แชร์ความเข้าใจของผมวันนี้ ที่ต่อสู้กับแบงค์มา

9 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #55278 โดย Bondjovi
อยากบอกเล่าจากสิ่งที่ไปลุยมาคับ เพื่อจะได้เป็นแนวทางด้วยกัน อยากให้ลองมองหลายๆมุมมองบ้าง มองในมุมคนเป็นหนี้กันแล้ว ผมไปเจอมุมของแบงค์มาเลยเข้าใจแล้วว่าทำไม ทำไม และ ทำไม
จากวิธีแก้ไขหนี้ทั้งหมดในเว็บนี้ ผมบอกเลยว่าโอเคที่สุด ทำตามวิธีที่ประธานเขียนไว้ตามนั้นแหละคับ และต้องท่องไว้เสมอด้วย "เป็นหนี้ ยังไงก็ต้องจ่ายไม่ช้าก็เร็ว หนีไม่ได้ ไม่มียกเลิก" ผมลุยกับแบงค์มาแล้วคับวันนี้ไปนั่งคุยกับ ผจก.ใหญ่คนที่มีอำนาจที่สุด หลังจากไปขึ้นศาลมา เรียกว่าเกือบจะด่ากันเลยก็ว่าได้ คนทำงานประจำมีเรื่องนึงติดไม่หายคือหัวโขน ผมไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ได้ประลองยุทธกัน ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ แบงค์ที่ไปคือ แบงค์เขียว รวงข้าว จากที่แลกเปลี่ยนมุมมองของคนเป็นหนี้ ผมยิงคำถามเลยว่า ปิดก้อนลดเท่าไร หรือผ่อนหนี้จะมีแบบไหนบ้าง ทางแบงค์ยืนยันอย่างเดียว ปิดก้อนได้แค่ 10% ผ่อนก็ได้แค่เลี้ยงดอกเบี้ยให้ศาลพิพากษาเอา ในใจก็คิดอะไรกันใจดำมาก ไม่มีส่วนลดใดๆอะไรทั้งสิ้น ดอกคุณก็ผิดกฎหมายอยู่แล้วนิ จะมาอะไรกับผมถ้าผมสู้คดียังจะมีโอกาสได้ลดกว่าอีกด้วยซ้ำ นึกถึงกฎหมายเรื่อง ดอกห้ามเก็บเกิน 15%ต่อปีตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย ก็นั่งคุยขอข้อต่อรอง ขอส่วนลดเป็นชั่วโมง ก็ไม่ได้คำตอบอะไรยืนยันเท่าเดิม 10% สำหรับส่วนลด หลังจากนั้นก็เลยนั่งคิดใหม่ว่าจะยังไงดี คิดๆๆๆ แล้วก็เลยมองมุมกลับใหม่ มองมุมแบงค์บ้างซิ ทำไมไม่ลดเลย เลยได้คำตอบ ดอกเบี้ยประกาศธนาคารมันเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่เป็นธุรกิจการเงิน ซึ่งถ้าสมัยก่อนขึ้นศาลโอกาสชนะมี แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ละ สาเหตุเพราะดอกเบี้ยที่แบงค์เก็บไปส่งไปภาษีเข้าสัมพากร ถ้าดอกก้อนไหนเข้าสัมพากรแล้วละก็ยากแก่การขอส่วนลด แล้วยิ่งเป็นแบงค์นี้ด้วยแล้วละก็ทำงานโคตรเป๊ะ ยอมเลย ดอกเขาถูกต้องตามกฎหมายเลยจริงๆ ผมยังคิดเลยว่าจะให้แบงค์ตี0 ส่งให้แบงค์ชาติได้ไหม ผมยอมจะติดแบล็กลิสต์หรือจะล้มละลายก็ยอม ไม่แคร์ ผมซ้ำไปอีกบอกว่าคุณเล่นปิดประตูหมดทุกทางไม่มีส่วนลดไม่หาทางช่วย เท่านั้นละคับ แบงค์ก็ยืนยันตามหลักฐานและขั้นตอน ผมคิดไว้แล้วละว่าไม่น่าจะได้อะไรจากแบงค์นี้ และอีกอย่าง ผมมีหลักทรัพย์กับแบงค์นี้คือบ้านซึ่งส่งตรงตลอด เลยทำให้ทางแบงค์นิ่งมากๆ ผมก็ว่าอยู่แล้วละคงจะไปต่อรองอะไรมากไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไม้อ่อน ลองอ้อนขอส่วนลดกับเขาดู ก็ได้มานิดนึงก็ยังดี หลังจากนั้นก็เลยขอทำหนังสือขอแจ้งเรื่องลดหย่อน รอพิจารณา ยกมือไหว้แล้วก็ลากลับ
สรุปประเด็นสำคัญให้เลยนะคับ
1 แบงค์จะลดให้หรือไม่จะมองว่าเรามีความสามารถชำระได้ขนาดไหน ถ้าคุณมีการจ่ายเข้าไปมีการหยอด เสร็จโจรทันที แบงค์จะตีว่าคุณมีกำลังในการใช้คืนได้ ส่วนลดแทบไม่มี
2 หากจะขอจ่ายขั้นต่ำ คุณเอาเครื่องคิดเลขมาเลยมีมาตราฐานตามนี้ ยอดหนี้ทั้งหมด ณ ปัจจุบัน คูณกับดอกเบี้ยบัตรนั้นๆ (20% 28%) แล้วหาร 12 นั้นคือตัวเลขที่อยากจะขอจ่ายขั้นต่ำ โดยที่จ่ายแต่ "ดอกเบี้ย" ต้นไม่ลดเลยนะคับ วิธีนี้สำหรับซื้อเวลา
3 หากจะขอจ่ายขั้นต่ำ โดยไม่คุยกับแบงค์ต้องรอศาลพิพากษาอย่างเดียว อันนี้แล้วแต่บุญใครทำมา ได้ศาลดี ก็ลดเยอะ จ่ายน้อย (อยากจะบอกว่า Caribrate ตาชั่งบ้าง)
4 เรื่องดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ผมมองว่าใช้สู้ไม่ค่อยได้แล้ว เพราะดอกเบี้ยที่แบงค์เก็บไปชำระเข้าไปเป็นภาษีเงินได้แก่แผ่นดิน หากมองประเด็นกฎหมาย
5 หากมีทรัพย์สินผ่อนอยู่กับแบงค์ไหน ไม่ควรมีบัตรเครดิตหรือสินเชื่อเงินสดกับแบงค์นั้น มันเป็นข้อต่อรองเขา กรณีผมมีเลยสู้ไม่ค่อยได้
6 ท่องไว้คับ เป็นหนี้เขาเท่าไร ก็ต้องใช้เขาเท่านั้นคับ เป็นหนี้ในระบบ หากคุณทำธุรกิจ คุณรีบเก็บเงินชำระหนี้ จะได้มีโอกาสต่อไป หากจะยอมแพ้ คุณมีฟูกไว้ให้ล้มหรือไม่ ถ้ามีทำเลยคับจะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน
7 ทุกครั้งที่เจรจากับแบงค์ มีการบันทึกไว้ทุกอย่าง หากคุณคุยดีมาแต่ต้น แบงค์ก็อยากคุยด้วย ผมขอดูรายงานเขาเขียนไว้ชัดเจนมาก ทางแบงค์ยังเอารายงานอันที่ลูกค้าด่าเจ้าหน้าที่ให้ดูด้วย ดีนะผมไม่ทำ555
น้อยใจนิดๆสำหรับวันนี้ที่ไม่สามารถขอส่วนลดได้มาก เพราะผมมีหลักประกันอยู่กับเขา ถ้ายอมเขา เขาก็ยึดไปขายทอดเอาความสะใจ ผมเลยตัดสินใจสู้ ไหนๆได้เจอกันเลยขอดูมูลค่าทรัพย์ เห็นตัวเลขเลยยอมที่จะสู้ต่อ เพราะมองแล้วคุ้มกว่า(หลายแสนเลย) สุดท้ายเป็นกำลังใจให้นะคับ ผมเองเคยแว่ปคิดเหมือนกัน ว่าจะขึ้นศาลต่อสู้แล้วไม่จ่าย มาคิดๆเหมือนมีคนยืมเงินเราไปแล้วไม่คืนอ่ะคับ มันเหมือนกัน แค่ตอนนี้เราไม่มี มันคุยกันได้คับ สู้ๆนะคับ กู้มาทุกอย่างยกเว้นระเบิด ก็ต้องสู้ต่อไปคับ เป็นกำลังใจให้คับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.378 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena