ใกล้ถึงวันขึ้นศาลครั้งแรกในชีวิต กับซิตี้คอร์ป ลิซซิี่ง

ขอพลังจงอยู่กับท่าน

และแล้ววันนี้ก็มาถึง.....เวลา 13.30 บัลลังก์ 5>>>>>>>>>>>>>>>สั่นนิดๆ แต่เตรียมตัวพร้อมแล้วจะเดินทางไปรอตั้งแต่ไก่โห่เลยคอยดู

สู้ๆ

update ! กลับมาจากศาลแล้ว >>>> ศาลแถวบ้านใครเป็นแบบนี้บ้าง
แรกสุดออกจากบ้านตอนเก้าโมง ห้าสิบเก้านาที (เอาชัย) ถึงศาลตอนห้าโมงเช้า นั่งรอ เดินวนศาล เข้าห้องน้ำ จนถึงเวลา 13.10 เจ้าหน้าทีมาเรารีบเข้าห้องนั่ง รอ
13.20 หน้าบัลลังก์มา เรายื่นคำให้การ หน้าบัลลังก์งงๆ สู้เหรอคะ? ....ค่ะ
13.25 ทนายหนุ่มหนึ่งคนเดินเข้ามา หน้าบัลลังก์ทัก คุณทนายซิตี้คอร์ป ใช่มั้ยค่ะ เนี่ยจำเลยมาแล้วเขายื่นคำให้การ ทนาย: อ๊ะ ห๊า ครับๆ >>>>>หน้าบัลลังก์เรียก เข้าไปหาให้ทนายเซนต์รับเอกสาร ยื่นคืนให้เราหนึ่งชุด
ทนาย: สู้ประเด็นอะไร.....
เรา : ตามคำให้การค่ะ.....
หน้าบัลลังก์ : ก็บอกประเด็นเขาไปซิค้า จะได้ง่าย ไม่ใช่ให้เขาอ่านเอาเอง
เรา: เงียบคิดในใจ ( ไม่บอกเว้ย อยากรู้อ่านเอาเอง......) เดินกลับมานั่งและรอ
13.50 ศาลท่านแรกเข้ามา ทำความเคารพ
เอ้าเชิญ ซิตี้คอร์ป กับจำเลย
เราเดินไปหน้าศาลยืนกันตรงบัลลังก์ เรานึกว่าศาลจะสอบถามเฉยๆ เลยไม่หยิบเอกสารถือติดมือไปด้วย
ศาล :ฟ้องประเด็นอะไรล่ะ
เรา : คำนิยามของโจทย์ สินเชื่อส่วนบุคคล โจทย์ปฏิบัติไม่ตรงตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยทำให้ดอกเบื้ยที่เรียกเก็บเกินกว่ากฏหมายกำหนด
ศาล: เอ้าเขาก็ทำถูกต้องนี่ จดทะเบียนตามกฏหมาย บลาาาาาาา ออกแนวอยากให้เรายอมความเพราะถ้ายื่นสู้ความศาลพิพากษา ก็เราอาจแพ้และอายัดเงินเดือน และถ้ายอมความศาลจะขอให้โจทย์ลดดอกเบี้ยหรืออื่นๆให้ ศาลให้ไปถามทนายโจทย์ แล้วลดได้เท่าไหร่ละโจทย์
ทนาย : ไม่ลดครับ ได้แค่ระยะเวลาการผ่อนชำระ สั้นยาว ( อ้าว.....)
ศาล : เอาอย่างนี้วันนี้ไม่มีทนายมา ให้กลับไปปรึกษาทนายใหม่ จะสู้หรือยอมความ นัดครั้งหน้านะ

แฮ่ๆ ที่เหลือไม่เล่า เพราะเป็นบทดราม่าของเราเอง กับศาล ส่วนทนายเหมือนจะงงอยู่ว่าทำไมนังคนนี้มันยื่นสู้ความ เพราะมันเตรียมมาทำการตกลงผ่อนชำระกับเรา สงสัยจะไม่เคยมีใครสู้คดี ทนายเลยงงไม่พูดอะไรเลยจนจบ จนกลับบ้าน แถมยังทิ้งท้าย ก็ลองสู้ดู>>>>>>
นัดหน้า 21 พฤศจิกายน เราโทรปรึกษาคุณอาไพโรจน์สรุปจะสู้อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ควรจะเก็บเงินได้กับตัว ส่วนการปิดยอดให้เป็นหน้าที่ของกฏหมาย

สักพักเจ้าหน้าที่ citi corp โทรมาลดยอดให้จาก 149,000 ยอดฟ้องลดให้เลย ถ้าจ่ายเงินก้อนได้ทันสิ้นเดือนตุลาคม 109,000 บาท บ๊ะเจ้าจอร์ท ลดทันที 40,000 บาท แต่ตรูไม่มีเงินจ่าย ทีแรกทำไมไม่ลดอย่างนี้ว๊ะ ไม่อย่างเดียว สู้โว้ย เพื่อยืดระยะเวลาเก็บตัง ( ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าลดออเดอร์ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนต้องเตรียมพร้อมค่ะ )

บทวิเคราะห์จุดอ่อนของตัวเอง :
1 วันนี้ไปขึ้นศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ดังนั้น ความน่ากลัวคือ ความคิด จินตนาการของเราเอง
2 วันนี้ที่ไม่ได้ยื่นคำให้การเลย เพราะ เรายืนเอ๋อ เมื่อศาลโต้กลับ ด้วยคารมกฏหมาย ซึ่งเราเองยังไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น เลยต้องกลับมาปรึกษาคุณอาไพโรจน์อีกที ( เดี๋ยวพลาด ) เป็นเพราะเราไม่รู้กฏหมายเลยตั้งแต่เกิดมา เรียนแต่วิทย์มา เบื่องต้นยังไม่รู้
สิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุง อย่างเร่งด่วนภายใน 1 เดือน
1 หาความรู้เรื่องกฏหมาย การโต้ตอนข้อกฏหมาย อย่างน้อยๆ เบื้องต้นก็ยังดี เพราะเราต้องขึ้นศาลด้วยตัวเองเท่านั้น
2 ฟิตฝีปาก กับ.........ฟิตสมองให้ฉับไว..............ทำยังดี
5555 พักผ่อนพรุ่งนี้ว่ากันใหม่

เยี่ยมมากเลยครับ การไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ขอเพียงมีสติทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้

ตอนนี้ถ้าคุยกันไม่ลงตัวก็เตะถ่วง ยื้อเวลาเพื่อเก็บเงินให้นานที่สุด อยากฟ้องเร็ว แล้วคุยไม่รู้เรื่อง ก็จัดไป

เป็นกำลังใจให้ครับ

สู้ๆ

ตอนนี้เริ่มเบื่อ CIMB , UOB ส่งจดหมายมาที่ทำงาน ( ก็รู้ๆอยู่ฉันไม่อยากรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น จะทำอะไรก็ทำ จะฟ้องก็รีบฟ้อง)
และสำหรับ ซิตี้คอร์ป ลิซซิ่ง ขนาดเรื่องอยู่ในศาลแล้วก็ยังจะโทรมา ไม่รู้โทรหามะเขืออะไร น่าเบื่้อ ( มีเมื่อไหร่จะจ่ายเมื่อนั้นค้า )

หลังกลับมาจากศาล ขั้นตอนต่อไปคือเตรียมสู้ความ ....
ทำไมต้องสู้.....ยืดระยะเวลาเก็บเงินให้นานที่สุด
ซิตี้ให้ส่วนลด ....ก็ยังไม่มีเงินสดขนาดนั้น
ถ้าคดีนี้สามารถสู้จนเข้าใจกระบวนการจบ ....ก็จะสามารถเข้าใจ และตั้งรับกับอีกหลายๆ สินเชื่อได้
ขั้นตอนที่ 1 เขียนคำให้การเอง ( แอะๆ ...เอาของคุณอาไพโรจน์มาเติมข้อความตามที่คุณอาอุตสาหะโทรมาเตือนแต่เช้ามืดให้เขียนเองจะได้เข้าใจ ) ค่าเริ่มแล้ว
ขั้นตอนที่ 2 โหลดกฏหมายแพ่ง และพานิชย์ของประเทศไทยมาอ่าน และทำความเข้าใจ (ง่ามันเข้าใจยากมาก แต่คงไม่เกินความพยายามจะเข้าใจมันของเรา ไม่มีใครรู้กฏหมายมาแต่เกิด แม้แต่ทนาย ....)
ขั้นตอนที่ 3 สละเวลาช่วงพัก เบรคหลังเลิกงาน ใส่ใจกับบอร์ด ชมรม อ่านให้ครบทุกหัวข้อ

เอ้าใครจะมาสู้ร่วมกับ kiboom เชิญเลยค่ะ ถ้ามีอะไรแนะนำก็โพสให้ด้วยนะคะ
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คุณ Kiboom บัวนับถือความใจสู้ของคุณ และเป็นกำลังใจให้เสมอสำหรับการสู้ไม่ถอย
จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา "ดุลยพินิจของศาล" เป็นสิงที่สำคัญที่สุด
การ "สืบพยานโจทก์หน้าบัลลังก์" เป็นอะไรที่ชิงไหวชิงพริบมากที่สุด
ต่อให้เขียนคำให้การหนาแน่นเพียงใด เอกสารแนบเพื่อโต้แย้งคำฟ้องของโจทก์ มีทุกข้อ มีทุกฉบับ
ตารางการคิดดอกเบี้ยที่มีหลาย Version คิดแบบละเอียดยิบบรรทัดต่อบรรทัด ช่องต่อช่อง
ถ้าศาลท่านไม่อ่าน ไม่มีการบันทึกคำให้การ ทุกอย่างที่เตรียมมาเป็น "ศูนย์" ค่ะ
เมื่อเร็วๆนี้ พึ่งจะรับสายสมาชิกเก่าแก่ท่านหนึ่ง สู้ยิบตา ผ่านมาแล้วสามนัด ศาลท่านพิพากษาให้ "แพ้คดี"
ต้องทนฟังเสียงก่นด่าจากพี่ท่านนั้นด้วยความเห็นใจ
การพิจารณาคดีผู้บรืโภค แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคดีแพ่ง มีรายละเอียดปลีกย่อยที่บอกไม่ได้หน้าบอร์ด ต่อให้โทรมาก็บอกไม่ได้ เพราะเจ้าหนี้อ่านอยู่
คุณอยากสู้คดีเพื่อยืดเวลา ขอเวลาเก็บเงิน ต้องดูประกอบด้วยว่า ศาลของคุณมีคดีหนาแน่นแค่ไหน เลื่อนได้ครั้งละกี่เดือน
ชมรมฯ ต่อสู้กับการที่เจ้าหนี้ใช้กฎหมายคุ้มครองฯ มาไล่บี้บีฑาให้ใช้ข้อกฎหมายผู้บริโภค ให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทำให้ลูกหนี้ที่่หยุดจ่าย มีเวลาน้อยมากในการเก็บเงินเพื่อชำระหนี้
ที่สุดแล้ว เราก็อยากชำระหนี้ แต่ขอเวลาให้เราได้หายใจบ้าง
จริงๆถ้าเป็นกรรมการด้วยกัน ประธานชมรมฯ จะสอนการสืบพยานโจทก์ให้ฟรีๆ
โดยสมมุตืว่าไปขึ้นศาลจริงๆ ซักไซ้ไล่เรียงเอาให้โจทก์ตอบไม่ถูกไปเลย
แต่...ดุลยพินิจของศาล สำคัญเสมอ ฟังแล้วเจ็บตับไหม?
กรรมการและสมาชิกหลายท่าน หาทางออกในการแก้ไขหนี้โดยเน้น "การเจรจา"
เพราะเจ้าหนี้ก็ต้องการเงินคืน ไม่ใช่ไล่บี้ลูกหนี้จนตายไปข้าง เพราะถ้าตายขึ้นมาจริงๆ หนี้ก็สูญ
ถึงอย่างไร ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ใช่พูดให้คุณถอดใจ กอบัวรู้ว่าคุณเป็นนักสู้
เพียงแต่อยากเล่ามุมมองที่ผ่านมาหลายปีให้ฟัง และเป็นกำลังใจให้เสมอ
คุณลองไปอ่านคดีของสองท่านนี้ เยอะ อ่านจนตาลาย เผื่อมีแนวทาง

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=36440&catid=5

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=3027

ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำที่ดีมากๆ
กรณีที่จะสู้....เพราะอยากรู้ว่าการไปศาลมันเป็นยังไง ....สุดท้าย ท้ายสุด มันจะเจ็บปวดเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อย่างไร ค่ะ เข้าใจว่า แนวโน้มจะแพ้ ค่อนข้างสูง
แต่ ตอนนี้ธนาคารไม่ยอม ลดให้เท่าที่ควร แค่ลดดอกเบื้นให้ แต่ต้องจ่ายจดเป็นก้อน เป็นแสน แถมการชำระเป็นงวดก็ยังเป็นยอดที่สูงมาก เดือนละ 5000 กว่าบาท kiboom เกรงว่า จะทำไม่ได้ทั้งสองกรณี
ส่วนการขึ้นศาล เมื่อต้องสู้ ท้ายสุดแล้วแพ้ ก็จะเป็นแนวทางสำหรับคดี อีกสามเจ้าที่กำลังจะตามมาให้มีชิงไหว ชิงพริบค่ะ
ถ้าเป็นไปได้ก่อนไปศาล จะขึ้นไปกรุงเทพ ไปหาชมรมที่สวนลุม ลองให้คณะกรรมการสอบ ซัก เอาแบบไม่ต้องยั้ง ลองดูว่าใจขนาดไหน
เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไร เอะอะน้ำตาไหล อ่อนแอ แต่ตอนนี้ เมื่อต้องสู้ จะสู้ทั้งน้ำตาค่ะ
ยอมรับผลที่ตามมาได้ค่ะ แพ้เป็นแพ้ ชนะ ก็ต้องจ่ายหนี้เหมือนเดิม......
ถึงเวลาที่เราต้องหันมาต่อสู้อะไรบ้างแล้ว เพราะที่ผ่านมาหลบตลอด จนทุกวันนี้ก็ยังหลบ....อยากแกร่งเหมือนคนอื่นก็ต้องยอมค่ะ

สู้ๆๆนะค่ะพี่

สู้ๆๆครับ เราจะต้องผ่านไปให้ได้ครับ
ของผมตอนนี้บางวันเหงาเลยไม่มีเจ้าหนี้โทรหา (ผมหยุดมาได้ 6-7 เดือนแล้ว)จากยอดหนี้รวมสี่แสนนิดๆ
อาศัยอ่านให้มากๆแล้วเก็บประสพการณ์ของแต่ละคนมาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ของตัวเอง

แต่บางอย่างไม่แน่ใจก็โทรหาท่านกรรมการด้วยเหมือนกัน
สุ้ๆครับ

ปิดแล้วจ้า บัญชีแรก ด้วยน้ำตา และศาลอุทธร รอผล แต่ตกลงยอดไม่ให้มากกว่าที่เป็น และตั้งแต่สู้มามีเวลาเก็บตังก์จนปิดได้แล้ว 1 ใบ

วันนี้เวลาน้อย จะเข้ามาเล่าทีหลัง บางครั้ง ความไม่เข้าใจ ความโง่ของเรา แทนที่จะได้สู่ต่ออีกหน่อย กลับต้องรีบปิดกระดานซะงั้น

เป็นกำลังใจให้นะคะ..สู้ๆ เข้าสู่วังวนบัตรเครดิตคล้ายๆกันเลยค่ะ เริ่มแรกด้วยบัตรอิออน ตามด้วยFristChoice และต่อมาก็อีกหลายบัตร เงินเดือนก็น้อยแต่ต้องจ่ายขั้นต่ำแต่ละเดือนมากมาย คุณ kiboom สุดยอดค่ะ ผ่านพ้นมาถึงตอนนี้ได้ minnymaow เพิ่งจะเริ่มหยุดจ่ายเดือนมีนาคม 2556 นี่เองค่ะ มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ ความรู้สึกเหมือนกันเลย แต่พอได้เข้ามาwebนี้แล้ว เหมือนมีเพื่อน มีกำลังใจขึ้นค่ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถอยไปไหนไม่ได้อีกแล้ว คิดโน่นคิดนี่สารพัด กลัวไปทุกอย่าง ตอนนี้มีภูมิต้านทานขึ้นบ้างแล้วค่ะ เราคิดว่าปัญหาเราหนักแล้ว แต่ยังมึคนอื่นที่หนักกว่าเรา ยังงัยก็ต้องสู้ค่ะเป็นหนี้เค้าแล้วต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม สักวันมันคงจะผ่านพ้นเราไปนะคะ

คุณ Kiboom เป็นไงบ้าง บัวนึกถึงตลอดเวลาเรื่องการสู้คดีกับสี่ตี๋
ชอบในความใจสู้ของคุณ
แต่แอบเบื่อ "ดุลยพินิจขอ....ไคฟง" ฮ่าๆ เดี๋ยวติดคุก เลี่ยงๆไปหน่อยก็จะดีสำหรับเรา...
มีเวลาเข้ามาเล่าให้ฟังบ้างค่ะว่า เรื่องหนี้ไปถึงไหน
หาสมาชิกที่สู้จนถึงกระบวนศาล อุธรณ์ หรืออื่นๆ ในกรณีบัตรเครดิตยากค่ะ
ขนาดทนายยังไม่อยากทำเรื่อง เขียนคำให้การให้ ส้นเท้าจริงๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ...

ของฉุนcity ad และก็city Mหยุดจ่ายเข้ารอบบิลที่4 ช่วงนี้เงียบ ทวงไม่รุนแรงได้แต่บอกให้จ่ายเข้ามาสัก1 งวดเพื่อรักษาสภาพ จะทำงัยดีคะ เห็นบอกว่าฟ้องเร็ว

หนูอยู่โคราชค่ะ ทำไงถึงจะได้คุยกัน

กลับมาแล้ว กับชีวิต ดีขึ้นเยอะ ปลดไปแล้ว 2บัตร ซิตี้คอป ยอด cut 100000. จาก150000 อีกบัตร city visa ยอด75000 จาก150000 และสู้แล้วแพ้ อีก2บัตร รอหาตังก์โป๊ะ ค่ะ