1ปี10เดือน สรุปเส้นทางปิดหนี้กอบัวทุกสถาบัน

จริงๆแล้ว เป็นใครก็ต้องตื่นเต้นทั้งนั้น เวลาไปศาล ไม่ตื่นเต้นสิแปลก แต่กอบัวมัน "แปลก" ตั้งแต่เกิดแล้ว
ไม่ตื่นไม่เต้น มีแต่เรื่องแปลกๆ อยากรู้อยากดู อยากถาม อยากฟังไปหมด นั่งคุยกับทางทนายโจกท์จนหัวเราะกัน ยังกะรู้จักกันหลายปี
ทนายโจกท์เล่าให้ฟังว่า ศาลของบัวท่านดุมาก ดุโจกท์มาเยอะ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 28% (แบบที่กอบัวโดน) ท่านจะว่าเลยว่า "คิดดอกแบบนี้ ไม่กลัวบาปกลัวกรรมบ้างหรือไง?"
แล้วทนายโจทก์เล่าว่า ผมคิดดอกเบี้ยอะไรไม่เป็นหรอก ถ้าท่านถามผมก็ตอบไม่ได้ เพราะคนคิดคือธนาคารไม่ใช่ผม"
เนี้ยเป็นข้อมูลที่สมาชิกที่อ่านมากๆ จะรู้เลยว่า ทำไมในการต่อสู้คดีทุกๆครั้ง เราเขียนคำให้การเองไม่ได้ หรือเขียนได้ก็น้อยราย ต้องให้ทนายช่วยเขียน
ถึงศาล หรือเราจะรู้แก่ใจว่า ธนาคารหรือสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยผิดคิดไม่เป็นธรรม เราเองหรือจำเลยเท่านั้น ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่า เขาคิดดอกเบี้ยไม่เป็นธรรมอย่างไร
การสืบพยานหน้าบัลลังก์ จึงสำคัญมาก
บางคนถาม แล้วอย่างเราๆ จะไปเก่ง จะไปเจ๋ง ได้อย่างไร
ก็อ่านมากๆ อ่านเข้าไป สงสัยอะไรก็ถาม ถาม ถาม แล้วลองเปรียบเทียบกับเราว่า ถ้าเป็นเรา เราจะสู้ไหม จะทำอย่างไร ให้เราเจ็บตัวน้อยที่สุด
ไม่ต้องพูดภาษากฎหมายหรอก พูดคำธรรมดาสามัญเนี้ยแหละ ภาษากฎหมายมันเท่ห์นะ แต่พูดมากๆแล้วงง บอกตรงๆ งงมากกกกก (เหมือนไม่ใช่ภาษามนุษย์)

เคสนี้ของบัว พี่นกกระจอกเทศบอกว่า ไม่ไปศาลก็ยังได้ ให้พิพากษาไป แล้วก็ไปหยิบยกคดีให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า "หมายศาลปิดผิดบ้าน" ยืดเวลาออกไปได้อีกหลายเดือน
แต่กอบัวคิดให้เข้ากับชีวิตของตนเอง เงินเดือน รายได้พิเศษที่พอจะหาได้ ทำให้อยากแฮร์คัทมากกว่า ได้ราคางามกว่าเดิม เพราะถึงจะยืดเวลาออกไป บัวก็ต้องจ่ายอยู่ดี
แล้วก็มีจุดประสงค์อยากให้ทุกคดี ทุกบัตรจบภายในปีนี้จริงๆ มีเหตุผลส่วนตัวที่อยากให้มันจบสิ้นกันไป
ฉะนั้นแต่ละเคส อ่านเป็นแนวทางได้ แต่คนที่ต้องนำมาประยุกต์ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเองได้ มีแต่ "เรา" เท่านั้นค่ะ

หลังจากเดินลงจากศาลวันนั้น สนง.เปรต คอเล็กชั่น ติดต่อมาสองครั้ง ถามว่า กอบัวจะเอาอย่างไร
ไม่เอาอย่างไรหรอก ไม่รีบ เพราะกว่าจะขึ้นศาลก็ปลายเดือนพฤศจิกายน ไม่ต้องโทรมาหรอก ตอนนี้หงุดหงิด อารมณ์ไม่ค่อยดี เข้าใจไหม...
เดือนกันยา....ตุลา...เผลอแผล๊บเดียว ก็ต้องไปศาลอีกแล้ว เอากระปุกลูกหมูมาแคะดูเศษตังค์ว่าได้เงินครบหรือยัง....หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก......เจ็ดหมื่น...อิ..อิ...ลูกหมูท่าทางจะตัวใหญ่เป็นโอ่ง ถึงเก็บเงินได้ทีละหมื่น
โธ่...ถัง สองเดือนที่ผ่านมา กอบัวต้องเอาสาย Hotline ออก เพราะเครียดเรื่องเก็บเงินมาก เหลือแค่สองตัวสุดท้าย เหนื่อยและเพลียใจสุดๆ งานก็เยอะ เจ้านายก็ตามจิก....วันหยุดก็ไม่ได้หยุด ทำงานพิเศษแทบทุกวีค เฮ้อ...
พึ่งจะรับเช็คงานพิเศษมาเมื่อสองวันก่อน เสียงโทรดังขึ้น

เปรต : คุณกอบัวครับ ตกลงเรื่องสินเชื่อห้องกรงว่ายังไงครับ ยังงี้นะครับคุณกอบัว พอดีช่วงนี้เปรตเรามีข้อเสนอสุดพิเศษ เนื่องจากสภาวะน้ำท่วม ทางเราเห็นใจลูกหนี้ เลยขอเสนอส่วนลดสุดๆในเดือนนี้ โดยจ่ายมาเดือนนี้เพื่อรักษาส่วนลด...
กอบัว : เอาสั้นๆ ให้ส่วนลดเท่าไหร่
เปรต : แสนถ้วนครับสำหรับคุณกอบัว
กอบัว : เจ็ดหมื่นถ้วน งวดเดียวจบ ไปทำเรื่องมา ทำเรื่องวันนี้ จ่ายวันนี้ ไปทำมา (วางสาย)
……………………
ยอดหนี้ตัวนี้ของกอบัว หยุดที่ 92,000 หยุดจ่ายเมื่อเดือนมีนาคม 2552 หยุดมาได้ปีครึ่ง ทางสนง.กฎหมายฟ้องที่ยอดแสนสามกว่าๆ ปัจจุบันยอดไปหยุดที่ 142,951.12 บาท เห็นตัวเลขแล้วเพลีย...สายดังมาอีก

เปรต : คุณกอบัวครับที่ขอไปเจ็ดหมื่นมันเกินยอดไปมากเลยครับ เราให้ไม่ได้จริงๆ ขอที่เก้าหมื่นถ้วนครับ
กอบัว : ไม่เอา ถ้าฉันจะเตะถ่วงไปถึงอุธรณ์ก็ยังได้ คุณคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คิดที่ร้อยละ 28% ต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ เขาให้คิดที่ร้อยละ 15% คุณอยากจะสู้ถึงฎีกาไหมล่ะ หรือจะเอาเงินวันนี้ ฉันว่าง เหลือหนี้แค่สองตัว ไม่เป็นไร ไปเดินเล่นศาลฎีกาดูสักทีก็ได้
เปรต : เอ้อ..เดี๋ยวผมขอคุยกับนายก่อนนะครับ ตู๊ด ตู๊ด....สักครู่โทรมาใหม่
เปรต : คุณกอบัวครับ ได้สุดๆจริงๆนะครับ ต้องจ่ายภายในวันพฤหัสนี้ เพราะยอดเข้าวันศุกร์ไม่ทัน
กอบัว : เท่าไหร่
เปรต : แปดหมื่นถ้วนครับ
กอบัว : ห๊า...แปดหมื่น หา...เออ..ก็ได้ Fax ใบยืนยันส่วนลดมาให้เลยนะ
สรุปยอดหยุด 92,000 หยุดได้ปีเจ็ดเดือน ยอดปัจจุบัน 142,951.12 บาท ได้ปิดที่ 80,000 บาท ส่วนลด 43%
สำหรับห้องกรงแล้ว ส่วนลดของเขายังไม่น่ายินดีนัก ต่อรองยาก ส่วนลดจะได้กันที่ 35-40% ค่ะ
บัวได้ส่วนลดไป 62,951.12 (จากยอดปัจจุบัน)
แค่หยุดหมุนเงิน ที่ต้องหามาจ่ายขั้นต่ำ และอดออมกลับชีวิตปัจจุบัน เรื่องปิดหนี้ก็ไม่มีคำว่ายากค่ะ
บัวได้ FAX มาเมื่อเช้าของวันนี้ 27 ตุลาคม 2553 ตรวจทานเลขที่สินเชื่อ ชื่อนามสกุล รายละเอียดต่างๆ พร้อมมีใบ PAY-IN มาให้
ขี้เกียจรอ กลัวเงินหาย เดินข้ามถนนไปจ่ายเสียแต่โดยดี
จัดการ FAX บิลที่เราจ่ายเข้าสำนักงานเปรต เพื่อให้เขาถอนฟ้องเราให้ทันเวลา
ถ้ามันตุกติก พี่นกกระจอกเทศบอกว่า เอาใบ FAX บิลที่เราไปจ่ายเนี้ย ยื่นให้ศาลดูเลยว่า เราจ่ายแล้ว มีวันที่ในการส่ง FAX ไปให้มรึงด้วย ถ้ามรึงไม่ถอนฟ้อง มรึงตาย.....เหอ...เหอ...

ขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ ทุกๆท่าน ที่เป็นกำลังใจตั้งแต่วันที่เดินขึ้นไปยืนหน้าบัลลังก์ พี่นกกระจอกเทศ ที่เป็นทั้งครู ทั้งพี่ชายที่แสนดี แสนดุ คอยตรวจดูรายละเอียดให้ทุกๆอย่าง ของพระคุณเด้อค่ะเด้อ
ขอบคุณน้องๆกรรมการทุกๆคน คุณวิน น้อง travis น้อง Pikolo ตุ๊กเข้ moomoo เจ้ากอกล้วย Sosadsae คุณแก้วจ๋า น้อง canavaro
น้อง aim เจ้าพีจัง อวตารผู้น่ารักของพี่บัวเสมอมา คุณเก่ง FamilyMan คุณ Badman โอ๊ย...ใครอีกเนี้ย เยอะจัด พี่ mom 23 จันทร์ฉาย Moonlight ของกอบัว stain คนสวย เจ้า nana2008 ขนตางอน Honda ใครอีก...มาต่อคิวรับความขอบคุณจากกอบัวเร็ว...อิ...อิ...
กอบัวรักทุกคนคร้าบบบบบ
ตังค์ตอนนี้หมดแล้ว หาใหม่ (เลี้ยงข้าวกอบัวด้วยนะเจ้าค๊ะ)
เหลือตัวเดียวพี่น้อง สู้ต่อไป

ไม่มีอะไรที่เราจะต้องกลัวอีกแล้ว เราเดินมาได้ขนาดนี้แล้ว เราต้องไปได้อีก และต้องทำให้ดีที่สุด
และมาถึงหนี้ตัวสุดท้าย ที่ใช้เวลาตั้งแต่หยุดจ่ายเดือนมีนาคม 2552 จนมาถึง 17 มกราคม 2554
ใช้เวลาปลดหนี้ทั้งหมด 1 ปี กับอีก 10 เดือนค่ะ

เส้นทางปิดหนี้กอบัวใบที่สิบ รายสุดท้าย KTC Cash

“นโยบายของแต่ละสถาบัน เปลี่ยนแปลงได้เสมอ”

ขอให้สมาชิกทุกท่านจำข้อนี้ให้ขึ้นใจ
บัวจำได้แม่นยำว่า งานเวทีสุดท้ายของนายนกกระจอกเทศ บอกกับน้องใหม่พึ่งจะหยุดจ่ายแบบกอบัวว่า “นโยบายของบริษัทของธนาคารเปลี่ยนแปลงเสมอ"”
พี่นกย้อนให้ฟังในวันนั้นที่วัดโพสพว่า เมื่อก่อน HSBC ให้ส่วนลดดีมาก(และสถาบันอื่นๆอีก) พอเก็บหนี้คืนได้เยอะ ก็กลับไปเขี้ยวเหมือนเคย
ยกตัวอย่าง ไทยธนาคาร เมื่อก่อนเขี้ยวมาก ส่วนลดแทบไม่มี พอเปลี่ยนผู้บริหารมาเป็นมาเลเซีย เป็น CIMB ส่วนลดดีมาก
ฉะนั้นไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้แต่ราคาแฮร์คัท
จึงอยากให้สมาชิกติดตามข่าว ที่สมาชิกแต่ละคนมาแชร์กันหน้าบอร์ดของเรา และคอยเวลา จังหวะดีๆ เก็บเงินให้ได้เร็วที่สุด วัดดวงกันว่า ระหว่างเงินเก็บ ส่วนลด และหมายศาล อะไรจะมาก่อน
ก่อนหน้านี้แค่เดือนเดียว บัวเห็นหลายคนบอกว่า สิ้นปีส่วนลดของ KTC ไม่ค่อยดีเพราะถือว่า โบนัสออกกันทุกคน มีเงินว่าง้าน....ไม่ง้อ ส่วนลดจะไปดีตอนเดือนมกราคม และช่วงก่อนเปิดเทอม
แต่วันนี้....ได้ยินข่าวว่า บัตรสินเชื่อและเงินสด ส่วนลดขอได้ถึง 50% ว้าว...ว...ว....จังหวะดีๆในชีวิตของกอบัวมาแว้ว –

เปลี่ยนสำนักงานทวง จนขี้เกียจจะจำ รู้สึก 4-5 บริษัท พูดคุยกันดีตลอด เฮฮาปาจิงโกะ
สินเชื่อ cash สีเขียว อยู่กับสำนักงานกฎหมาย DK
สินเชื่อบัตรกดเงินสด สีส้ม Revole ของอดีตคนใกล้ตัว อยู่ ชลินธร
ทั้งสองที่ผลัดกันโทรมาทวง แต่กอบัวยังเก็บตังค์ไม่ได้ ตามข่าวหาจังหวะ โป๊ะเช๊ะ ที่ผ่านมาบัวงานหนักและเยอะมาก จนเก็บเงินได้ ขอแค่ส่วนลดได้ตามที่ต้องการ จ่ายให้ทันที
มาต้นเดือน ชลินธรให้กอบัวปิดยอดบัตรกดเงินสดสีส้ม จากยอดปัจจุบัน 53,000 ให้ปิด 40,000 บัวบอก 20,000 ปิดให้วันนี้เลย และแย็บไปว่า พี่ยังมีบัตรสินเชื่ออีกใบ ดึงมาปิดให้ได้ไหม เขาบอกจะดูรายละเอียดให้ ขอเวลาหน่อยนะคะ
หายไปในกลีบเมฆ ยอมรับว่ากระสับกระส่าย เพราะอยากปิดหนี้แล้ว ตัวสุดท้าย ตื่นเต้นเหมือนใบแรกเลย อิ...อิ...
..............
ต่อมา DK ติดต่อมา ชักชวนให้ปิดสินเชื่อยอด 79,000 ให้ปิด 55,000 บัวบอกเช่นเดิม ถ้าให้ปิด 40,000 ปิดให้วันนี้เลย และช่วยปิดอีกใบให้ด้วย ดึงมาจากอีกบริษัทได้ไหม
หายไปวันเดียว DK ติดต่อมาบอกว่า ดึงมาปิดให้ได้ ยอดรวม 132,000 ให้ปิดที่ 70,000
บัวหัวเราะบอกว่า น้องพี่ไปเช็คเครดิตบูโรมาแล้ว (และทำบัญชีส่วนตัว อัดเดทตลอด) ยอดหนี้พี่ไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้าจะให้ปิด พี่ปิดให้ 50,000 (จำได้ไหม “กดให้มิดด้าม และ ตัวเลขเปลี่ยนแปลงได้)
น้องคนที่ดูแลบัญชีพูดจาดีมาก บอกกอบัวขอเกินโปรแกรมไปเยอะ ขอให้ส่งเอกสารการเป็นหนี้ให้ดูได้ไหม แล้วจะขอนายให้
บัวบอกเหมือนเคย ไม่เคยส่งเอกสาร อยากให้ ให้มาเลย (เรื่องทั้งเรื่อง ขี้เกียจ ไม่กลัวอะไรหรอก) เป็นคนขี้รำคาญ 555
แต่น้องคนดูแลบัญชีคนนี้ พูดจาน่ารัก ให้ตามเรื่องอะไร เร็ว (คงอยากได้ค่าคอม) ไม่เหมือนอีกที่ หายเงียบไปเลย น้องคนนี้โทรหาบ่อยบอกความคืบหน้าตลอด หล่อนจิกแบบน่ารัก น่ากัดน่ากอด เอิ๊กๆ
น้องหายไปชั่วโมง บอกขอที่ 60,000 สำหรับปิดหนี้สองใบ แต่ขอให้ส่งสำเนาบัตรประชาชนเข้าไปให้ และน้องสอนให้บัวเขียนคำขอลดมูลหนี้ในหน้าเดียวกันกับบัตรประชาชน มีรายละเอียดดังนี้
...................
เนื่องด้วยข้าพเจ้า นางสาวกอบัว อยากปลดหนี้ มีความประสงค์ใคร่ขอปิดบัญชีบัตรกรุงไทย เป็นกรณีพิเศษ มีรายละเอียดดังนี้
บัตรสินเชื่อ เลขที่.....
บัตรกดเงินสด เลขที่.....
ข้าพเจ้าใคร่ขอความอนุเคราะห์จากบัตรกรุงไทย ลดยอดมูลหนี้คงเหลือ 60,000บาท (หกหมื่นบาทถ้วน)
โดยขอรับเอกสารยืนยันลดยอดหนี้ก่อนการชำระ และพร้อมชำระงวดเดียวภายในวันที่....ทันทีที่ได้รับเอกสารยืนยัน
เมื่อชำระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าขอรับเอกสารยืนยันการปิดบัญชี สิ้นสุดภาระหนี้ โดยให้จัดส่งไปบ้านเลขที่....
หากข้อตกลงที่กล่าวมาเบื้องต้นไม่เป็นดังนี้ ขอให้คำร้องฉบับนี้ยกเลิก เป็นโมฆะ ไม่มีผลในทางกฎหมายใดๆทั้งสิ้น
ลงชื่อ...นางสาวกอบัว อยากปลดหนี้
..................
ทั้งหมดทั้งสิ้น น้องที่ดูแลบัญชีแนะนำทุกอย่าง เออ..ก็ได้ น้องน่ารัก แต่พี่น่ารักกว่า เอิ๊กๆ จัดไปอย่าให้เสีย FAX ไป
ท่าทางจะไปได้สวย กรูจะหมดหนี้แล้วเว้ย แต่....
ทางสำนักงานกฎหมาย พูดเหมือนที่ลูกหนี้ของ KTC แบบเราๆท่านๆ แทบทุกคนได้รับคือ
“KTC ไม่มีนโยบาย ออกใบแฮร์คัทหรือหนังสือยืนยันส่วนลดหนี้ให้กับลูกหนี้” ถ้าอยากจ่าย อยากดูว่าเราลดให้จริงหรือไม่ ไปดูที่เคาเตอร์บัตรเครดิตกรุงไทย ได้เลยค่ะ เราจะโชว์ให้ดู
บัวรับโทรศัพท์สมาชิกหลายคน ได้พูดคุยหลังไมค์กับหลายๆท่าน ขอยืนยัน นอนยัน ตีลังกายันว่า “เจอทั้งสองแบบ”
คือสมาชิกที่ไปเช็คยอดจากหน้าเคาเตอร์ แล้วเจอส่วนลด
และสมาชิกที่ได้ใบแฮร์คัท บัวไม่ได้ยินอย่างเดียว บัวขอร้องให้น้องๆ เหล่านั้นส่งใบแฮร์คัทมาให้ดู และนั่นคือที่มา ของหนังสือแฮร์คัทของ KTC ที่บัวได้เช่นกัน ในตอนปิดบัตรเครดิต Master

ในเมื่อฉันเคยได้ ทำไมแกไม่ออกให้ฉัน ลมชักออกหู เงินมีแล้ว แต่ติดไม่ออกหนังสือให้
กอบัว – น้องจะเอาไหมเงิน หนี้อยากใช้ กะอีแค่กระดาษ A4 กับคำยืนยันส่วนลดสี่ห้าบรรทัด จะตายไหม ถ้าไม่ออกให้
น้อง- พี่บัวขา...หนูจะพยายามนะคะ นายของหนูเขาบอกมาแบบนี้ หนูไม่รู้จะทำอย่างไร
โมโหสุดขีด บอกคำเดียวว่า “ไม่มีหนังสือยืนยันส่วนลด ไม่จ่าย”
หายไป....บัวโทรหาพี่นกกระจอกเทศ อาจารย์ประจำตัว ที่ระบายอารมณ์อีกทาง 555 บ่นสารพัดกับนโยบายเฮงซวยของ KTC
พี่นกสอนกลยุทธ์ กลเม็ดเด็ดพรายสารพัด ตั้งแต่แบบกัดจิก กัดเจ็บ จนกระโดนเตะก้านคอ ธนาคารแห่งประเทศไทย
กอบัวฟังไป ได้แต่พูดว่า “โหย...พี่ บัวเป็นนางฟ้า...บัวไม่กล้าพูดหรอก บัวเกรงใจเขา”
พี่นก “ไอ้นี่...สอนไม่จำ จะทำไหม ระดับรองประธาน ต้องเล่นให้มันส์ไปเลย”
“เอาให้มันส์ไปเลย....” อิ...อิ...โอเค...ได้แรงยุ บวกแรงบ้า ทำให้ตัดสินใจเดินหน้า
.................
ขี้เกียจพิมพ์แล้วเมื่อย นี่คือคำพูดที่บัวไปโพสก่อนหน้านี้
ตั้งแต่วันพุธที่ 12 มกราคม 2554 กระทั่งวันนี้ เสาร์ที่ 15 ใบแฮร์คัทยังไม่มา
หนี้ตัวสุดท้าย รอหนังสือแค่นั้นเอง เงินมีแล้ว แต่หนังสือไม่มี บอกคำเดียว "ไม่จ่าย"
ทุกวัน น้องที่ตามเรื่องให้ น่ารักมาก พูดจากับบัวดีทุกๆอย่าง แต่ต้องมีแรง "ช๊อต" จากบัวเป็นระยะๆ
แรกๆ หล่อนบอกว่า ไม่มีหนังสือให้ มันเป็นนโยบายของบริษัท ไม่เป็นไร
งั้น "ส่งนโยบายของบริษัท" ที่บอกว่า KTC ไม่มีนโยบายให้หนังสือลดหนี้ให้กับลูกหนี้ มาให้ดู
เงียบ....ไปอึดใจ...ยัง..ยังไม่พอ กอบัวสำทับไปอีกว่า
"น้องอย่าบอกว่าไม่มีนะ นโยบายมันต้องออกมาจาก CEO ของบริษัท KTC ไม่ใช่โรงงานเจ็ก ไม่ใช่สถาบันให้กู้เงินตามเสาป้ายรถเมล์ ไม่ใช่ตะโกนสั่งมาจากเหลาเต็ง แล้วพวกขี้ข้าอย่างน้อง ก็เอามาปฏิบัติ ถ้าน้องไม่มีนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษร น้องไม่ต้องมาอ้าง ไปเรียกหัวหน้ามาคุยกับพี่"
หายไปชั่วโมง หัวหน้าระดับผู้จัดการสำนักงานกฏหมา...ย มาคุยด้วย
"นโยบายเป็นความลับของบริษัทครับ เราให้บุคคลภายนอกรับรู้ไม่ได้"
น้าน...กรูนึกแล้ว...มรึงต้องมาไม้นี้
"KTC ค้ายาบ้า ยาไอซ์ หรือไง ถึงต้องปกปิดนโยบาย ไม่เป็นไร กะอีกแค่หนังสือแฮร์คัท ออกให้ไม่ได้ ไปเรียกเมสเซนเจอร์มารับเงินชำระหนี้จากฉันได้เลยนะ"
น้ำเสียงผู้จัดการดีใจมาก "ครับ...ผมจะออกใบเสร็จไปให้ ให้ไปรับที่ไหน"
กอบัวยิ้มเย็นๆ บอกมันช้าๆชัดๆ "บอกชื่อสำนักงานกฎหมายคุณสิว่า สำนักงานอะไร"
มันบอกมา....
"ให้เมสเซนเจอร์มาเอาเงินฉันได้ที่ "ธนาคารแห่งประเทศไทย" นะ ฉันจะได้แฉให้ธปท. รู้ไปเลยว่า สนง.กฎหมา...ยของคุณที่คุณอ้างว่าได้รับมอบอำนาจมาจาก KTC บอกว่า KTC ไม่มีนโยบายออกหนังสือลดยอดหนี้ให้กับลูกค้า ทั้งๆที่ลูกหนี้อยากจะชำระหนี้คืนใจแทบขาด ไปเจอกันให้ได้นะ"
บอกได้เลยงานนี้ สนง.กฎหมายนี้ โดนปิดแน่ๆ ถ้ามันไม่ออกหนังสือให้กอบัว กรูจะปิดมรึงให้ได้ เล่นแง่ดีนัก
.............
มันจะออก หรือไม่ออก วินาทีนี้ กอบัวพูดได้อย่างเดียว
ไม่มีหนังสือแฮร์คัท กอบัวไม่จ่าย
กอบัวมีเหตุผลไม่ใช่ส่วนตัว
แต่หนังสือแฮร์คัท จะเป็นใบที่เราเอาไปปลดเครดิตบูโรได้
ถามหน่อย ถ้ามันบอกว่า จ่ายไปก่อน แล้วหนังสือยืนยันหมดหนี้ออกทีหลัง
พอถึงวันนั้น มันไม่ออกหนังสือหมดภาระหนี้ให้ แล้วบอกให้เราจ่ายก่อน อีก 1,000 หรือ 10,000 คุณจะทำอย่างไร?
ในเมื่อบัวเคยได้รับหน้งสือยืนยันมาทุกสถาบัน ไม่เว้นบัตรเครดิต KTC ที่ปิดไปก่อนหน้านี้
แล้ว คุณ ...มรึง..มีปัญหาอะไร ถึงไม่ออกให้กรู....เชี้ยะ...เอ๊ย...
งานนี้ ระดับรองประธานชมรมฯ ต้องเอาให้ "มันส์" จริงไหม? ท่านประธาน เอิ๊กๆ
...............
หลังจากนั้น กอบัวทำแบบที่เคยทำมาตลอด สำหรับ “มีเงินแล้วเสียงมักจะดัง” คือ ไม่เคยโทรหา ไม่สนใจ ไม่อะไรทั้งนั้น
ทางน้องที่ดูแลบัญชีโทรมาทีไร ก็บอก ขอหนังสือ น้องก็จะโทรมาว่า “กำลังรออนุมัติค่ะ แต่ถ้าพี่ไปดูที่เคาเตอร์ พี่จะจ่ายได้เลย”
ไม่ และ ไม่ ไม่ ไม่ หูหนวกหรือไง ไม่จ่ายเว้ย...
บัวต้องการสร้างบรรทัดฐานสำหรับลูกหนี้อย่างเรา ไม่ว่าเราจะเป็นหนี้ แต่เราก็มี “นโยบายของเราเช่นกัน”
ไม่มีหนังสือยืนยัน ไม่มีหนังสือแฮร์คัท ไม่จ่าย
หนังสือแฮร์คัทสำคัญตรงไหน พี่นกกระจอกเทศบอกว่า สำคัญกว่าหนังสือหมดภาระหนี้เสียอีก
หนังสือแฮร์คัท เป็นยันต์กันผี ป้องกันภัยอันตรายที่ เจ้าหนี้มันจะแว้งกัดเราได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่ามันจะบ้าจี้ทวงหนี้มาอีก หรือบ้าฟ้องเรามาอีกรอบ สิ่งนี้คือ หลักฐานที่เป็นรูปธรรมที่เราอ้างให้คนทั้งโลกรู้ว่า เราได้รับการลดมูลหนี้จริงๆ บวกกับบิลที่เราจ่ายหนี้คืนเขา
เราเอาใบนี้ไปปลดเครดิตบูโรให้ตัวเอง และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ เข้าใจไหม? (พี่นกบอก)
กอบัว ค่ะ...รับทราบ
เราต้องสร้างบรรทัดฐานของเรา อย่าไปยอมเสียทุกอย่าง แล้วแต่เจ้าหนี้มันจะชี้นิ้ว

น้องมันโทรมาทุกวัน พูดแค่ว่า นายยังไม่อนุมัติ รอหนังสือเซ็นจากนายก่อน
เรื่องของน้อง กอบัวไม่สน ไม่อยากได้หนี้คืน ก็ช่างหัวเผือก
เช้าวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. 54 โทรมาตอนเก้าโมงเช้าบอก นายอนุมัติแล้ว หนังสือยืนยันจะ FAX มาให้
น้าน....ด้วยความหน้าด้าน หน้ามึน เอ๊ย...ด้วยความมั่นคง เข้มแข็ง ว่า “ไม่มีหนังสือไม่จ่าย” ทำให้เจ้าหนี้ทนเราไม่ได้ เอิ๊กๆ
จริงๆ บัวพึ่งจะใช้วิทยายุทธ์ไปแค่กระบวนเดียว ยังใช้ไม่ครบเลย นึกว่าจะได้ออกทีวี แฉแต่ดึก...อดเลย
เรื่องหลายเรื่อง บัวขอละเว้นไม่เอ่ยในนี้ มันสุ่มเสี่ยงต่อการที่เจ้าหนี้มาอ่าน กลยุทธ์พวกนั้น ไปฟังนอกรอบงานมีตติ้ง งานสัมนากันดีกว่า มันส์กว่าเยอะ....

ตรวจดูเอกสาร ให้เรียบร้อย อย่ารีบร้อน มีอะไรไม่ชอบมาพากล ทักท้วงทันที
หนีบเงินสดๆ ไปจ่ายที่เคาเตอร์ KTC อยากจะตะโกนแหกปากดังๆ “กรูหมดหนี้แล้วเว้ย”



สุดท้ายของเส้นทางปิดหนี้ตัวนี้ของกอบัว ขอยกคุณงามความดีให้กับชมรมหนี้บัตรเครดิตฯ ที่ทำให้บัวมีวันนี้
ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศ อาจารย์ พี่ที่แสนดี ที่คอยให้คำปรึกษามาตั้งแต่วันที่บัวยกหูโทรศัพท์ไปหาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 52 จวบจนวินาทีนี้ ก็ชี้แนะด้วยความอำมหิต เอ๊ย....ด้วยความเมตตามาโดยตลอด ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณน้องๆ พี่ๆทุกท่าน ที่เป็นกำลังใจให้ จะเอ่ยนามออกไป ก็กลัวพิมพ์ไม่พอ พิมพ์ไม่หมด ขอบคุณในแรงใจ ในกำลังใจ
บัวจดจำและซาบซึ้ง ไม่รู้จะพูดและเขียนแบบไหน ถึงจะบอกถึงความรู้สึกได้
ขอบคุณสำหรับทุกแรงใจ และขอเป็นแรงใจให้กับสมาชิกใหม่ๆ ที่พึ่งเข้ามา เส้นทางหักดิบหนี้ ใช้ได้ผลจริง บัวขอยืนยัน
................
บัวอยากจะขอเสริมอีกสักนิดในเรื่องของการแฮร์คัท

มีหลายๆเมล์ หลายๆสายโทร ที่สอบถามว่า ทำไมกอบัวได้แฮร์คัทราคางามนัก จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ บัวขอผ่านคำถามนี้นะคะ
แต่สิ่งที่บัวอยากบอกคือ เราหยุดจ่ายบัตร เพราะต้องการหยุดการหมุนเงินจ่ายขั้นต่ำ จ่ายคืนเมื่อพร้อม ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้
การแฮร์คัทหลักการไม่มีอะไรมาก บอกไปแล้วจากคุณ daisy คือ กดให้มิดด้าม และจากพี่วัชร์ ลำผักกูด ตัวเลขเปลี่ยนแปลงได้
หัวใจสำคัญอีกอย่างคือ มีเงิน อันนี้ แน่นอนที่สุด มีเงินเสียงเรามักจะดัง ตกลงอะไรกับเขาก็ดูเป็นหลักเป็นฐาน ไม่มีไม่ต้องไปพูดกับเขา ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจ่าย
ที่สุดของที่สุด หลายคนชอบอ่าน แล้วมาสรุปว่า “กอบัวทำได้ง่ายจัง”
บางคนถึงขนาด “จ้างวาน” กอบัวให้ไปเป็น “มือแฮร์คัท” ให้เป็นการส่วนตัว ได้ยินแล้ว ยังคิดไม่ออกว่า จะคิดค่าตัวแบบไหน แบบแยกสถาบัน หรือแบ่งเป็นเปอร์เซนต์
อีกหน่อยคงมี จ้างกรรมการไปขึ้นศาลแทน ไปด่าเจ้าหนี้ให้ อันนี้ต้องไปถามพี่นกกระจอกเทศเอาเอง ปากระดับนั้น ท่าทางจะค่าตัวหลายตังค์
จริงๆแล้ว แต่ละบัตร บัวต่อรองนาน บางใบก็ต้องรอจนถึงฟ้อง และหลายใบก็รอจนมีจังหวะส่วนลดของบริษัทหรือสถาบันนั้นๆ
ใจเย็น รู้จักอดทน รอคอย รู้จักใจแข็ง เชื่อมั่นในแนวทางของเรา ต่อให้มุขควาย มุขไหนๆ อ้างหมายศาล อ้างโน้นนี้ว่า จะไม่มีวันได้ส่วนลดงามๆแบบนี้อีกแล้ว ให้จ่ายมาก่อน
ไม่จ่ายค่ะ ถ้าเรายังไม่ได้เป้าตามที่ต้องการ
เพราะลูกหนี้แบบเรา คือคนที่มีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างมาก เงินแต่ละบาทกว่าจะเก็บได้ เลือดตาแทบกระเด็น ต้องบริหารให้ประโยชน์สูงสุด แบบคุณ daisy แชร์ในกระทู้หนึ่งว่า เจ็ดร้อยก็มีความหมายนะเฟ้ย....
เข้มแข็ง อดทน รอคอย อย่าใจร้อน วัดดวงกันไปเลย บอกตัวเองว่า มาได้ไกลถึงเพียงนี้แล้ว เราต้องทำให้ได้ หรือทำให้ดีที่สุด
ส่วนเทคนิคลึกๆ ค่อยไปบอกตัวต่อตัวในงานของชมรมฯ ดีกว่า เอิ๊กๆ
...............
หนึ่งในสามของเอกสารสำคัญในการแฮร์คัท ตามแนวทางชมรมของเรา
1.หนังสือยืนยันส่วนลด หรือหนังสือแฮร์คัท ตัวนี้สำคัญมากที่สุด ที่สุดของที่สุด
2.บิลหรือใบเสร็จการชำระเงินให้กับเจ้าหนี้
3.หนังสือสิ้นสุดภาระหนี้สิน ตัวนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ สำคัญสองตัวบน ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
เมื่อได้ครบทัังสามตัว ให้ถ่ายเอกสารเก็บไว้ให้ดี เพราะหนังสือแฮร์คัทและบิล หลายๆตัว เป็น FAX เป็นบิลคาร์บอน เมื่อผ่านเวลานานๆไป มันจะเหลือแต่กระดาษขาวๆ
กรรมการของเราท่านหนึ่ง น้อง canavaro บอกว่า ทันทีที่ปิดหนี้เสร็จ น้องจะถ่ายเอกสาร 10 ชุดใส่แฟ้มทุกครั้ง
เก็บใส่แฟ้ม เป็นยันต์กันหมา เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ฟ้องเก็บหนี้เราได้ เป็นเวลา 10 ปี
เอกสารเหล่านี้ยังสามารถปลดเครดิตบูโร ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งสามารถยื่นกู้อะไรก็ได้ (อันนี้ไปบอกในงานมีตติ้งดีฝ่าเน๊อะ)
โชคดีหมดหนี้กันไวๆนะคะ

สรุปบัญชีหนี้ของกอบัว เรียงลำดับตามการปิดหนี้นะคะ บางสถาบันก็มีหลายใบในนั้น
สถาบัน/วันเดือนปีที่หยุด/ยอดหยุด/หนี้ปัจจุบัน/จ่ายปิดบัญชี/วันที่ปิด/ส่วนลดคิดเป็นเปอร์เซนต์/ระยะเวลาที่ใช้ในการปิด
1.Power buyสินเชื่อ/มีนาคม52/93,000/127,000/60,000/24 กค.52/51%/4เดือน
2.KTCRevoleสินเชื่อพร้อมใช้กดเงินสด/มีนาคม52/35,000/37,000/25,000/1กย.52/35%/6เดือน
3.UOBcashสินเชื่อ//มีนาคม52/55,000/58,770/27,000/28ตค.52/54%/7เดือน
4.UOBvisa/116,631//มีนาคม52/140,206/60,000/พย.52//56%/8เดือน
5.Central cardสินเชื่อ/112,235//มีนาคม52/141,207/50,000/25มค.53/64%/10 เดือน
6.HSBC visa/47,619//มีนาคม52/56,674/30,000/27มค.53/46%/10 เดือน
7.KTCmaster/71,362//มีนาคม52/87,566/40,000/29เมย.53/54%/1ปี1เดือน
8.HSBCสินเชื่อ/92,000//มีนาคม52/142,951/80,000/27ตุลา53/43%/1ปี7เดือน
9.KTC cashสินเชื่อ/87,865/มีนาคม52/128,752/60,000/17 มค.54/57%/1ปี10เดือน

ยอดหนี้ตอนหยุดเมื่อเดือนมีนาคม 2552 อยู่ที่ยอด 710,711
ยอดปัจจุบันบวกดอกเบี้ยมหาโหด 921,374
แต่เมื่อเลือกใช้ Secondway Out เส้นทางหักดิบหนี้ บัวใช้เวลาในการปลดหนี้ 1 ปี 10 เดือน ด้วยเงิน 432,000 บาทถ้วน
...............
บัวพูดอะไรไม่ถูก มันโล่ง มันเหมือนเส้นทางเบื้องหน้าของกอบัวเปิดโล่ง สบายอกสบายใจ นับจากนี้เงินที่บัวหาได้จะเก็บเพื่อครอบครัวตัวเอง เพื่ออะไรก็ได้ ที่กอบัวอยากทำ แต่ไม่ใช่เพื่อการเป็นหนี้บัตร แบบที่ผ่านๆมา
แต่เมื่อมองไปเบื้องหลัง เส้นทางที่ตนเองเดินมา ให้บทเรียนชีวิตแบบที่กอบัวหาในมหาวิทยาลัยไม่ได้ บัวไม่ชี้นิ้วกล่าวโทษใคร “แม้แต่ตัวเอง” เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ป่วยการที่จะไปหวนไห้ ด่าทอตัวเองและคนอื่นนาทีนี้เราเลิกถามว่า “ทำไมเราถึงเป็นหนี้”
แต่จงก้าวเท้าเดินต่อ ทำให้ดีที่สุด อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีสุดกำลัง วันข้างหน้าอย่าคิดไปไกล
คำที่หนุ่มนักเขียนที่กอบัวชื่นชอบคือ หนุ่มเมืองจันทร์ บอกเอาไว้ว่า “จุดหมายอยู่ที่ปลายเท้า” คือ อย่ามองอะไรไกลเกินไปนัก มองใกล้ๆ แค่ปลายเท้าของเราก็พอ
ถ้าคำพระก็ต้องบอกว่า “อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจเข้าออก”
เราต้องออกเดินทาง และก้าวเดิน คนที่เดินและสู้ต่างหาก จึงจะได้ลิ้มรสชัยชนะแห่งการหมดหนี้ได้
บัวขอบคุณที่ตนเองเป็นหนี้ บทเรียนที่สอนให้บัวระมัดระวังตนเองยิ่งขึ้น
บัวเคยบอกหลายๆคนไปแล้วว่า ความสุขแทบจะไม่เคยสอนอะไรเราเลย บางคนหลงระเริงในสุขจนใช้ชีวิตแบบประมาท
แต่ “ทุกข์ต่างหากที่สอนเราได้ดีกว่าสุข” สอนให้เรารู้ซึ้งถึงคุณค่าของตนเอง และคนรอบข้าง สอนให้รู้ว่าเราทำได้ เราไปได้ เราต้องชนะ
ชัยชนะที่ได้มาด้วยความยากลำบาก ต้องผ่านการฝึกฝน คร่ำเคี่ยว อดทน จึงจะเป็นที่จดจำ
“หนทางยิ่งขรุขระ การไปถึงจุดหมายยิ่งน่าจดจำ” วินทร์ เลียววาริณ
ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาสู้ เราก็จะพ่ายแพ้ตลอดกาล



ที่สุดนี้บัวเขียน บัวเล่ามาในหลายๆกระทู้แล้วว่า บัวให้อะไร ผ่านอะไร จึงไม่อยากจะเขียนอะไรมาก มันตื้นตัน มันรันทด มันสะทกสะท้อนใจตนเองจนบอกไม่ถูก
อยากจะกราบขอบพระคุณมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค บ้านหลังใหญ่ของเราที่ให้ชมรมเราเป็นที่พักพิงอาศัย
ขอบพระคุณคุณอาไพโรจน์ ผู้จุดประกายให้เกิดชมรมนี้ขึ้นมา
ขอบพระคุณกรรมการรุ่นเก่าๆ เดิมๆที่แผ้วทางให้เราเดินตามอย่างมั่นคง
ขอบพระคุณน้ำมิตร ขอบคุณน้ำจิตน้ำใจ แรงใจ จากสหายหลายคนที่ทำให้หัวใจกอบัวระอุอุ่น
ขอบคุณกระบี่คำตำหนิ ที่ฟาดฟันทำให้กอบัวลุกขึ้นสู้
ขอบคุณจากหัวใจของผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ขอบคุณมากที่สุด....

ขอบฟ้านั้น..อยู่หนใด....แห่งใด...พี่ลีจะตามไปในไม่ช้านี้....

ขอให้โชคดีตลอดปีใหม่นะจ๊ะ...น้องกอบัว

จำน้องเอก ได้ไหมครับพี่บัว เจอกัน ในงานอบรม แล้วผมโทรหาพี่บ่อย ๆ ผมชอบกระทู้นี้มาก จะ พิมพ์เก็บไว้อ่านเลย พี่ บัวเป็นไอดอลของผมเลยในการแก้หนี้ อิ อิ ตัวจริงพี่บัว สวยมากครับ หุ่นดีด้วย

AKEY เขียน: จำน้องเอก ได้ไหมครับพี่บัว เจอกัน ในงานอบรม แล้วผมโทรหาพี่บ่อย ๆ ผมชอบกระทู้นี้มาก จะ พิมพ์เก็บไว้อ่านเลย พี่ บัวเป็นไอดอลของผมเลยในการแก้หนี้ อิ อิ ตัวจริงพี่บัว สวยมากครับ หุ่นดีด้วย

น้องเอก พี่บัวจำได้เสมอค่ะ ได้รับ SMS อวยพรปีใหม่จากสมาชิกหลายท่าน รวมทั้งเอกด้วย ขอบคุณค่ะ
หนี้ที่จะปิดใบแรกไปถึงไหน...พ่อหนุ่มนักการธนาคาร
เก่งมากๆค่ะ ทำงานแบ็งค์เดียวกันกับที่ตัวเองเป็นหนี้ สุดยอดดดด
เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน เพื่อพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

กอบัว เขียน:

AKEY เขียน: จำน้องเอก ได้ไหมครับพี่บัว เจอกัน ในงานอบรม แล้วผมโทรหาพี่บ่อย ๆ ผมชอบกระทู้นี้มาก จะ พิมพ์เก็บไว้อ่านเลย พี่ บัวเป็นไอดอลของผมเลยในการแก้หนี้ อิ อิ ตัวจริงพี่บัว สวยมากครับ หุ่นดีด้วย

น้องเอก พี่บัวจำได้เสมอค่ะ ได้รับ SMS อวยพรปีใหม่จากสมาชิกหลายท่าน รวมทั้งเอกด้วย ขอบคุณค่ะ
หนี้ที่จะปิดใบแรกไปถึงไหน...พ่อหนุ่มนักการธนาคาร
เก่งมากๆค่ะ ทำงานแบ็งค์เดียวกันกับที่ตัวเองเป็นหนี้ สุดยอดดดด
เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน เพื่อพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ตอบคำถามครับ พี่บัวคนสวย ใบแรก อีซีควาย ยอดทั้งหมด 145,005.-

ยอดปิด 70,000.- บาท ถ้วน 50 % ครับ หยุดจ่าย สิงหาคม 2554


ใบที่สองครับ สินเชื่อ บริษัท ในเครื่อ ยอดหนี้ 82,000

ยอดปิด 41,000 - ครับ 50% เหมือนกัน


เส้นทางยังยาวไกลครับ พี่บัว บัตรทั้งหมด 24 ใบ ยอดหนี้ 1,200,000 บาท


ตอนนี้เก็บเงินรอ แฮร์คัท อยู่ครับ


อายจัง ทำงานสถาบันการเงิน ตัวเอง แต่ส่วนลด ได้แค่ 40 % เลย เซย์โนไป รอให้เน่าก่อนครับ สักระยะ


ขอบคุณพี่บัวมาก ครับ

สวัสดีค่ะ พี่กอบัว ได้อ่านกระทู้ของพี่กอบัวแล้ว มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยค่ะ บุ๋มก็เพิ่งเริ่มหยุดหนี้แล้วค่ะ เพราะว่าไม่ทันแล้ว หมุนไม่ทันจริง ๆ เอาข้อความของพี่อ่าน อ่านอ่านอีก ซ้ำกันหลายรอบค่ะ พยายามใจแข็งกับพนักงานที่โทรมาทวง และ และเสนอขั้นต่ำ ต่ำว่ายอดที่ต้องจ่ายปกติอีกค่ะ สารพัดจะเสนอค่ะ เพียงแค่อยากให้เรารักษาบัญชีไว้ค่ะ แต่ก็ได้ทำตามคำแนะนำของพี่ไว้อย่างเหนียวแน่นค่ะ แต่มีแอบหวั่นใจอยู่ค่ะ เพราะว่ากลัวไปสารพัดค่ะ และโต้ตอบไม่เก่งด้วยค่ะ ต้องอ่านกระทู้ของพี่ให้มากกว่าเดิมค่ะ อยากโทรหาพี่ด้วยค่ะ แต่กลัวจะรบกวนเวลาพี่จังเลย ขอบคุณกระทู้ของพี่นะคะ ที่ทำให้บุ๋มได้มีแสงสว่างค่ะ

โทรมาเถอะ...เวลาที่ให้ไว้เป็นเวลาที่สะดวกที่สุดของพี่บัว
ถ้าติดประชุม พี่บัวก็ปิดมือถือเอาไว้ ก็อย่าว่ากัน
ถ้าไม่โทรเดือนนี้ เดือนหน้าห้ามโทรนะ...เพราะเดือนหน้าเดินทางค่ะ คร่าวๆก็หนึ่งเดือน แต่ถ้าเขาให้ทำงานต่อ ก็ยืดออกไปเรื่อยๆ ต้องเอาเบอร์ Hotline ออกชั่วคราว
เข้าเว็บบอร์ดก็ยาก เพราะเดินทางตลอด งานหนัก ภาษาบนแป้นพิมพ์ ก็ไม่มีภาษาไทย มีแต่เยอรมัน 555++
ชมรมดีใจค่ะ ที่มีแนวทางให้คนใหม่ๆได้เลือกเดิน
เรื่องหนี้มันเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ ไม่ระคายผิวคนหนังหนาแบบเราหรอก เอิ๊กๆ
นึกถึงวันเก่าๆ ที่เป็นลูกหนี้ชั้นดี แล้วมันไม่เคยลดราคาให้เรา
กับการเป็นลูกหนี้ชั้นเลว แล้วมีเงินใช้หนี้คืนมัน...แล้วได้แต่นึกในใจ...ทำไมกูบ้าจ่ายมันอยู่ได้ตั้งนาน...
ทุกวันนี้ใช้เงินสด กับบัตรเดบิต โคตรจะสบายใจ
พี่บัวและทุกๆคน เป็นกำลังใจให้ สักวันเราต้องถึงปลายอุโมงค์ด้วยกัน...
แล้วพี่บัวจะไปรอรับตรงนั้น...โชคดีค่ะ

เพิ่งมีเวลามานั่ง อ่านกระทู้เก่าของพี่บัว ทุกตัวอักษรอย่างนี้ พี่บัวสุดยอดเลย เป็นไอดอล หนี้ เจ็ดแสนกว่า ของน้อง สองแสน สามปีแระ ยังไม่หมดเลย เพราะรู้ว่าน้องไม่ได้จริงจังกับมัน หมายถึง ไม่ได้ทำรายรับรายจ่าย อย่างเคร่งครัด เหมือนทุกวันนี้ คิดว่าหนี้เราไม่เยอะ หละหลวมปนิกหนึ่ง แต่ช่างเถอะ มันผ่านไปแล้ว น้องรู้จักชมรมนี้ เมื่อปี 52 เริ่มหยุดจ่าย ทุกตัว ก.ค 52 ตัวเก่าที่หยุด ก็เกือบหมดแล้วล่ะ เหลือห้องกรง ที่ศาลฟ้องและตัดสินแล้วให้จ่ายเดือนละ 3000 จ่ายอยู่ทุกวันนี้ และ เดือนนี้ผิดสัญญามันยังไม่ได้จ่ายเลย และก็อีกบัตรหนึ่งคือบัตรเครดิต กรุงไทย วีซ่า อายุความหมดแล้ว เพราะ สองปีกว่าแล้ว ยังไม่ฟ้องไม่เคยติดต่อมาเลย แต่ตอนนี้ ที่เหนื่อยใจคือ หนี้ดันมาเพิ่ม สองบัตร คือ อิออน กะ บัตรกรุงศรี ไม่จ่ายเข้ารอบที่ สองแระเดือนนี้ ทวงไม่ค่อยโหดเท่าไหร่ สรุป สองบัตรที่เพิ่มมา หนี้เป็นแสนเลย แต่สั ญญาว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะทำรายรับ รายจ่าย อย่างเคร่งครัด จะไม่หาหนี้เพิ่ม จะอยู่ด้วยเงินของตัวเอง ถ้าไม่ไหวจริงๆ น้องว่าจะขายรถคันที่ขับอยู่ทุกวันนี้ เหลือแต่ รถแฟนไว้คันเดียว เฮ้อ ชีวิต ต้องสู้กันอีกรอบหนึ่ง สงสัย กรรมยังไม่หม หนี้ก็เลย ยังไม่หมดซะที ต้องทำบุญเยอะๆซะแล้ว ตอนนี้คิดอีกเรื่องคือ จะให้บริษัท แจ้งชื่อออกจาก ปกส. จะได้ดูเหมือนคนตกงาน มันจะ ได้ไม่มาอายัดเงินเดือน มีกำลังต่อรองกะมัน ว่าเราตกงาน แต่ยังรวบรวมคำพูดที่จะบอกกะ เจ้านายไม่ได้ว่า เหตุผลที่เราอยากออกจากปกส.เพราะ อะไร

ตอนนั้นหนี้เจ็ดแสนในความคิด เหมือนคนมีหนี้สิบล้าน เหมือนมีภูเขาสิบลูกทับบนอก
กลางคืนนอนร้องไห้ กลางวันนั่งหน้าเป็นมะเหงก เงินเดือนเพิ่มขึ้นทุกปี ทุกปี ทำไมมันไม่พอจ่าย ทำไมรายจ่ายมันมากกว่าเดิม
ตอนทำงานใหม่ๆ เงินเดือนนิดเดียว ทำไมเรายังเหลือเก็บ
ก็เพราะเราไม่รู้จักประมาณตัวเอง อยากมี อยากได้ อยากเป็น
บางอย่างซื้อมา ไม่ได้แกะออกจากห่อ ออกจากกล่องเลยก็มี...
แต่บางครั้ง คนเรามันก็มีเหตุปัจจัย ต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน...พี่บัวกระเสือกกระสนให้อดีตสามี อดีตพ่อบ้านเรียนต่อ ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ไหว
เพราะมีลูกเล็กๆ อยากอยู่กับครอบครัว พร้อมหน้าพร้อมตาเลยลาออกจากบริษัทแม่ กลับมาอยู่ไทย เงินเดือนจาก 4,000 ดอลลาร์ ไม่รวมค่าอย่างอื่นๆ เหลือ ไม่กี่หมื่นบาทไทย
แล้วพอหยุดจ่ายไม่นาน ก็ดันเสือกยุบแผนกของพี่บัวในไทย จะให้เรากลับไปทำที่บริษัทแม่
ตอนนั้นเราติดครอบครัว และติดลูกเสียแล้ว ไม่อยากกลับไปอยู่อย่างอ้างว้างเดียวดายในแผ่นดินอื่นอีก
ไม่มีใครครบพร้อม ไม่มีใครเพอร์เฟก ไม่มีใครเกิดมาแล้วมีทุกสิ่ง
มีทุกข์ก็ต้องมีสุข มีสุขก็ต้องมีทุกข์ วนเวียนแบบนี้ มีแต่ "ใจ" ของเราเท่านั้นที่ต้องประคับประคองใจตัวเองให้ได้ อย่าให้มันพัดใจของเราออกทะเลไหนไปได้
น้องเอง...พี่ก็เป็นกำลังใจให้ รู้จักกันมาตั้งแต่บ่นเรื่อง ผัวไม่รัก จะทำแท้ง
โถ...คิดแล้วคงเสียดายแย่ ลูกสาวน้อง...น่ารักที่สุด...ตาหวานระยับ...
ได้เว็บบอร์ดนี่แหละเป็นกำลังใจให้กันทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องหนี้ ไปยันเรื่องรัก เรื่องครอบครัว ทำกับข้าว หมาๆแมวๆ คิดถึงตรงนี้ นอกจาก "อย่ายอมแพ้เพียงเพราะคุณเป็นหนี้" แล้ว ต้องเพิ่มเข้าไปอีก
"ดีใจที่เป็นหนี้"

ขอบคุณ สำหรับคำแนะนำของพี่กอบัวค่ะ บุ๋มอ่านกระทู้นี้บ่อยมากค่ะ เอามาเป็นแนวทางค่ะ เพื่อเติมใจตัวเองให้แกร่งค่ะ แล้วบุ๋มจะไปหาพี่ที่ปลายทางค่ะ (แต่มีสิ่งเดียวที่ต้องฝึก และฝึกให้มา คือการต่อรองและเจรจา ห้ามใจอ่อนค่ะ)

โอววววว...ต้องขออนุญาต"มุขทำนม" ของคุณบัวบ้างแล้วล่ะค่ะ...แต่ก็นะเรามันเพิ่งเริ่มหยุดจ่ายคงต้องรออีกสักหน่อย...ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ดีดีค่ะ...อ่านแล้วรู้สึก "มันส์มาก"...555...ยกนิ้วให้เลยค่ะ...ให้ทำได้แบบคุณบัวสักครึ่งหนึ่งก็ดีแล้วล่ะ...

ได้อ่านเรื่องราวของพี่กอบัวแล้วทำให้หนูเริ่มมีกำลังใจค่ะ ตอนนี้ก็กำลังวางแผนตั้งรับค่ะ จะอยู่จ่ายเดือนนี้แล้วค่ะ ไม่ไหว จะไม่มีกินแล้ว หาเงินมาจ่ายขั้นต่ำอย่างเดียว ขอบคุณมากๆ ค่ะ