อัพเดตแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่

เจอหนี้..แก้หนี้ ยังไงดี ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะหนี้แบบไหน แต่มีใจอยากแก้ปัญหาหนี้
เรามีแนวทางแก้หนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อย ต้องทำอย่างไร ไปที่ไหน
ลองดูกันได้ตรงนี้เลยครับ
.
หากใครต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถติดต่อ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร 1213 ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 16.30 น.
หรือช่องทางพิเศษฝากชื่อและเบอร์โทร.
เพื่อติดต่อกลับและแนะนำวิธีการกรอกลงทะเบียนมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ออนไลน์
สามารถคลิกที่นี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ bit.ly/2ZidpbV
.

เนื่องจากมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้ช่องทางติดต่อที่ โทร. 1213 ไม่สามารถรองรับได้ทันความต้องการ

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งทยอยโทร. ติดต่อกลับอย่างต่อเนื่องครับ ท่านสามารถฝากชื่อและเบอร์โทร.
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับที่ bit.ly/37fP7Dw หรือ
เพื่อความรวดเร็วท่านสามารถลงทะเบียนได้ด้วยตนเองได้ผ่านทาง www.1213.or.th/App/DMed/V1
ตั้งแต่วันนี้ - 14 เม.ย. 64 นี้ครับ
.
สำหรับประชาชนที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยออนไลน์ครั้งนี้ สามารถที่จะเข้ามาศึกษาข้อมูลได้ที่ลิงก์
bit.ly/2ZgRXnt ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยแต่ละประเภท รวมทั้งคลิปสอนการกรอกข้อมูลต่าง ๆ
อย่างละเอียดด้วยครับ

#แบงก์ชาติ #มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ #บัตรเครดิต #สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน #DEBTCLUB

มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
สมาชิกสามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินงานทางออนไลน์ได้แล้ว ที่นี่ครับ www.1213.or.th/App/DMed/V1/Status
.
สำหรับประชาชนที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยออนไลน์ครั้งนี้ ศึกษาข้อมูลได้ที่ลิงก์ bit.ly/2ZgRXnt
ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยแต่ละประเภท ธนาคารที่เข้าร่วมมหกรรม รวมทั้งคลิปสอนการลงทะเบียนอย่างละเอียดด้วยครับ
.
ท่านสามารถลงทะเบียนได้ด้วยตนเองได้ผ่านทาง www.1213.or.th/App/DMed/V1
ตั้งแต่วันนี้ - 14 เม.ย. 64 นี้ครับ
#แบงก์ชาติ #มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ #บัตรเครดิต #สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน #DEBTCLUB

Line open chat ของมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ถ้าลงทะเบียนไม่ได้ติดปัญหามีเจ้าหน้าที่ช่วยครับ
แต่ถ้าเป็นหนี้ของบริหารสินทรัพย์แนะนำว่า ให้เช็คอายุความก่อนไปตกลงอะไรครับ

ข่าวดี มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
ขยายระยะเวลาลงทะเบียนจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 64 เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสเข้ามาไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากและกว้างขวางยิ่งขึ้น
สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตนเองได้ผ่านทาง www.1213.or.th/App/DMed/V1 ครับ
.
3 สถานะลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรฯ ได้แก่
.
กลุ่มแรก เป็นหนี้บัตรฯ ที่ยังไม่เป็นหนี้เสียแต่รู้สึกฝืดเคือง หรือหนี้บัตรฯ ดี ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ โดยหยุดการจ่ายขั้นต่ำ ซึ่งใช้เวลานานกว่าหนี้จะลด และขอเปลี่ยนวงเงินสินเชื่อบัตร มาเป็นสินเชื่อแบบมีกำหนดเวลา ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยถูกลง จาก 16% เหลือ 12% สำหรับบัตรเครดิตโดยสามารถคงวงเงินที่เหลือไว้ใช้ได้ และประวัติเครดิตบูโรจะไม่เสีย
.
กลุ่มที่สอง เป็นหนี้บัตรฯ ที่เป็นหนี้เสียแล้ว ยังไม่ฟ้อง หรือฟ้องแล้วแต่ยังไม่พิพากษา สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 10 ปี ดอกเบี้ยต่ำเพียง 4%-7% ตามเงื่อนไขของคลินิกแก้หนี้
.
กลุ่มที่สาม เป็นหนี้บัตรฯ เป็นคดีมีคำพิพากษาแล้ว ไปจนถึงบังคับคดียึดทรัพย์แต่ยังไม่ขายทอดตลาด ซึ่งลูกหนี้กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญและถือเป็นความพิเศษของงานมหกรรมไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ คือ ปกติเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขั้นตอนนี้เจ้าหนี้มักจะไม่ยินยอมให้ผ่อนยาว แต่ผู้ให้บริการทางการเงินจำนวน 23 แห่งที่ร่วมโครงการ เห็นความจำเป็นที่ต้องผ่อนปรนเงื่อนไขให้ปฏิบัติได้จริง เพื่อช่วยให้ทุกฝ่ายเดินต่อไปได้ โดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ในชั้นบังคับคดีเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกันได้อีกครั้งหนึ่ง โดยลูกหนี้จะผ่อนชำระเฉพาะเงินต้น นานสูงสุด 5 ปี และยกดอกเบี้ยที่ค้างให้หากลูกหนี้จ่ายชำระตามแผนได้สำเร็จ
.
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน แบงก์ชาติ โทร 1213 วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. กรณีนอกเวลาทำการท่านสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์มาที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อที่เจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติจะได้ติดต่อกลับไป
.
รายละเอียดทั้งหมดที่ bit.ly/2QlwEQH
#แบงก์ชาติ #ขยายระยะเวลาลงทะเบียน #มหกรรมไกล่เกลี่ย

UPDATE 23 รายชื่อผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
สำหรับสถานะหนี้ NPL ที่มีคำพิพากษาบังคับคดีแล้ว ดูที่นี่เลยครับ
.
อย่าลืม อ่านรายละเอียดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรฯ ก่อนลงทะเบียนนะครับ bit.ly/2OVAe3y
.
สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน แบงก์ชาติ โทร 1213 วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. กรณีนอกเวลาทำการท่านสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์มาที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อที่เจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติจะได้ติดต่อกลับไป KTC เจมันนี่ ไม่เข้าร่วมรายการ
#แบงก์ชาติ #มหกรรมไกล่เกลี่ย #หนี้บัตรเครดิต #สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน #Debtclub

มาแล้วคร้าบ มหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ เริ่ม 1 มิ.ย. นี้
เพื่อเป็นช่องทางช่วยลดภาระของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด
19 ระลอกใหม่ ในการชำระหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
.
ความพิเศษของมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ครั้งนี้จะครอบคลุมลูกหนี้เช่าซื้อบุคคลธรรมดาทุกกลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) หรือเป็น NPL แล้วแต่รถยังไม่ถูกยึด
กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้วแต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด และ
กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้เช่าซื้อส่วนขาด
.
โดยมีเป้าหมายให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่รายได้ลดลงในช่วงโควิด 19 สามารถเจรจาผ่อนชำระหนี้ได้ตามความสามารถ
เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำรถที่ถูกยึดกลับไปใช้ในการประกอบอาชีพและนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นเดิม
ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์ช่วงนี้อีกทางหนึ่ง
.
ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อภายใต้การกำกับของแบงก์ชาติทุกแห่ง จะต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3

หากลูกหนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ "ทางด่วนแก้หนี้" ของแบงก์ชาติ หรือ โทร. 1213
.
ทั้งนี้ ขอให้ลูกหนี้ศึกษาวิธีการกรอกข้อมูลอย่างละเอียด
และกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน
เพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจะทำให้คำขอไกล่เกลี่ยของท่านไม่ได้รับการพิจารณาช่วยเหลือ
.
สำหรับใครที่ไม่ถนัดในการกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อ
ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213
เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือในการกรอกข้อมูล ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา
8.30-16.30 น. หากนอกเวลาทำการสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หรือส่งอีเมลมาที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับครับ
.
อ่านรายละเอียดทั้งหมดก่อนลงทะเบียนได้ที่ bit.ly/3p6yX7o

#แบงก์ชาติ #มหกรรมไกล่เกลี่ย #สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

มหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ครอบคลุมลูกหนี้กลุ่มไหน มีความพิเศษอย่างไร และมีผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อกี่แห่งเข้าร่วมบ้าง ดูได้ที่นี่เลยครับ
.
ความพิเศษของมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ครั้งนี้จะครอบคลุมลูกหนี้เช่าซื้อบุคคลธรรมดาทุกกลุ่ม ทุกสถานะ ได้แก่
กลุ่มที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) หรือเป็น NPL แล้วแต่ "รถยังไม่ถูกยึด"
กลุ่มลูกหนี้ที่ "รถถูกยึดแล้ว" แต่ยัง "ไม่ถูกขายทอดตลาด"
กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมี "หนี้เช่าซื้อส่วนขาด"
.
ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อภายใต้การกำกับของแบงก์ชาติทุกแห่ง จะต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 หากลูกหนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ "ทางด่วนแก้หนี้" ของแบงก์ชาติ หรือ โทร. 1213
.
ทั้งนี้ ขอให้ลูกหนี้ศึกษาวิธีการกรอกข้อมูลอย่างละเอียด และกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจะทำให้คำขอไกล่เกลี่ยของท่านไม่ได้รับการพิจารณาช่วยเหลือ
.
สำหรับใครที่ไม่ถนัดในการกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือในการกรอกข้อมูล ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หากนอกเวลาทำการสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือส่งอีเมลมาที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับครับ
.
อ่านรายละเอียดทั้งหมดก่อนลงทะเบียนได้ที่ bit.ly/3p6yX7o
#แบงก์ชาติ #มหกรรมไกล่เกลี่ย #สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

ผ่อนต่อไม่ไหวควรเข้าร่วมโครงการหรือทำเรื่องคืนรถโดยใช้ทนายความที่มีประสบการณ์
หรือเปลี่ยนสัญญากับลิสซิ่งให้ถูกต้อง
อย่าแก้ปัญหาเรื่องรถโดยใช้วิธีจำนำจอด ขายเต๊นท์แบบโอนลอย หาคนผ่อนต่อโดยไม่เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ เพราะ
รถยนต์ที่เช่าซื้อไม่ใช้ชื่อคุณ รถเป็นของไฟแนนซ์ อาจโดนคดีอาญายักยอกทรัพย์ได้

หยุดจ่าย+เก็บเงินรอเข้าคลินิคแก้หนี้ปีหน้าครับหรือรอปิดอีซี่บายที่ส่วนลด 40 - 50%

ประกาศอัตราค่าธรรมเนียม-ค่าใช้จ่ายทวงหนี้ใหม่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้เรื่องการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา16 (1) ประกอบมาตรา 13 (1) แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1ประกาศนี้เรียกว่า“ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้เรื่องการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ
ในการทวงถามหนี้”

ข้อ 2ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ3 ในประกาศนี้“ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้” หมายความว่าจำนวนเงินที่ได้กำหนดไว้เป็นค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้จากลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้ เพื่อการทวงถามหนี้โดยต้องมีหลักฐานหรือเอกสารเกี่ยวกับการทวงถามหนี้ ให้สามารถตรวจสอบได้แต่ไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการติดตามเอาทรัพย์กลับคืน

“รอบการทวงถามหนี้” หมายความว่ารอบระยะเวลาเพื่อการทวงถามหนี้โดยนับตั้งแต่วันผิดนัดชำระหนี้ของงวดนั้นจนถึงวันครบกำหนดชำระหนึ่งงวดถัดไป ทั้งนี้การนับหนึ่งรอบระยะเวลาดังกล่าวจะต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน

ข้อ4 เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ และมีการทวงถามหนี้ผู้ทวงถามหนี้อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใดๆในการทวงถามหนี้ได้ดังนี้

(1) ไม่เกินห้าสิบบาทต่อรอบการทวงถามหนี้ ในกรณีลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระหนึ่งงวด
(2) ไม่เกินหนึ่งร้อยบาทต่อรอบการทวงถามหนี้ในกรณีลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระมากกว่าหนึ่งงวด

สำหรับหนี้ประเภทให้เช่าซื้อ หรือให้เช่าแบบลิสซิ่งในสินค้าประเภทรถตามกฎหมายว่า ด้วยรถยนต์อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้เพิ่มเติมจากวรรคหนึ่งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการลงพื้นที่ติดตามทวงถามหนี้ ตามที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ไม่เกินสี่ร้อยบาทต่อรอบการทวงถามหนี้และให้เรียกเก็บได้เฉพาะกรณีที่ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระมากกว่าหนึ่งงวด

ข้อ5 ห้ามมิให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆในการทวงถามหนี้ตามข้อ 4 สำหรับกรณีลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระหรือหนี้ที่ถึงกำหนดชำระสะสมที่ไม่เกินหนึ่งพันบาท

ข้อ6 ห้ามมิให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้อีกภายหลังจากได้รับชำระหนี้ครบตามจำนวน หรือมีการบอกเลิกสัญญาแล้วตามกฎหมายที่มา mgronline.com/uptodate/detail/9640000079841ที่มา www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/188/T_0028.PDF

ชวนมาทำความรู้จักกับ “โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน”
บริการใหม่ให้คำปรึกษาเรื่องการแก้ไขหนี้และความรู้ทางการเงิน
โดยทีมหมอหนี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย บสย. และ แบงก์ชาติ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/2WBAcBq
.
“โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน” กลไกสำคัญช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ
เพิ่มโอกาสให้ลูกหนี้สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ดีขึ้น
เปิดตัวแล้ววันนี้ครับ
.
ลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจ ศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์ เพื่อรับข้อแนะนำ และนำไปใช้แก้ปัญหาหนี้ด้วยตนเองทันที คลิกตรงนี้ได้เลยครับ www.bot.or.th/app/doctordebt/

ลูกหนี้ SMEs สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
และลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาเชิงลึก
ได้ทางเว็บไซต์โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร 1213 และสำนักงานส่วนภูมิภาคของแบงก์ชาติครับ.
หรือคลิกเลย www.bot.or.th/app/doctordebt/enterprise.html

#แบงก์ชาติ #หมอหนี้เพื่อประชาชน #managingdebt_measures #debtclub

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติมด้วยวิธีการรวมหนี้

ตามที่แบงก์ชาติได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เพื่อบรรเทาปัญหาของลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่องนั้น
ปัจจุบัน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง ภาคธุรกิจบางส่วนยังไม่สามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ
ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนทั่วไป ดังนั้น เพื่อเป็นทางเลือกในการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติม
แบงก์ชาติได้ร่วมกับสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้

ลูกหนี้สามารถนำสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่อยู่ภายใต้ผู้ให้บริการทางการเงิน
หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกัน อาทิ
บัตรเครดิต
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ
มารวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน
ซึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการทางการเงินสามารถลดอัตราดอกเบี้ยในส่วนของสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น
ให้เหลือไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี(Minimum Retail Rate: MRR)
และขยายระยะเวลาการชำระหนี้ตามความสามารถของลูกหนี้
โดยที่ผู้ให้บริการทางการเงินต้องให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอต่อการตัดสินใจของลูกหนี้
เช่น ข้อดีข้อเสียของการเข้าร่วมมาตรการ
ข้อมูลเปรียบเทียบภาระหนี้เดิมกับภาระหนี้ใหม่
และทางเลือกการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รูปแบบอื่นที่ลูกหนี้สามารถทำได้

ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการและแสดงข้อมูลว่าได้รับผลกระทบต่อผู้ให้บริการทางการเงินได้ตั้งแต่วันที่
1 กันยายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564




ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากการรวมหนี้
1. ช่วยลดภาระการชำระหนี้โดยที่ลูกหนี้ไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิตไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใด
รวมทั้งไม่ต้องจ่ายเบี้ยปรับการชำระหนี้ก่อนกำหนด (prepayment fee)
2. ยังสามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีลักษณะหมุนเวียนที่ยังเหลือได้



ที่มา www.bot.or.th/covid19/Pages/content/retail/debtconsolidation/default.aspx

ทำยังไงดี "ถูกบังคับคดี" เพราะจ่ายหนี้ไม่ไหว
.
หลาย ๆ คนคงมีคำถามมากมายว่า "หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ และถึงขั้นถูกสถาบันการเงินเจ้าหนี้ส่งฟ้องเพื่อดำเนินคดี
จนในท้ายที่สุดศาลพิพากษาแล้ว ต่อไปจะทำอย่างไร ติดต่อขอความช่วยเหลือจากใคร หรือที่ไหนได้บ้าง"
มาดูแนวทางตามเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตารางนี้กันครับ

ธปท. ออกมาตรการแก้หนี้ระยะยาวเพิ่มเติม ด้วยการรีไฟแนนซ์และการรวมหนี้
ที่มา: www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2021/Pages/n8764.aspx

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่
ธปท. ได้ออกมาตรการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
(non-bank) ให้ความช่วยความเหลือลูกหนี้ได้อย่างสอดคล้องกับสภาพปัญหาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ในแต่ละช่วงนั้น

เพื่อให้การช่วยเหลือขยายออกไปครอบคลุมกลุ่มลูกหนี้ที่มีหลักประกันประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในวงที่กว้างขึ้น ธปท.
จึงกำหนดให้มีแรงจูงใจในการสนับสนุนให้สถาบันการเงินทำการรวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น
(debt consolidation) เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี หรือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 
ด้วยการนำหลักประกันของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ในการช่วยลดภาระดอกเบี้ยและค่างวดในระยะยาว
นอกจากนี้ ธปท. ได้ดำเนินการลดข้อจำกัดการทำรีไฟแนนซ์ (refinance) หนี้
เพื่อส่งเสริมการแข่งขันของสถาบันการเงินในการรวมหนี้ให้กับลูกหนี้ควบคู่ไปด้วย


สาระสำคัญของมาตรการ สรุปดังนี้ 
1. ห้ามเรียกเก็บค่าปรับจากการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนครบกำหนด (prepayment fee) สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ เป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

2. ปรับปรุงแนวทางการรวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น (debt consolidation)
โดยขยายขอบเขตให้สามารถรวมหนี้ข้ามสถาบันการเงินและ/หรือผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นได้
จากเดิมที่สามารถรวมหนี้ได้เฉพาะหนี้ในสถาบันการเงินเดียวกัน  ทั้งนี้
ในกรณีที่สถาบันการเงินมีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว
จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้นได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิม 
ส่วนในกรณีที่รับโอนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (refinance)
มาจากสถาบันการเงินอื่น

สถาบันการเงินสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกหนี้ได้ สำหรับสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่นำมารวมหนี้ด้วย
ให้กำหนดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เป็นอัตราที่ใช้หลังการส่งเสริมการขาย
(teaser rate) บวกร้อยละ 2 ต่อปี
ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรายย่อยโดยทั่วไปอย่างมีนัย
โดย ธปท. ได้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การกำกับดูแล ทั้งการจัดชั้นหนี้
การกันเงินสำรอง และการดำรงเงินกองทุน
เพื่อลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินที่ช่วยเหลือลูกหนี้
สำหรับการรวมหนี้ที่ดำเนินการภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566
เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้

คาดว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะทยอยเสนอผลิตภัณฑ์การรวมหนี้ได้ภายในสิ้นเดือนธ.ค. 2564
โดยลูกหนี้สามารถติดต่อสถาบันการเงินโดยตรงเพื่อสมัครเข้าร่วมมาตรการ
ภายใต้มาตรการครั้งนี้ ธปท. ขอให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจเร่งดำเนินการเพื่อช่วยบรรเทาภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้
ตลอดจนกำหนดค่างวดการผ่อนชำระของลูกหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ของลูกหนี้ในสภาวการณ์ปัจจุบัน
เพื่อให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งลูกหนี้ สามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ดีที่สุด

ธนาคารแห่งประเทศไทย
22 พฤศจิกายน 2564 ข้อมูลเพิ่มเติม : ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
โทรศัพท์ : 1213
Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ยธ.เตรียมจัด "มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้" 25-26 กุมภาพันธ์นี้ ที่ไบเทคบางนา
ที่มา:https://www.bangkokbiznews.com/business/981281

กระทรวงยุติธรรม เตรียมจัด "มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้" 25-26 กุมภาพันธ์นี้ ที่ไบเทคบางนา "ลูกหนี้"
80,000 รายร่วมงาน พร้อม กยศ. ธนาคาร สถาบันการเงิน
หลังนายกฯให้นโยบายช่วยแก้หนี้ประชาชน เล็งจัดให้ครบทุกภาคทั่วประเทศ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนว่า
กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและกรมบังคับคดี จะจัดงาน "มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้"
ในวันที่ 25-26 ก.พ. 2565 ที่ไบเทค บางนา

โดยจะมีการแก้ปัญหา
- หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
- การแก้ปัญหาหนี้สินบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
- การแก้ปัญหาหนี้สินเช่าซื้อรถยนต์ และ
- การปรับปรุงบริหารอำนวยความสะดวกการไกล่เกลี่ย จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ย 722 ศูนย์ทั่วประเทศ

โดยเบื้องต้นได้แจ้ง "ลูกหนี้" ให้เข้าร่วมงานประมาณ 80,000 รายในเขต กทม.และปริมณฑล
ซึ่งมีสถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆและกยศ. เข้าร่วมงานในครั้งนี้

กรมบังคับคดี เผยผล ‘ไกล่เกลี่ย’ ทั่วไทยสุขใจปีใหม่65 เข้าเป้าช่วยได้ 372 เรื่อง
ที่มา www.matichon.co.th/local/news_3153721

กรมบังคับคดี เผยผล ไกล่เกลี่ย ทั่วไทยสุขใจปีใหม่ 2565 เป็นไปตามเป้าช่วยได้ 372 เรื่อง
เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ย หนี้กยศ.-บัตรเครดิต เริ่ม 25-26 ก.พ. นี้

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ที่กำหนดนโยบายตั้งเป้าหมายในปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน
และเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน
กรมบังคับคดีจึงได้จัดโครงการไกล่เกลี่ยทั่วไทย สุขใจปีใหม่ 2565
ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2564 – 14 มกราคม 2565
โดยศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด
และสาขาทั่วประเทศ จำนวน 117 แห่ง
ที่ได้ร่วมกับสถาบันการเงิน บริษัทบัตรเครดิต บริษัทลีสซิ่งเช่าซื้อทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

โดยเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้
ลูกหนี้ ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ สะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม
ประหยัดเวลาไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้
และลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้
และยังช่วยให้ไม่ต้องถูกบังคับคดีรวมไปถึงการถูกยึด อายัดทรัพย์สิน ซึ่งผลจากการ
จัดโครงการดังกล่าวมีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยฯ 512
เรื่อง ทุนทรัพย์ จำนวน 425,562,024.15 บาท ไกล่เกลี่ยผลสำเร็จ 372 เรื่อง
ทุนทรัพย์ 326,584,904.86 บาท คิดเป็นร้อยละ 96.37
ของความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยฯ

นางทัศนีย์ เผยอีกว่า วันที่ 25 – 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร
กรมบังคับคดีและกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เตรียมจัดงาน
“มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ซึ่งเป็นหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในชั้นก่อนฟ้องและหลังมีคำพิพากษา ได้แก่ หนี้กยศ. หนี้บัตรเครดิต ลิสซิ่งส่วนบุคคล และหนี้เช่าซื้อรถยนต์
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
กรมบังคับคดี โทรศัพท์หมายเลข 0 2887 4840 , 0 2887 5072
หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79
ลงทะเบียนตามลิงค์นี้ครับ
docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScJk4Go-Wi5xUIthQ_oBoJy-JqHMxiuV3C3cNPtX8HVXX7eeg/viewform

Update ล่าสุด (20 ม.ค.) รายชื่อสถาบันการเงินที่มี "มาตรการรวมหนี้" ทั้งในธนาคารและต่างธนาคาร
โดยลูกหนี้สามารถติดต่อสถาบันการเงินโดยตรงเพื่อสมัครเข้าร่วมมาตรการได้ที่
bit.ly/3cVMnOd



สังเกตได้ว่าไม่มีนอนแบงค์ชื่อดังๆ เข้าร่วมเลยครับ

ขอบคุณครับที่แชร์ประสบการณ์