แบบนี้ก็มี ทนายเล่าประสบการณ์อึ้งเจอผู้พิพากษาแนะจำเลยเบี้ยวหนี้

7 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #86833 โดย Pheonix
ทนายเล่าประสบการณ์พิลึกในศาล เป็นโจทก์ฟ้องท้วงหนี้ไม่ถึง8หมื่น ศาลสั่งให้จำเลยผ่อนเดือนละพัน 79 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย เมื่อโจทก์ท้วงศาลกลับชี้ช่องให้จำเลยแนะนำให้นอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆ บอก "นี่คดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญาคุณไม่มีเงินจ่ายโจทก์ โจทก์ก็เอาคุณเข้าคุกไม่ได้ คุณไม่มีเงินจ่ายโจทก์ โจทก์ก็ทำอะไรคุณไม่ได้"

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ทนายหนุ่มโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Tang Warat Sermprasartkul เล่าความอัดอั้นตันใจหลังเจ้าตัวเป็นโจทก์ไปฟ้องจำเลยชำระหนี้ แล้วเจอผู้พิพากษาชี้โพรงให้กระรอกเป็นคุณแก่จำเลย ตามหัวข้อ "หากใครอยากเห็นการเปลื่ยนแปลงของสถาบันยุติธรรม รบกวนแชร์ให้ทุกคนรับรู้ด้วยครับ" ดังนี้...

"มีเรื่องเล่าสู่กันฟัง ประสบการณ์แย่ๆในศาล เรื่องที่เจอกับตัววันนี้เป็นเรื่องที่เฟลที่สุด ผิดหวังที่สุด รู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตการเป็นทนาย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสิ่งที่คนอื่นๆเล่ามาจะมาเกิดกับตัวเองบ้างก็ครั้งนี้

เรื่องก็คือ วันนี้ผมมีคดีต้องไปศาลแขวงแห่งหนึ่งเป็นคดีกู้ยืมเงิน ฝั่งผมเป็นโจทก์ ศาลเรียกไกล่เกลี่ย จำเลยบอกว่าผ่อนให้ได้แค่เดือนละ 1,000 บาท มากกว่านั้นไม่ยอม หนี้ที่จำเลยค้างอยู่มันยอด 79,000 บาท สรุปคือจำเลยจะผ่อน 79 เดือนหรือ 6 ปีกว่า โดยไม่มีดอกเบี้ย คืนแต่เงินต้น

ข้อเสนอนี้มันไม่มีใครจะบ้ายอมรับได้หรอก ผมคัดค้านไปว่าผ่อนเดือนละ 1,000 บาทมันน้อยไป แถมเรื่องดอกเบี้ยอีก ไหนจะเรื่องผ่อน 79 เดือนอีก มันไม่โอเคขอให้ศาลช่วยไกล่เกลี่ยให้จำเลยผ่อนมากขึ้น

ท่านถามจำเลยว่า ผ่อนมากกว่าเดือนละ 1,000 ไหวมั้ย มีทรัพย์สิน มีรถมีบ้านเป็นชื่อตัวเองมั้ย จำเลยตอบว่าไม่

หลังจากนั้นคือประโยคที่ไม่คิดว่าจะหลุดมาจากศาล

"งั้นคุณก็ไม่ต้องผ่อนโจทก์อีก อย่าหาว่าศาลชี้โพรงให้กระรอกนะ ถ้าคุณไม่มีทรัพย์ที่จะให้โจทก์ยึด โจทก์บังคับคดีไปก็ไม่ได้เงินคุณ คำพิพากษาคดีนี้ก็แค่กระดาษแผ่นนึง เดี๋ยวศาลให้โจทก์ชนะคดีวันนี้เลย แล้วคุณก็กลับบ้านไปนอนเล่นตีพุงดูทีวีอยู่บ้านไม่ต้องกังวล"

"นี่คดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญาคุณไม่มีเงินจ่ายโจทก์ โจทก์ก็เอาคุณเข้าคุกไม่ได้ คุณไม่มีเงินจ่ายโจทก์ โจทก์ก็ทำอะไรคุณไม่ได้"

"คุณเป็นทนายโจทก์นี่ คุณไม่ใช่โจทก์ คนเสียหายมันไม่ใช่คุณ คนเสียหายคือโจทก์ คุณจะเดือดร้อนทำไม"

"ผมให้คุณชนะคดีแล้ว คุณจะเอาอะไรอีก ผมให้คุณตามฟ้องหมดแล้ว ดอกเบี้ยผมก็ให้ คุณจะเอาอะไรอีก"

"เอางี้ละกันผมให้เวลาคุณไปปรึกษา ถ้าไม่งั้นคุณก็ปรึกษาทนายท่านอื่นในห้องนี้ก็ได้ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าผมทำถูกมั้ย ผมให้คุณชนะคดีแล้ว คุณยังจะเอาอะไรอีก"

หลังจากฟังหมดนี้ความรู้สึกคือหูอื้อตาลาย ทั้งโดนดูถูก ทั้งโดนล้อเล่น เห็นเป็นเรื่องขำขัน คำพูดพวกนี้มันก้องในหูวิ้งๆ

ใช่ครับ ผมเป็นทนายโจทก์ ผมไม่ใช่โจทก์ ผมไม่ใช่คนเสียหาย เงินโจทก์จะได้คืนมั้ยก็เรื่องของโจทก์ ยังไงผมก็ได้ค่าบริการวิชาชีพ ใช่ครับ ศาลพูดถูกทุกอย่าง

ใช่ครับ คดีนี้คดีแพ่งไม่ใช่อาญาจะให้ตายยังไงผมก็เอาจำเลยเข้าคุกไม่ได้

ใช่ครับ ผมบังคับคดีไปก็เสียเวลาเปล่าเพราะจำเลยไม่มีทรัพย์อะไรเป็นชื่อของตัวเองซักอย่าง

ใช่ครับ ท่านให้ผมชนะคดีตามฟ้องให้ดอกเบี้ยตามที่ผมเรียก และใช่ครับผมไม่มีทางได้รับความยุติธรรมจากคนอย่างท่านแน่นอน

ท่านเล่นชี้ช่องให้จำเลยแบบนี้ แนะนำให้จำเลยทำแบบนั้น แนะนำให้นอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆ ย้ายทรัพย์สินชื่อตัวเองออกหมด แล้วนั่งดูทีวีแทนที่ท่านจะบังคับให้จำเลยหาเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ จำเลยกู้ยืมเงินมาจากโจทก์ตั้งแต่ปี 2556 นี่ปี 2559 แล้ว โจทก์ต้องรออีกกี่ปีถึงจะได้เงินก้อนนี้คืนครบ หนี้เงินแค่หลักหมื่น จำเลยที่ไหนจะบอกว่าตัวเองมีตังครับ จำเลยก็ต้องบอกว่าตัวเองไม่มีตังอยู่แล้วปะครับท่าน

ผมมีหลักฐานมากมายว่าจำเลยมีเงิน แต่จำเลยไม่ใช้หนี้ ทั้งการเข้าโรงพยาบาลเอกชน ค่าเทอมโรงเรียนเอกชนลูก การที่จำเลยจัดฟันแบบใส แต่ละอย่างค่าใช้จ่ายไม่ใช่ถูกๆนะครับ เงินแค่ 79,000 บาท ไม่มีปัญญาใช้หนี้ แต่อย่างว่าแหละครับ ท่านไม่แม้แต่จะฟังพยานหลักฐานของผมเลย

นี่คือการให้ความยุติธรรมแก่โจทก์หรอครับ? คำพิพากษาที่ท่านเขียนให้ผมมันก็มีความหมายแค่กระดาษแผ่นนึงใช่ไหมครับแบบที่ท่านบอก

มันทำให้ผมเห็นเลยครับ ว่าท่านเป็นคนกำพืดแบบไหนก่อนที่จะมาเป็นศาล ท่านเป็นคนแบบไหนท่านก็เป็นคนแบบนั้น ท่านเป็นคนที่ทำให้สถาบันยุติธรรมตกต่ำลง ท่านมันเป็นปลาเน่าที่ทำให้ท่านผู้พิพากษาดีๆหลายคนต้องถูกเหมารวมเพราะการกระทำของท่านไปด้วย

ท่านพึ่งย้ายมาศาลแขวงนี้ก็จริง แต่ศาลแขวงที่ท่านเคยประจำอยู่ก็ไม่ใช่ย่อยนะครับ วงการทนายมันเล็กนิดเดียว ท่านเคยทำอะไรไว้เขารู้กันหมด เลวยังไงก็เลวอย่างงั้น ไม่เคยมีคนกล้าหือกับท่านใช่มั๊ยครับ ท่านถึงได้ทำแบบนี้มาตลอด เห็นทนายเป็นวรรณะที่ต่ำกว่าใช่มั๊ยครับ ระวังเถอะครับท่านจะถูกทนายเกี๊ยะออกจากการเป็นผู้พิพากษา หลังจากนั้นท่านมันก็แค่คนเลวๆธรรมดาๆคนนึงที่ไม่มีอะไรเลย

คนอย่างท่านมันก้าวหน้ายากครับ อย่าหวังว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนขั้น ไปนั่นไปนี่เลยครับ ผมมันคนผูกใจเจ็บซะด้วย ผมจะคอยดูวันที่ท่านได้รับผลกรรมที่ท่านทำไว้ครับ อะไรที่ผมทำให้ท่านได้รับผลกรรมไวขึ้นผมทำทั้งนั้นแหละครับ

moment หลังจากที่ท่านแนะนำจำเลยเสร็จ แล้วจำเลยหันมายิ้มเยาะใส่ผมเนี่ย ผมตราตรึงมากครับ มันเป็นแรงผลักดันของผมที่จะทำให้ท่านไม่มีที่ยืนครับ"

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #86837 โดย Pheonix
ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย 30 เม.ย.59
ลูกหนี้บัตรเครดิต 22,321,091 บัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง 313,869.29 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อปี เป็นเงิน 62,773.86 ล้านบาท
ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลฯ 13,044,842 บัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง 323,519 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี เป็นเงิน 90,585.32 ล้านบาท
รวมดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปีละ 153,359.18 ล้านบาท ทำให้ประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ
ถ้าไม่แก้ปัญหา อีก 10 ปี ดอกเบี้ยสะสม 1.53 ล้านล้านบาท ประเทศไทยก็คงพังพินาศหมด
ทุกวันนี้ เงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 1.3% ดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล 28% กำไร 26.7% คิดเป็นกำไร 2,053.85%
เงินฝากก็ของคนไทย คนกู้ก็คนไทย ทำไมธนาคารแห่งประเทศไทย จึงไม่คิดแก้ปัญหา
ถ้าท่านคิดถึงแต่นายจ้างของท่าน ซึ่งเป็นทุนต่างชาติ แต่ไม่คิดถึงประเทศไทย น่าสงสารประเทศไทยยิ่งนัก
ได้อ่านข่าวนี้ เป็นน้ำหยดหนึ่งกลางทะเลทราย ผมชื่นชมท่านมากครับ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #86847 โดย jinnyja
นี่ ชม ทนาย หรือ ชมท่านผู้พิพากษา ค่ะ ^^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #86876 โดย Pheonix
ผมคิดตรงกันข้ามกับทนายหนุ่ม ผมคิดว่า ท่านผู้พิพากษาท่านนี้เป็นคนดีที่สุด ที่หาได้ยากในสังคม

ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๔ ท่านให้คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี และตามพระราชบัญญัติ ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ๒๔๗๕ ถ้าคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินพันบาท ประกาศกระทรวงการคลัง และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย อาศัยอำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ เป็นกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจเพื่อความปลอดภัยและผาสุกของสาธารณชน สินเชื่อส่วนบุคคลก่อให้เกิดความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ แต่อย่างใด สิ่งที่ไม่เคยเข้าใจคือ ทำไมประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยจึงให้คิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน รวมกันในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ทุกวันนี้ Bank และ Non Bank เป็นของทุนต่างชาติ คนไทย และ SMEs กำลังจะตายหมดแล้วครับ

GDP ประกอบด้วย การบริโภคส่วนบุคคล การลงทุุนภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ การส่งออกลบนำเข้า
การส่งออก ติดลบมาหลายปีแล้วครับ การลงทุนภาครัฐทำได้เพียงเพื่อประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว การลงทุนภาคเอกชน ภาคเอกชนไม่ยอมลงทุน เพราะลงทุนแล้วขายไม่ได้ ผู้บริโภคอยากบริโภคใจจะขาด แต่ไม่มีเงินจะบริโภค เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปีละ 153,359.18 ล้านบาท แล้ว GDP จะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมธนาคารแห่งประเทศไทยจึงไม่แก้ป้ญหา

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #86877 โดย Pheonix
การจะวางแผนให้ชีวิตอยู่รอดได้
พระพุทธเจ้าสอนให้เราปล่อยวาง ถ้าปล่อยวาง แล้วชีวิตจะอยู่รอดได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้ว สอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตก็จะเป็นสุขได้ตามอัตภาพ
บางคนเป็นห่วงกลัวบ้านจะถูกยึด ต้องคิดให้เป็น
บางคนต้องผ่อนบ้านเดือนละ 25,000 บาท ผ่อนชำระ 30 ปี เป็นเงิน 9,000,000 บาท ถ้าคุณเก็บเงินได้ขนาดนี้ คุณรวยไปแล้วคร้บ แต่สิ่งที่ได้มาคือ บ้านเก่าๆ 1 หลัง อายุ 30 ปี และตอนนั้นเกษียนแล้่ว ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเก็บ จะทำอย่างไร
ถ้าผอนบ้านเดือนละ 20,000 บาท ผ่อนชำระ 30 ปี เป็นเงิน 7,200,000 บาท
ถ้าผอนบ้านเดือนละ 15,000 บาท ผ่อนชำระ 30 ปี เป็นเงิน 5,400,000 บาท
ถ้าผอน คอนโด เดือนละ 25,000 บาท ผ่อนชำระ 30 ปี เป็นเงิน 9,000,000 บาท สิ่งที่ได้มา คอนโด เก่าๆ 1 หลัง อายุ 30 ปี คงเก่ามากแล้ว ไม่รู้ถ้าต้องรื้อทิ้ง แล้วจะเป็นอย่างไร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.575 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena