เมื่อเริ่มตัดสินใจหยุดจ่าย เพื่อปลดภาระหนี้ที่ตัวเองสร้างขึ้น

สวัสดีครับ มาเริ่มตั้งกระทู้ เพื่อเปิดโปงรายรับรายจ่ายตัวเอง รวมไปถึง เรื่องหนี้ต่างๆ
เมื่อกี้ พิมพ์ไปเสร็จแล้วเจอ ระบบล๊อคอินมีปัญหา หายหมดเกลี้ยงเลย ขอเวลาพัก
แป๊ปนึงนะครับ เดี๋ยวจะกลับมาร่ายใหม่

สวัสดีครับ พี่ๆเพื่อนๆ ทุกๆคนครับ

แนะนำตัวก่อนครับ ชื่อนัทครับ เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครับ ขอท้าวความสั้นๆ
กับเรื่องในอดีต เพื่อให้เพื่อนๆได้รับทราบอย่างเพลิดเพลินละกันครับ

เริ่มกันเลย

เมื่อสองปีที่แล้ว ช่วงจบการศึกษาใหม่ๆ ผมกระสันต์อยากมีบัตรเครดิตมากๆ ก็ลองไปทำดู
สรุปว่า ใบแรกผ่านเฉย ดีใจครับ ตอนนั้นเงินเดือนได้ตามที่เขาวางไว้คือ 15,000 บาท มันอนุมัติ
วงเงินให้ผม 51,000 ของกสิกรนะครับ ดีใจมากกกกก แต่ก็ยังใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ไม่เคยมีปัญหา
ปัญหามันเริ่มมาเกิดเมื่อมี ใบที่ 4,5 จนถึงใบที่ 8 ด้วยความที่ การเรียกเก็บเงินของบัตรที่ผมมีจะถูก
แบ่งเป็น 3 ช่วงครับ ซึ่งแรกๆไหวอยู่ เพราะมันเป็น ต้น ปลาย อย่างละใบ แต่ตอนนี้ ........

"ต้นเดือน 3 ใบ กลางเดือน 3 ใบ ปลายเดือน 2 ใบ "

ตายสิครับ ใครจะหมุนเงินทัน ผมเองเมื่อราวๆ 3-4 เดือนที่แล้ว เคยลองคิดว่า

" ไม่ไหวๆ กดออก -> จ่าย -> กดออก หมุนเงินไม่ทัน แล้วทำไมเงินมันไม่ลดเลยวะ"
" ไม่เป็นไรเอาใหม่ๆ เดือนหน้าจะจิงจังละ กดออก -> จ่าย -> กดออก "
" เฮ้ออ ทำแบบนี้ ต้นก็ไม่ลด เงินก็ไม่มีใช้ หมุนเดือนชนเดือนตลอด ประหยัดมันทุกวิธีละ
แทบจะเดินไปทำงาน หนี้ไม่มีทีท่าจะลดลงเลย ทำไมนะ "
" เอ มันจะหยุดจ่ายแล้วรอเราเก็บเงินได้เป็นก้อน แล้วจ่ายทีเดียวได้ป่าวหว่า"
" มันจะเป็นไปได้ยังไง ถ้าหยุดจ่าย ก็โดนทวง ไหนจะเสียเครดิตอีก ไม่เอาดีกว่า จ่ายไปเหอะ"

เป็นอย่างนี้มาตลอด ทุกๆช่วงจ่ายเงินของทุกๆเดือน ผมจะเครียดมากกับการจ่ายเงิน จนกระทั่งเมื่อวาน
สดๆร้อนๆเลยครับ ผมก็นั่งคิดวิธีหมุนเงินตามปกติ เหมือนๆทุกเดือน ก็เล่นเว็บอะไรไปเรื่อยๆรอน้องที่ทำงาน
ไปเล่นฟิตเนส จนกระทั่งเจอแบนเนอร์นึง เขียนว่า.....

" ปิดภาระ ทุกหนี้ ทุกบัตร ด่วน หมดเขต 30 มิถุนายน ศกนี้ ....ธ.อิสลาม "

ผมตาโต และใจชื้น คิดว่า

" เฮ้ย.... มันมีวิธีนี้ด้วยหรอวะเนี่ย รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ปิดทุกใบ มาจ่ายยอดต่ำ ที่เดียว"

มันน่าสนใจมากครับ ผมเลยใช้บริการ อากู๋​ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ผมไปเจอกระทู้นึงในพันทิป เกี่ยวกับการ
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ซึ่ง 9 จาก 10 กระทู้ พูดไปในทางเดียวกันครับว่า "ทำได้ครับ" "ยอดจัด 200,000โทร........ " บลาๆๆๆๆ ซึ่งเป็นไปในแนวทางว่า อืมทำได้ และน่าจะได้ผล

จนไปสะดุดอยู่ที่ ท่านนึงเค้าบอกว่า "อย่ารีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเด็ดขาด ถ้าอยากหมดหนี้ ให้เข้าไปอ่าน
ทุกอย่างในเว็บบอร์ดนี้ ........... การรีไฟแนนซ์เป็นแค่การรวมหนี้บัตรทุกใบ ให้เหลือใบเดียว บลาๆๆๆๆ"

ตอนแรกต้องบอกเลยครับว่า ไม่สนใจครับ เพราะใจมันไปทางรีไฟแนนซ์บัตรซะแล้ว ก็เริ่มหาข้อมูล ก็ได้
ข้อมูลมาว่ามี 2-3 ธนาคารที่ทำในลักษณะแบบนี้ ผมก็ลองส่งข้อมูลไปให้เค้าประเมินความเป็นไปได้ เหมือน
กับตอนที่ทำบัตรเครดิตนั่นละครับ ก็ไม่ได้คิดอะไร ส่งไปสองที่ จากนั้นก็คิดว่า ไหนๆ อ่านหน่อยสิ เว็บบอร์ด
ที่ว่า เค้าพูดเรืองนี้ยังไง ก็เริ่มเปิดเข้ามาดู อ่านกระทู้แรกของ "พี่นกกระจอกเทศ" และอีกหลายๆกระทู้
ผมบอกกับตัวเองเลยว่า

"ชิบหายละ ไอ้ที่ส่งไปเมื่อกี้นี้ ผิดพลาดละ มันไม่ช่วยและทำให้หนักกว่าเดิมอีก"

ก็เริ่มศึกษาครับ ศึกษาไปเรื่อยๆ อ่านให้เยอะที่สุด ทั้งกระทู้ปักหมุด ทั้งประสบการณ์ต่างๆ จนวันนี้ ตอนช่วง 11 โมง มีโทรศัพท์โทรเข้ามา

เค้า : สวัสดีค่ะ เรียนสายคุณ ........... ค่ะ
ผม : ครับ พูดสายครับ
เค้า : ดิชั้น โทรมาจาก Silk Span ที่ทางลูกค้าได้ กรอกข้อมูลไว้ว่าจะขอสินเชื่อค่ะ รบกวนสะกดชื่อค่ะ
ผม : (กำลังจะสะกดชื่อ) เอ อันนี้คือสะกดเพื่อกรอกใบสมัครหรือเปล่าครับ
เค้า : (ดูงงๆ ) ค่ะ
ผม : อ่า... ขอโทษด้วยครับ ผมไม่สนใจแล้ว ยังไงต้องขอโทษที่ทำให้เสียเวลาด้วยนะครับ
เค้า : อึ้ง ......ค่ะ
ผม : วางหู


หลังจากที่อ่านเยอะมากๆ ทำให้ผมตัดสินใจที่จะ ใช้วิธีที่ 2 Secondway out คือการหยุดจ่าย และเริ่มเก็บเงินก้อน เพื่อทำการชำระหนี้บัตรเป็นใบๆไป อย่างที่เคยคิดเอาไว้

เอาละครับ คราวนี้ผมจะเปิดโปงข้อมูลของผม เพื่อให้ตัวผมเองดู และ เพื่อให้พี่ๆเพื่อนๆช่วยกันพิจารณา

รายรับ
1. เงินเดือน 20,966 บาท
2. เงินที่ได้รับเท่ากัน ทุกๆเดือน 5,300 บาท
3. เงินที่ได้รับไม่เท่ากัน ทุกเดือน 1000 - 4000 บาท (ก้อนนี้ขอไม่คิดนะครับ เพราะได้ไม่เท่ากัน)
รวมรายรับ 26,266 บาท/เดือน

รายจ่าย ที่บริษัทหัก
1. ค่าภาษี 553 บาท
2. กองทุนสะสม 629 บาท
3. ประกันสังคม 750 บาท
4. มาสาย xxx บาท (ก้อนนี้ขอไม่คิดเช่นกันครับ เพราะไม่เท่ากัน)
รวมรายจ่ายที่บริษัทหัก 1,932 บาท/เดือน

รายจ่ายในชีวิตประจำวัน
1. ค่ารถ 140 บาท/วัน 2,800 บาท/เดือน
2. ค่าข้าว 100 บาท/วัน 2,000 บาท/เดือน
3. ค่าโทรศัพท์ 1,000 บาท/เดือน
4. ให้คุณพ่อ 4,000 บาท/เดือน
รวม 9,800 บาท/เดือน

หนี้บัตร ต่างๆ
1. บัตรเครดิต กสิกรไทย ยอดหนี้ 07/07 51,693.42 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
2. บัตรกดเงิน กสิกรไทย ยอดหนี้ 20/07 24,691.49 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
3. บัตรเครดิต ทหารไทย ยอดหนี้ 02/07 116,568,65 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
4. บัตรเครดิต ไทยพาณิชย์ ยอดหนี้ xx/07 51,003.60 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
5. บัตรกดเงิน สปีดี้แคช ยอดหนี้ 20/07 53,000.00 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
ุ6. บัตร Citi M Visa ยอดหนี้ 12/07 28,694.25 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
ึ7. บัตร Citi Master ยอดหนี้ 12/07 30,561.69 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
8. บัตร Citi Ready ยอดหนี้ 12/07 59,172.33 บาท สถานะ หยุดชำระ 28/06
รวมยอดหนี้ 8 ใบ = 415,385.43 บาท

เห็นยอดละเพลีย จังแฮะ แต่เอาวะ ในเมื่อ ผูกเองได้ ก็ต้องแก้เองได้ คราวนี้มาดู รายรับสุทธิที่เหลือกันดีกว่า

รายรับสุทธิ/เดือน (26,266 - 9,800-1,932) = 14,534 บาท

คราวนี้ ผมก็มานั่งคิดต่อครับ ว่า

"เอาละ แนวทางมาละ และมันเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ของจริงละ เราจะเก็บยังไง "

หลังจากคิดไตร่ตรองดู ผมเลยตัดสินใจ แบ่งเป็น 3 บัญชี ดังนี้ ( ในส่วนนี้เพื่อนๆพี่ๆ แนะนำได้นะครับ)
1. บัญชีเงินเงินเดือน / บัญชีใช้จ่ายรายเดือน : คือบัญชีที่ใส่เฉพาะเงินที่ใช้จ่ายประจำวันเท่านั้น
2. บัญชีเงินออม : ผมแบ่งเงิน 4,534 บาท มาเก็บไว้ในบัญชีนี้ควบคู่ไปกันเงินปลดหนี้ ก้อนนี้ ยืดหยุ่น
ถ้าไม่จำเป็นจะไม่กดออกมาใช้ เด็ดขาด
3. บัญชีปลดหนี้ : เก็บอย่างมีระเบียบ อย่างน้อยเดือนละ 10,000 บาท

ปล. หากเดือนไหนที่โอทีเยอะ ผมจะแบ่งโอทีเป็น 70/30
70 แรกจะเก็บไว้เพื่อปลดหนี้
30 เก็บไว้ในบัญชีเงินออม

ดูแล้วน่าจะเหนื่อย แต่จะไม่ท้อ ต้องเดินเท่านั้นเพื่อเดินไปถึงแสงที่ปลายอุโมงค์ หมดซะทีวันที่มืดมน
เอาละครับแนวทางคงมีเท่านี้ มีอะไรเพื่อนๆพี่ๆ แนะนำได้เลยนะครับ เต็มที่ครับ เพราะ ต้องการจะหักดิบ
จริงๆสักทีครับ เดี๋ยวมา อัพเดทต่อนะครับ

สู้ๆนะครับ
แล้วอย่าลืมมาupdateให้ฟังนะครับ
ผมก้จะเริ่มไม่จ่ายแล้วไม่ไหวแล้ว

สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้มาอัพเดทสถานะปัจจุบันครับ หลังจากเริ่มหยุดจ่ายมาได้ ราวๆ 2 เดือนครับ
ช่วงเดือนแรก ตามกันยิ๊กๆๆๆๆๆ ตามกันแบบ ประสาทจะเสียแต่ก็ทนครับ
ที่บ้านไม่ได้บอก และ ที่ทำงานนก็ไม่ได้บอก เรื่องก็มาครับ วันนึง หลังจากกลับ
จากทำงาน ตอนเที่ยงคืน พ่อเรียกไปคุยครับ บอกว่า กสิกร โทรมาตาม แล้วถามว่า
มีกี่ยอด จดมา ผมแบบ เฮ้อ ทำไมถึงเร็วขนาดนี้นะ ก็จดยอดให้พ่อไป ปรากฏว่า
พ่อบอกว่า ยอดนี้พ่อจะเคลียร์ให้ แต่ขอให้ไม่มีอีกนะ รุ้แล้วใช่ไม๊การเป็นหนี้แล้วโดนตาม
มันเครียดขนาดไหน ถ้ามียอดคราวหน้า จะให้ไปเคลียร์เอง ผมช๊อค ...... เฮ้ย
มันไม่ใช่อย่างที่ต้องการ ผมอยากจะเคลียร์เอง แต่พ่อไม่ยอม พ่อจะจัดการให้
่เรื่องนี้เกิดเมื่อวันพุธที่แล้วครับ พอดีผมติดงาน เลยยังไม่สามารถถามยอดอะไรให้พ่อได้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พ่อลากไปพารากอนครับ ไปจ่ายเงินทั้งหมดแบบปิดยอด !!!!!!!!
ทุกบัตร ตามยอดหนี้ที่ผมเคยแจงไว้ รวมยอดเบ็ดเสร็จ 400,000 บาท มีเศษนิดหน่อย

กลายเป็นว่า วันต่อมาเจ้าหนี้ทั้งหลาย หายไปกับกลีบเมฆ มันทำให้ผมเข้าใจคำว่า
เลือดข้นกว่าน้ำ พ่อเคลียร์ให้เรียบ ยอดเงินไม่ใช่น้อยเลย แต่พ่อก็ยังเคลียร์ให้ ผมโดน
บ่นไปเกือบอาทิตย์ แต่ผมก็ถือว่า คุ้มค่า กับการที่หนี้หายทั้งหมด

เป็นการอัพเดทครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ซึ่่งจริงๆแล้วไม่ใช่ความต้องการของผมเลยครับ
ผมต้องการจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง แต่ในเมื่อพ่อยื่นมือเข้ามาช่วย ก็ดีใจครับ

ยังไง เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกๆคนนะครับ ที่กำลังหักดิบอยู่

ผมปฏิญาณกับตัวเองแล้วว่า จะไม่ใช้บัตรเครดิตอีกแล้ว เวลาจะใช้จะค่อยขอพ่อออกมาใช้
พร้อมเอาเงินวางไว้ จะได้ไม่มีปัญหาอะไร ให้พ่อช่วยจัดการเรื่องเงินครับ

ขอบคุณชมรมหนี้บัตรเครดิตนะครับ ที่ทำให้ผมมีวันนี้ เป็นวันที่ยกภูเข้าหิมาลัยออกจากอก

ขอบคุณมากๆครับ