แชร์ประสบการณ์หนี้ครับ

10 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #47068 โดย aooddy555
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกๆประสบการณ์ใบอร์ดแห่งนี้ที่ทำให้ผมผ่านอะไรมาได้แบบมีอวุธติดตัว

เริ่มที่หนี้สินของผมนะครับ ตัวเลขโดยประมาณนะครับ

บัตรกรุงศรี ยอด 4xxxx ปิด 23000 ได้ 4 เดือน เจ้าหนี้รายนี้คุยโอเคเลยครับ
ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง 134142 ยอดฟ้อง 190618 (มีอธิบายต่อ)
บัตรไทยพานิชย์ 7xxxx เจ้าหนี้เสนอปรับโครงสร้างหนี้ คุยดี แต่รอไปก่อน
บัตรเฟิร์สช้อย 4xxxx เสนอมา ล่าสุด 30000 6 เดือน ยังไม่ไหวเนื่องจากรอฟ้องของซิตี้อยู่รอดูสถานะการณ์
ยูเมะ 44xxx แต่หายเงียบไปนาน สงสัยรอฟ้อง
กสิกร อันนี้ยังใช้อยู่เนื่องจากมีผ่อนคอนโดกับธนาคารนี้อยู่ หมุนๆไปก่อน


จะมาแชร์เรื่องไปขึ้นศาลครับ แนวทางก็อ่านมาจากในบอร์ดนี้ ผิดๆถูกๆบ้าง

นัดแรกไม่มีอะไรมากไปก่อนเวลาขอเลื่อน เพื่อนร่วมชะตา มีสองท่าน ทำยอมหมดลดยอผ่อนต่อเดือนลงมาอีก 20% ของผมทนายให้ผ่อนที่ 2 ปี ยอดผ่อนจาก 4400 --> 3500 ผมไม่เอาขอเลื่อนไป

นัดสอง ไปให้ศาลตัดสิน ที่ศาลมีนบุรี ขึ้นไปชั้น 8 ไกล่เกลี่ย ก็บอกทนายให้ศาลตัดสิน เจ้าหน้าที่ศาลถามว่ามีหลายใบหรอค่ะ ผมก็ตอบไปครับมีหลายใบ เจ้าหน้าที่ก็ให้เซ็นเอกสารว่าให้ศาลตัดสิน แล้วก็ให้กลับ

ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมทำพลาดไปหรือเปล่า เพราะไม่มีให้เข้าห้องพิพากษา ส่งฟ้อง 190618 ศาลพิพากษาจ่ายเท่ายอดฟ้องเลยไม่มีลดเลย ให้ชำระค่าทนายอีก 3000 ดอกเบี้ย 15 % แต่ยังไงผลก็ออกมาแล้วถ้าตรงขึ้นตอนนี้ผมพลาด ก็อยากแชร์ให้เพื่อนๆครับ ส่วนตอนนี้ผมจะโทรไปคุยกับทางซิตี้คอร์ป ว่ามีแนวทางยังไง ถ้าไม่งั้นก็หักคอจ่ายไปก่อนตามยอดที่เคยเสนอ 3500ต่อเดือน

ถ้าดูแล้วไม่ไหวจริงๆก็ให้อายัติเงินเดือน แต่ติดตรงทีผมเพิ่งเริ่มงานที่ใหม่ ขอให้ทุกคนอดทนและหมดหนี้โดยเร็วนะครับ

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #47423 โดย Mangapoon
จ่ายค่าทนายไป 3000 แล้วทนายไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ ไม่สามารถขอลดได้เลยเหรอคะ
แล้วศาลก็ไม่เข้าข้างเราเหรอ..ไม่เรียกคุยแล้วให้ส่วนลด30-40% โดยไม่คิดดอกเบี้ย---ศาลไม่พูดไม่แนะอะไรเลยเหรอ

แล้วมีศาลไว้เพื่ออะไรอ่ะคะ...ถ้าศาลตัดสินอะไรให้ทาง Citi หรือโจทย์ถูกหมด...
ศาลน่าจะช่วยไกล่เกลี่ย หรือช่วยจำเลยโดยถามโจทย์สามารถลดได้เท่านี้ไหม...

เอาใจช่วยค่ะ กำลังรออยู่เหมือนกัน..เจอศาลอย่างนี้น่าสงสารคนไทย
(คือเราเอาเงินเค้ามาใช้ถูกค่ะ แต่เราก็อาจมีเหตุผลทำไมถึงจ่ายให้เค้าไม่ได้...ก็อยากจ่ายแต่ต้องด้วยศักยภาพที่พอทำได้...)

^^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #47425 โดย jackTs

aooddy555 เขียน: นัดสอง ไปให้ศาลตัดสิน ที่ศาลมีนบุรี ขึ้นไปชั้น 8 ไกล่เกลี่ย ก็บอกทนายให้ศาลตัดสิน เจ้าหน้าที่ศาลถามว่ามีหลายใบหรอค่ะ ผมก็ตอบไปครับมีหลายใบ เจ้าหน้าที่ก็ให้เซ็นเอกสารว่าให้ศาลตัดสิน แล้วก็ให้กลับ


ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64



aooddy555 เขียน: ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมทำพลาดไปหรือเปล่า เพราะไม่มีให้เข้าห้องพิพากษา ส่งฟ้อง 190618 ศาลพิพากษาจ่ายเท่ายอดฟ้องเลยไม่มีลดเลย ให้ชำระค่าทนายอีก 3000 ดอกเบี้ย 15 % แต่ยังไงผลก็ออกมาแล้วถ้าตรงขึ้นตอนนี้ผมพลาด ก็อยากแชร์ให้เพื่อนๆครับ ส่วนตอนนี้ผมจะโทรไปคุยกับทางซิตี้คอร์ป ว่ามีแนวทางยังไง ถ้าไม่งั้นก็หักคอจ่ายไปก่อนตามยอดที่เคยเสนอ 3500ต่อเดือน


เตือนไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาลด้วยตัวเองเพียงลำพัง
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8372&Itemid=64

ถ้าลูกหนี้ไม่ได้พูดขอเกี่ยวกับเรื่องลดดอกเบี้ย
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=4047

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #47426 โดย Mangapoon
ได้ข้อมูลจากคุณนกกระจอกเทศเรื่องหน้าที่ของศาลตามด้านล่างแล้วค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามมันมีแนวทาง 3 ที่ศาลยังน่าจะช่วยเราได้อยู่...อย่างที่คุณนกกระจอกเทศบอกเจอศาลดีๆก็ดีไปค่ะ...


ศาล...ท่านจะไม่มีหน้าที่โดยตรงในการไกล่เกลี่ย หรือออกคำสั่งให้ผ่อนจ่ายหนี้ได้หรือไม่? ผ่อนเท่าไหร่? และผ่อนอย่างไร? เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกมองได้ว่า ศาลลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง...ดังนั้น ส่วนมากท่านจะไม่พิจารณาในเรื่องการผ่อนชำระ ด้วยตัวของท่านเองหรอกนะครับ ยกเว้นจำเลยกับทนายโจทก์จะตกลงกันได้เองต่อหน้าศาล หรือไม่งั้นจำเลยก็ต้องภาวนา ขอให้ได้เจอกับศาลที่ใจดีมากๆ และท่านเข้าข้างช่วยคุณแบบสุดๆ ท่านอาจจะลงมาช่วยพิจารณา ในเรื่องการขอผ่อนของคุณให้...ก็เป็นไปได้...ก็คงต้องไปรอลุ้นกันต่อไปในชั้นศาลเอาเองนะครับ

และถ้าหากลูกหนี้ถูกศาลแพ่งพิพากษาแล้ว ก็ยังไม่ยอมใช้หนี้ตามคำพิพากษาอีก(หรือที่เรียกกันว่า“ดื้อแพ่ง” เพราะยังดื้อด้านต่อคำสั่งของศาลแพ่ง จึงเป็นที่มาของคำว่า“ดื้อแพ่ง”ยังไงล่ะครับ) ที่นี้เจ้าหนี้ก็ต้องเอาคำพิพากษาของศาลที่พิพากษาไปแล้ว(คดีแดง) ไปยื่นต่อหน่วยงานราชการที่มีชื่อเรียกว่า“กรมบังคับคดี” เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการอายัดตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

ดังนั้น หากจำเลยที่ถูกฟ้องในคดีเรื่องหนี้เงิน
จะต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองเสียก่อนว่า...จะไปศาลขึ้นเพื่ออะไร?

การไปขึ้นศาล มีอยู่ 3 แนวทาง...ดังนี้


แนวทางที่ 1. ไปศาลเพื่อไปต่อสู้คดี เพื่อให้รู้ผล แพ้-ชนะ คดี กันไปข้างหนึ่ง ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งแนวทางนี้ จะต้องเขียน คำให้การในการต่อสู้คดี โดยใช้แบบฟอร์มของศาลที่มี“ตราครุฑ” ๑๑(ก.) สำหรับคดีแพ่ง หรือแบบฟอร์ม ผบ.๓ สำหรับคดีผู้บริโภค โดยเขียนคำให้การต่อสู้เป็นภาษากฏหมาย ซึ่งถ้าเขียนเองไม่เป็น ก็ต้องจ้างทนายช่วยเขียนให้

ขอย้ำว่า...การต่อสู้คดีบนชั้นศาล จะต้องยื่นคำให้การด้วยทุกครั้ง ไม่สามารถสู้คดีด้วยปากเปล่าได้

หากจำเลยไม่เขียนคำให้การไปยื่นต่อศาล...ศาลจะถือว่าจำเลยมีเจตนา“ไม่ต้องการสู้คดี” ต่อให้จำเลยมีหลักฐานอันแน่นหนาว่า โจทก์โกง , โจทก์ผิดกฏหมาย , โจทก์ฉ้อฉล , คดีขาดอายุความไปแล้ว...ฯลฯ ศาลท่านก็จะไม่พิจารณาตามหลักฐานดังกล่าวเลย เพราะถือว่า จำเลยไม่ยอมปฎิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอนของศาล


แนวทางที่ 2. ไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมยอมความกับทนายโจทก์ เช่น ถูกหมายฟ้องให้ชดใช้หนี้เป็นจำนวนเงิน xx,xxx บาท แต่ฝ่ายจำเลยยังไม่มีเงินก้อนที่จะสามารถชำระหนี้ให้ได้ในตอนนี้ จึงขอไกล่เกลี่ยกับทนายโจทก์ว่า อยากจะขอผ่อนต่อนับจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งเงื่อนไขที่จะสามารถตกลงกันได้บนชั้นศาลนี้ ทางฝ่ายโจทก์มักจะไม่ยอมให้ผ่อนต่อในระยะเวลายาวๆอีกต่อไป ส่วนมากก็จะบังคับให้ผ่อนให้หมดภายในระยะเวลา 1 ถึง 2 ปี (แต่บางรายอาจขอได้นานสูงสุดถึง 3 ปี) โดยในช่วงที่ผ่อนอยู่นี้ โจทก์อาจขอคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ผ่อนนี้ด้วย ซึ่งก็ต้องมาพูดคุยตกลงกันอีกว่า จะยอมให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างผ่อนที่เท่าไหร่? ก็จะมีตั้งแต่ 15% , 13% , 10%...หรือบางรายอาจขอได้ 0%(ไม่คิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ผ่อน ก็มี) ทั้งนี้ก็แล้วแต่ฝีปากและเทคนิคในการเจรจาต่อรองของแต่ละราย

แต่...ตัวเลขยอดหนี้ที่จะตกลงผ่อนกันใหม่นี้ จะเป็นตัวเลขตามที่โจทก์ยื่นฟ้องมาในหมายศาลแบบ"เต็มๆ" โดยแทบจะไม่มีส่วนลดอะไรให้กับลูกหนี้เลย (เรียกได้ว่า เขียนฟ้องมาเท่าไหร่ ก็เอาตัวเลขอันนั้นแหละ มาทำสัญญาผ่อนกันใหม่)

เมื่อได้ข้อตกลงอันเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ทำการร่างสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ ลงในแบบฟอร์ม“สัญญาประนีประนอมยอมความ”(ตราครุฑ ๒๙) พร้อมกับเซ็นต์ลงนาม ชื่อโจทก์ , ชื่อจำเลย และชื่อของผู้พิพากษา(ในฐานะเป็นพยาน)
วิธีการนี้ เหมาะสำหรับลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้“เพียงรายเดียว”เท่านั้น...หรือ เหลือเจ้าหนี้แค่รายนี้“เป็นรายสุดท้าย”
โดยที่ตัวของลูกหนี้ จะต้องมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า หากเซ็นต์ชื่อลงในสัญญาแล้ว จะต้องปฎิบัติให้ได้ตามข้อตกลงในสัญญา เพราะในสัญญาฉบับนี้ มีลายเซ็นต์ของผู้พิพากษาลงนามเป็นพยานด้วย หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายตามข้อตกลงได้ สัญญาทั้งหมดจะถือว่าเป็น“โมฆะ” และจะถูกย้อนให้กลับไปใช้ตัวเลขมูลหนี้ทั้งหมด ในอัตราสูงสุดของหมายฟ้องในครั้งแรกทันที

อีกทั้ง ทางฝ่ายโจทก์สามารถยื่นเรื่องผ่านไปที่“กรมบังคับคดี”ได้เลย โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำอีกแล้ว และจำเลยก็ไม่สามารถอุทธรณ์ได้ด้วย เพราะถือว่าจำเลยได้ทำการ“ตระบัดสัตย์”ต่อศาล(ในฐานะพยาน)ไปแล้ว
ดังนั้น...ถ้าหากลูกหนี้ทำการประเมินตัวเองแล้ว คาดว่าในภายภาคหน้าอาจจ่ายชำระตามข้อตกลงในสัญญาไม่ไหว ก็อย่าไปตกลงทำสัญญาดีกว่าครับ หันมาใช้วิธีการตามในแนวทางที่ 1 หรือแนวทางที่ 3 จะดีกว่า


แนวทางที่ 3. ไปศาลเพื่อร้องขอความเมตตากรุณาจากศาล โดยขอให้ท่านช่วยตัดลดมูลหนี้บางอย่างลงมาให้บ้าง...เช่น ดอกเบี้ย , ค่าล่าช้า , ค่าทวงถาม , ค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมศาล และค่าทนายโจทก์ด้วย ซึ่งจะได้ลดมากหรือลดน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับความเมตตาจากท่าน (ต้องไปวัดดวงเอาเอง) แต่สำหรับ หนี้เงินต้น นั้น ศาลท่านไม่สามารถช่วยปรับลดให้ได้ (ตามข้อกฏหมาย)...ฉะนั้นอย่าไปขอท่านในส่วนนี้เป็นอันขาด

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #47427 โดย Mangapoon
ถ้าต้องขึ้นศาลบ้าง T_T จะติดต่อทนายจากที่นี่ได้ใช่ไหมคะ
ท่านที่เก่งมาช่วยได้แน่นอนใช่ไหมคะ ><

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #57135 โดย aooddy555
ผมพลาดจริงๆครับอันนี้ต้องยอมรับผล ตอนนี้มีหมายกรมบังคับคดีมาแล้ว จากยอดฟ้องชำระตามศาล 193000

บาท เงินต้น ประมาณ 134000 บาท ตอนนี้มีหมายจะยึดคอนโด ราคาประเมินต่ำกว่าความเป็นจริงอยู่มาก


วันนี้โทรไปเจรจาให้ยอดปิดที่ 150000 บาท งวดเดียว แต่บอกไปไม่ไหว ตอนนี้ไม่มีเงินก้อนขนาดนั้น

แนวทางตอนนี้จะขอผ่อนเป็นงวดๆ รอเงินก้อนอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า แต่ไม่รู้ว่าจะโดนขายทอดตลาด

เมื่อไหร่ ตอนนี้ภรรยาก็เครียดมาก :cry2:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #57190 โดย aooddy555
พรุ่งนี้จ่ายปิด Citi ยอด 170000 บาท ต่อด้วยถอนคดีอายัดทรัพย์ :pray: พรุ่งนี้เป็นไง จะมารายงานครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57221 โดย aooddy555
จ่ายปิดบัญชีไปวันนี้ รอถอนแจ้งอายัดทรัพย์ :cry2: ตั้งหน้าตั้งตาใช้หนี้ต่อไปรอปิดตัวอื่น :ลั่ลล้า:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.502 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena