คลินิกแก้หนี้ไม่อนุมัติ แจ้งว่าเป็นสินเชื่อมีหลักประกัน ทั้งๆที่มีบัตรก่อนบ้าน

จากการติดตามอ่านกระทู้ของชมรม เราเลยเลือกวิธีแก้หนี้ด้วยการหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิตตั้งแต่กลางปีที่แล้ว เพื่อลุ้นคลีนิคแก้หนี้จะเปิดเฟสใหม่ แล้วก็เปิดจริงๆ 

วันที่ 13/02/2564 จึงทำการสมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ ด้วยหนี้บัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ ยอดหนี้ 70,000 บาท และ ธนาคารกสิกร 200,000 บาท

ระหว่างนั้นก็มีการติดตามหนี้ของธนาคารกสิกรโดยเจเอ็มทีเรื่อยมาแทบทุกวัน เราก็รับสายตลอด และเราได้แจ้งไปด้วยว่าเรามีการสมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้กำลังรอผลอยู่ เจ้าหน้าที่เจเอ็มทีบอกว่าเราไม่น่าผ่าน เพราะสินเชื่อของเราเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักประกัน เราก็สงสัยมากว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะเรามีบัตรเครดิตกสิกรก่อนหน้าที่จะกู้ซื้อบ้านกับกสิกรหลายปี 

วันที่ 24/03/2564 เราเลยโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์กสิกร เพื่อสอบถามข้อมูลตามที่เจเอ็มทีกล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่โอนสายให้ฝ่ายงาน แจ้งว่าบัตรเครดิตของเราเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน และได้สอบถามชื่อบริษัทที่ติดตามทวงหนี้เราด้วย หลังจากนั้นเจเอ็มทีไม่เคยพูดถึงกรณีนี้อีกเลย ถามแค่ว่าทราบผลจากคลินิกแก้หนี้รึยัง

ส่วนธนาคารกรุงเทพ แทบไม่มีการโทรติดตามทวงหนี้เลย

วันที่ 17/04/2564 ได้รับการติดต่อจากคลินิกแก้หนี้ว่า ผลอนุมัติ เฉพาะยอดของธนาคารกรุงเทพ แต่ของกสิกร ธนาคารไม่อนุมัติเนื่องจากเป็นสินเชื่อมีหลักประกัน เราเลยติดต่อเข้าคอลเซ็นเตอร์กสิกรอีกครั้ง สอบถามว่าสินเชื่อเราสรุปมีหรือไม่มีหลักประกันกันแน่ คอลเซ็นเตอร์ก็แจ้งว่าเป็น สินเชื่อไม่มีหลักประกัน

ขอคำปรึกษา
1. จากกรณีดังกล่าว เราควรทำอย่างไรต่อไปดี อยากเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้เพราะผ่อนน้อยกว่าปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร เราค่อนข้างมั่นใจว่าเรามีบัตรเครดิตก่อนซื้อบ้านแน่นอน ไปย้อนอ่านสัญญากู้บ้าน ยอดกู้ก็เป็นราคาบ้านที่ตกลงกัน ไม่มีส่วนไหนบอกว่าเอาหนี้บัตรเครดิตมาพ่วงด้วย
2. และ หากว่าหนี้บัตรดังกล่าวกลายเป็น สินเชื่อที่มีหลักประกัน จริง (แบบงงๆไม่รู้ตัว) มีช่องทางชำระหนี้แบบไหนที่ไม่ตึงมือแบบคลินิกแก้หนี้บ้างคะ  

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

มีคำถามนะคะ
1.KB โดย JMT มันคือขายหนี้หรือเปล่าค่ะ เพราะ JMT ไม่เข้าร่วม
2.KB เป็นคนแจ้ง คลีนิกแก้หนี้ว่าไม่ผ่านดังนั้น คนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด คือ KB คลีนิกแก้หนี้ แค่ได้รับคำตอบว่า ไม่อนุมัติ เขาถึงทำไม่ได้ ต้องถามต้นทางค่ะ ไม่ให้ผ่านเพราะอะไร คำตอบมันมีชัดเจนอยู่แล้ว
ปล.เราผ่อนบ้านผ่อนรถ แล้วมีหนี้ที่สมัครคลีนิกแก้หนี้ ยังผ่านทุกแบงก์ ยกเว้น ขายหนี้

1. ถามทางเจเอ็มทีตั้งแต่ตอนแรกๆที่โทรมาว่ากสิกรขายหนี้ให้แล้วหรือ เจเอ็มทีบอกว่ายังไม่ขายหนี้ให้ แต่ได้รับมอบอำนาจมาทวงหนี้ ประมาณนี้อ่ะค่ะ
2. เผื่อมีท่านอื่นๆเคยเจอเคสแบบเราอ่ะค่ะ มีบัตรเครดิตก่อนกู้บ้าน แต่ดันมากลายเป็นหนี้มีหลักประกันสะงั้น เลยอยากถามว่าแก้ไขอย่างไรได้บ้าง แล้วแก้ได้มั้ย จะได้ทำเรื่องสมัครคลินิกแก้หนี้เข้าไปใหม่ค่ะ 

1.แล้ว กสิกร แจ้งรายละเอียด เกี่ยวกับการไม่อนุมัติ คลีนิกแก้หนี้ หนี้ตัวนี้อย่างไรบ้างค่ะ แล้ว บอกเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน อะไรคือหลักประกันตัวหนี้นี้ละคะ
2.ถ้ากสิกร ปฎิเสธการสมัครคลีนิกแก้หนี้ จะสมัครกี่ครั้งก็ไม่น่าจะได้
3.อยากเห็น หนี้ตัวนี้ ที่เป็น เอกสารหน้าบูโร ค่ะ เผื่อมันจะช่วย ให้มองเห็นชัด ว่าทำไม
ปล.เหตุผลของธนาคารต้องมีที่มาที่ไป ต้องรู้ให้ชัดให้เคลียร์ เพื่อประโยชน์ของตัวเองค่ะ แล้วกสิกร เป็นธนาคารที่เน้นเอกสารชัดเจนมาก เขาไม่ตอบลอยๆ แบบนี้ค่ะ แล้วหนี้บัตรเครดิต มันไม่เคยต้องใช้หลักประกันใดๆ อยู่แล้ว นอกจากสินเชื่อ คุณลองตั้งสติ ถามธนาคารใหม่นะคะ แยกเป็นรายการรายการไป

1. ทางคอลเซ็นเตอร์กสิกร แจ้งว่าหนี้เราเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกันค่ะ เราก็เลยไม่รู้ว่าที่ข้างในปฏิเสธและบอกว่าเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน อะไรเป็นหลักประกันนั้น เค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ ติดต่อเรากลับมาอีกทีค่ะ 
2. ฝันสลาย T^T 
3. แนบไฟล์หน้าบูโรมาให้ช่วยดูนะคะ ไม่รู้แนบถูกรึเปล่าค่ะ ทำไม่ค่อยเป็น แหะๆ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ หากเจ้าหน้าที่กสิกรติดต่อมาแล้วจะมาอัพเดตอีกทีค่ะ ตอนนี้พยายามคิดหัวแทบแตกว่าไปขอทำธุรกรรมอะไรกับกสิกรมาบ้าง นอกจากบัญชีเงินฝาก บัตรเครดิต บ้าน ก็นึกไม่ออกแล้ว แงๆๆๆ

คงต้องรอ KB ทางเดียวแล้วค่ะ ดูบูโร ก็เป็นหนี้บัตรเครดิตโดยทั่วไป ไม่มีอะไร รอตามข้อมูลที่ KB แจ้งนะคะ

ขอสอบถามเป็นความรู้ครับพอดีผมไปขอเครดิตบูโรแต่ยังไม่เข้าใจสถานะบัญชีที่สามารถเข้าร่วมคลีนิคแก้หนี้ได้รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับกลัวว่ายื่นไปแล้วไม่เข้าเงื่อนไขขอบคุณครับ

Badman เขียน: ต้องตามกับกสิกรครับแล้วเอาผลที่แจ้งจากกสิกรไปแจ้งคลินิคแก้หนี้อีกทีเพราะต้องคุยหลายรอบครับ

ล่าสุดวันนี้ทางเจเอ็มทีโทรมา บอกว่าได้รับเรื่องจากคอลฯที่เราโทรไปเมื่อวันก่อนให้ชี้แจงข้อมูล (เราก็นึกว่าคนที่จะเป็นฝ่ายชี้แจงข้อมูลจะเป็นคนจากธนาคารสะอีก) เจเอ็มทีบอกว่ากสิกรเอาหนี้บัตรเครดิตรวมกับหนี้บ้านที่มี แม้จะมีบ้านภายหลัง (เสนอให้ปรับโครงสร้างหรือปิดบัตรไม่มีส่วนลด) หลังจากวางสายเราก็ยังสงสัยว่าทำงี้ได้ด้วยหรอ เลยโทรเข้าคอลฯกสิกรอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบ เลยลองพยายามโทรเข้า 1213 ไม่เจอคนเลยค่ะ เลยลองส่งอีเมล์ไปที่ธปท.ดู This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เผื่อเค้าจะไขความกระจ่างและอาจจะช่วยได้ 

มีคำแนะนำบ้างมั้ยคะ ว่าควรทำไงต่อดี 

tatoon เขียน: ขอสอบถามเป็นความรู้ครับพอดีผมไปขอเครดิตบูโรแต่ยังไม่เข้าใจสถานะบัญชีที่สามารถเข้าร่วมคลีนิคแก้หนี้ได้รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับกลัวว่ายื่นไปแล้วไม่เข้าเงื่อนไขขอบคุณครับ

จากรูปด้านบน สถานะเลข 3 ค้างชำระ 91-120 วัน ค่ะ เราสมัครผ่านของธนาคารกรุงเทพเจ้าเดียวค่ะ 

Tanistha เขียน:

Badman เขียน: ต้องตามกับกสิกรครับแล้วเอาผลที่แจ้งจากกสิกรไปแจ้งคลินิคแก้หนี้อีกทีเพราะต้องคุยหลายรอบครับ

ล่าสุดวันนี้ทางเจเอ็มทีโทรมา บอกว่าได้รับเรื่องจากคอลฯที่เราโทรไปเมื่อวันก่อนให้ชี้แจงข้อมูล (เราก็นึกว่าคนที่จะเป็นฝ่ายชี้แจงข้อมูลจะเป็นคนจากธนาคารสะอีก) เจเอ็มทีบอกว่ากสิกรเอาหนี้บัตรเครดิตรวมกับหนี้บ้านที่มี แม้จะมีบ้านภายหลัง (เสนอให้ปรับโครงสร้างหรือปิดบัตรไม่มีส่วนลด) หลังจากวางสายเราก็ยังสงสัยว่าทำงี้ได้ด้วยหรอ เลยโทรเข้าคอลฯกสิกรอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบ เลยลองพยายามโทรเข้า 1213 ไม่เจอคนเลยค่ะ เลยลองส่งอีเมล์ไปที่ธปท.ดู This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เผื่อเค้าจะไขความกระจ่างและอาจจะช่วยได้ 

มีคำแนะนำบ้างมั้ยคะ ว่าควรทำไงต่อดี 

การร้องเรียน กับ แบงก์ชาติ เป็นเรื่องที่ถูกต้องเลยค่ะ
ในฐานะที่เคยร้องเรียนแล้ว แบงก์ชาติ เขาคอยช่วยเหลือนะคะ
ถ้ามองหลัก บัตรเครดิตเดี่ยวๆ หนี้ก้อนหนี้ สามารถเข้าร่วมคลีนิกแก้หนี้ ได้เลย
แต่แบงก์ชาติ ก็จะเปิดประเด็นว่า การจะตอบรับว่าหนี้ก้อนหนี้ จะให้เข้าคลีนิกแก้หนี้ได้ไหม
มันเป็นสิทธิ์ ของกสิกรไทย เต็ม ๆ คลีนิกแก้หนี้ ก็ได้แต่ ตอบเสียงอ่อย ๆ ว่า เขาไม่อนุมัติ เราก็ทำอะไรไม่ได้

แต่อย่างน้อย ขอให้ไฟว์ ไว้ก่อนค่ะ เพื่อผลประโยชน์ของเรา

เคยเห็นตัวอย่าง ของยูโอบี ก็ไม่ค่อยยอมอนุมัติ ให้เข้าร่วมคลีนิกแก้หนี้ ทั้งๆ ที่ เงื่อนไขครบ

ยังดีกว่าไม่ได้ลองค่ะ สู้สู้

กสิกร ถ้ามีแนวทางในการบริหารแบบนี้จริง วงการหนี้บัตรเครดิต สะเทือนแน่ๆ เลย

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ สงสัยจิต่อรองไม่ได้ T^T  ไว้อัพเดตนะคะหากมีอะไรคืบหน้า