เป็นหนี้ 600,000 บาทในระยะเวลา 6 เดือน

เริ่มจากเดือนกรกฎาคม ปี 63 เป็นคนไม่มีหนี้บัตรเครดิตค่ะได้เงินเดือน 28,600 บาท มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนดังนี้ค่ะ
1.กู้เงินซื้อบ้าน900,000 บาทธนาคาร TMB ผ่อนเดือนละ  7,000 บาท
2.ให้เงินแม่3,000 บาท
3.ค่าเดินทางไปทำงานและค่ากินอยู่15,000 บาทรวมค่าใช้จ่ายของลูกด้วย
4.ค่าน้ำไฟฟ้าค่าโทรศัพท์ ค่าช้อปปิ้ง รวม 3000 บาท สรุปไม่เหลือเก็บและไม่มีหนี้เพิ่มค่ะ(อยู่ได้ปกติดี)  
เริ่มก่อหนี้เดือนเมื่อสิงหาปี 63ได้นำทอง 3บาท ไปจำนำได้เงินมาลงทุน ก็ได้รายได้เพิ่มอยู่ค่ะแต่ก็เสียหมด เลยหันไปกดเงินสดจากบัตรเครดิตค่ะ  
กดเงินมา 5 ธนาคาร รวมหนี้ 500,000 และหนี้จากการจำนำอีก 60,000 บาทค่ะ
1.SCB ยอด 43,000  เงินโอนเข้าบัญชี  (สามารถจ่ายขั้นต่ำได้เดือนละ 1,400บาท)
2.กรุงศรี ยอด 60,000   กดเงินสด
3. KTC ยอด90,000   กดเงินสด
4. UOB ยอด60,000   เงินโอนเข้าบัญชี  จ่ายมา 3 งวด 
5. UOB ยอด80,000    กดเงินสดยังไม่เรียกเก็บ เริ่มกดมาเดือน มกรา 64
6.Citi bank 186,000 จ่ายงวดละ 7,300 เริ่มจ่ายมา 1 งวดแล้วค่ะ
ขอสอบถามเพื่อนๆว่าควรหยุดจ่า Citi ไปก่อนแล้วหาเงินก้อนมาจ่ายแบบเดือนเว้นเดือนไปดีกว่ามั้ยและ UOB หยุดจ่ายไปก่อนอีกกี่เดือนจะโดนฟ้องค่ะ
ตอนนี้มีทรัพย์สินเป็น ที่ดินและบ้าน 1 ไร่ ราคาประเมิน 350,000 บาท จะนำที่ดินไปเข้าธนาคารแล้วนำเงินมาจ่ายแต่โทรไปที่ออมสิน เจ้าหน้าที่บอกไม่คุ้มได้เงินแค่แสนกว่าบาทแล้วต้องเสียค่าจดจำนองอีก 1% ค่ะ
หนี้กู้ซื้อบ้านจากTMB สามารถหยุดจ่ายหรือปรับโครงสร้างหนี้ได้หรือไม่ค่ะ ทองที่นำไปจำไว้คาดว่าต้องปล่อยขาดไป(เสียใจมาก)
KTC กับ Citi bank ควรหาเงินมาปิดตัวไหนก่อนดีค่ะ  2 เจ้านี้น่าจะโหดมากที่อ่านมา 

กำลังวางแผนปิดที่ละบัตรค่ะ แต่ด้วยเงินเดือนน้อย เก็บต่อเดือน ได้ไม่ถึงหมื่นเลยค่ะ เลยจะเอาที่ดินไปเข้าธนาคาร เพื่อหาทางเอาเงินก้อนมาช่วยปิด แล้วผ่อนยอดน้อยๆแต่นานๆแทนไปก่อนค่ะ แต่ยังไม่มีธนาคารไหนรับจำนองเลยค่ะ 

wan001 เขียน: กำลังวางแผนปิดที่ละบัตรค่ะ แต่ด้วยเงินเดือนน้อย เก็บต่อเดือน ได้ไม่ถึงหมื่นเลยค่ะ เลยจะเอาที่ดินไปเข้าธนาคาร เพื่อหาทางเอาเงินก้อนมาช่วยปิด แล้วผ่อนยอดน้อยๆแต่นานๆแทนไปก่อนค่ะ แต่ยังไม่มีธนาคารไหนรับจำนองเลยค่ะ [/quote ไม่แนะนำกู้หนี้ไปใช้หนี้ค่ะ ไม่เกิดประโยชน์ ลองศึกษากระทู้แนะนำเยอะๆ นะคะ แล้วค่อยๆ วางแผนนะคะ

เพิ่งเริ่มเป็นหนี้ใหม่ๆแค่เดือนกรกฎาคม63เอง ทำไมยอดหนี้เยอะมาก แล้วเงินที่กดออกมาไปไหนหมด เห็นแบบนี้แล้วผมว่าแก้ยากมากยิ่งถ้าเอาบ้าน หรือ ที่ดินไปกู้อีกนี่ยิ่งเพิ่มหนี้ และปัญหาจะไม่สามารถกู้ได้อีกด้วยเพราะถ้าธนาคารตรวจบูโรหนี้คุณเต็มเพดานแล้วเมื่อเทียบกับรายรับต่อเดือน
ถ้าปล่อยโดนฟ้องแน่ๆ

ดอกเบี้ยของบัตรกดเงินจะแพงมากๆ ครับ ควรระวังอย่างยิ่ง

1.SCB ยอด 43,000
>> มีส่วนลด 30%
 
2.กรุงศรี ยอด 60,000   กดเงินสด
>> มีส่วนลด 20-30%  ปิดภายใน 3 งวด ถ้าฟ้องมีแบ่งจ่ายสูงสุด 24 งวด

3.KTC ยอด90,000   กดเงินสด
>> 3 เดือนส่งฟ้อง

4.UOB ยอด60,000   
>> เขี้ยวมาก 
5.UOB ยอด80,000    กดเงินสดยังไม่เรียกเก็บ เริ่มกดมาเดือน มกรา 64
>> เขี้ยวมาก

6.Citi bank 186,000 จ่ายงวดละ 7,300 เริ่มจ่ายมา 1 งวดแล้วค่ะ
>> ยอดสูงน่าจะฟ้องเร็ว

เงินเดือนสูง รายจ่ายสูง ก็พยายามลดค่าใช้จ่าย วางแผนดีๆ ครับ
อย่าเอาหนี้มาปิดหนี้โดยเด็ดขาด เพื่อนผมบางคนทำอยู่ เตือนไม่ฟังก็ปล่อย วนลูปกันต่อไป อย่าคิดว่าบัตรหรือเงินกู้ต่างๆ เผื่อไว้ยามฉุกเฉิน มันไม่ควรทำอย่างยิ่ง เงินฉุกเฉินคือเงินออม ต่างหาก
ออมมาก ออมน้อย ก็ดีกว่าไม่ออม สู้ๆ ครับ

ขอบคุณมากเลยนะคะ สำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้มีเงินอยู่120,000 บาท ควรนำเงินไปปิดบัตรไหนก่อนค่ะ
และถ้าหยุดจ่ายเงินงวดค่าผ่อนบ้านด้วย(ผ่อนเดือนละ 7,000 บาท) ลองคำนวณดูแล้วเราสามารถที่จะเก็บเงินได้ เดือนละ 12,000ค่ะ
หากส่งฟ้องศาลแล้วมีทางไหนบ้างที่จะไม่โดนบังคับคดี(ไม่อยากโดนหักเงินเดือนส่งกรมบังคับคดีค่ะ เพราะจะมีผลกระทบต่องานที่ทำ)

เมื่อวันที่ 25 มกราคม  64 ได้ยื่นขอตรวจบูโร สถานะยังปกติอยู่ค่ะ จริงๆอยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียวค่ะ เพราะสามารถจ่ายได้เดือนละ 5,000 บาท แล้วสิ้นปีจะมีโบนัสมาประมาณ 3 เดือนค่ะ  ที่เลือกวิธีการรวมหนี้เพราะเราไม่อยากให้มีเอกสารกรมบังคับคดีมาหักเงินเดือน มันจะมีผลกระทบต่องานค่ะ  หากส่งฟ้องศาลแล้วเราไม่มีเงินก้อนแน่ๆค่ะ

wan001 เขียน: ขอบคุณมากเลยนะคะ สำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้มีเงินอยู่120,000 บาท ควรนำเงินไปปิดบัตรไหนก่อนค่ะ
และถ้าหยุดจ่ายเงินงวดค่าผ่อนบ้านด้วย(ผ่อนเดือนละ 7,000 บาท) ลองคำนวณดูแล้วเราสามารถที่จะเก็บเงินได้ เดือนละ 12,000ค่ะ
หากส่งฟ้องศาลแล้วมีทางไหนบ้างที่จะไม่โดนบังคับคดี(ไม่อยากโดนหักเงินเดือนส่งกรมบังคับคดีค่ะ เพราะจะมีผลกระทบต่องานที่ทำ)

การเลือกไม่ชำระ ค่าผ่อนบ้าน เป็นวิธีการที่ไม่ควรทำเลย
ควรเคลียร์ พวกบัตรกดเงินสด หรือ บัตรเครดิต ก่อนค่ะ
บ้าน และ รถ ไม่ควร่หยุดชำระเลย ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ทำเรื่องช่วงโควิท จะดีกว่านะคะ
แต่เล็งเรื่องดอกเบี้ยด้วย บางอัน ดอกเดินตลอด ต้องเลือก ธนาคารที่ให้หยุดโควิท แต่ดอกไม่เดินด้วยนะคะ

แก้ไขปัญหาให้ตรงจุดค่ะ

wan001 เขียน: เมื่อวันที่ 25 มกราคม  64 ได้ยื่นขอตรวจบูโร สถานะยังปกติอยู่ค่ะ จริงๆอยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียวค่ะ เพราะสามารถจ่ายได้เดือนละ 5,000 บาท แล้วสิ้นปีจะมีโบนัสมาประมาณ 3 เดือนค่ะ  ที่เลือกวิธีการรวมหนี้เพราะเราไม่อยากให้มีเอกสารกรมบังคับคดีมาหักเงินเดือน มันจะมีผลกระทบต่องานค่ะ  หากส่งฟ้องศาลแล้วเราไม่มีเงินก้อนแน่ๆค่ะ

การรวมหนี้ของคุณคืออะไร
กู้หนี้ มาชำระหนี้ทั้งหมด
เป็นวิธีการที่ไม่แนะนำอีกเช่นกัน

รบกวนคุณเข้าไปศึกษากระทู้ ที่มันมีเคส คล้าย ๆ กับคุณ เพื่อหาความรู้
และ วิธีการวางแผนที่ถูกต้องนะคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่คุณเลือกเอาเองนะคะ
เพราะสังเกตการแก้ปํญหาของคุณ มันไม่ใช่สิ่งที่ชาวสมาชิก ที่นี่แนะนำเลย

อย่าแก้ปัญหา โดยการเพิ่มปัญหานะคะ สู้สู้ค่ะ

tulunu เขียน:

wan001 เขียน: ขอบคุณมากเลยนะคะ สำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้มีเงินอยู่120,000 บาท ควรนำเงินไปปิดบัตรไหนก่อนค่ะ
และถ้าหยุดจ่ายเงินงวดค่าผ่อนบ้านด้วย(ผ่อนเดือนละ 7,000 บาท) ลองคำนวณดูแล้วเราสามารถที่จะเก็บเงินได้ เดือนละ 12,000ค่ะ
หากส่งฟ้องศาลแล้วมีทางไหนบ้างที่จะไม่โดนบังคับคดี(ไม่อยากโดนหักเงินเดือนส่งกรมบังคับคดีค่ะ เพราะจะมีผลกระทบต่องานที่ทำ)

การเลือกไม่ชำระ ค่าผ่อนบ้าน เป็นวิธีการที่ไม่ควรทำเลย
ควรเคลียร์ พวกบัตรกดเงินสด หรือ บัตรเครดิต ก่อนค่ะ
บ้าน และ รถ ไม่ควร่หยุดชำระเลย ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ทำเรื่องช่วงโควิท จะดีกว่านะคะ
แต่เล็งเรื่องดอกเบี้ยด้วย บางอัน ดอกเดินตลอด ต้องเลือก ธนาคารที่ให้หยุดโควิท แต่ดอกไม่เดินด้วยนะคะ

แก้ไขปัญหาให้ตรงจุดค่ะ

  เรื่องผ่อนบ้าน ตอนนี้ทำเรื่องหยุดพักชำระหนี้ช่วงโควิทไปแล้วค่ะ แต่โดนดอกเบี้ยวิ่ง TMB  

ตอนนี้ทาง KTC ฟ้องศาลแล้ว มีหมายศาลมาที่บ้านแล้วค่ะ (เราไม่สามารถไปศาลได้เพราะตัวมาอยู่กทม.) ต้องไปขึ้นศาลที่ต่างจังหวัด
อยากรู้ว่า ธนาคารอื่นสามารถยื่นฟ้องศาลได้อีกมั้ยค่ะ 

วันนี้เจ้าหน้าที่​ของธ.ซิตี้​โทรมาให้จ่ายยอดเข้าไปเพื่อที่จะไม่ส่งฟ้องศาลค่ะ​ ควรจ่ายยอดเข้าไปก่อนหรือปล่อยให้ฟ้องไปก่อน​ ยอดที่ให้จ่าย7800บาท​
หากส่งฟ้องศาลยอดที่ต้องส่งต่อเดือนจะขอลดลงได้หรือไม่ค่ะ