.
บทความนี้ ผมไม่ได้แนะนำให้ใครทำตามนะครับ...
ผมแค่เข้ามาเล่า“ข้อกฏหมาย”บางอย่างให้ฟังเฉยๆ
หากลูกหนี้หรือจำเลย ถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้หนี้ตามหมายฟ้องแล้ว ลูกหนี้หรือจำเลย ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำสั่งของศาล ก็จะเข้าสู่กระบวนการที่ทางเจ้าหนี้ จะต้องส่งเรื่องให้ "กรมบังคับคดี" ทำการอายัดเงินเดือน หรือยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ เพื่อนำมาใช้หนี้ต่อไป
แล้วถ้า ลูกหนี้หรือจำเลย ไม่มีทรัพย์สินใดๆให้สามารถทำการยึดได้เลยสักอย่าง ทางเจ้าหนี้และกรมบังคับคดี ก็จะเหลือเพียงแค่ช่องทางเดียวเท่านั้น...นั่นก็คือการ "อายัดเงินเดือน" ของลูกหนี้
แต่การที่จะอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้นั้น ลูกหนี้จะต้องมีเงินเดือนเกินกว่า 20,000.-บาท(หนึ่งหมื่นบาท) ขึ้นไปเท่านั้น จึงจะอายัดได้
(ตามกฏหมายฉบับใหม่)...โดยไม่สนว่าลูกหนี้จะมีเจ้าหนี้กี่รายก็ตาม
(ลูกหนี้จะมีเจ้าหนี้เป็น สิบราย , ร้อยราย , หรือพันราย ก็ตาม) ลูกหนี้จะถูกอายัดเงินเดือนในส่วนที่ได้รับเกินกว่า 20,000 บาท เท่านั้น...เพราะกฏหมายเขาเขียนคุ้มครองเอาไว้อย่างนั้น
เช่น...ถ้าลูกหนี้มี
รายรับรวมทั้งหมดต่อเดือน = 20,700.-บาท เจ้าหนี้ก็จะอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้แค่ 700.-บาท...แต่ถ้าลูกหนี้มีรายรับรวมทั้งหมดต่อเดือนแค่ 20,000.-บาทพอดี เจ้าหนี้ก็จะไม่สามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้เลย
(เพราะกฏหมายเขาเขียนกำหนดให้ลูกหนี้ผู้ที่ถูกอายัดเงินเดือน จะต้องมีเงินเดือนเหลือเอาไว้สำหรับ กิน , ใช้จ่าย , ยังชีพ...ที่ขั้นต่ำ 20,000-บาท ต่อเดือน)
แต่ถ้าลูกหนี้ "ตกงาน" หรือไม่ได้ทำงานตามบริษัทต่างๆ...กล่าวคือ...ไม่ได้มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือนที่แน่นอน และไม่มีการนำเงินส่งภาษี(ตาม ภงด.91)...อาทิเช่น...
ขับรถ Taxi , ขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างตามวิน , ขายก๋วยเตี๋ยว , ขายกาแฟ , ขายข้าวแกง , ขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด , เซลล์ขายประกันชีวิต , นายหน้า ซื้อ-ขาย ที่ดิน , ทำงานฟรีแลนซ์ , ขายของตาม Internet ฯลฯ...อย่างนี้เป็นต้น ก็จะเปรียบเสมือนกับบุคคลที่"ตกงาน"หรือ"ว่างงาน" ตามการเรียกเก็บภาษีและรายได้ของรัฐ...ซึ่งก็หมายความว่า ตามอายัดเงินเดือนไม่ได้ เพราะรายได้ต่างๆที่ได้มานั้น...
ไม่ถูกจัดว่าเป็น"เงินเดือน"
หรือลูกหนี้บางรายอาจเป็นข้าราชการ
(รับราชการ) ซึ่งตามกฎหมายได้มีข้อบัญญัติเอาไว้ว่า
ห้ามอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการ...เจ้าหนี้ก็ไม่สามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการได้เช่นกัน
ตามมาตรา 302(2) ที่เขียนคุ้มครองเอาไว้
เมื่ออายัดทรัพย์สินก็ไม่ได้...อายัดเงินเดือนก็ไม่ได้ หนี้ต่างๆ ของลูกหนี้หรือจำเลยที่ถูกศาลพิพากษา ก็จะถูกแขวนลอยเอาไว้เฉยๆ (หรือที่เรียกกันว่าถูก"
แขวนหนี้")...และถ้าหากระยะเวลาในการ"
แขวนหนี้" ผ่านพ้น10 ปีไปแล้ว หนี้ตัวนี้ก็จะ"
หมดอายุความ"ในการ
ยึด/อายัดจากทางเจ้าหนี้
ซึ่งระหว่างใน 10 ปี ที่หนี้ดังกล่าว ถูกแขวนลอยเอาไว้เฉยๆอยู่อย่างนี้ ทางเจ้าหนี้ก็จะพยายามสืบทรัพย์ให้ได้ว่า ลูกหนี้มีทรัพย์สินเก็บหรือซุกซ่อนเอาไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่า? หรือไปเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้ที่ไหนบ้าง?...ถ้าสืบเจอ ก็ไปแจ้งต่อกรมบังคับคดีให้มาทำการยึดไปใช้หนี้...แต่ถ้าสืบไม่เจอ หรือสืบแล้วพบว่าไม่มีทรัพย์สินใดๆเลย...ก็ทำอะไรไม่ได้
และเมื่อระยะเวลาในการ"
แขวนหนี้ 10 ปี"นี้...ผ่านพ้นไปแล้ว
(10 ปีนี้ ให้เริ่มนับจากวันที่ถูกศาลพิพากษา เป็นต้นไป) หนี้ตัวนี้ก็จะหมดอายุความในการยึดหรืออายัดในทันที
(เจ้าหนี้จะมายึดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือน ที่เพิ่งจะมารู้หรือเพิ่งมาเจอ ภายหลังจาก 10 ปีผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ได้อีกต่อไป) ลูกหนี้หรือจำเลยก็จะเป็น "
ไท
" ในทันที ไม่ต้องมาชดใช้หนี้สินที่มีอยู่อีกต่อไป
กฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีหนี้สิน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=99:2011-12-17-02-39-30&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21
บทความที่เล่ามาให้ฟังทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่ข้อกฏหมาย ที่นำมาถ่ายทอดให้เป็นความรู้เท่านั้นนะครับ...ไม่ได้แนะนำให้คุณ หรือใครทำตามนะครับ
เพียงแต่แค่...เล่าให้ฟังเฉยๆ “
รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม
”...เหอ...เหอ...เหอ...
"ตัวอย่าง" ของสมาชิกฯ...ที่ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สินใดๆให้อายัด
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43997&limitstart=20&Itemid=64#91696
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44079&Itemid=64#83570
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44101&Itemid=64#81703
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43752&Itemid=64#76719
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43998&Itemid=64#80115
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42832&Itemid=64&limitstart=0
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=3152&Itemid=64&view=topic#3206
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=15366&Itemid=64&view=topic#15369
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=6268&Itemid=64&view=topic#6331
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=12345&Itemid=64&view=topic#13584
ข้อควรจำในเรื่องคดีแพ่ง
การเป็นหนี้เงินนั้น หากลูกหนี้ถูกฟ้องศาล ก็เป็นได้แค่เพียงคดีแพ่ง
เท่านั้น
ไม่มีโทษทางอาญา(ไม่มีโทษจำคุกหรือโทษปรับใดๆทั้งสิ้น)
ถ้าหากมีใครมาขู่ว่าจะนำตำรวจมาจับหรือจะต้องถูกจำคุก
ก็อย่าไปเชื่อ
และอย่าไปกลัว
เพราะตำรวจไม่มีอำนาจจับกุมลูกหนี้ในเรื่องคดีแพ่ง
การข่มขู่ดังกล่าว เป็นเพียงคำพูดขู่เพื่อการทวงหนี้เท่านั้น
ฟันธง...