Blackflower เขียน: 1.ในทันทีที่หยุดจ่ายปุ๊บ แต่ละเจ้าทวงหนี้กันโหดไหมคะ
ลองไปอ่านในกระทู้ของคนอื่นๆดู ก็จะเห็นภาพเองแหละครับ
Blackflower เขียน: สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือ กลัวมันโทรเข้าเบอร์บ้านคะ ถ้าที่บ้านรุ้จบไม่สวยแน่ๆ
เราเครียดกะที่บ้านมากๆ ละอีกอย่าง เวลาทำงานเราพกโทรศัพท์ไม่ได้ แน่นอนว่าเวลาเจ้าหนี้โทรมาทวงหนี้ เรารับสายไม่ได้แน่นอน จะมีปัญหาอะไรไหม
คงจะยากนะครับ ที่คิดจะปิดบังเรื่องหนี้ไม่ให้คนทางบ้านรู้
เพราะว่าบรรดาพวกเจ้าหนี้ทั้งหลาย พวกมันจะส่งจดหมายทวงหนี้หรือส่งพนักงานทวงหนี้ โดยส่งไปยังทุกๆสถานที่ เท่าที่มันมีข้อมูลของลูกหนี้อยู่ในมือของมัน โดยไม่สนว่าข้อมูลที่มันมีอยู่นั้น จะเป็นข้อมูลใหม่หรือข้อมูลเก่าก็ตาม
หากมันมีข้อมูลสถานที่ติดต่อของลูกหนี้ 10ที่ มันก็จะส่งจดหมายทวงหนี้ไปยังสถานที่ตามข้อมูลนั้นๆ 10ที่เช่นกัน(ส่งจดหมายไป 10ฉบับ)
ทั้งที่บ้านและที่ทำงานของลูกหนี้...ตามเท่าที่มันมีข้อมูล
ทางชมรมฯ จึงได้เขียนแนะนำในกระทู้ปักหมุดเอาไว้ว่า
ใครเลือกใช้วิธีที่ 2
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1.หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอดอย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์
(ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย
2.ต้องบอกครอบครัวให้รู้จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไรและเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย
3.ต้องบอกที่ทำงาน(หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อนคนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร)ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชีห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักทีให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่าแล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนรวมงานตามความเหมาะสม
4.จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10,000 เหลือ 5,000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3,500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1,500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัวสำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดูส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัวพยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม
5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆที่มีสารพัดรูปแบบ
อ้างอิงข้อมูลจาก
วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64#216
วิธีแก้หนี้
Blackflower เขียน: กลัวกรณีที่โดนหักหนี้จากเงินเดือนด้วย
ธนาคารเจ้าหนี้ ยึดเงินในบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6970&Itemid=64
บัตรกรุงไทย , บัตรกรุงศรี...บนความแตกต่างของสถาบันการเงิน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=7111&Itemid=64
Blackflower เขียน: 2. ควรหยุดจ่ายพร้อมกันทั้งหมด หรือหยุดบัตรที่มียอดชำระขั้นต่ำสูงก่อน
วิธีพิจารณาการชำระหนี้แบบ Haircut
ควรเอาเงินไปจ่าย Haircut กับเจ้าหนี้รายที่มันให้ส่วนลดหนี้กับเรา แบบเยอะๆเอาไว้ก่อน...ส่วนรายไหนที่มันเขี้ยวมากๆ(ให้ส่วนลดน้อย) ก็ปล่อยให้มันรอต่อไป หรือไม่ก็ปล่อยให้มันฟ้องศาลไปเลย แล้วค่อยไปทำเรื่องขอผ่อนต่อกันใหม่ที่ชั้นศาลอีกครั้ง
และถ้าหากเมื่อใดที่เราเก็บตังค์จนมีเงินก้อนได้อีกครั้ง ก็ค่อยมาเจรจาทำ Haircut กันใหม่
อย่าลืมนะครับว่า
Haircut สามารถทำได้ตลอดชีพ
Blackflower เขียน: 3. ระยะเวลากี่เดือนถึงจะทำ h/c ได้คะ
ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64
Blackflower เขียน: 4. เราจะติดเครดิตบูโร ตั้งแต่งวดแรกที่ผิดการชำระเลยรึเปล่าคะ ?
การที่ลูกหนี้จะเป็น NPL หรือเป็น"หนี้เน่า"ได้นั้น เกิดขึ้นจากการที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้เป็นเวลานานติดต่อกันถึง 3เดือน แล้วหลังจากนั้น สถานะของลูกหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นหนี้ NPL ทันที
NPL ย่อมาจากอะไร หมายถึง…
webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:HCgCJcjyY94J:www.xn--12c0ecxsex2q.com/npl/+&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th
Blackflower เขียน: หลังจากที่ปิดหมดไป ประมาณกี่ปีถึงจะถุกล้างชื่ออกจากบูโรคะ
ประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรสำหรับลูกหนี้ที่ใช้วิธีหยุดจ่าย
หลังจากที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้มานานจนครบ 3เดือนแล้ว ก็จะมีประวัติเป็น"
หนี้เสีย"(NPL)อย่างเป็นทางการ...ซึ่งก็หมายความว่าลูกหนี้ได้มีสถานะเป็น
Blacklist (บัญชีดำ) ในเครดิตบูโรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าหากวันใดที่ลูกหนี้ได้ทำการจ่ายปิดบัญชีหนี้จนหมดแล้ว
(โดยไม่สนใจว่าลูกหนี้จะจ่ายปิดบัญชีด้วยวิธีการ Haircut หรือด้วยวิธีการใดๆก็ตาม รวมทั้งการขายหนี้เน่าของลูกหนี้ออกไปด้วย) ลูกหนี้ก็จะต้องติด Blacklist อยู่ต่อไปอีกแค่
3ปี
เท่านั้น แล้วหลังจากนั้น ประวัติหนี้เสียที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปจนหมดสิ้น
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64
แถมกฏหมายฉบับใหม่ของเครดิตบูโร ยังเขียนไว้ด้วยอีกว่า
ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายชำระหนี้คืนเลยก็ตาม ก็กำหนดให้ลูกหนี้ต้องติด"บัญชีดำ"(Blacklist)อยู่ในเครดิตบูโร เพียงแค่ 8ปีเท่านั้น หากเมื่อเกิน 8ปีไปแล้ว ต้องทำการลบล้างประวัคิเสีย(Blacklist)ของลูกหนี้ ออกจากระบบข้อมูลของเครดิตบูโรทันที
*** กำหนดไว้อยู่ใน ข้อ ๑๘ (๒) และ (๓) ของราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง ***
ผมเคยอธิบายไว้มานานแล้ว อยู่ในกระทู้นี้ครับ
เหมือนเกิดใหม่"ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศชัด ล้างประวัติลูกหนี้แบล็คลิสต์ 6 แสนราย
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41892&Itemid=64#58267
ดังนั้น...ใครก็ตามที่ติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรมานานจนครบ 8ปีแล้ว
ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ , ไม่ยอม Haircut , ไม่จ่ายหนี้เลยไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้นก็ตาม
ประวัติ
Blacklist (บัญชีดำ) ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปทันทีตามที่กฎหมายฉบับใหม่ได้บัญญัติเอาไว้
ไม่มีใครเขาติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรไปจนตลอดชีวิตหรอกครับ
ถึงแม้จะไม่จ่ายหนี้เลยก็ตาม
Blackflower เขียน: เนื่องจากเราไม่มีความรุ้เรื่องพวกนี้เลย บางอย่างอ่านแล้วก้ยัง งงๆนิดหน่อย แต่ก้พอเข้าใจคะ รบกวนผุ้รุ้ ช่วยให้คำแนะนำกะเราทีนะคะ
ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20