ขอสอบถามเรื่องหมายศาลกรณีเป็นคนค้ำประกันค่ะ

สืบเนื่องจากกะทู้นี้ของคุณนกกระจอกเทศนะคะ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&id=813&Itemid=64&view=topic

อ่านแล้วมีประโยชน์มากๆคะ
แต่ยังมีคำถามขอรบกวนปรึกษาหน่อยนะคะ ในเรื่องคดีของคนค้ำประกัน
คือดิฉันไปค้ำประกันซื้อรถยนต์ให้ชาวต่างชาติที่เป็นภรรยาของรุ่นพี่ที่สนิทกัน
ยอดเงิน 915,341.76 บาท พี่เค้าผ่อนได้ประมาณ 2 ปี เค้าก็ต้องออกจากงาน ค้างค่างวดประมาณ 5 งวด
เลยตัดสินใจเอารถไปคืนไฟแนนซ์ (บริษัท ทิสโก้) ทีนี้เมียเค้าก้อกลับต่างประเทศ
ตัวพี่เค้าเองก้ออยู่ได้ไม่กี่เดือนก้อย้ายตามเมียเค้าไป
ตอนแรกไฟแนนซ์ก้อส่งจดหมายมาให้ชำระหนี้ที่บ้าน อยู่ 2 ครั้ง พี่เค้าก้อบอกว่า ไม่เป็นไร รอทางไฟแนนซ์ขายรถได้แล้วหักลบหนี้กัน คงเหลือหนี้ไม่มาก พี่เค้าจะจัดการเอง

แต่สุดท้ายกว่าไฟแนนซ์จะขายรถได้ ปาเข้าไปเกือบปี คือคืนรถวันที่ 27 กันยา 2557
แต่หมายศาลมาวัน 29 พฤษภา 2559 โดยนัดให้ไปศาลวันที่ 22 มิถุนา นี้
คราวนี้พอได้หมายศาลก็เครียดกันทั้งบ้านเลย จากที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่องก้อกลายเป็นเรื่องใหญ่
โดนต่อว่าไปเต็มๆ เครียดจนนอนไม่หลับ หาทางออกไม่ได้
เพราะกลัวต้องรับผิดชอบเรื่องหนี้ก้อนนี้คนเดียว ลูกหนี้ตัวจริงก็อยู่ต่างประเทศ
พยายามหาข้อมูลจากเวปต่างๆ จนมาเจอเวปนี้และได้อ่านบทความของคุณนกกระจอกเทศ
ดีใจมากๆ เหมือนชีวิตได้เจอแสงสว่าง

พอติดต่อไปทางรุ่นพี่ เค้าก้อบอกว่าเค้าจะกลับมา แต่คงกลับมาไม่ทันเดือนนี้
ขอให้ผัดผ่อนศาลไปเป็นเดือนหน้า ตัวรุ่นพี่เค้าจะมา โดยให้ภรรยาที่เป็นลูกหนี้ทำหนังสือมอบอำนาจมาให้กระทำการแทน

ขออนุญาตถามนะคะ ในกรณีนี้ถ้าเจ้าตัวไม่ได้มาเอง แต่ทำหนังสือมอบอำนาจมาให้สามีกระทำการแทน
ถ้ามีการไกล่เกลี่ยตกลงกับทางไฟแนนซ์ได้ มีการทำหนังสือประนอมหนี้หรือแฮร์คัทแล้ว
ตัวคนค้ำจะยังต้องมีภาระผูกพันอีกมั๊ยคะ เห็นตัวกฏหมายตัวใหม่ที่ออกมาคุ้มครองคนค้ำประกัน
มีคดีที่คนค้ำหลุดคดี ไม่ต้องรับผิด เนื่องจากลูกหนี้ จำเลยที่ 1 และเจ้าหนี้ทำสัญญาประนอมหนี้กันได้

และมีคำถามเรื่องอายุความในคดีเช่าซื้อค่ะ
ตามที่คุณนกกระจอกเทศเขียนไว้

อายุความในคดีเช่าซื้อ

- ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ อายุความ 2 ปี
- ค่าเสียหายจากการที่ผู้เช่าซื้อใช้ทรัพย์สิน อายุความ 6 เดือน
- ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน อายุความ 10 ปี

ในหมายศาลที่ส่งมาเค้าใช้คำว่าขาดราคาแบบนี้ถูกมั๊ยคะ
เพราะถ้าเป็นหนี้ที่เกิดจากค่าเช่าซื้อ คดีน่าจะหมดอายุความแล้ว
เพราะพี่เค้าขาดส่งครั้งสุดท้ายวันที่ 20 เมษายน 2557 เกิน 2 ปีแล้ว
ถ้าใช้คำว่าขาดราคาก็จะมีอายุความถึง 10 ปี
แต่ตามที่อ่านในบทความ
“กฏหมายในข้อนี้ พูดถึงเฉพาะ ค่าทวงหนี้ , ค่าจ้างนักสืบ(เพื่อติดตามของ) , ค่าเสียโอกาสในการใช้ทรัพย์ จากการที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เท่านั้น”
หนี้ส่วนนี้จะขอสู้คดีโดยใช้เรื่องอายุความได้มั๊ยคะ

ข้อความในหมายศาลนะคะ

“ข้อ 4 . การที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อจนเป็นเหตุให้สัญญาเลิกกันดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ดังนี้

1) รับผิดในส่วนของค่าขาดราคา ซึ่งหากจำเลยที่ 1 ไม่ผิดนัดหรือผิดสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์จะได้รับทั้งสิ้นตามสัญญา โดยเมื่อนำเงินทุกจำนวนมาหักชำระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว ดังนั้นจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระหนี้ส่วนที่ขาดตามสัญญาเช่าซื้อ ข้อ 14 แก่โจทก์ เป็นเงินจำนวน 345,886.49 บาท โจทก์ขอคิดเพียง 345,000 บาท

2) รับผิดในส่วนของค่าขาดผลประโยชน์ เนื่องจากการครอบครองและใช้รถยนต์คันเช่าซื้อในระหว่างที่โจทก์ยังไม่ได้รับรถยนต์คืน ซึ่งหากรถยนต์คันพิพาท อยู่ในความครอบครองของโจทก์ โจทก์อาจนำรถคันดังกล่าวให้บุคคลอื่นเช่า หรือหาผลประโยชน์ได้ โดยจะได้ค่าเช่า / ค่าตอบแทนทางการค้าตามปกติในท้องตลาด ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท นับตั้งแต่วันที่ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ คือ วันที่ 20 เมษายน 2557 ถึงวันที่โจทก์ได้รถยนต์กลับคืน เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557 เป็นเวลา 186 วัน คิดเป็นเงิน 93,000 บาท โจทก์ขอคิดเพียง 88,000 บาท

รวมค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 433,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกัน จะต้องร่วมกันรับผิดชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวอย่างลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์จนครบถ้วน”


ขอบพระคุณมากค่ะ ที่เป็นที่พึ่งให้แก่คนที่ทุกข์เรื่องหนี้แบบนี้
อ่านเรื่องราวของหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการจัดการกับหนี้สิน จนชีวิตได้เป็นไทอีกครั้ง
ขอบคุณคณะกรรมการและเพื่อนๆสมาชิกทุกคนนะคะ