7 ปีกับหนี้เจ็ดแสน ตั้งใจจะปลดภายใน 1 ปี

คนประหลาดครับ เป็นหนี้เหมือนคนอื่นๆครับ รู้จักชมรมนี้เมื่อบัตรเต็มทุกใบ เลยหลังชนฝา เหมือนหมาจนตรอก วันนี้ขอแค่แนะนำตัวครับ มีหนี้ประมาณ 7 แสน เอ๊ะ ปีที่แล้วคำนวนดู สามแสนแปด รายละเอียดขอเป็นวันต่อไปครับ จะแจงให้ดู ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนครีบ รายได้ รวมโอทีแบบขยันสุดๆ วิ่งอยู่ที่ 45000-60000 ครับ แต่สองปีให้หลัง ไม่ค่อยเห็นเลข 6 ครับเพราะบริษัทเริ่มลดต้นทุน มีลูก 2 คนโตอยู่กับเรา คนเล็กอยู่กับแม่ ตจว.เพราะความไม่พร้อมหลายอย่าง เพราะหนี้เยอะ(ข้ออ้าง) เลยไม่ได้อยู่เป็นครอบครัว หาเงินคนเดียวครับ แต่กินใช้ 4 คน

โอ้. ชีวิตคล้ายผมเลยครับ. ลูกสอง ทำงานหาเงินคนเดียว คงทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมเหมือนกันนะ ครับ

หนี้พอๆกับผมตอนเข้าชมรมใหม่ๆเลย.

ตั้งใจแล้วลุยปลดหนี้เลยครับ. เป็นกำลังใจให้....

ขอบคุณครับคุณลูกเสือ...

มาต่อกันครับ..วันนี้จะมาแจกแจงยอดหนี้เป็น Detail..ให้ดูก่อนนะครับ
1.Tesco premier สินเชื่อบุคคล ยอดแรกเริ่ม 150000 ผ่อน แล้ว14x4595 งวด เหลืออยอดประมาณ 116000
2.Standard chartered สินเชื่อบุคคลแปลงมาจากกดเงินสด ยอดเริ่มแรก 157000 ผ่อนมา 6x4730 คาดว่ายอดเหลือ143861
3.Standard กดเงินสด ยอด 36981 เป็นบัญชีเดียวกับสินเชื่อบุคคล
4.Krungsri สินเชื่อบุคคล ยอดเริ่มแรก 232000 ป่อนไป 7436x 13 คงเหลือ 183724
5.Citi bank สินเชื่อบุคคลแปลงมาจากกดเงินสดเหมือนกัน ยอดเริ่ม 124000 ผ่อนมา 3451x 8 งวด คาดว่าค้าง 100000 (ยังงง ยอดเหมือน กันเพราะกดมาใช้เรื่อย)
6.Tesco visa บัตรเครดิต วงเงิน 130000 ใช้วงเงินไป 131304
รวมคร่าวๆ ประมาณ 711870 ยังไม่รวมที่งง งง อยู่ของCiti เพราะใบแจ้งหนี้มาบางทีต่ำจนน่าตกใจ
เอาเป็นว่า หนักอึ้งเอาการสำหรับคน คนนึง..วันนี้ขอแค่นี้ก่อนเนาะ พิมพ์มือถือไม่ค่อยสดวก คราวหน้าจะมาเล่าความเป็นมาให้เพื่อนๆสมาชิกฟัง
บอกไว้เลยว่าน่าสนใจ..

ต่อครับ..
แรกเริ่มเดิมทีก่อนจะเป็นหนี้ เมื่อ 7-8 ปีที่แล้วรายได้ 14000 เอ๊ะ รายได้ระดับนี้อยากขับรถกะเขาสักคัน (เจ้ารถคันนี้แหละที่ทำให้มีบัตรใบแรก แต่ก็อยู่คู่ทุกข์คู่ยากจนปัจจุบัน)ก็จัดเลยสิครับ ตามเพื่อนฝูงที่เห็นเขามี ทั้งๆที่ตอนนั้นส่งลูกเมียก็ 8000 ไปละ แถมไปเอาเงินพี่ชายมา 50000 ขอยืมเจ้านายอีก 50000 มาเป็นเงินดาวน์ ถามว่าตอนนั้นไหวไหม ???..โอ้ยสบายยยย..อยู่ได้ไม่เป็นหนี้..เพราะต่อมาเปลี่ยนงานได้เงินเพิ่มเป็น 18000 อยู่มาอีกนิดได้อีกเป็น 25000 ป๊ะติ๊โทะ อนาคตเริ่มสดใส..เพราะลำพองตัวว่าเป็นคนฉลาด มีสมองใครๆก็ต้องการ อยากได้เงินเดือนเท่าไรต่อรองเจ้านาย เพราะทำกำไรให้เขาดี เป็นบ. รับเหมาครับ ไม่ใหญ่โตอาศัยบู๊ได้ บุ๋นได้ one stop service ว่างั้น มีเราคนเดียวเป็นได้ตั้งแต่ผจก.ยันภารโรง..แล้วอยู่ๆชีวิตก็พลันเปลี่ยนไปครับไม่รู้ดีหรือร้ายกับเรา เจ้านายเริ่มบีบครับ..รู้สึกอึดอัด..มาเป็นเดือนเลยตัดสินใจ ออก นะสิครับ
ตกงานอยู่เดือนนึงพอได้งานใหม่นี่แหละครับ .แต่แรกเริ่มเพราะช็อตเงิน ค่ารถติดมา 1 เดือน ค่าทวงถามอีก 770 ตอนนั้นคิดหนัก เข้างานใหม่เงินก็ยังไม่ออก รอสลิปครบ 3หรือ 6 เดือนจำไม่ได้ เพื่อนพาไป พบU-May ไม่ถึงอาทิตย์ผ่าน ได้ยอดประมาณ 6-8 หมื่นนี่แหละ จำไม่ได้พอได้บัตร เขาก็ใจดีจริงๆ ออกมาปุ๊บ กดปั๊บ จ่ายค่างวดรถ แปดพันกว่า กดมาเผื่อกินหมูกระทะอีก อดอยากมาหลายเดือนแล้ว..นี่แหละบัตรใบแรก.

วันนี้มาต่ออีกครับ..
หลังจากมีบัตรใบแรกอิอิ..เอ..มันพื้นๆไป U-May ใครๆก็มีได้ อยากได้แบบหรูๆเป็นเครดิตเห็นเขารูดแล้วเท่..มีหน้ามีตา จัดอีกครับ 3 ใบ จำได้ว่าKTC และ SCB VI SA และ SCB Master มันผ่านง่ายเหลือเกิน แหมคนมันมีเครดิต คิดว่าเท่สุดๆ ไปไหนรูดบัตร ใหม่ไก็ใช้อย่างระมัดระวัง ผ่อนขั้นต่ำใบละพัน สองพัน ยังงัยก็ไหว แต่เอ..ยังไม่เท่พอ ใครมาเสนออะไรมาไม่ว่าไปธนาคาร หรือมาถึงหน้าบริษัท จัดให้เขาหมด ครับ เท่าที่จำได้ ก็มี Citi ready,Standard,UOB ทั่งเตรดิตและกดเงินสด,ล่าสุดก็เจ้า Tesco visa ที่เป็นบัตร..ส่วนยอดสินเชื่อบุคคลมาทีหลังเพราะเกิดจากความคิดโง่ๆ รู้เท่าไม่ถึงการณ์
หลังจากใช้บัตรมา ประมาณ 2 ปี ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะพอไหว จากรายได้ตอนนั้น 4-5 หมื่น ให้ครอบครัวหมื่นกว่าๆ ไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่นค่าเทอม ค่า ของที่ลูกอยากได้แต่ก็หลักพันครับ ส่งรถ 8500 ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำมัน ส่งบัตรจากหลักพันต่อเดือน เพิ่มเป็นหลักหมื่น อ้อลืมไปพอดีส่งลูกคนโตเรียนรร.ประจำด้วย แต่คิดแล้วไม่ต่างจากเรียนรร.ไปกลับครับ เพียงแต่ต้องใช้เงินก้อนทีเดียว เทอมละ 25000-30000 ก็กดบัตรสิครับ กดมาเรื่อยๆ จนจบ 3 ปี ส่วนตัวก็ยังอยู่กินแบบไม่ถือว่าฟุ่มเฟือยแต่ก็ไม่ได้ประหยัด กินเหล้าเมายาบ้างแต่ไม่มาก แต่ผมมีข้อดีอยู่อย่างคือ ปมไม่แตะการพนัน ถึงขั้นเกลียดเลยครับ..แต่นิสัยชอบซื้อของ อยากได้อะไรซื้อ ไม่มีเงินรูดบัตร มารู้ตัวอีกที ก็เดือนชนเดือน แต่..ยังไม่หยุดก่อนหน้าจะมาหยุดจ่าย 2-3 ปี เริ่มมีกิน เที่ยวถี่ขึ้นครับ แต่ไม่ได้สิ้นเปลืองขนาดหลักหมื่น ไปทีก็ พัน สี่ห้าร้อย อาศัยแชร์ครับ แต่ความถี่นี่สิมันทำให้ หมดโดยไม่รู้ตัว..จนมาถึงเมื่อปีที่แล้วครับคิดว่าไม่ไหวละเป็นแบบนี้ต่อไปหนี้เพิ่มแน่ แต่ละเดือนเงินออกมาบัตรกินหมด เห็นคนอื่นเขามีรถใหม่ มีบ้าน บางคนรายได้น้อยกว่าเราตั้งเยอะแต่เขามีได้ แต่เรามีไม่ได้..ต้องส่งบัตร..

ต่อเลยนะ กำลังมัน...
จากกระทู้แรกที่แนะนำตัวว่าหนี้ 380000 เป็น 7 แสนได้งัย ปีเดียว ก็เกิดจากความคิดสั้นๆครับเริ่มแรกคิดว่า รวมบัตรครับ บัตรยอดน้อยๆ ปิดได้ปิดครับ จากโบนัสบ้าง จาก กดบัตรที่มีวงเงินสูงๆบ้าง ครับเป็นไปตามแผนที่วางไว้ครับ จากส่งบัตร เกือบ 10 ใบ เหลือแค่ 3 ใบครับ มี กดเงินสด Citi กดเงินสด Standard และบัตรเครดิต Tesco visa จ่ายขั้นต่ำครับ 3 ใบ หลัก 2 หมื่นครับ อ๋อลืมไปเอารถไปรีไฟแนนท์อีกเดือนละ 8200 และแล้วโชคชะตาก็พาให้มาพบ สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ก็จัดอีกครับคิดว่าจาก 3 ยอดจะรวมเป็นยอดเดียวจะได้ผ่อนสบาย แต่คิดผิดครับ มันได้เงินก้อนมาไม่ถึงยอดหนี้ที่เรามี เลยต้องกู้ 2 ที่แต่ก็ดีกว่าเพราะเขาบอกว่าดอก 19%ต่อปี ถูกกว่าของเดิมตั้งเยอะ ผ่อนไปผ่อนมาก็ยังกดเจ้า Citi กับ Standard มาใช้อยู่ เจ้า 2 รายนี้คงเห็นเราเป็นเจ้าหนี้ชั้นดี เสนอเงินก้อนให้อีกครับ.ก็แปลงบัตรกดเงินสดเป็นเงินก้อน.เอานะซิ เขาบอกว่าวงเงินที่ผ่อนมาเงินจะคืนสภาพไปที่บัตร สามรถกดใช้ได้อีก ครับเงินก้อนที่ได้ได้มาก็มาโป๊ะบัตรครับแต่ มันผิดคาดตรงโป๊ะไม่หมด มันยังมีเยื่อใยนี่แหละ พอเงินขาดมือมันก็ไปกดอีก จึงกลับเข้ามาอยู่ในวงจรอุบาศก์อีกเรื่อยมาครับ.
วันนี้แค่นี้ก่อนครับยังไม่จบนะครับ.ยังมีไปซื้อบ้านอีก ไปลงทุนขายของอีก..

โครงเรื่องคล้ายๆกันเลยค่ะคุณคนประหลาด

ครับคุณ Nookung ว่างๆจะหาเข้าไปอ่านประสบการณ์ของคุณบ้าง

วันนี้ว่างๆ มาต่อชีวิตติดวงจรกันอีกครับ
จากการหมุนหมุนจ่ายบัตรอยู่ทุกๆเดือน จากยอดบัตรเหลือใบละ สองหมื่น สามหมื่นสี่หมื่น ก็ยังกดบัตรโน้น มาจ่ายบัตรนี้ กดบัตรนี้มาจ่ายบัตรโน้น เพราะเรายังไม่รู้ตัว ยอดรายรับรายจ่ายเคยทำครับ ส่วนตัวแล้วชอบคำนวนไว้ในคอมพิวเตอร์ ว่ารายได้เท่าไร รายจ่ายเท่าไรแต่ไม่ได้ละเอียดและไม่ได้คุม จนพักหลังมา รายจ่ายมันติดลบ ไม่อยากจะดู ยอดที่ทำไว้ เหมือนหลอกตัวเอง..จากปีที่แล้วเฉพาะบัตร 2 หมื่นกว่าคิดว่ายังไหว ครับพอดีอยากมีบ้าน ไปจองบ้านอีกผ่อนดาวน์ เดือนละ หมื่น ยังหลอกตัวเองว่าไหวทั้งๆที่กดบัตรออกมาเดือนละเกือบ สองหมื่น ส่วนตัวคิดว่าต้องหารายได้เพิ่มครับ ก็ลงทุนสิครับขายของ อันนี้ไม่ขอพูดรายละเอียด เอาเป็นว่าเงินส่วนหนึ่งก็มาจากบัตรครับและยังตั้งตัวไม่ได้ ต้องเพิ่มทุนอยู่ทุกเดือนๆจนในที่สุดครับ เดือนที่แล้วนี่เองครับ..กดบัตรใบไหนๆก็ไม่ออก ยอดเต็มๆ กลุ้มมากครับไม่มีเงินจ่ายของ เจ้า Citi เจ้าแรกเพราะดิวกลางเดือน.เกิดความเครียดมากครับ..ไม่รู้จะทำยังงัย..เลยลองเข้าดูในเวป เจอชมรมนี้เข้าพอดีครับ แรกๆก็ยังไม่เข้าใจ ก็อ่านมาเรื่อยๆ เกิดคำถามอยู่ในใจบ้าง..อยากถามแต่..ยังไม่กล้าถาม..ทุ่มเทเวลาอ่านครับ..อ่าน อ่าน อ่าน..จนคำถามที่อยู่ในใจมันได้รับคำตอบโดยตัวของมันเอง..ทีละคำถามๆ ครับ..อันนี้ฝากถึงสมาชิกใหม่ด้วยครับ..ผมอ่านทุกวันมาเกือบเดือนแล้วครับ อ่านว้นละอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง บางวันมีเวลาว่างมากอ่านทั้งวันครับ 7-8 ชั่วโมง อ่านอยู่ได้ สัปดาห์แรกก็สมัครสมาชิกเลย..แล้วต่อมาก็ตั้งกระทู้ของตัวเอง ก็ที่ท่านอ่านอยู่นี่แหละ..คิดว่าอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆเผื่อใครมีเรื่องราวคล้ายเรา ให้เขามีกำลังใจ และเผื่อได้กำลังใจจากเพื่อนบ้าง...

เรื่องราวชาวหนี้ของ คนประหลาดก็เป็น มาประการนี้แล...ขาดเหลือเดี๋ยวจะเพิ่มเติมทีหลังนะครับ

จากนี้คงเป็นเรื่อง Update Status มาแชร์เป็นระยะๆนะครับ

ณ.ขณะนี้ ครับ ตัดสินใจหยุดจ่ายทุกใบครับ ทำรายรับรายจ่ายละเอียดยิบ จะ แนบFile ตัวอย่างให้ดู เผื่อใคร จะเอาไปใช้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ
เดือนแรกเลยครับ ..มีของCiti โทรบ่อยแทบทุกวัน นอกนั้นก็คิดว่าโทรมาทวงตามปกติ เหมือนทุกเดือน อต่เจ้า Tesco premier น่าจะเริ่มรู้ว่าเราเริ่มมีปัญหาเพราะผ่านมา 10 วันยังไม่จ่าย..ยังไม่มีประทะคารมครับ..แต่พยามอ่านเรื่องชาวบ้านหากำลังใจ และ ภูมิคุ้มกันอยู่...

แนบExell ไม่ได้อ่ะ..

ไฟล์ตัวอย่างค่าใช้จ่ายครับ

มาแล้วหลังจากพยามอยู่หลายที

ขออภัยด้วยครับ..แนบไฟล์ไม่ได้

เรื่องราวชีวิตคล้ายกันมั่กๆ ผมก็เริ่มหยุดชำระหนี้ และหันมาทำบัญชี คชจ. เหมือนกันครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

วันนี้มา update อีกนิด หลังจากตอนนี้พูดได้เต็มปากว่าไม่จ่ายเลยสักใบ ใบล่าสุด กรุงศรี สไมล์ ครับผ่านดิวมา 5 วัน เหมือนจะโทรมาแล้ว 2 ครั้ง แต่พอดีงานก็ยุ่งๆ อีกอย่างอาจเป็นข้อดีสำหรับเราคือ วันๆมีโทรศัพท์เยอะมากไม่เคยจำว่าใครเป็นใคร บางที หัวหน้าโทรมาสั่งงานยังลืมเลย วันละ 15-20สาย หรือบางวันน้อยกว่านั้นนิดหน่อย..เลยไม่จำว่าใครโทรมามั่งคิดอีกแง่ ก็ดี..จะได้ไม่เก็บมาคิด..สถาณการณ์ล่าสุดตอนนี้บอกขายบ้านที่ดาวน์ไว้ ตอนแรกคิดมากกลัวเสียหน้า เสียฟอร์ม เหมือนหยุดจ่ายบัตรกลัวเสียเตรดิต กลัวติดบูโร แต่ได้อ่านมากๆเข้าตอนนี้ไม่สนแล้วครับ ต้องการหมดหนี้ ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น มันต้องยอมแลกครับ แล้วนึกฝันไปถึงวันที่ไม่มีหนี้ แล้วมีเงินเหลือเก็บ ถึงตอนนั้นอยากมีบ้าน อยากได้รถใหม่ก็ยังไม่สายหากไม่วายชีวาก่อน..แต่จะทำอะไร จะซื้ออะไรต้องคิดนานหน่อยครับ...

ครับจากหัวข้อกระทู้ว่าจะปลดหนี้ 7 แสนภายใน 1 ปี ครับ..ผมมีแผน ที่แน่นอนครับ และมีเป้าหมายชัดเจน ที่เหลือขึ้นอยู่กับดวงว่าจะเจอคนแบบไหนของธนาคาร และสำนักงานกฎหมาย และการช่วงชิงจังหวะหากมีการต่อรอง..แต่คนประหลาด ค่อนข้างมั่นใจ ถึงจะเป็นคนพูดไม่ถือว่าเก่ง แต่เรื่องต่อรองก็คิดว่าพอตัว..และอีกอย่างก็จะเข้ามาอ่านหากำลังใจในเวป ตลอดเพื่อความแข็งแกร่ง...คราวหน้าจะมาชี้แจงเรื่องแผนการเงิน..ให้ฟังกันครับ..ว่าจะเอามาจากไหนบ้าง..

วันนี้มาดูแผนการเงินของ คนประหลาดกันครับ ที่วางแผนไว้..ว่าจะหาเงินจากไหนบ้าง..
1.เงินเก็บครับ คาดว่าจะเก็บให้ได้เดือนละ 15000-18000 คิดว่า ถึงสิ้นปีนี้น่าจะได้สักแสนเป็นอย่างต่ำ
2.เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จริงๆก็เสียดายส่วนสมทบ แต่ต้องตัดใจ หมดหนี้ค่อยสมัครใหม่ คิดคร่าวๆน่าจะประมาณ 118000
3.โบนัสสิ้นปีครับ รออีก7 เดือนสิ้นปี แต่ต้องรอ คงประมาณ 118000 เหมือนกัน ถ้าได้เต็ม เพราะทุกปีโดนหัก
4.ตอนนี้ประกาศขายดาวน์บ้านไป ถ้าขายได้น่าจะมีกำไรมาเก็บ สัก 30000
คร่าวๆก็น่าจะมีแหล่งเงิน สามแสนกว่าๆ พอลุ้น และถ้าแบงค์ไหนพอต่อรองได้ ผ่อนจ่ายสัก 3 งวดก็น่าจะจบภายใน มีนา เมษาปีหน้า(อันนี้เป้าหมาย บวกฝัน นิดๆ)..แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในแต่ละช่วงด้วย ว่าจะเป็นไปได้ขนาดไหน ทั้งส่วนลด ระยะเวลาเสนอส่วนลด กว่าจะสิ้นปีมีโบนัสก็อีกตั้ง 7 เดือน แต่อย่างว่าแหละครับ คนประหลาดก็เตรียมตัวเตรียมใจถ้าไม่เป็นดังที่วางไว้ มันก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้..
ก็ยังไม่หยุดอ่านเรื่องของท่านอื่น..และพยามแชร์เรื่องของตัวเองตลอดครับ..ถึงจะยังปิดหนี้ไม่ได้เพราะพึ่งเริ่มหยุด เดือนแรก..แต่ก็อยู่อย่างมีความหวังครับ....

เป็นกำลังใจให้นะครับ