สวัสดี..เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวหนี้ทุกๆท่าน..
คิดอยู่นาน..ว่าจะเอาอย่างไร..โฉบไปโฉบมา โดนแซว..ว่าหลอกหลอน..ยังไม่ตาย หลอกหลอนได้ไง?
กระทู้นี้..เปิดขึ้นมาใหม่..เป็นกระทู้"เฉพาะกาล"สืบเนื่องมาจากกระทู้เดิม"ปี 555 หนี้ข้าฯต้องจบ"
ที่มีอันเป็นไป ต้องจบไม่ลง..เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหนี้..ที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของ
ข้าพเจ้า..555 ...ขอใช้สรรพนามใหม่ว่า"ผม"แล้วกันนะ..
...ผม..เป็นผู้โชคดี..ในความโชคร้าย..ดี..คือมีเมียดี..
แต่ผมโชคร้าย"ในความหวังดี"ที่เมีย..คิดอย่างเดียวคือ.อยากให้เราสบายใจ..เธอจะเก็บความทุกช์เอาไว้
คนเดียว..ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น..สิบกว่าปี..ที่เราสั่งสมหนี้..พอกพูนเรื่อยมาตามกาลเวลา..จนถึงวันหนึ่ง..
เมื่อเธอมาพบทางตัน...ดิ้นไม่ออก..หมุนไม่ไหว..ต้องสารภาพให้ผมฟัง.ก่อนวันเกิดปีที่ห้าสิบเอ็ดของผม..
ว่า..ครอบครัวเรา..มีหนี้..แปดแสนกว่า..จากบัตร 14 ใบ..ขณะที่เงินเดือนเธอ สองหมื่นกว่า
...ผมได้เข้ามาที่นี่ในช่วงที่บอร์ดของเรายังมีรุ่นพี่ที่ยังแอคทีฟอยู่หลายคน..ที่สนุกสนานกันตามประสาชาว
หนี้..เฮ้ย..!!มันดีใจอะไรกัน? ดีใจ..ที่ได้มีทางออก..มีความหวัง..ว่าจะได้หลุดพ้นจากวงจรอุบามทว์แห่ง
หนี้ที่พันธนาการเราด้วยคำว่า.."คนมีเครดิต"ต้องจ่ายตรง..คำไหนต้องคำนั้น..โกงเค้าไม่ได้
คนดีต้องไม่ทำ..แล้วสิ่งที่ได้มาคือ..หนี้สินล้นพ้นตัว..แบบ"รัก-ซึม-ลึก"จ่ายแต่ดอก..ต้นไม่ลด..ทับทวี
ไปป็นปฎิภาคผกผันไปตามกาลเวลา..นีคือ"สูตรสำเร็จ"สู่"นรกบนดิน"ที่พวกเราทั้งหลายถูกดึงดูดมาด้วย
เหตุผลและความจำเป็นต่างๆกันไป แต่..นั่นมิใช่สิ่งที่พวกเราอาจหวนคืนไปแก้ไขแล้ว..สิ่งที่ต้องทำ
คือ..แก้ปัญหาที่อยู่ต่อหน้าเรานี้..ให้ผ่านพ้นไป..
..ผมกล้ายืนยันว่า..ทุกท่านที่มีโอกาสได้มาที่นี่
(เฉพาะผู้เป็นหนี้นะ..)คือผู้โชคดี..ที่จะได้มีทางออกให้ตัว
เอง ที่จะได้กลับไปสู่.คืนวันแห่งความสุข..ที่ปรารถนา..ดังที่ได้เคยมีมา ก่อนที่จะเข้ามาสู่."วังวนแห่งหนี้"
สิ่งนี้..คือ หัวใจสำคัญ ของ การแก้ปัญหาของพวกเราชาวหนี้ทุกคน..
..................................................
กลับมาถึงเรื่องราวของผม..ล่าสุด เหลือหนี้เพียงรายเดียว..จาก 13 รายการ
(อันนึง เงินเดือนเข้า..หยุดไม่ได้) นับตั้งแต่.หยุดจ่าย มีนาฯ 54
นี่คือ..เรื่องราวในกระทู้เดิม..(ปี 555 หนี้ข้าต้องจบ) อันที่จริงมีก่อนหน้าน้ำท่วมอีกกระทู้นึง..
หายไปหมดแล้ว
.............................................................................
จากกระทู้เดิม....หน้าแรก
ปี 2554 น้ำพัดกระทู้ตกทะเลไปแล้ว ไปหามั่วกับชาวบ้านไปทั่ว จนบางคนรำคาญแล้ว..
เปิดใหม่ซะที กับจะได้รายงานสถานะให้เพื่อนพ้องรับทราบ กับจะได้เป็นกำลังใจให้น้องใหม่ ที่เพิ่งถึงเวลา
จะได้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ เมื่อได้มาเจอพวกเราที่นี่...
ผมเอง..ก็แทบจะเหมือนกับทุกๆท่าน ปัญหาเกิดเพราะ” เราชอบแก้หน้า มากกว่าแก้ไข
”(วาทะ “คุณแก้วจ๋า”)ที่โดนใจมากๆ
คำว่า”เครดิต”มันคือ หลุมพรางที่ทำให้พวกเราต้องทนทุกข์อยู่กับหนี้สิน ที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนถึงที่สุดเรา
ก็หมดทางที่จะรับมือกับมัน พวกที่มีทางออกก็รอดไป...แต่ส่วนหนึ่งก็ไม่มีหนทางต้องหนี ..ไปอ่าน
กระทู้”คุณนายตกสวรรค์ฯ”ของคุณแก้วจ๋า จะเห็นภาพรวมที่ชัดเจนมาก
ในกรณีของผม หนี้ทั้งหมด เป็นของภรรยา ผมไม่เคยมี เธอเป็นคนจัดการเรื่องเงินทั้งหมด.
.มีบัตรใช้มาสิบกว่าปีก็ประมาณไม่ถูกว่าเสียดอกเบี้ยกับ ค่าธรรมเนียมไปเท่าไหร่ ก็ใช้ไปกับค่าใช้จ่ายใน
ครอบครัว ลงทุนไม่ได้ผลตอบแทนบ้าง ก็สะสมพอกพูนเรื่อยมา แต่ ปัญหาเกิดเนื่องจากเธอปิดบังปัญหา
ไว้คนเดียว จนมันลุกลามใหญ่โต จนถึงขั้นที่เธอต้องยอมรับว่า หายนะกำลังจะมาสู่ครอบครัวแล้ว
จึงได้สารภาพให้ฟังทั้งน้ำตา เป็นของขวัญวันเกิด ปีที่ผ่านมา (มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้พูดประชด
อะไร..ตรงนี้) ผมเองรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าเธอกำลังมีปัญหาการเงิน...เพราะ เมื่อผมมีเงินเหลือ
จากขายของ เธอไม่ปฏิเสธ เมื่อผมหยิบยื่นให้ ชักแปลกๆ เพราะเธอต้องหมุนเงิน กดบัตรโน้นมาจ่ายบัตรนี้
วุ่นวายทุกเดือน ค่าธรรมเนียมก็รับประทานทุกครั้ง...จึงไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทำไมหนี้ไม่ลด มีแต่เพิ่มทุก
เดือน ก็ดอกนะซิครับ “ขั้นต่ำ”คือดัชนี ตัวหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะตกลงเหวแห่งหายนะแล้ว
เมื่อได้ฟังผมก็กอดเธอ ปลอบไปว่า “ไม่เป็นไร ดีแล้วจ้ะที่บอก “จะได้ช่วยกันแก้ไข แรกๆก็คิดว่าจะ”รวม
หนี้”ส่วนใหญ่ เราๆ จะคิดกันได้แค่นี้ .....เมื่อมาถึงตรงนี้ เธอเหมือนจะมีทางเลือกไว้ลางๆแล้ว
คือ “ศูนย์ประสานงา(น)ลูกหนี้แห่งชาติ” ที่เธอได้ข้อมูลมานานแล้ว และได้หาข้อมูลคร่าวๆมาแล้ว
และแล้ววันนึง 14 มีนา 54 เราก็คั้นด้นไปที่ศูนย์บ้าๆนั่น ที่ถ.พระราม๙ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในป่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จริงๆแล้ว ไม่อยากเอามาเล่าซ้ำ ให้ช้ำใจตัวเอง ผมมีหลักฐานใบเสร็จพร้อม
เมื่อไปถึง..สภาพเหมือนออฟฟิศเล็กๆ เราเข้าไปให้นักวิเคราะห์หนี้ ประเมินหนี้
จากหลักฐานที่ไปขอบูโรฯมาเช้าวันนั้น..
.ทางท่านนักวิเคราะห์ก็ทำท่าคิดเลขเขียนโน่นนี่ ดูค่าใช้จ่าย แนะนำว่าต้องทำหนังสือถึงเจ้าหนี้ทุกราย ขอ
ผ่อนผัน เล่มละ สองร้อย ๑๔ ราย ๒,๘๐๐ บาท
รอสองอาทิตย์ ก็เงียบ..จนเดือนก็เงียบ ตอนนี้ เอาไปซื้อข้าวกินหมดแล้ว ผมเอง ระหว่างนั้นก็เข้าเว็บของ
ศูนย์บ้าๆที่ว่านั่น โอ้โฮ....มันนิ่งสนิทมาสองปีแล้ว โทรไปสอบถาม ก็ว่ากำลังเสนอคุณหญิงขอปรับปรุง
อยู่..แม่จ้าว...!!! มิน่า ...”มึงไม่ใช่แค่ต้มกูจนสุกนะเนี่ย..มึงตุ๋นกูจนเปื่อยเลยแหละ...ไอ้..”
ต้องตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า.”ศูนย์ซ้ำเติมลูกหนี้..ฯ.”
ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยเข้าเว็บฯ....ไม่ค่อยสนใจ มีแต่ข่าวลบๆ....
เอาวะ...มาหัดตอนแก่..พิมพ์ดีดก็ไม่เก่ง ต้องรื้อฟื้นใหม่
ผมก็หน้าด้านเข้าบอร์ดมันอยู่พักนึง...แบบโง่ๆ จนบังเอิญได้ลิ้งก์มาที่นี่..
..ประตูสวรรค์ เปิดแล้วโว้ย...!!!
แม่ง....โลดโผนสุดๆ...กว่าจะหลุดเข้ามาได้ ถึงเดี๋ยวนี้..ผมเองก็ยังไม่”เฉ่ง...บัญชี”กับพวกนั้น..
ก็คิดว่า ทำทานไปซะ จริงๆแล้วจะเอาเรื่องก็ได้นะ...
เมื่อได้เข้ามาที่นี่...หลังจากหยุดจ่ายมาได้เดือนนึง....17 เมษา 54 ผมได้ไปหาคุณอาที่สวนลุม ฯ
ได้พบ อาประพัฒน์ และคุณแก้วจ๋า ราวสามโมงกว่า ๆ คุยกันพักนึง ก็แยกย้ายกันกลับ
..........................................................................................................
กระทู้เต็มๆ..ไปอ่านดู..น้ำท่วมทุ่ง..สนุกสนานตามเรื่อง.ไม่ขี้เกียจก็เชิญอ่าน.
แต่ห้ามเลียนแบบ..ผู้ปกครองควรแนะนำ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=3061&Itemid=52
แล้วจะมาเล่าต่อนะ..อยากอ่านก็เชิญตามสบาย..ดูคำเตือนด้วยนะ..