หมายศาลแรกมาแล้ว หยุดจ่ายทุกบัตรตั้งแต่ กันยายน 2557

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73590 โดย Vii
สวัสดีค่ะ เราเป็นคนนึงที่ตัดสินใจหยุดจ่ายทุกบัตรหลังจากเข้ามาเจอหนทางสว่างในเว็บนี้ หนี้เรารวมกันหลายสถาบันพอสมควร รวมกันประมาณห้าแสนค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปิดได้เพียงหนึ่งใบคือ Umay Plus แหะๆ

:เฮ้อ:

หลังจากซุ่มอ่านอยู่นาน เก็บข้อมูลไปเรื่อย ทั้งกระทู้ปักหมุดและประสบการณ์ของเพื่อนๆ บอกตามตรงว่าสร้างกำลังใจได้ดีมากเลยค่ะ ดีใจจริงๆที่ได้มาเจอเว็บนี้ ทำให้เห็นหนทางในการปลดหนี้ที่ทำให้เป็นทุกข์มาตลอด ระหว่างนี้ก็พยายามเก็บเงินไปด้วย เก็บได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะมีเหตุให้ต้องมีค่าใช้จ่าย จนกระทั่งวันนี้ ในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่จากแบงค์กรุงศรีโทรมา บอกว่ามีหมายศาลออกมาแล้วนะคะ แต่ตอนนี้อยากทราบว่ามีเงินจะปิดยอดมั้ย เห่อๆ ไม่มีค่ะ เพราะเพิ่งปิดยอดอีกเจ้าเสร็จเมื่อเดือนที่แล้วไปเอง = =' เราถามกลับถึงหมายเลขคดี เค้าก็แจ้งมาเลยนะคะ ระบุวันที่ให้เรียบร้อย

เราโทรไปเช็คที่ศาลจังหวัดบ้านเกิดสรุปว่ามีหมายศาลออกมาแล้วจริงค่ะ ต้องไปไกล่เกลี่ยและสืบพยานวันเดียวกันคือ 15 กันยายน แหม่ เพิ่งเริ่มงานใหม่ได้อาทิตย์เดียวพอดีด้วยนะนั่น ประเดิมกันจริงๆ -*-

ยอมรับว่าทำใจว่าวันนี้จะมาถึงไว้ในระดับหนึ่งแล้ว เลยไม่กังวลมาก แต่เอาเข้าจริงก็แอบกังวลนิดหน่อยค่ะ เดี๋ยวคงต้องอ่านทวนอะไรหลายๆอย่างเพิ่ม หรือไม่ก็อาจต้องโทรไปรบกวนคุณอาไพโรจน์เพื่อขอคำปรึกษา ใจหนึ่งก็คิดอยู่ว่า หรือจะให้ศาลตัดสินวันนั้นเลยดี เพราะถ้าเลื่อนเวลาไปอีก เราก็น่าจะยังไม่พร้อมหาเงิน อ้อ เราลืมบอกไปว่า ฟ้องครั้งนี้ยอดรวมสองบัตร เป็นบัตรเครดิตกับเฟิร์สช้อยส์ค่ะ ยอดรวมประมาณแสนนึง

แต่อีกใจก็คิดว่า ถ้าเลื่อนก็อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็เผื่อเวลาให้เรามีเงินเก็บเพิ่มมาอีกซักเดือนสองเดือน เพื่อนๆคิดเห็นว่ายังไงคะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ เพราะไปขึ้นศาลนี่เราต้องเดินทางกลับต่างจังหวัดเลย แต่ทางที่ทำงานใหม่เราก็กะจะเรียนหัวหน้าไปตามตรงเลยค่ะ ไม่อยากปกปิด เพราะเค้าเองก็บอกไว้เหมือนกันว่า ถ้ามีเรื่องอะไรก็สามารถบอกกันได้ ทั้งเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว

เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ เอาไว้ถึงวันไปขึ้นศาลแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง

ป.ล. ไหนใครๆก็บอกว่าเจ้านี้ให้ส่วนลดดี เรานี่ไม่ได้เลยค่ะ แรกๆมีโทรมาแต่ไม่ค่อยลดให้ จากนั้นก็เงียบหายไป กลับมาอีกทีพร้อมกับหมายศาลมาฝาก T______T

:cry2:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73596 โดย FFM
แนวทางหลักๆจะมีหลายแนวทางคือ

1. ไปศาลเพื่อขอเลื่อนนัด ซึ่ง การเลื่อน คุณต้องมีเหตุผล เช่น เลื่อนเพื่อเจรจาส่วนลด เลื่อนเพื่อจะสู้คดี หากไม่มีเหตุผล ศาลท่านอาจไม่ให้คุณเลื่อน

2. ไปศาลเพื่อสู้คดี คุณต้องมีทนายความและคำให้การ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตรงนี้จากประสบการณ์ ผมแนะนำว่า หากไม่มีประเด็นจะสู้ หรือประเด็นมันอ่อน หรือคุณไม่ได้มีเงินมากมาย ก็ไม่ควรสู้ เพราะนอกจากจะเสียค่าทนายแล้ว หากคุณสู้แล้วแพ้ ก็จะไม่ต่างจากให้ศาลท่านตัดสินเลย แล้วยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายโจทก์ในอัตราสูงสุดอีก

3. ไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ย/ยอมความ คือ ไปเพื่อตกลงยอดที่จะขอผ่อนกับเจ้าหนี้ ซึ่งอาจจะได้ลดอัตราดอกเบี้ยระหว่างผ่อน ได้ผ่อนระยะยาวๆ (2 - 3 ปี) แต่หากดูแล้วผ่อนไม่ไหวก็ไม่ควรทำ

4. ไปศาลเพื่อให้ศาลตัดสินเลย คือ ไปเพื่อยืนยันเจตนาว่าเราไม่ได้หนีหนี้ แต่เราไม่มีจริงๆ ก็ให้ท่านตัดสินไปตามกระบวนการ ซึ่ง ส่วนมากก็จะได้ลดในเรื่องของดอกเบี้ย และค่าปรับต่างๆ แล้วแต่ดุลพินิจของศาล

ลองเลือกดูครับ ผมก็กำลังจะไปศาลนัดที่สอง คดีกรุงศรีเหมือนกัน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73612 โดย mymind
ยินดีต้อนรับสมาชิกชาวหนี้ค่ะ คุณVii หยุดพอๆกันเลย ฟ้องเหมือนกันค่ะ เราเป็นยูโอบี ตุลานี้

อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

Vii เขียน: สวัสดีค่ะ เราเป็นคนนึงที่ตัดสินใจหยุดจ่ายทุกบัตรหลังจากเข้ามาเจอหนทางสว่างในเว็บนี้ หนี้เรารวมกันหลายสถาบันพอสมควร รวมกันประมาณห้าแสนค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปิดได้เพียงหนึ่งใบคือ Umay Plus แหะๆ

:เฮ้อ:

หลังจากซุ่มอ่านอยู่นาน เก็บข้อมูลไปเรื่อย ทั้งกระทู้ปักหมุดและประสบการณ์ของเพื่อนๆ บอกตามตรงว่าสร้างกำลังใจได้ดีมากเลยค่ะ ดีใจจริงๆที่ได้มาเจอเว็บนี้ ทำให้เห็นหนทางในการปลดหนี้ที่ทำให้เป็นทุกข์มาตลอด ระหว่างนี้ก็พยายามเก็บเงินไปด้วย เก็บได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะมีเหตุให้ต้องมีค่าใช้จ่าย จนกระทั่งวันนี้ ในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่จากแบงค์กรุงศรีโทรมา บอกว่ามีหมายศาลออกมาแล้วนะคะ แต่ตอนนี้อยากทราบว่ามีเงินจะปิดยอดมั้ย เห่อๆ ไม่มีค่ะ เพราะเพิ่งปิดยอดอีกเจ้าเสร็จเมื่อเดือนที่แล้วไปเอง = =' เราถามกลับถึงหมายเลขคดี เค้าก็แจ้งมาเลยนะคะ ระบุวันที่ให้เรียบร้อย

เราโทรไปเช็คที่ศาลจังหวัดบ้านเกิดสรุปว่ามีหมายศาลออกมาแล้วจริงค่ะ ต้องไปไกล่เกลี่ยและสืบพยานวันเดียวกันคือ 15 กันยายน แหม่ เพิ่งเริ่มงานใหม่ได้อาทิตย์เดียวพอดีด้วยนะนั่น ประเดิมกันจริงๆ -*-

ยอมรับว่าทำใจว่าวันนี้จะมาถึงไว้ในระดับหนึ่งแล้ว เลยไม่กังวลมาก แต่เอาเข้าจริงก็แอบกังวลนิดหน่อยค่ะ เดี๋ยวคงต้องอ่านทวนอะไรหลายๆอย่างเพิ่ม หรือไม่ก็อาจต้องโทรไปรบกวนคุณอาไพโรจน์เพื่อขอคำปรึกษา ใจหนึ่งก็คิดอยู่ว่า หรือจะให้ศาลตัดสินวันนั้นเลยดี เพราะถ้าเลื่อนเวลาไปอีก เราก็น่าจะยังไม่พร้อมหาเงิน อ้อ เราลืมบอกไปว่า ฟ้องครั้งนี้ยอดรวมสองบัตร เป็นบัตรเครดิตกับเฟิร์สช้อยส์ค่ะ ยอดรวมประมาณแสนนึง

แต่อีกใจก็คิดว่า ถ้าเลื่อนก็อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็เผื่อเวลาให้เรามีเงินเก็บเพิ่มมาอีกซักเดือนสองเดือน เพื่อนๆคิดเห็นว่ายังไงคะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ เพราะไปขึ้นศาลนี่เราต้องเดินทางกลับต่างจังหวัดเลย แต่ทางที่ทำงานใหม่เราก็กะจะเรียนหัวหน้าไปตามตรงเลยค่ะ ไม่อยากปกปิด เพราะเค้าเองก็บอกไว้เหมือนกันว่า ถ้ามีเรื่องอะไรก็สามารถบอกกันได้ ทั้งเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว

เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ เอาไว้ถึงวันไปขึ้นศาลแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง

ป.ล. ไหนใครๆก็บอกว่าเจ้านี้ให้ส่วนลดดี เรานี่ไม่ได้เลยค่ะ แรกๆมีโทรมาแต่ไม่ค่อยลดให้ จากนั้นก็เงียบหายไป กลับมาอีกทีพร้อมกับหมายศาลมาฝาก T______T

:cry2:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73613 โดย mymind

FFM เขียน: แนวทางหลักๆจะมีหลายแนวทางคือ

1. ไปศาลเพื่อขอเลื่อนนัด ซึ่ง การเลื่อน คุณต้องมีเหตุผล เช่น เลื่อนเพื่อเจรจาส่วนลด เลื่อนเพื่อจะสู้คดี หากไม่มีเหตุผล ศาลท่านอาจไม่ให้คุณเลื่อน

2. ไปศาลเพื่อสู้คดี คุณต้องมีทนายความและคำให้การ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตรงนี้จากประสบการณ์ ผมแนะนำว่า หากไม่มีประเด็นจะสู้ หรือประเด็นมันอ่อน หรือคุณไม่ได้มีเงินมากมาย ก็ไม่ควรสู้ เพราะนอกจากจะเสียค่าทนายแล้ว หากคุณสู้แล้วแพ้ ก็จะไม่ต่างจากให้ศาลท่านตัดสินเลย แล้วยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายโจทก์ในอัตราสูงสุดอีก

3. ไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ย/ยอมความ คือ ไปเพื่อตกลงยอดที่จะขอผ่อนกับเจ้าหนี้ ซึ่งอาจจะได้ลดอัตราดอกเบี้ยระหว่างผ่อน ได้ผ่อนระยะยาวๆ (2 - 3 ปี) แต่หากดูแล้วผ่อนไม่ไหวก็ไม่ควรทำ

4. ไปศาลเพื่อให้ศาลตัดสินเลย คือ ไปเพื่อยืนยันเจตนาว่าเราไม่ได้หนีหนี้ แต่เราไม่มีจริงๆ ก็ให้ท่านตัดสินไปตามกระบวนการ ซึ่ง ส่วนมากก็จะได้ลดในเรื่องของดอกเบี้ย และค่าปรับต่างๆ แล้วแต่ดุลพินิจของศาล

ลองเลือกดูครับ ผมก็กำลังจะไปศาลนัดที่สอง คดีกรุงศรีเหมือนกัน


แอบมาหาข้อมูลกระทู้อื่น ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ตุลานี้ของ mymind กับยูโอบีจะขอเลือกข้อ3ของตามคุณ FFM ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73626 โดย อ้อย
เครือGEเสนอส่วนลดให้ผมประมาณ46-48%ครับ
เข้ารอบบิลที่4 แต่ผมขอผ่อน2-3งวด ยังไม่ยอม
เรื่องขึ้นศาล ก็ต้องพิจารณาเอานะครับว่าจะขอเลื่อน
หรือยอมความหน้าศาล ดูรายละเอียดว่าผ่อนยาวกี่เดือน
ยอดต่อเดือนเท่าไหร่ เราไหวมั้ย อีกอย่างต้องดูภาระหนี้เจ้าอื่นด้วย
ว่าอยู่ในขั้นตอนไหน ยังไงๆก็เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ !! :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73793 โดย Vii
ขอขอบคุณคุณ FFM คุณ mymind และคุณอ้อยมากเลยนะคะสำหรับกำลังใจและคำแนะนำดีๆ หลังจากที่ลองพิจารณาดูแล้ว คาดว่าคงจะไปขอเลื่อนก่อนค่ะ ถ้านัดครั้งที่สองไม่สามารถบ่ายเบี่ยงได้อีก คงต้องดูว่าจะสามารถยอมความกันได้มั้ย ถ้าไม่ได้ก็คงต้องขอให้ศาลตัดสินเลยค่ะ เพราะภาระบัตรอื่นๆคาดว่าคงจะตามมาในไม่ช้า หลังจากนั้นค่อยมาดูแผนสำรองหลายๆแผน เช่น เรื่องจ่ายหักคองี้ หรือจะรอให้เจ้าหนี้อายัดเงินเดือนเลย

จริงๆก็ประมาณการณ์ไว้ล่วงหน้าเหมือนกันค่ะกรณีถึงขั้นอายัดเงินเดือน ถ้าหักจำนวน 30% ที่ถูกอายัดไปแล้ว หักค่าห้อง ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็พอมีเงินเหลือให้เก็บต่อไปอยู่บ้าง (จะได้เก็บไว้ผ่อนเจ้าอื่นด้วย) ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะลำบากอะไร ประมาณว่าคิดหลายกระบวนการมาก แหะๆๆ ทีตอนเอาเงินในอนาคตมาใช้นี่ไม่รอบคอบอย่างนี้น้อ = ='

ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเหมือนกันค่ะ
มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องสู้กันต่อไปค่ะ บึ๊ดจ้ำบึ๊ดดดดด

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73797 โดย FFM
สู้ๆครับ สำหรับผม การอายัดเงินเดือน เป็นทางเลือกที่ดีมากๆทางหนึ่ง เพราะลูกหนี้ก็ยังเหลือเงินไว้กินไว้ใช้ และยังได้ใช้หนี้ด้วย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73800 โดย Vii

FFM เขียน: สู้ๆครับ สำหรับผม การอายัดเงินเดือน เป็นทางเลือกที่ดีมากๆทางหนึ่ง เพราะลูกหนี้ก็ยังเหลือเงินไว้กินไว้ใช้ และยังได้ใช้หนี้ด้วย


ขอบคุณมากค่า คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะ ดีที่ได้งานใหม่และได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น พอให้มีกำลังในการจัดการได้มากขึ้น คุณ FFM ก็สู้ๆในสนามรบกรุงศรีหนที่สองนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกอย่างราบรื่นค่า

:สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #73810 โดย FFM

Vii เขียน:

FFM เขียน: สู้ๆครับ สำหรับผม การอายัดเงินเดือน เป็นทางเลือกที่ดีมากๆทางหนึ่ง เพราะลูกหนี้ก็ยังเหลือเงินไว้กินไว้ใช้ และยังได้ใช้หนี้ด้วย


ขอบคุณมากค่า คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะ ดีที่ได้งานใหม่และได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น พอให้มีกำลังในการจัดการได้มากขึ้น คุณ FFM ก็สู้ๆในสนามรบกรุงศรีหนที่สองนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกอย่างราบรื่นค่า

:สู้ๆ:


ขอบคุณครับ ใกล้วันแล้ว เดี๋ยวจะกลับมาเล่าครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #76042 โดย Vii
สวัสดีค่ะ วันนี้กลับมาเล่าเรื่องไปขึ้นศาลคดีกรุงศรีให้ฟังค่ะ สดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เลย (15 กันยายน) ศาลนัด 16.30 เราไปถึงก่อนประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ไปเช็ครายชื่อด้านหน้าว่าต้องไปบัลลังค์ไหน ปรากฏว่าของเรามันเป็นสองบัตร (Krungsri Visa กับ First Choice) ก็เลยต้องเข้าไปสองบัลลังค์แต่เวลาเดียวกัน ตอนแรกงงมาก แต่พอสอบถามเจ้าหน้าที่ศาลก็บอกว่าไม่เป็นไร ให้เราแจ้งเจ้าหน้าที่ข้างในห้องบัลลังก์อีกห้องไว้ว่าเรามาแล้วและต้องอยู่ที่อีกบัลลังก์นึงด้วย เดี๋ยวเค้าจะบอกศาลและมาตามเราเองเมื่อถึงเวลาศาลเรียก

ก่อนถึงเวลาศาลนัดเจ้าหน้าที่บอกให้เราไปพบกับทนายฝ่ายโจทก์ก่อนเพื่อทำการเจรจาไกล่เกลี่ย เราก็แอบกังวลเล็กน้อย เพราะจากที่อ่านปะสบการณ์ของเพื่อนๆมา ส่วนใหญ่มักจะเจอทนายที่อาจจะมีเล่ห์เหลี่ยมใส่เรา แต่ปรากฏว่าผิดคาดค่ะ ทนายเป็นผู้ชายและพอเราไปถึงเค้าก็อธิบายรวบรัดสั้นๆเลยค่ะว่า ของพี่สองบัตรใช่มั้ย ทางธนาคารเค้าเสนอมาให้อย่างนี้นะ โอเครึเปล่า ซึ่งเราขออธิบายยอดหนี้เราดังนี้ค่ะ

1. Krungsri Visa ยอดหยุด 44,008 ยอดฟ้อง 53,297 เค้าให้ชำระเดือนละ 2,000 เป็นจำนวน 24 งวด และงวดสุดท้ายต้องโปะทั้งหมด

2. First Choice ยอดหยุด 61,723 ยอดฟ้อง 76,068 และให้ชำระเป็นจำนวน 24 งวดเหมือนกันโดยงวดสุดท้ายก็ต้องโปะทั้งหมดเหมือนกัน

เราได้ยินอย่างนั้นก็บอกไปเลยค่ะ ตามเจตจำนงที่คิดเอาไว้แล้วว่า วันนี้จะมาขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณา เราอยากจะขอไปคุยกับทางธนาคารก่อน (จริงๆคือตั้งใจยืดระยะเวลาเก็บเงินเท่านั้นค่ะ) น้องทนายพอได้ยินอย่างนั้นก็บอกโอเค ตกลงเลย แบบไม่มีเยิ่นเย้อค่ะ แล้วก็ให้เรานั่งในศาลรอให้ถึงเวลาศาลท่านออกมาพิพากษา เราก็แอบโล่งใจว่า เออเว้ย ไม่ซับซ้อนและยุ่งยากดี อาจเพราะเป็นศาลต่างจัดหวัดด้วยมั้งคะ ทนายเองก็ไม่ได้ Tricky บรรยากาศในศาลก็เป็นกันเอง เราเองก็ไม่ได้กดดันหรือกลัวเลยค่ะ และเราเชื่อว่าศาลที่อื่นๆบรรยากาศก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายคนคิด ตอนฟังศาลท่านพูดในคดีของคนอื่นที่อยู่ในบัลลังก์เดียวกันท่านก็บอกว่า อยู่ตรงนี้อยากพูดอะไรก็พูดมาเลย ไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่ใช่โรงพัก ท่านเองก็พยายามช่วยและให้ความเป็นธรรมกับจำเลยเหมือนกันค่ะ

ทั้งสองบัลลังก์ที่เราเข้าไปศาลเป็นผู้หญิงทั้งสองท่านค่ะ (ตอนแรกที่ทนายบอกว่าให้เรานั่งรออยู่บัลลังก์นี้ก่อน เค้าจะไปอีกบัลลังก์นึงที่เราเองก็ต้องไปเข้าด้วย ถ้าศาลเรียกชื่อแล้วเค้าจะมาตามเอง เรางี้แอบใจไม่ดี กลัวเหมือนที่เพื่อนบางคนเจอที่บอกว่า ทนายแอบหลอกเพื่อไม่ให้เราได้เข้าพบศาล แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ ดูทนายและเจ้าหน้าที่ในศาลทำงานเป็นกันเองมากและดูให้การช่วยเหลือจำเลยคดีอื่นๆมากเหมือนกัน อย่างที่บอกค่ะว่าอาจเพราะเป็นต่างจังหวัด อะไรๆก็เลยดูเป็นกันเอง)

สรุปแล้วคือเราได้เลื่อนตามตั้งใจค่ะ ศาลท่านเลื่อนให้อีกทีเป็นวันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 09.00 แต่รอบสองนี่ยังไม่แน่ใจเลยค่ะว่าจะขอเลื่อนอีกหรืออะไรยังไงดี แต่ที่แน่ๆคือคิดว่าคงจะไม่สามารถปิดยอดทั้งสองบัตรนี้ได้ภายในเวลาอันจำกัด ถ้าเลื่อนไม่ได้ก็อาจจะขอให้ศาลท่านตัดสินเลย อย่างน้อยๆก็อาจจะได้ลดในส่วนของดอกเบี้ยและค่าอื่นๆ จากนั้นค่อยมาคิดวิธีเอาว่าจะเสี่ยงหักคอจ่ายหรือจะรอให้อายัดเงินเดือนเอา (เพราะยังมีอีกหลายบัตรที่รออยู่) อาจจะต้องได้ขอคำชี้แนะจากท่านๆที่ปรึกษาค่ะ

ขออนุญาตเล่านิดนึงในช่วงก่อนจะไปถึงศาลค่ะ คือระทึกมาก เพราะเราขอลางานหนึ่งวัน กะว่าไปเช้าดึกกลับ (วันรุ่งขึ้นทำงานต่อ) เราขึ้นรถทัวร์รอบเช้าสุดโดยกะเวลาไว้แล้วว่าน่าจะไปถึงเวลาเท่านี้ๆ ปรากฏว่าฝนตกตลอดทางเป็นเวลาหลายชั่วโมงค่ะ (จริงๆตกตั้งแต่ออกจากกรุงเทพยันจังหวัดปลายทางที่เราไปเลยค่ะ) รถต้องวิ่งช้าลงเพราะต้องปลอดภัยไว้ก่อน ตอนแรกไม่เท่าไหร่ แต่พอเริ่มเที่ยงและเริ่มบ่าย เราเริ่มกังวลค่ะว่า เอาละหวา จะไปทันเวลาศาลนัดรึเปล่า กระวนกระวายมากค่ะ ถึงขนาดนั่งคำนวณระยะทางนั่งคำนวณเวลา เทียวดูนาฬิกาทุกห้านาที สติเริ่มกระเจิงจนแบบ เปิดแอพดูดวงประจำวันขึ้นมาดูเลยค่ะ ปรากฏว่า ผ่าง!!! "สิ่งที่คิดหวังไว้ว่าจะไปได้ดีกลับพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า" ขึ้นต้นมาซะอย่างนั้นก็จิตแทบหลุดเลยล่ะค่ะท่านผู้โช้มมมมมม เอาใหม่ๆๆ พยายามตั้งสติ อย่าไปเชื่อดวงมากนัก (แต่จิตนี่ตกไปถึงพื้นแล้วค่ะ) ว่าแล้วก็หยิบไอพอดขึ้นมากะว่าฟังเพลงแล้วจิตใจจะได้หายฟุ้งซ่าน แล้วเพลงที่เด้งขึ้นมา "Hopeless" เอาเข้าไปค่าาาาา ซ้ำเติมกันมาทุกทาง โอ้ยยยยยย กว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้นี่คือแบบ ถึงขนาดคิดล่วงหน้าเลยค่ะว่า ถ้าไปไม่ทันและโดนตัดสินให้แพ้คดีนี่จะทำยังไงต่อไป แต่โชคดีเหลือหลายค่ะที่ไปทันและไปถึงก่อนเวลานัดชั่วโมงกว่าๆ คราวหน้าคงไม่กล้าเสี่ยงแบบนี้แล้ว

อยากบอกทุกคนที่จะไปขึ้นศาลว่าไม่ต้องกลัวนะคะ มันจริงอย่างที่คนที่เคยไปขึ้นมาแล้วบอกมาจริงๆว่า ในศาลไม่ได้กดดันหรือน่ากลัวอะไรเลย ศาลท่านเองก็ช่วยเราเหมือนกัน ถ้ามีอะไรที่อยากให้ท่านพิจารณาเพื่อให้ช่วยเราได้ก็บอกท่านไปเลย เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ เอาไว้รอบหน้าจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ สู้ๆไปด้วยกันค่ะ

:สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #76044 โดย FFM
แวะมาอ่านประสบการณ์ของคุณ Vii ครับ

ไม่ต้องกังวลอะไรมากนะครับ เก็บเงินอย่างเดียว
หากเก็บพอไปปิดได้สักบัตร แล้ว ผ่อนไปสักบัตร ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร (หากผ่อนไหว)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #76045 โดย Vii

FFM เขียน: แวะมาอ่านประสบการณ์ของคุณ Vii ครับ

ไม่ต้องกังวลอะไรมากนะครับ เก็บเงินอย่างเดียว
หากเก็บพอไปปิดได้สักบัตร แล้ว ผ่อนไปสักบัตร ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร (หากผ่อนไหว)


ขอบคุณคุณ FFM มากค่ะ จะลองดูค่ะว่าจะสามารถทำทางไหนได้บ้าง เป็นกำลังใจให้เช่นเดียวกันนะคะ สู้ๆค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.713 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena