ผมอยากขอคำแนะนำวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับบัตรเครดิต

สวัสดีครับ ผมอยากขอคำแนะนำวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับบัตรเครดิตครับ ตอนนี้มีหนี้บัตรตามนี้
1.กรุงศรี HomePro *ปรับประนอมหนี้แล้ว
·      ยอดหนี้รวมประมาณ 30,000 กว่าบาท
·      ยอดชำระตอนนี้ 1,200 บาท
2.กรุงศรี DreamLoan ผ่อนชำระ 5 ปี *ปรับประนอมหนี้แล้ว
·      ยอดหนี้รวมประมาณ 40,000 กว่าบาท)
·       ยอดชำระตอนนี้ 990 บาท ระยะเวลา 5 ปี จ่ายแล้ว 6 งวด
3.CitiBank *ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว โครงการศุภฤกษ์
·      ยอดหนี้ประมาณ 120,000 กว่าบาท
·      ยอดชำระตอนนี 2,900 บาท ระยะเวลา 4ปี ยังไม่ได้เริ่มจ่าย
4.UmayPlus *ไม่ได้ปรับโครงสร้างหนี้
·      ยอดหนี้ประมาณ 150,000 กว่าบาท
·      ยอดชำระตอนนี้ 2,700 บาท
ยอดรวมชำระทั้งหมดทุกบัตร 7,790 บาท
 
ตอนนี้ผมมีรถยนต์ เป็นชื่อแม่แต่ผมเป็นคนผ่อน ซึ่งยอดหนี้รถยนต์ตอนนี้ผ่อนอยู่ประมาณ7,600 บาท เหลืออีก 10 งวด (Net 76,000) สามารถนำมา Refinanceได้ยอดเงินสดประมาณ250,000 (Rate 4.2% ต่อปี) ทำให้ต้องผ่อนต่อไปอีก 5 ปี
 
ผมอยากขอคำแนะนำวิธีที่อยากปิดบัตรทั้งหมด โดยเสียเงินน้อยที่สุด
1.ผมอยากถามว่าผมควรนำรถมา Refinance เพื่อปิดยอดบัตรUmayPlus และกรุงศรีไหม (ธนาคารไม่ยอมลดยอดปิดบัญชีให้) แล้วบัตร CitiBankก็จ่ายตามโปรแกรมเดิมไป ซึ่งทำให้ต้องผ่อนรถยนต์ไปอีก 5 ปีไหม
2.หยุดผ่อนจ่ายทุกบัตร แล้วรอวิธี HairCutซึ่งตอนนี้ก็ทำการเก็บเงินสดไว้ทุกเดือนๆ
ผมไม่แน่ใจว่า (กรุงศรี DreamLoan ผ่อนชำระ 6/60 กับ CitiBank โครงการศุภฤกษ์) สามารถเข้าวิธี HairCut ได้ไหม
3.หรือมีแนวทางอื่นๆ อีก รบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อนหรือคนที่มีประสบการณ์ช่วยผมแก้ปัญหานี้ให้ทีครับ

ขออนุญาต แนะนำนะครับ
1. แนวทางไม่เสียเครดิต หรือ แบสสลิส
           ก็คือ รีไฟแนนท์รถ แล้วหาเงินมาจ่ายไปเรื่อยๆ ประหยัด ผ่อนชำระตามรายการ โดยไม่ก่อหนี้หรือกู้เพิ่ม
ข้อดี คือ ไม่เสียประวัติเครดิต บูโร
ข้อเสีย คือ ใช้เวลาค่อนข้างนานครับ

2. แนวทางการหยุดจ่ายเพื่อชำระหนี้
 
ข้อดี คือ จะแก้ปัญหาได้ค่อนข้างเร็ว ได้ส่วนลดแฮร์คัท แต่คุณอาจจะได้น้อยหน่อย เพราะไปทำสัญญานรกแล้ว แต่ก็ยังมีข้อเสนอดีๆ ให้อยู่ดี
ระหว่างฟ้องประมาณ 1 ปี ตัดสินอีก 6 เดือน ส่งบังคับคดีอีก ก็มีเวลาพอสมควร ปัจจัยคือสามารถเก็บเงินทันไหม หากอายัดเงินเดือน ก็ได้เกิน
จาก 20,000 บ.

ข้อเสีย คือ มีการโทรตาม ขึ้นศาล กรมบังคับคดี ตามขั้นตอน และดอกเบี้ยที่เดินตาม แต่ถ้าเก็บเงินทันก็คุ้มครับ

             ส่วนตัวผมหนัก ผมเลือก หยุดจ่ายครับ ยอดล้านอัพ ใช้เวลาแก้ 7 ปี ครับ  คุณต้องลองประเมินตัวคุณดูครับ
ว่าถ้าจ่ายปกติมีเงินกินไหม เมื่อไหร่จะหมด และถ้าหยุด จะเก็บเงินได้ทันไหม ผมตั้งธง 50% จบ ได้บ้างไม่ได้บางครับ

พี่ครับวิธีนี้ ถ้ารอจนผ่อนรถอีก 10 งวดจนหมด แล้วถึงตอนนั้นมีหมายศาล ค่อยเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วปิดยอดหนี้บัตร เพื่อขอส่วนลด วิธีนี้ดีไหมครับ ระหว่างนี้ก็เก็บแต่เงินสดไปด้วย

แต่ถ้าวิธีที่ 1 ผมสามารถผ่อนไหว
ที่ refinance ค่างวดรถ และจ่ายบัตร citibank ไปด้วย แต่ผมไม่แน่ใจว่าควรใช้วิธีไหนครับ

ไม่กลัวเรื่องโทรตาม เสียเครดิต ครับ

คุณต้องลองทำ ตารางคำนวน
แบบวิธีที่ 1 คือไม่เสียเครดิต
   แต่คุณเขารถเข้าไฟแนน แล้วมาจ่ายบัตรเครดิต ก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาทางหนึ่ง แต่กู้เงินมาชำระเงินกู้ เท่ากับเสียดอก 2 ทาง ทำตารางคำนวนดู
ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และคุณมีเงินเหลือใช้เท่าไหร่
แบบวิธีที่ 2 คือเสียเครดิต
    ถ้าหยุด คุณมีเงินเก็บเดือนละเท่าไหร่ ตั้งธงไว้ สัก 40-50% ส่วนลด แต่มันจะมีดอกเบี้ยเดินตามตูด ตามบัตร แต่ถ้าขึ้นศาลจบดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่
12-15% ยอดหลังนะครับ

     แล้วคุณก็ลองเปรียบเทียบดู แบบไหนหมดเร็วกว่ากันครับ ถ้าไม่กลัว โดนทวง และเสียเครดิต วีธีที่ 2 เร็วกว่าอยู่แล้ว วีธีปลดหนี้ คือ ไม่ก่อหนี้เพิ่ม
และไม่กู้เงิน มาปิด อีกยอดครับ รถถ้าหมดก็สมควรโอนทำตัวให้วางก่อนโดนฟ้องละครับ