการ และ คิด อยู่ตลอกเวลา คนเดียว พ่อเด็ก เป็นคนไม่อาอะไรเลย ไม่อยากซื้อบ้าน ไม่อยากเป็นหนี้อะไรเลย ผิดกับเราที่อยากซื้อบ้าน เป็นของตัวเอง เวลามีปัญหา ก็โทษ ดิฉันคนเดียว ว่า อยากซื้อบ้าน หรือ โน้นนี่นั่น และ นั่นคือ ปัญหาที่เราเลิกกัน ปัญหาหนี้สิน และ ต้องมาอธิบายให้สามีฟังอีก ผู้หญิง อย่างเรา ก้จะสติแตก ซะปล่าว ก็เลยแยกทางกัน

ประสบการณ์ ทวงหนี้ บัตรเครดิต ของ TMB ทำ ดิฉันก็เคยโดน บอกว่าเอาเจ้าหน้าที่ กรมบังคับคดีมายึดทรัพย์ที่บ้าน ตอนนั้นตกใจ มาก ทำอะไรไม่ถูก เขาบังคับให้หาเงินใช้หนี้วันนั้น สุดท้ายวันนั้นต้องไปกู้เงินมาใช้หนี้ ไป 16000 บาท และยังเจอ หลายธนาคาร โทรมาขู่กรรโชก ไม่ต่างจากหลายๆคนค่ะ

ดิฉัน กลับมาเล่าเรื่องบ้านน่ะค่ะ หลังจากที่ธนาคาร มาแปะขายบ้าน ดิฉัน ก็พยายามอ่านขอมูลมากมาย ที่ราคาขายมากกว่าราคาหนี้ สุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร อ้อ ปัญหา อีกเรื่อง ที่ดิฉัน ต้องหยุดส่งบ้าน ก็เพราะ มีเพื่อนบ้านแย่มากๆ บ้านหลังนี้ ตอนที่ดิฉันไปซื้อ หมู่บ้านนี้ ยังรกร้างอยู่มาก เรียกว่า ไม่มีเพื่อนบ้าน อยู่รอบๆบ้านเลย แต่พอ โลตัสใหญ่ขึ้นอยู่หน้า หมู่บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ มีคนมาซื้อเต็มทุกหลังค่ะ ดิฉัน เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านที่ ติดกัน 2 ครั้ง บ้านนี้ มีลูกๆ ที่จะออกแนวๆ กวน ลูกชายเป็นเสื้อแดง เต็มร้อย เคยด่า บ้านดิฉันเยอะแยะ แบหยาบๆ หาว่า ลูกดิฉัน ติดยาบ้าง อะไรบ้าง ครั้งแรก ทะเลาะกัน เอามีดมาฟันต้นไม้ที่ บ้าน ตำรวจก็ยืนดูเฉย บอกน้องสาวให้ตบดิฉัน แล้วจะจ่ายค่าปรับเอง อ้อ คนพูด เป็นผู้ชาย ไปเอาฆ้อนปอนด์ จะมาทุบ ดิฉัน ครั้งที่ 2 นี่ ด่าตะโกนดิฉัน ตอนนั้น ดิฉันยืนอยู่ชั้น 2 สุดท้าย ผู้ชายคนนี้ วิ่งเข้าไปบ้านไปเอามีดยาว ประมาณ เกือบ 2 ฟุต และมีไม้ยาวอีก ประมาณ 2 เมตร ดิฉัน เดินเข้าไปคุยกับเขามือเปล่า ไม่อยากให้ลูกชาย หรือ หลานลงไป เพราะ เดีญวจะเป็นเรื่อง ดิฉันเป็นผู้หญิง ลงไปเองดีกว่า ดิฉันเดินไปตัวเปล่า เขาเอามีดหลบไม่กล้าแทง แต่เอาเท้าเตะดิฉัน ไปแจ้งความ ตำรวจส่งไป รพ. สุดท้าย ตำรวจบันทึกว่า ดิฉันไม่ถึงแก่ความตาย 55555 ผู้ชายคนนั้นถูกปรับแค่ 1 ร้อยบาท แต่ ดิฉัน ว่า คงมีอะไรมากกว่านี้ เพราะ ผู้ชายคนนี้มีเมียรวย และ บ้านนี้ด่า พ่อแม่ แบบ เราฟังไม่ได้ และนั่นคือ อีกเหตุผล ที่หยุดส่งบ้านค่ะ อยากใส่ล้อ แล้วเลื่อนบ้านไปอยู่ที่อื่นจริงๆ ช่วงนั้น ลูกชายเอง บอกว่า จบไปแล้ว ไม่อยูที่นี่น่ะแม่ สลัมชัดๆ เฮ้อ

คนเรา มันมีเหตุผล และ เรื่องราวมากมาย ที่เกิดขึ้นในชีวิต มันยิ่งกว่า นิยายซะอีกค่ะ ขอต่อน่ะค่ะ เมื่อ 2-3 วันก่อน เพื่อนดิฉัน โทรมาหาดิฉัน บอกว่า มีนายหน้าขายบ้าน และ ชาวบ้าน ในซอย ซึ่งนั่นคือ นิสัยเพื่อนบ้านในซอยนั้นค่ะ ลืมบอกไปน่ะค่ะ ดิฉันย้ายออกจากบ้านหลังนั้น มาหลายเดือน เพื่อ จะขายใช้หนี้ค่ะ ไปทาสีใหม่เมื่อไม่นานนี้เองค่ะ นั่นก็คือ อีก ความไม่รู้ของดิฉัน เหมือนกันค่ะ

ชาวบ้านทั้งซอย พูดกันว่า นายหน้า มาบอกว่า เขาไปขอซื้อบ้านของดิฉันจาก ธอส.ในราคา 970,000 บาท เขาบอกว่า ต้องปรับปรุงเยอะ เข้าไปดูข้างในแล้ว อ้าว แล้วเข้าไปบ้านดิฉันได้อย่างไร ดิฉันยังมีของอยู่ในบ้าน ยังจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ทำความสะอาด อยู่ตลอด และ นั่น คือ เหตุผล ทำให้ ดิฉันโทรหา ธอส. และ เพิ่งรู้ว่า ธอส.ไปซื้อบ้านดิฉันจาก กรมบังคับคดีในราคา 820,000 บาม เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 บริษัท ฮ่องกงแบงค์เดิม เป็นผู้ฟ้องดิฉัน หนี้ 5 หมื่นบาท ประมูลช่วงแรกๆ ดิฉันก็ไปฟัง แต่ไม่มีใครซื้อ ช่วงหลัง ป่วยเอามากๆ บางครั้ง วูบ เป็นลม ช่วงครั้งหลังๆ เลยไม่ได้ติดตาม แต่ใจคิดว่า ถ้าบ้าน ขายได้ ทาง กรมบังคับคดี ก็น่าจะมีหนังสือแจ้งมา ถึงดิฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ก็แวะเวียนไปบ้านนั้นตลอดค่ะ

กับ ธอส. ยอดหนี้เดิม 628,000 บาท หนี้ปิด 0 อยู่ที่ 1 ล้าน 4 หมื่นบาท รวม ดอกเบี้ยแล้ว เคยขอเจรจา เขาบอกว่า ดิฉันต้องจ่าย 1 แสน หรือ น้อยที่สุด 7 หมื่นบาท นั่นคือการเจรจา ที่จะขอผ่อนต่อ แ่ช่วงนั้นลูกก็กำลังเรียนอยู่ค่ะ ใกล้จบแล้ว ระยะเวลาที่แบงค์ ไปซื้อคืนมา ถึงวันนี้ แบงค์ขายบ้านได้ มันแค่ระยะเวลาสั้น เท่านั้น ดิฉัน โทรไป เขาบอกว่า เบ็ดเสร็จแล้ว ดิฉัน ยังเป็นหนี้ เขาอยู่อีก 321,863.13 ดอกเบี้ยสะสม ทั้งหมด 520,592.13 บาท นี่คือหลักฐานที่ดิฉันได้รับจาก ธฮส. เมื่อวานนี้เองค่ะ 55555 ประชาชน ตาดำๆ อย่างเรา ต้องแบกรับดอกเบี้ย แบงค์ ขนาดนี้เลยหรือค่ะ แบงค์ บอกว่าขาดทุน ยึดบ้านไปแล้ว ดิฉัน ยังเป็นหนี้ ธฮส. อีก 3 แสน

ดิฉัน คิดเสมอว่า ถ้าบ้านถูกขายไป ดิฉันคงมีหนังสือ จากกรมบังคับคดี หรือ ธนาคาร แต่ ดิฉันไม่เคยได้รับจดหมายเลย ดูเหมือนประชานอย่างเราที่ตั้งใจว่า ลูกจบแล้ว เราจะใช้หนีทุกแบงค์ ก่อนตายแน่นอน แต่ปีนี้ ดันเจ็บป่วยซะหลายเรื่อง ข้อมืออักเสบรุนแรง เป็นโรคความดันต่ำ กระทันหัน วูบไป ถึงขนาดคลานทีเดียว คนที่ตั้งใจ ปลดหนี้ อย่างเรา จะสู้ กับภาระหนี แบงค์ ธอส.ไหวมั๊ย

ฝ่ายบริหารหนี้ เป็นผู้ชาย บอกดิฉันว่า คุณรู้มั๊ย เราไปซื้อคืนมาจากกรมบังคับคดีลด 50 % ดิฉันเลยตอบว่า เดี๋ยวนี้กฎหมาย ไม่มีแบบนั้นแล้ว เขาพูดเหมือนเราโง่ มากๆ ทางเราขาดทุนและเสียหายมาก ดิฉันเลยถามว่า ดอกเบี้ยที่ ดิฉันรับอยู่นี่หรือ ทาง ธอส.ขาดทุน คุณซื้อเดือน กันยายน เดือนนี้ คุณขายได้ กำไรเห็นๆ แล้วบอกว่าขาดทุน เวลาที่ดิฉัน ถามคุณ คุณบอกว่า เป็นความลับ บอกไม่ได้ ว่า มีคนมาขอซื้อบ้านดิฉัน ในราคาเท่าไหร่ แต่ความลับ ของคุณ ถูก เปิดเผย จาก บริษัท นายหน้า และ เพื่อนบ้าน ดิฉัน ว่า เขาซื้อแค่ 9 แสน เ็ด แต่ พอดิฉัน ถามว่า ถ้า ดิฉันซื้อคืนล่ะ คุณบอกว่า ดิฉันต้องซื้อในราคา 1 ล้าน 1 แสน 4 หมื่น บาท ราคาเต็มทีเดียว ต่อให้ซื้อเงินสด ก็ราคานั้น ซึ่ง ดิฉันคิดว่า ถ้า ทาง ธอส. ลดให้ อาจจะยืมเงินสดมาเป็น ขายให้เจ้าหนี้ รายอื่นได้ สุดท้าย ดิฉัน เลยคิดว่า ต้องเข้าไปเคลียร์ที่ธนาคาร ด้วยตัวเอง

ผลสรุป ที่ไป ติดต่อที่ธนาคาร เมื่อวานนี้ ครั้งแรก ดิฉัน ไปติดต่อ ที่กฎหมายและ ประนอมหนี้ เขาแจ้งว่า บ้านดิฉัน ถูกขายไป แล้ว ดิฉัน ยังเป็นหนี้แบงค์ 321,868.13 บาท และเขาก็บอกว่า ให้ดิฉัน ไปติดต่อ ขอซื้อทรัพย์คืน ผล ที่ออกมาคือ ดิฉัน ต้อง ชื้อในราคา 1,140,000 บาท และ ต้องจ่ายดอกเบี้ย อีก 321,863.13 เท่ากับว่า ดิฉันจะซื้อบ้านคืน ในราคา 1461863.13 บาท และ ดิฉัน ถามว่า แล้ว ทำไม นายหน้า ซื้อในราคา 970,000 บาทล่ะ เขาก็บอกว่า เขาซื้อเหมาล็อต ก็เลยมีส่วนลด

55555555 ธนาคาร เอื้อผลประโยชน์ สูงสุดนี้ แก่ นายหน้าขายที่ดิน และ โยนภาระ หนี้สิน และ ดอกเบี้ย แก่ประชาชนอย่างเรา โดยแท้จริง แล้ว อย่างนี้ ต่อให้เรา ยิ้มสู้หนี้ อย่างไร แล้ว เราจะปลดหนี้นี้ไวมั๊ย นี่คือ ประสบการณื ที่แย่ที่สุด ที่ได้ยินมา บริษัมนายหน้าที่ซื้อบ้าน ดิฉัน ก็เปิด สำนักงาน อยู่ที่บ้าน ดิฉัน กว็านซื้อ ทั้งหมู่บ้าน

ดิฉัน เอง ก็เคยจะเป็นนายหน้า แต่เท่าที่ไปเรียนมา ดิฉันไม่สามารถ ทำได้ เพราะ หากินและผลประโยชน์มากเกินไป บางครั้งไม่มีมนุษยธรรม เมื่อไม่นาน ก็มีโอกาสได้คุยกับบริษัมนายหน้าที่หนึ่ง เขาบอกว่า เขาขายบ้าน หลังหนึ่ง ในราคา 1 ล้าน 7 แสน และ เข้าแบงค์ ให้ผู้ซื้อในราคา 2 ล้าน 3 แสน ดิฉัน เดาได้เลยว่า ไม่นานผู้ส่งก็จะไม่มีเงินส่ง บ้านในแถบนั้น ไม่น่ากูได้ในราคานั้น และ นายหน้าที่ซื้อบ้าน ดิฉัน ก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ทำราคาสูงเกิน ธนาคาร ไม่เสียหาย เท่าที่รู้มา มีใต้โต๊ะ กันเยอะแยะ

ประชาชน อย่างเรา ใช้ 2 มือ ทำงาน กว่าจะได้เงินมา แทบตาย แต่ อาชีพ แบบนั้น ทำนากันบนหลังคนจริงๆ เมื่องาน ดิฉัน ยังบอกเขาเลยว่า ดิฉันตั้งใจ จะใช้หนี้ทุกบัตรก่อนตายแน่นอน ดิฉัน เอาเงินคุณมา ก็ต้องใช้ เพราะ ดิฉัน รับผิดชอบในสิ่งที่ทำมา ตอนนี้ ลูก ทั้ง 2 คนจบแล้ว เขาเองก็ไม่ได้ช่วยอะไรดิฉัน แค่ให้เดือนละ พัน 2 พัน เท่านั้น แต่ดิฉัน ก้ยังต้องทำงาน เพื่อ ต้องการปลดหนี้ แต่ ถ้า คนสู้หนี้ อย่างดิฉัน เจอแบบนี้ หนี้ดิฉัน ก็คงไม่หมดเสียที

เจ้าหน้าที่ ธนาคาร ที่เป็นผู้หญิง เขายังบอกลยว่า ใช่ ถ้าพี่ซื้อราคานี้ พี่ไปเช่าบ้านดีแล้วค่ะ แต่ ดิฉันบอกเขาว่า ที่ดิฉันมาติดต่อ เพราะคิดว่า ถ้าซื้อเงินสด ธนาคารจะลดให้ แล้ว ดิฉันจะได้มีส่วนต่างใช้หนี้ให้ธนาคารอื่นได้อีก

และ ดิฉัน เอง ก็ได้โทรไป ธนาคาร ที่ยึดบ้านดิฉัน แล้งส่วฟ้องขาย เขาบอกว่า เขาเองก็คิดว่า แบงค์ เอาไปขาย แล้ว ดิฉันมีส่วนต่าง และ ตอนนี้ เขาก็ไม่ได้เงิน จาก ธอส.เหมือนกัน ซึ่งดิฉันก็เคยแจ้งทาง บัครเครดิตแล้วว่า ดิฉันไม่ได้ส่งบ้าน คุณต้องรู้น่ะว่า ธอส. คงต้องเคลียร์หนี้เขาก่อน และ คุณถึงได้รับ คุณคุ้มกับการฟ้องหรือปล่าว หรือ คุณจะรอ ดิฉันขายบ้านได้ แล้ว คุณค่อยมารับหนี้

สุดท้าย ปัญหานี้ บัตรเครดิต ที่ฟ้อง ก็ไม่ได้เงิน 5 หมื่น แถม ดิฉัน เพิ่มหนี้ มาอีก

กลับจาก ธนาคาร ดิฉัน ต้องคิดทุกอย่างอย่างรวดเร็ว วิ่งเข้าไปการประปา ยกเลิกการใช้ไฟ ทางประปา แจ้งว่า จะได้เงินคืน 128 บาท ไปยกเลิก ใช้ไฟ จะได้เงินคืน 300 บาท และ อาทิตย์หน้า ต้องไปทำเรื่องย้ายออกจากบ้านหลังนั้น และ ต้องไป ขนของออกจากบ้านหลังนั้นทั้งหมด

ดิฉัน เพิ่งไปทาสีที่นั่นมาไม่นาน ใช้สีอย่างดีซะด้วย เช็ดล้างได้ และ ดิฉัน ตั้งใจ จะบอกเจ้าที่ ที่นั่นว่า ดิฉันคงต้องไปแล้วน่ะค่ะ ดิฉันทาสี บ้านให้สวยงาม สวดมนต์ เป็นประจำ ดิฉันได้ทำหน้าที่ ต่อท่านดีที่สุดแล้ว ยังไง ดิฉันก็รักบ้านหลังนี้ เพราะ เป็นบ้านหลังแรก ในชีวิต แต่ทำยังไงได้ ทุกอย่าง เป็นโชคชะตา ถึงเวลาก็ต้องจากกัน

สุดท้าย เราเอง ก้ต้องอยู่อย่างเข้มแข็ง อดทน และ คงต้องยอมรับสภาพ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ได้ ไม่นาน เราเองก็คงหมดลมหายใจ เราก็ขอแค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ก่อนตายแล้วกันค่ะ

ตลอดชีวิต บริจาคเลือด ช่วยคน มา 36 ครั้ง ไม่นาน คงได้เข้าเฝ้า รับพระะราชทานจาก พระเทพ เป็นอีกอันที่ได้ทำก่อนตาย ส่งเสียลูกชาย 2 คน ถึง ฝั่ง และทำงานแล้วทั้งคู่

เก็บน้องหมาพันธุ์ ถูกทิ้ง และช่วยเหลือ พวกเขามาตลอด และ ดูแล เขา ให้มีความสุช เพราะ น้องหมา เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ กว่า คนบางคน

เคยเปิดสอน ตัดเย็บเสื้อผ้า ฟรี เป็นวิทยาทาน แก่ทุกชนชั้น แต่กลับถูกเอาเปรียบจากคนบางคน ที่ ดิฉัน ทำแบบนั้น เพราะ อยากถ่ายทอดวิชา เคล็ดลับ ให้ผู้อื่น ได้ไปใช้ประโยชน์ ในการทำมาหากิน และ วิชา จะได้ไม่สูยเปล่าไปกับชีวิต ดิฉัน แต่ นั่น ทำให้ ดิฉัน ได้เจอกับพวก 18 มงกุฎอีก ให้ที่พักพิง ไปนอนบ้านหลังที่มีปัญหา ให้เรียน ให้ที่อยู่ สุดท้าย เด็กคนนั้นไปบอกชาวบ้านแถวนั้นว่า ดิฉันไปยืมเงินเขา อยู่ไม่ได้ ทั้งๆที่เขาบอกว่า จะจ่ายค่าเช่าบ้านให้ดิฉัน

ช่อง 5 รายการ ทำดีได้ ง่ายนิดเดียว จะมาขอออกรายการ นัดแล้ว ไม่ในครั้งแรก และ ติดต่อมา ครั้งที่ 2 ดิฉันจึงบอกว่า สอนฟรี เฉพาะคนยากจน ด้อยโอกาส และ ได้เอาวิชาไปใช้ประโยชน์ ทำมาหากิน ไม่ใช่ ว่า ของฟรี มาเรียนกันเล่น ดิฉัน ยังเป็คคนธรรมดา สามัญ ที่อยากแบ่งปัน ความรู้ ไปทำมาหากิน ดิฉัน ยังเป็นหนี้ ทำมาหากิน ปกติ ไม่ได้รวยอะไรเลย ต้องรู้ ก่อนว่า อะไร คือ ความตั้งใจของ ดิฉัน สุดท้าย ทั้งหมด ทั้งปวง ก็ทำให้นึกถึง คำพูดลูกชายจริงๆ '' แม่ทำดีแล้วได้อะไร คนที่โกง มันรวยกว่าแม่เยอะแยะ ทำดีไปแล้วได้อะไร ''

หวังว่า เรื่องราวของดิฉัน คงเป็น อุทธาหรณ์ ให้กับอีกหลายๆคน ที่กำลัง ยิ้มสู้หนี้กันอยู่น่ะค่ะ รายของ ธอส. hair cut ยังไง ก็คงถูกเอาเปรียบอย่างรุนแรง มากกว่าบัครเครดิตซะอีกค่ะ

www.dotproperty.co.th/%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5/%E0%B8%98%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5/npa-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2/0-%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-%E0%B8%98%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5--10321

บ้าน ดิฉัน ที่ประกาศขายอยู่ค่ะ

อ่านแล้วก็เศร้าครับสู้สู้ครับขอขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันนะครับ สู้ สู้ ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

บ้าน ถูกยึด ยังไม่เศร้า เท่า กับการที่ เรารู้ ว่า กฎระเบียบของ ธนาคาร ไปเอื้อ ประโยชน์ กับ อาชีพ นายหน้า ขายที่ดิน มากกว่า ประชาชน ตาดำๆ ที่ต้อง ปากกัด ตีนถีบ ในการทำมาหากิน

พวกนายหน้า ทำงานสบาย ได้ส่วนลด วิบากกรม ในการรับดอกเบี้ย เป็นของ ประชาชน

เรื่องราวที่ ดิฉัน มาเขียน ก็คงมีหลายๆคน ที่อาจไม่รู้มาก่อน

ดิฉัน โทรไปคุย กับบัตรเครดิต ที่ฟ้อง ยึดบ้านดิฉัน ก็ไม่รู้มาก่อน

คงคิดว่า ดิฉันได้ส่วนต่าง บัครเครดิต ที่ ฟ้อง ก็ไม่ได้รับเงิน

ธนาคาร ซื้อมา จาก กรมบังคับคดี มา 8 แสน 2

มาขาย 1140000 ภายใน 2 เดือน มีคนไปขอซื้อ

ธนาคารได้ผลกำไรเห็นๆ แต่กลับบอกว่า ขาดทุน

แล้ว ประชาชน อย่างเรา ได้อะไร ค่ะ หนี้สิน กับ ดอกเบี้ย เต็มๆค่ะ

อันนี้ ค่ะ เศร้า กว่า การถูกยืดบ้าน ซะอีก

ธนาคาร คงไม่เคย สะกด คำว่า '' มนุษยธรรม ''

เสียใจ ที่ ประชาชน ไม่ได้รับ ความเป็น ธรรม

บางที ทำให้เรา ต้องมานั่ง ถาม ตัวเอง ว่า แล้ว เรา จะทำดี ไป เพื่ออะไร อย่างไร แล้วคนดีๆ ได้รับอะไร

ขอฝากแปะ กระทู้ นี้ไว้ด้วยน่ะค่ะ

เป็นเรื่องราวของตัวเองค่ะ

pantip.com/topic/32914473/comment11

อ่านเรื่องคุณpamแล้วรู้สึกแย่มากๆเลยครับ เข้าใจความทุกข์ของคุณเพราะเป็นหนี้บัตรเครดิตและจ่ายไม่ใหวเหมือนกัน แต่ผมยังส่งบ้านใหวอยู่ ขอให้ความเศร้าความทุกข์หมดไปจากคุณใวใวนะครับ

เข้าไปดูในlink ของคุณpamแล้ว เราอยู่ใกล้กันมากเลย
ผมอยู่รังสิต-นครนายก54 ครับ

หลังจากที่ลูก ทั้ง 2 คน จบจากมหาวิทยาลัยแล้ว บัตรเครดิ๖ไหน โทรมา ดิฉันก็บอกเขาทุกใบว่า ดิฉัน ยืนยัน จะขอใช้หนี้ ทุกแบงค์ ก่อนตายแน่นอน ด้วยสามัญสำนึกจริงๆ ดิฉันได้ยืมเงินทางธนาคารมา ดิฉันก็ต้องใช้คืนคุณแน่นอน

เพียงแต่ในเวลาที่คุณโทรมา ดิฉันอาจจะยังไม่พร้อม แต่คุณ โทรติดต่อ ได้ตามเบอร์ นี้ได้ตลอดค่ะ หรือ หากิฉัน มีเงินก่อน ดิฉัน ก็จะติดต่อ คุณกลับเอง

เดือนที่แล้ว บัตรเครดิ๖กรุงศรี ติดต่อมา จะลดหนี้ให้ จาก 8 หมืน ลดให้้เหลือ 3 หมื่น ซึ่ง ดิฉันก็ยังบอกว่า ยังไม่สะดวก

วันนี้ ก็โทรมาแจ้งยอดหนี้ พร้อมส่วนลดอีก เดือนนี้ จาก 8 หมื่น เหลือ 27000 บาท

และ ดิฉัน ก็เล่าเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น ให้เจ้าหน้าที่ฟังทั้งหมด เพราะ บัตรเครดิ๖ ที่ฟ้อง ดิฉัน ตอนนี้ ก็ย้ายมาอยู่ ในเครือ บัตรกรุงศรี จาก ฮ่องกงแบ็งค์ มาเป็นบัตรกรุงศรี

เพียงแต่ เขาแยก บริษัท กันเท่านั้น ค่ะ

ดิฉัน จึงแจ้งว่า ไม่ทราบว่า ทางคุฯ ฟ้องแล้วได้อะไร เสียเงิน เสียเวลา แล้วไม่ได้เงิน ก็ยังกลับมาทวง ดิฉันอยู่ดี

บางที่ สำหรับ ธอส. ทำให้ ดิฉัน ต้องปรับความคิดใหม่มากมาย ไม่่ด้ล้มลงไป

แต่กำลัง พยายาม กระเสือกกระสน ดิ้นรน ที่จะแก้ปัญหาทั้งหมด ต้องคิด ต้องจัดการ หาข้อมูล ตามกำลัง ของผู้หญิงคนหนึ่ง

ดิฉัน พบเจอปัญหามากมาย เห็นตำรวรรีดไถ จาก ประชาชน ตาดำๆ อย่างเรา เพราะ เจอเอง กับตา จริงๆ จน เคยคิด อยากไปเรียน กฎหมายซะด้วยซ้ำ แต่เสียดาย ที่อายุ 50 ซะแล้ว

อยากเรียน และ ต่อสู้ กับความไม่ยุติธรรม อยากมีโอกาส ช่วย ประชาชนอีกมากมาย ที่ไม่รู้ อะไรเลย และ นั่นคือ สิ่งที่คนในเครื่องแบบ ได้ จากคนไม่รู้

แค่หวังว่า กระทู้ ของ ดิฉัน คงทำให้หลายๆคน คงได้นำไปเป็น อุทธาหรณ์ น่ะค่ะ

และ ขอขอบคุณ สำหรับทุกกำลังใจน่ะค่ะ

คนเรา มีเงินได้ ก็หมดได้ ยาม เคราะห์ มาถึง

คนเรา มีบ้านได้ ก็หมดบ้านได้ ยาม เคราะห์ มาถึง

แต่ คนเรา ล้ม แล้ว ต้องรีบลุก ให้ได้ ด้วยใจมั่นคง

และ คนเรา ย่อมมีโอกาส สร้าง โอกาส และ ชีวิตใหม่ ได้ด้วยความสุข และ ใช้ชีวิต อย่างพอเพียง

ลูก ดิฉัน จบแล้ว ทำงาน แล้ว ไม่มี อะไร ต้องห่วง

สามารถ ไปอยู่ วัด ใช้ชีวิต บั้นปลาย เงียบๆ ได้

สามารถ ไปเช่าบ้านอยู่ บ้านนอก เก็บผัก เก็บ ผลไม้ได้ ไม่จำเป็น ต้อง แสวงหาอะไร อีกแล้ว

เหนื่อยมาตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสพัก ไม่มีโอกาส ไปเที่ยวไหนได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา

ตอนนี้ ได้พัก และ เป็นคนธรรมดาสามัญ ที่ไม่ต้องมีอะไร

ทำมาหากิน มีกิน มีใช้ ไปตามกำลัง ก็คงเพคงเพียงพอแล้ว สำหรับชีวิตที่เหลือ

ถ้า ดิฉัน ตายก่อนหมดหนี้ ขอโปรด เจ้าหนี้ ทั้งหลาย โปรด อโหสิกรรม แก่ ข้าพเจ้า ด้วยก็แล้วกันน่ะค่ะ จริงๆ น่ะ

น่าเห็นใจครับ...สู้ๆนะครับ ทุกวิกฤตมันจะมีโอกาสเสมอ เชื่อผม คนที่แย่กว่าเรา ลำบากกว่าเรา ยังมีอีกแยะ