ขอคำปรึกษา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี กลุ้มมาก ครับ

พิมพ์ต้องนาน Post ไม่ขึ้น

พิมพ์ เรื่อง คุยกับเจ้าหน้า Citi Ready ตั้งนาน Post ไม่ขึ้น ข้อมูลหายหมด

สุรุปเลย Bank ไม่อนุมัติ ให้ H/C ที่ 60,000 บาท งวดเดียว

เด๋วเจ้าหน้าที่เสนอหัวหน้าใหม่ 70,000 บาท ผ่อน 2 งวด งวดแรก 50,000 บาท เด๋วเย็นๆโทรกลับมาบอก

ผมตอบถ้าไม่ได้ ให้คุณอายัดเงินเดือน ผมจ่าย UOB 2 บัญชี ดีกว่า 50 % 60,000 บาทเอง
ยังงัยผมก็หนีอายัดเงินเดือนไม่พ้น ...แล้ว อีกบัญชีของคุณ Citi master ก็ต่อคิวอายัตเงินเดือนกันเองแล้วกัน
ในใจคิดเด๋วค่อย ขอ H/C ใหม่ภายหลังยังมีเวลาอีกอย่างน้อยประมาณ 2 เดือนก่อนอายัดเงินเดือน

พี่นกกระจอกเทศ เขียน: การอายัดเงินเดือน หรืออายัดทรัพย์ใดๆ...ไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอน

การอายัดใดๆ ของกรมบังคับคดี หลังจากที่ศาลได้พิพากษาไปแล้วนั้น...มันไม่แน่นอน (ถึงแม้ว่าในคำพิพากษา จะเขียนเอาไว้โดยชัดเจนแล้วว่า บังคับภายใน 15 วัน ก็ตามที)

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนที่ถูกอายัด...กว่าจะ"โดน" ก็เกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้ (15 วัน) กันทั้งนั้น...เพียงแค่...แต่ละคนจะมีระยะเวลาในการ"โดน"ที่ไม่เท่ากัน...เอาแน่ไม่ได้เลย

บางคน"โดน"หลังจากที่ศาลพิพากษา เพียงแค่ 2 เดือน
บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 4 เดือน
บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 6 เดือน
บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 1 ปี
บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 2 ปี
บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 4 ปี

แล้วจะเอาตรงไหนมาเป็นบรรทัดฐานดีล่ะ?

คุณเตรียมตัวเองไว้ก็ดีค่ะ ปกติแล้วเราจะแนะนำให้สมาชิก "อายัดเงินเดือนตัวเอง" 30% ทุกๆเดือน หากเรื่องอายัดส่งมาที่ทำงานช้า เราก็ได้เก็บเงินไปเรื่อยๆ แล้วก็มีเวลาต่อรอง
หากต่อรองได้ดั่งใจ ตามกำลังของเงิน เราก็ใช้เงินที่เรา "อายัดตัวเอง" นั่นแหละ ไปแฮร์คัทเจ้าหนี้
บัวรู้ว่า สมาชิกแต่ละคนมีความจำเป็น มีต้นทุนชีวิตแตกต่างกันออกไป
แต่อย่าลืมทุกลมหายใจว่า "เรายังเป็นหนี้" ต้องใช้ชีวิตแบบคนเป็นหนี้ ที่ไม่ได้หมายความว่า ต้องกินข้าวกับแกลบ กับเกลือ แต่ให้ประมาณตน
ใช้แต่ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เรื่องฉุกเฉิน การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ลูกเมียต้องอิ่มท้อง นั่นคือสิ่งที่เราต้องไม่ลืม แต่อย่างอื่นๆ อดออมได้ให้อดออม
เพราะเราจะมีเวลาเก็บเงินแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น หากปล่อยไว้นานมากเท่าไหร่ ก็เหมือนเรานับถอยหลังเดินลงเหวเท่านั้น
แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีทางออก การอายัดก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย คุณอย่ามองอะไรให้ใจมันท้อแท้
เก็บเงินไปก่อน หมายอายัดมาเมื่อไหร่ ค่อยว่ากัน ไปปิดเจ้าหนี้ที่ให้ส่วนลดดีๆ งามๆ
ตัวที่เหลือ ผ่อนจ่ายได้ก็ผ่อนไป มีเงินเมื่อไหร่ค่อยแฮร์คัท อย่าพึ่งคิดว่า คงไม่ได้ คงไม่มีวันต่อรองได้
อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอบคุณครับ สำหรับทุกท่านที่ให้คำแนะนำดีๆ

โดยเฉพาะคำตอบล่าสุดของคุณ กอบัว ครับ ได้ใจมาก

.
กลัวโดน ดีดหู ก็บอกมาเห๊อะ...

exec9 เขียน: 1. รถยนต์ (กรณีติดไฟแนนซ์)
เจ้าหนี้ไม่มายึดรถในตอนนี้ ก็เพราะว่า “ไม่สามารถยึดได้”...ไม่ใช่ว่า “ไม่ยึดเพราะไม่คุ้ม”
แต่ที่เจ้าหนี้ไม่ยึดนั้นเนื่องมาจาก ผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่ยังผ่อนอยู่คันนี้ ก็คือ บ.ไฟแนนซ์ หรือ บ.ลิสซิ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่ปล่อยให้เราเอารถไปใช้ขับได้ในระหว่างที่ยังผ่อนรถกันอยู่...แต่ถ้าลูกหนี้( ผู้ครอบครอง)ผ่อนรถจนหมดเมื่อไหร่ แล้ว บ.ไฟแนนซ์ หรือ บ.ลิสซิ่ง ผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่แท้จริงได้ทำการโอนรถเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถจาก บ.ไฟแนนซ์ หรือ บ.ลิสซิ่ง ไปเป็นชื่อของลูกหนี้(ผู้ครอบครอง)เมื่อไหร่ล่ะก็ เจ้าหนี้รายอื่นที่มันฟ้องศาลแล้ว ก็จะมาบังคับคดี โดยการอายัดเอารถไปทันที
[/color]กรณีผมต้องรอผ่อนหมด ผมเข้าใจถูกต้องมัยครับ

คุณจะรอผ่อนรถให้หมด แล้วให้เจ้าหนี้มันมายึดเอารถไปหลังจากผ่อนหมดแล้วใช่ไหมล่ะ?

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=2247&Itemid=29

exec9 เขียน: 2. บ้าน (กรณีติดBank อยู่)
เป็นเรื่องของเจ้าหนี้ไปคิดว่าคุ้มไหมที่จะยึดถ้าส่วนต่างเหลือเยอะเขาก็ยึด
กรณีผมเป็นห้องพักบ้านเอื้ออาทร ผ่อนกับ ธอส. 15 ปี ผ่อนมาได้ 3 ปี แต่ติดสัญญากับการเคหะแห่งที่เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ว่า ภายใน 5 ปี ห้ามซื้อขาย ถ้าขาดส่ง 2 งวดการเคหะต้องซื้อกลับจาก ธอส.
จึงยังยึดไม่ได้อย่างน้อยภาย 5 ปี (เหลือเวลา 2 ปี ผมเข้าใจถูกต้องมัยครับ)

ไม่ถูกต้อง...คุณเข้าใจผิด

จำเอาไว้เลยนะครับว่า เจ้าหนี้(โจทก์)สามารถอายัดทรัพย์ใดๆก็ได้ ที่มีชื่อของลูกหนี้(จำเลย)เป็นเจ้าของ
ขอย้ำคำว่า"เจ้าของ"นะครับ...ไม่ใช่"ผู้ครอบครอง"

โดยไม่สนใจว่าทรัพย์นั้นๆ จะยังคงผ่อนอยู่หรือติดจำนองก็ตาม...สามารถยึดได้หมด ถ้าลูกหนี้มีชื่อเป็น"เจ้าของ"ในทรัพย์นั้นๆ

ดังนั้นในกรณีของคุณนี้ เจ้าหนี้ก็สามารถอายัดบ้านเอื้ออาทรไปขายทอดตลาดที่กรมบังคับคดีได้
โดยให้การเคหะแห่งชาติ เป็นผู้ไปประมูลซื้อกลับมาเป็นเจ้าของดังเดิม ตามที่ระบุไว้ในสัญญากับ ธอส.
หากประมูลแล้ว มีส่วนต่าง(ส่วนที่ขาดทุน)จากการประมูล
ทางการเคหะแห่งชาติก็จะมาฟ้องร้องดำเนินคดีแพ่งกับคุณต่อไป เพื่อเรียกร้องเอาค่าส่วนต่างนี้กลับคืน

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=9039

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=1842

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=7589

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=4126

ถามเล่นๆนะครับ อย่างจริง จัง

ถ้าสมมุติผมถูกเจ้าหนี้ราย ที่เหลืออายัดบ้าน ทั้งที่ไม่ คุ้มกับที่จะอายัด (ผมเข้าใจเองนะครับ)

แล้วผมไปร้องศาล ให้ยกเลิกหนังสือแจ้งการอายัดบ้านของสำนักงานบังคับคดีได้มัย? แต่เราต้องชี้ให้ศาลเห็นว่าเราโดนแกล้งเนื่องจากเจ้าหนี้อายัดบ้านแล้ว เจ้าหนี้ไม่ได้อะไร แถมเราต้องมีเจ้าหนี้รายใหม่เพิ่มมาอีกคือ คุณการเคหะแห่งชาติได้มัย

เราเคยโดนมาแล้ว ตอนนั้นผมเป็นโจทย์ ทำเรื่องอายัดสิทธิเรียกร้อง ที่เจ้าเลยมีกับบริษัทอื่น จำเลยในตอนนั้นจ้างทนายให้ร้องศาลให้ยกเลิกหนังสือแจ้งการอายัดสิทธิเรียกที่สำนักงานบังคับคดีแจ้งอายัดไป จำเลยอ้างให้ศาลเห็นข้อเสียของหนังแจ้งการอายัดฉบับนั้น สุดท้ายศาลสั่งยกเลิกหนังสือแจ้งการอายัดสิทธิเรียกร้องฉบับนั้น แล้วศาลมีหนังสือแจ้งการอายัดฉบับใหม่(ผมเป็นโจทย์ในตอนนั้นไม่ค่อยพอใจ แต่ผมทำอะไรไม่ได้ ผมไม่ได้จ้างทนาย)

ซึ่งผมเข้าใจว่า(ถูกต้องหรือเปล่าไม่แน่ใจ ) เราสามารถไปร้องศาล ให้ยกเลิกหนังสือแจ้งการอายัดบ้านของสำนักงานบังคับคดีได้ แต่เราต้องชี้ให้ศาลเห็นว่าเราโดนแกล้งเนื่องจากเจ้าหนี้อายัดบ้านแล้ว เจ้าหนี้ไม่ได้อะไร แล้วยังส่งผมเสียอย่างอื่นตามมา

Citi Ready โทรแจ้งแล้วครับ เรื่องที่ผมขอ H/C ไปหลังศาลพิพากษาแล้ว

ผมขอ H/C ดังนี้

1. 50% 60,000 บาท งวดเดียว ธนาคารไม่ให้ตามคำขอ
2. 70,000 บาท ผ่อน 2 งวด ธนาคารไม่ให้ตามคำขออีกตามเคย

สุดท้าย เจ้าหน้าที่แจ้ง จะลองขอนายให้ที่ 73,500 บาท โดยให้ผ่อน 3 งวด

รอฟังผมต่อไป (ผมยังลังเลยไม่อยากได้เลย สำหรับข้อเสนอนี้ )

ตอบเล่นๆ การที่เจ้าหนี้จะยึกอะไรเจ้าหนี้ต้องคิดแล้วว่ามันคุ้มถ้าไม่คุ้มจะยึดมาทำไม่ละ
การยกเลิกการอายัดนั้นคือเราตกลงจ่ายหนี้ได้แล้วการขายทอดตลาดก็จบลงในเจ้าหนี้รายนั้นๆ ตอบเล่นๆ

exec9 เขียน: Citi Ready โทรแจ้งแล้วครับ เรื่องที่ผมขอ H/C ไปหลังศาลพิพากษาแล้ว

ผมขอ H/C ดังนี้

1. 50% 60,000 บาท งวดเดียว ธนาคารไม่ให้ตามคำขอ
2. 70,000 บาท ผ่อน 2 งวด ธนาคารไม่ให้ตามคำขออีกตามเคย

สุดท้าย เจ้าหน้าที่แจ้ง จะลองขอนายให้ที่ 73,500 บาท โดยให้ผ่อน 3 งวด

รอฟังผมต่อไป (ผมยังลังเลยไม่อยากได้เลย สำหรับข้อเสนอนี้ )

มันขึ้นอยู่กับเรานิการใช้หนี้จะก่อนฟ้องหรือหลังฟ้องเก็บเงินไว้มากๆส่วนลดมันมีทุกวันและตลอดชีพแต่ถ้าเรามีตังจ่ายได้โดยตัวเองไม่มีปัญหาเรื่องเงินก็จ่ายได้จะได้หมดหนี้ไปอีก 1 ราย

ซึ่งผมเข้าใจว่า(ถูกต้องหรือเปล่าไม่แน่ใจ ) เราสามารถไปร้องศาล ให้ยกเลิกหนังสือแจ้งการอายัดบ้านของสำนักงานบังคับคดีได้ แต่เราต้องชี้ให้ศาลเห็นว่าเราโดนแกล้งเนื่องจากเจ้าหนี้อายัดบ้านแล้ว เจ้าหนี้ได้เงินไม่ครบตามจำนวนมูลหนี้ แล้วยังส่งผมเสียอย่างอื่นตามมา คือเราไม่มีบ้านจะอยู่


แล้วถ้าเขาถามว่า หนี้ที่ค้างไว้นะ ไม่จ่ายสักที เจ้าหนี้เขาเสียหาย คุณจะว่าไง
คำพิพากษาออกมาแล้ว คุณยังไม่จัดการใดๆ ถือว่าเป็นสิทธิที่เจ้าหนี้จะอายัด
ทรัพย์เพื่อนำมาชดใช้หนี้ที่คุณก่อนะค่ะ อย่าคิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง
ฝ่ายเดียว นึกถึงใจเขาใจเราบ้างนะ แล้วกรุณาถามหลังไมค์ได้ไหมค่ะ
เพราะแต่ละคำถามของคุณอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อชมรม ถูกปิดนะ มี
ความเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางยังไง ไม่รู้ ไปอ่านที่คุณนกกระจอกเทศ
link ให้อ่านก่อนเถอะค่ะ ขอบคุณค่ะ แก้วจ๋า

การอายัดบ้าน มันละเรื่องกับการอายัดสิทธิเรียกร้องเลยนะครับ
การอายัดบ้าน แสดงว่า ศาลมีคำพิพากษาให้คุณชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่คุณไม่ปฏิบัติตามภายในเวลาที่กำหนด

โดยคำพิพากษา มีเนื้อหาประมาณนี้ครับ

"บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน _______ บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ __ ต่อปี ของเงินต้น ________ บาท นับแต่วันที่ _________ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ (แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง ต้องไม่เกิน ______ บาท -- อาจไม่มีก็ได้) กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ______ บาท

ให้จำเลย ปฎิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำบังคับนี้เป็นต้นไป ถ้าไม่ปฎิบัติตามคำบังคับภายในระยะเวลาหรือเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น จะต้องถูกยึดทรัพย์ หรือถูกจับขังดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฏหมายพิจารณาความแพ่ง"

ทีนี้ คุณไม่ติดต่อชำระหนี้กับโจทก์ ภายใน 15 วัน (ซึ่งสามารถจะจ่าย Hair-Cut หรือผ่อนชำระรายเดือนก็ได้) ก็ถือได้ว่า คุณไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ซึ่งก็ระบุไว้แล้วว่า จะถูกยึดทรัพย์ ซึ่งการที่โจทก์ไปทำการสืบทรัพย์ และขอบังคับคดียึดบ้านของคุณก็ทำถูกต้องทุกอย่างตามคำพิพากษาแล้วนี่ครับ

แล้วคุณจะไปอ้างได้อย่างไรครับ ว่าการอายัดบ้านไปแล้ว ขายทอดตลาด จะได้เงินไม่ครบตามมูลหนี้
ขายทอดตลาดนะครับ ต้องมีการประมูล ราคาไม่แน่นอนหรอกครับ เกิดมีคนรุมกันซื้อ ราคาอาจแพงกว่าที่ควรจะเป็นก็ได้ครับ (ซึ่งเมื่อขายบ้านได้เงินมา ก็ไปจ่าย ธอส. ก่อน เงินเหลือแค่ไหนก็ไปจ่ายเจ้าหนี้หรือโจทก์ตามคำพิพากษาต่อไปครับ เหลือเงินก็ถึงจะตกมาถึงคุณ

แต่คุณสามารถไปยื่นคัดค้านตอนขายทอดตลาดได้ครับ
ไปอ่านที่พี่นกกระจอกเทศเคยตอบไว้เองนะครับ ว่าการคัดค้านการขายทอดตลาดต้องทำยังไง
ซึ่งบ้านก็ผ่านขั้นตอนอายัดและยึดมาแล้วนะครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=5646&Itemid=29#5830

Anakin เขียน: การอายัดบ้าน มันละเรื่องกับการอายัดสิทธิเรียกร้องเลยนะครับ
การอายัดบ้าน แสดงว่า ศาลมีคำพิพากษาให้คุณชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่คุณไม่ปฏิบัติตามภายในเวลาที่กำหนด

โดยคำพิพากษา มีเนื้อหาประมาณนี้ครับ

"บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน _______ บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ __ ต่อปี ของเงินต้น ________ บาท นับแต่วันที่ _________ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ (แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง ต้องไม่เกิน ______ บาท -- อาจไม่มีก็ได้) กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ______ บาท

ให้จำเลย ปฎิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำบังคับนี้เป็นต้นไป ถ้าไม่ปฎิบัติตามคำบังคับภายในระยะเวลาหรือเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น จะต้องถูกยึดทรัพย์ หรือถูกจับขังดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฏหมายพิจารณาความแพ่ง"

ทีนี้ คุณไม่ติดต่อชำระหนี้กับโจทก์ ภายใน 15 วัน (ซึ่งสามารถจะจ่าย Hair-Cut หรือผ่อนชำระรายเดือนก็ได้) ก็ถือได้ว่า คุณไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ซึ่งก็ระบุไว้แล้วว่า จะถูกยึดทรัพย์ ซึ่งการที่โจทก์ไปทำการสืบทรัพย์ และขอบังคับคดียึดบ้านของคุณก็ทำถูกต้องทุกอย่างตามคำพิพากษาแล้วนี่ครับ

แล้วคุณจะไปอ้างได้อย่างไรครับ ว่าการอายัดบ้านไปแล้ว ขายทอดตลาด จะได้เงินไม่ครบตามมูลหนี้
ขายทอดตลาดนะครับ ต้องมีการประมูล ราคาไม่แน่นอนหรอกครับ เกิดมีคนรุมกันซื้อ ราคาอาจแพงกว่าที่ควรจะเป็นก็ได้ครับ (ซึ่งเมื่อขายบ้านได้เงินมา ก็ไปจ่าย ธอส. ก่อน เงินเหลือแค่ไหนก็ไปจ่ายเจ้าหนี้หรือโจทก์ตามคำพิพากษาต่อไปครับ เหลือเงินก็ถึงจะตกมาถึงคุณ

แต่คุณสามารถไปยื่นคัดค้านตอนขายทอดตลาดได้ครับ
ไปอ่านที่พี่นกกระจอกเทศเคยตอบไว้เองนะครับ ว่าการคัดค้านการขายทอดตลาดต้องทำยังไง
ซึ่งบ้านก็ผ่านขั้นตอนอายัดและยึดมาแล้วนะครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=5646&Itemid=29#5830

แด่...ทายาทอสูร



ช่างโคลนนิ่งได้ดีแท้ แก้วจ๋า

ตอบเล่นๆ นะอย่างจริงจัง

ห้องเอื้ออาทร ราคาที่การเคหะขาย 390,000 บาท

ผมต้องผ่อนอีก 12 ปี คิดเป็น เงิน 2,500 x 12 x 12 = 360,000 บาท ไม่รวมดอกเบี๋ย
มูลหนี้ ฟ้อง 12x,xxx บาท ถ้าอายัดแล้วไปขายทอดตลาด จะได้เงินครบ ตามมูลหนี้มัย (คิดเองแล้วกัน)

แล้วเป็นคุณจะซื้อบ้านจากการขายทอดตลาด ที่ราคา 480,000 บาท หรือ ซื้อจากการเคหะที่ ขาย 390,000 บาท ยังมีคงว่างเยอะ (คิดเองแล้วกัน)

exec9 เขียน: ตอบเล่นๆ นะอย่างจริงจัง

ห้องเอื้ออาทร ราคาที่การเคหะขาย 390,000 บาท

ผมต้องผ่อนอีก 12 ปี คิดเป็น เงิน 2,500 x 12 x 12 = 360,000 บาท ไม่รวมดอกเบี๋ย
มูลหนี้ ฟ้อง 12x,xxx บาท ถ้าอายัดแล้วไปขายทอดตลาด จะได้เงินครบ ตามมูลหนี้มัย (คิดเองแล้วกัน)

แล้วเป็นคุณจะซื้อบ้านจากการขายทอดตลาด ที่ราคา 480,000 บาท หรือ ซื้อจากการเคหะที่ ขาย 390,000 บาท ยังมีคงว่างเยอะ (คิดเองแล้วกัน)

ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะครับ จะมาถามเล่นๆ

อย่างนี้ ผมจะตอบเป็นครั้งสุดท้าย

และไม่ตอบคุณแล้วครับ

อุตส่าห์หาคำตอบให้ ขอบคุณสักคำก็ไม่มี

ยังจะมากวนประสาทกันอีก


มันเป็นหน้าที่ของใครไม่ทราบ ที่ต้องมาคิดตาม

ตรรกะของคุณ ศาลท่านไม่สนใจหรอก

ท่านพิจารณาตามเอกสารหลักฐาน

ในเมื่อมีคำพิพากษาออกมาแล้ว

แทนที่จะหาทางติดต่อชำระหนี้

ดันปล่อยให้ยึดบ้าน ไม่มีใครมาสงสารคุณ

หรอกครับ

อย่าตอบหรือถามอะไรแบบเล่นๆ อีกนะครับ

นี้พูดเล่นๆ แต่ทำจริงๆ ขอย้ำว่า

กรุณาถามหลังไมค์ได้ไหมค่ะ เพราะแต่ละคำถามของคุณอาจส่อ
ให้เกิดผลเสียต่อชมรม ถูกปิดนะ มีความเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง
ขอบคุณค่ะ แก้วจ๋า

ถ้าไม่หยุด เราอาจขอ freeze กระทู้ของคุณ เพราะเราไม่อยาก
ถูกปิดค่ะ

คุณอาจรู้มากมาย มากกว่าพวกเราที่เป็นลูกหนี้ธรรมดาที่มี
ปัญหา ขอเวลาเก็บเงินเพื่อใช้หนี้ เท่านั้นค่ะ จะขอบคุณที่
หยุดเรื่องบ้านค่ะ

คุณอาจโมโหที่ถูกยึดบ้าน แต่เป็นเพราะใครละค่ะ เอา
เวลาไปหาเงินใช้หนี้เขาจะดีกว่าไหม แล้วเขาก็ถอนอายัด
คืนคุณเองค่ะ

exec9 เขียน: ตอบเล่นๆ นะอย่างจริงจัง

ห้องเอื้ออาทร ราคาที่การเคหะขาย 390,000 บาท

ผมต้องผ่อนอีก 12 ปี คิดเป็น เงิน 2,500 x 12 x 12 = 360,000 บาท ไม่รวมดอกเบี๋ย
มูลหนี้ ฟ้อง 12x,xxx บาท ถ้าอายัดแล้วไปขายทอดตลาด จะได้เงินครบ ตามมูลหนี้มัย (คิดเองแล้วกัน)

แล้วเป็นคุณจะซื้อบ้านจากการขายทอดตลาด ที่ราคา 480,000 บาท หรือ ซื้อจากการเคหะที่ ขาย 390,000 บาท ยังมีคงว่างเยอะ (คิดเองแล้วกัน)

แล้วตกลงคุณจะแก้ไขหนี้คุณด้วยวิธีไหน....ผมว่าคุณไปคิดตรงนี้ก่อนดีกว่านะครับ

ไอ้เรื่องที่เจ้าหนี้จะยึดห้อง หรือยึดบ้านนั้นน่ะ...เขาก็ต้องคำนวนของเขาก่อนแล้วล่ะครับ

ว่ามันคุ้มกันหรือเปล่า...ถ้ามันไม่คุ้ม เขาก็อาจไม่ยึดก็ได้ ยังไงเจ้าหนี้เขาอยากได้เงินก้อนครับ....

เคสมีเยอะแยะ ที่ยึดบ้านไปขายทอดตลาดแล้ว ใช้หนี้ให้

เจ้าหนี้ปุริมสิทธิ์ (แบงค์ที่จำเลยกู้ผ่อนบ้านอยู่) ยังไม่พอ หรือไปหัก

หนี้จากบัตรเครดิตได้ก็ไม่หมด แต่โจทก์พอใจอยากยึด

จะด้วยความหมั่นไส้ (เป็นหนี้ แต่เือกมีบ้านอยู่สบาย) หรืออะไรก็

แล้วแต่


หัดหาความรู้ หรือกระทู้ตัวอย่างด้วยตัวเองบ้างนะครับ จะนั่ง

ถามเล่นๆ ตอบเล่นๆ อย่างนี้ ทำเป็นเด็กไปได้



www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=821&Itemid=29#821

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=10046

test.led.go.th/faqn/sara.asp?nomod=c&page=5

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=9039

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=24828

ถ้ายังสงสัยต่อเรื่องบ้าน ช่วยโทรสายด่วน
คุณอาไพโรจน์ หรือคุณนกกระจอกเทศค่ะ

ส่วนเคสที่น้องอนาคินว่า ก็จริงค่ะ เพราะกฎหมาย
ได้ให้สิทธิเจ้าหนี้ค่ะ เราเคยบอกหลายครั้ง
หลังไมค์ว่า อย่าชะล่าใจ หนี้คุณอาจแค่
หลักหมื่น แต่บ้านหลังละล้าน หรือบ้านติดจำนอง
เขาก็ยึดได้ค่ะ เพราะ
1. คุณยังไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา
2. มีกฎหมายรองรับค่ะ

งง ....ครับ

ขอ ขอบคุณทุกความเห็นครับ