ในที่สุด...วันนี้ก็มาถึง...วันแห่งการขึ้นศาล

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83005 โดย tk2321
ดิฉันเป็นสมาชิกมาเกือบปีแล้วค่ะได้แต่อ่านเพื่อเก็บข้อมูล เป็นหนี้บัตร+สินเชื่อหลายตัวมากตอนแรกเครียดแต่ตอนนี้เริ่มปล่อยวางค่อยๆแก้ปัญหาไป มีหนี้ประมาณนี้นะคะ
1.บัตรเซ็นทรัล ยอด 26000 แฮร์คัท ได้ 14000 หยุดจ่าย 6 เดือน
2.บัตรโลตัส ยอด 30000 แฮร์คัทได้ 18000 หยุดจ่าย 6 เดือน
3.ktc บัตรเครดิต 30000 กดเงินสด 48000 ยอดหยุด 78000 หยุดจ่ายตั้งแต่ เม.ย.58 ไปขึ้นศาลเมื่อเดือนที่แล้วยอดไปที่เกือบแสนค่ะ ดอกเบี้ยบวมมากกกก ได้ไปขึ้นศาลวันเสาร์ซึ่งไปตรงกับวันที่มีมหกรรมให้ส่วนลดพอดี เค้าลดดอกเบี้ยให้่ 30% เหลือประมาณ 90000 ให้เงื่อนไขการผ่อน 0% 10 เดือน แต่ถ้า 36 เดือนคิดดอกเบี้ย 10% เป็นผ่อนแบบขั้นบันได 36 งวดปีแรกขั้นต่ำ 1500 ปีต่อไป 2000 เริ่มจ่ายสิ้นเดือนนี้ (ก็เลยเลือกผ่อนขั้นบันไดไปก่อน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนไม่อยากโดนอายัดเงินเดือน)
4.firstchoice ยอด 48000 ขึ้นศาลเมื่อวันที่ 15/3/59 ที่ผ่านมา ยอดฟ้อง 60000 กว่าๆๆ ทนายให้เบอร์โทรคุยกับ จนท.เค้าบอกมีส่วนลดแค่ 10% เค้าเลยแนะนำให้ผ่อนขั้นต่ำไปก่อน เดือนละ 2000 24 งวด ดอกเบี้ย 7.5% เริ่มจ่ายสิ้นเดือนนี้เหมือนกันค่ะ(จนท.บอกมีส่วนลดเมื่อไหร่จะติดต่อมา อันนี้ไม่รู้จริงมั้ย)
5.uob บัตรกด 19000 สินเชื่อ 70000 หยุดจ่าย พค 58 มีสนง.กฏหมายโทรมาเสนอส่วนลดแต่ยังไม่โอเค
6.สินเชื่อกรุงศรี ยอด 70000 หยุดจ่าย พค 58 ตอนนี้เงียบกริบ
7.cimb ยอด 70000 หยุดจ่าย พค 58 ตอนนี้เงียบกริบ
8.อิออน บัตรกด 32000 บัตรเครดิต 30000 หยุดจ่าย พค 58ตอนนี้เงียบกริบ
9.สแตนดาร์ด บัตรกด 43000 หยุดจ่าย พค 58 ตอนนี้เงียบกริบ
อยากบอกเพื่อนๆสมาชิกนะคะแต่ก่อนกังวลใจมากกับคำว่าหมายศาลและเครียดมาก แต่พอได้อ่านข้อมูลจากในเว็บนี้เยอะๆเลยไม่ค่อยกังวลพยายามหาทางออกตลอดเวลา พอได้หมายศาลจริงๆก็ไปคนเดียวเลยค่ะ มั่นใจเลยตอนนี้ไปขึ้นศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี 2 ครั้งแล้ว มีจนท.ที่ศาลคนนึงเป็นผู้ชายไม่ได้ดูชื่อแกไว้ เจอแกทั้ง 2 ครั้งพี่เค้าให้คำแนะนำดีมากเลยค่ะ เค้าบอกว่าคุยกันไม่ลงตัวมาศาลเลยจะได้จบๆๆไม่ต้องกังวลชีวิตคนเรามีทางออกเสมอ...เพื่อนๆสมาชิกสู้ๆๆๆนะคะ สู้ไปด้วยกัน เพื่อนสมาชิกคนไหนมีแนวทางไหนแนะนำยินดีนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83017 โดย น้าชู
สวัสดีครับคุณtk2321
ขอสอบถามของ 1st ครับว่าหยุดกี่เดือนถึงโดนฟ้องครับ และระหว่างหยุด เค้าติดต่อเราได้ไหมครับ
ขอบคุณมากครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83021 โดย Tom9449
หลายๆคนก็กลัวกับการขึ้นศาล ผมก็กลัว แต่สุดท้ายพอเราเจอสิ่งที่เรากลัวมันก็ต้องผ่านไปได้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83225 โดย rtana
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ อ่านแล้วอุ่นใจขึ้นเยอะ สู้ ๆ คะ หาเงิน H/C ให้ได้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83351 โดย ddkpom
สวัสดีคุณ tk2321

"4.firstchoice ยอด 48000 ขึ้นศาลเมื่อวันที่ 15/3/59 ที่ผ่านมา ยอดฟ้อง 60000 กว่าๆๆ ทนายให้เบอร์โทรคุยกับ จนท.เค้าบอกมีส่วนลดแค่ 10% เค้าเลยแนะนำให้ผ่อนขั้นต่ำไปก่อน เดือนละ 2000 24 งวด ดอกเบี้ย 7.5% เริ่มจ่ายสิ้นเดือนนี้เหมือนกันค่ะ(จนท.บอกมีส่วนลดเมื่อไหร่จะติดต่อมา อันนี้ไม่รู้จริงมั้ย)"


สอบถามครับ จาก ข้อ 4.firstchoice เป็นการทำยอมหน้าศาลใช่เปล่าครับ หรือให้ศาลท่านตัดสินครับ ของผมขึ้นศาล 18 เมษายน 2559 นี้เหมือนกันครับ ยอดฟ้องประมาณ 70000 บาท ยังเกรงๆๆอยู่ครับตอนนี้
สู้ๆๆ ครับเป็นกำลังใจให้ครับ :bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83376 โดย tk2321
หยุดประมาณ 1 ปีค่ะ ช่วงแรกมีติดต่อมาให้ทำสัญญาประนีประนอมแต่ไม่ทำ ให้ส่วนลดมาแต่ไม่โอเค หลังจากนั้นมาเปลี่ยนเบอร์ใหม่เค้าติดต่อเราไม่ได้ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83377 โดย tk2321

น้าชู เขียน: สวัสดีครับคุณtk2321
ขอสอบถามของ 1st ครับว่าหยุดกี่เดือนถึงโดนฟ้องครับ และระหว่างหยุด เค้าติดต่อเราได้ไหมครับ
ขอบคุณมากครับ


หยุดประมาณ 1 ปีค่ะ ช่วงแรกมีติดต่อมาให้ทำสัญญาประนีประนอมแต่ไม่ทำ ให้ส่วนลดมาแต่ไม่โอเค หลังจากนั้นมาเปลี่ยนเบอร์ใหม่เค้าติดต่อเราไม่ได้ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83378 โดย tk2321

Tom9449 เขียน: หลายๆคนก็กลัวกับการขึ้นศาล ผมก็กลัว แต่สุดท้ายพอเราเจอสิ่งที่เรากลัวมันก็ต้องผ่านไปได้ครับ




ใช่ค่ะ ตอนแรกกลัวมาก เครียดไปหมดแต่ตอนนี้ผ่านไป 2 ครั้ง เริ่มรู้สึกปล่อยวางแล้วค่ะ ก้มหน้าหาเงินสู้กันต่อไปค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #83379 โดย tk2321

rtana เขียน: ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ อ่านแล้วอุ่นใจขึ้นเยอะ สู้ ๆ คะ หาเงิน H/C ให้ได้



ต้องขอบคุณข้อมูลดีๆๆจากเพื่อนสมาชิกหลายๆๆท่านค่ะที่มาแชร์ประสบการณ์ อ่านเยอะๆๆช่วยลดความกลัวความกังวลใจได้เยอะค่ะ ต่อไปก็ก้มหน้าหาเงินปลดหนี้กันไปค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #83765 โดย weakness
ยอดหนี้พอๆกันเลยค่ะ FC
ได้รับการติดต่อก่อนหน้านี้ ส่วนลดได้ยอดที่เราไม่สามารถจ่ายได้ ให้ปรับโคงสร้างหนี้เราก็ไม่ได้ทำ

ล่าสุด 8/4/59 โทรมาแจ้งว่าส่งฟ้องศาลแล้ว รอวันนัดสืบพยาน ยอมรับว่าใจหายเลยค่ะ
เสนอส่วนลด ให้ 20% ซึ่งน้อยมาก แถมเรายังติดจ่ายลดหนี้กับเจ้าอื่นอยู่

จนท. แจ้งว่าให้ไปยอมความหน้าศาล คิดดอกเบี้ยที่ 7.5% ต่อปี เหมือน จขกท. เลยค่ะ

เราทำงานรัฐวิสาหกิจ การไปขึ้นศาลครั้งนี้กับโจทก์ FC จะส่งผลเสียกับหน้าที่การงานเราไหมคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #83778 โดย rainy2016
รอขึ้นศาลเหมือนกัน บัตรกด KTC 14 พ.ค.59 เจ้าของกระทู้สู้ๆ ขนาดมีมหกรรมยัง ดอก 10% เขี้ยวจริงๆ แบงค์นี้ ....
ถามค่ะ เอกสารฟ้องบัตรกด ถ่ายใบแจ้งหนี้ที่เราใช้ตั้งแต่เริ่มใช้จนถึงฟ้องไหม ...ของเราใช้เกือบ 10 ปี จ่ายตรงตลอด หยุดครบ 5 เดือน ฟ้องแล้ว แถม ใบแจ้งหนี้ มี 3 ใบ ใบเริ่มใช้บัตร ใบเริ่มหยุด และใบล่าสุดที่ใช้ฟ้อง ไม่รู้ลดโลกร้อน ประหยัดกระดาษหรือ กลัวศาลเห็นดอกเบี้ยที่ได้ไปตลอด10ปี มั้ง (เดา)?...แถมใบแจ้งหนี้หลังฟ้องยังส่งมา (คงไม่ใช่ประหยัดกระดาษแล้ว) ยอดก็พุ่งเกินฟ้องไปอีก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #83823 โดย ploychat
กำลังจะหยุดจ่ายอิออน ....มาติดตามความเคลื่อนไหวค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #84084 โดย tk2321

weakness เขียน: ยอดหนี้พอๆกันเลยค่ะ FC
ได้รับการติดต่อก่อนหน้านี้ ส่วนลดได้ยอดที่เราไม่สามารถจ่ายได้ ให้ปรับโคงสร้างหนี้เราก็ไม่ได้ทำ

ล่าสุด 8/4/59 โทรมาแจ้งว่าส่งฟ้องศาลแล้ว รอวันนัดสืบพยาน ยอมรับว่าใจหายเลยค่ะ
เสนอส่วนลด ให้ 20% ซึ่งน้อยมาก แถมเรายังติดจ่ายลดหนี้กับเจ้าอื่นอยู่

จนท. แจ้งว่าให้ไปยอมความหน้าศาล คิดดอกเบี้ยที่ 7.5% ต่อปี เหมือน จขกท. เลยค่ะ

เราทำงานรัฐวิสาหกิจ การไปขึ้นศาลครั้งนี้กับโจทก์ FC จะส่งผลเสียกับหน้าที่การงานเราไหมคะ



ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ มันเป็นหนี้สินส่วนบุคคล ลองอ่านข้อมูลในนี้เยอะๆๆนะคะ สู้ๆๆค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #84085 โดย tk2321

rainy2016 เขียน: รอขึ้นศาลเหมือนกัน บัตรกด KTC 14 พ.ค.59 เจ้าของกระทู้สู้ๆ ขนาดมีมหกรรมยัง ดอก 10% เขี้ยวจริงๆ แบงค์นี้ ....
ถามค่ะ เอกสารฟ้องบัตรกด ถ่ายใบแจ้งหนี้ที่เราใช้ตั้งแต่เริ่มใช้จนถึงฟ้องไหม ...ของเราใช้เกือบ 10 ปี จ่ายตรงตลอด หยุดครบ 5 เดือน ฟ้องแล้ว แถม ใบแจ้งหนี้ มี 3 ใบ ใบเริ่มใช้บัตร ใบเริ่มหยุด และใบล่าสุดที่ใช้ฟ้อง ไม่รู้ลดโลกร้อน ประหยัดกระดาษหรือ กลัวศาลเห็นดอกเบี้ยที่ได้ไปตลอด10ปี มั้ง (เดา)?...แถมใบแจ้งหนี้หลังฟ้องยังส่งมา (คงไม่ใช่ประหยัดกระดาษแล้ว) ยอดก็พุ่งเกินฟ้องไปอีก



ใช่ค่ะ เค้าถ่ายเอกสารตั้งแต่ใบสมัครบัตร รายละเอียดการชำระเงิน ทุกสิ่งอย่างจนถึงที่วันที่เราชำระครั้งสุดท้ายเลยค่ะ หนามาก อันนี้ทำตั้งแต่ปี 51 ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #85235 โดย Tom9449
ผมหยุดKTCเหมือนกัน รอฟ้องแล้วลดดอกเบี้ยเอา หยุดไป2เดือนแล้วน่าจะใกล้เวลาฟ้องแล้ว

tk2321 เขียน:

rainy2016 เขียน: รอขึ้นศาลเหมือนกัน บัตรกด KTC 14 พ.ค.59 เจ้าของกระทู้สู้ๆ ขนาดมีมหกรรมยัง ดอก 10% เขี้ยวจริงๆ แบงค์นี้ ....
ถามค่ะ เอกสารฟ้องบัตรกด ถ่ายใบแจ้งหนี้ที่เราใช้ตั้งแต่เริ่มใช้จนถึงฟ้องไหม ...ของเราใช้เกือบ 10 ปี จ่ายตรงตลอด หยุดครบ 5 เดือน ฟ้องแล้ว แถม ใบแจ้งหนี้ มี 3 ใบ ใบเริ่มใช้บัตร ใบเริ่มหยุด และใบล่าสุดที่ใช้ฟ้อง ไม่รู้ลดโลกร้อน ประหยัดกระดาษหรือ กลัวศาลเห็นดอกเบี้ยที่ได้ไปตลอด10ปี มั้ง (เดา)?...แถมใบแจ้งหนี้หลังฟ้องยังส่งมา (คงไม่ใช่ประหยัดกระดาษแล้ว) ยอดก็พุ่งเกินฟ้องไปอีก



ใช่ค่ะ เค้าถ่ายเอกสารตั้งแต่ใบสมัครบัตร รายละเอียดการชำระเงิน ทุกสิ่งอย่างจนถึงที่วันที่เราชำระครั้งสุดท้ายเลยค่ะ หนามาก อันนี้ทำตั้งแต่ปี 51 ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #85262 โดย Pheonix
ข้อ ๔. ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ ความว่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๕ ข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๑๔ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงออกประกาศกำหนดให้การให้สินเชื่อส่วนบุคคล อันเป็นกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการธนาคาร ซี่งมีลักษณะตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้ เป็นกิจการที่ต้องขออนุญาต ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑. ในประกาศนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด แก่บุคคลธรรมดา โดยมิได้ระบุวัตถุประสงค์ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจของตนเอง “สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” หมายความว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ฯ
ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ ความว่า ๑. เหตุผลในการออกประกาศ ประกาศนี้เดิมออกมาตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๘ เพื่อเป็นการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชน และเป็นการป้องกันปัญหาจากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ๒. อำนาจตามกฎหมาย อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๘ แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเงินทุน ปฏิบัติตามที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ คำนิยาม ๔.๒ ในประกาศนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด แก่บุคคลธรรมดา โดยมิได้ระบุวัตถุประสงค์ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจของตนเอง “สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” หมายความว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ฯ
ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใด ๆ และค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ๔.๕ ให้ผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติในเรื่องการเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม ใด ๆ และค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บต้องไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ (ร้อยละ ๑๕ ต่อปี) โดยอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ดังกล่าว รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ ๒๘ ต่อปี (Effective rate) (๒) นอกจากดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ตาม (๑) แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุได้ ฯ ตามคำฟ้องข้อ ๓. เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ จำเลยได้ยื่นคำขอสมัครสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี(KTC CASH Revolve) ไว้กับโจทก์ โดยโจทก์ได้อนุมัติเงินกู้ให้จำเลยในวงเงินจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี โจทก์ได้ออกบัตรเงินสดพร้อมรหัสส่วนตัวเพื่อให้จำเลยใช้เบิกถอนเงินสดจากเครื่องฝากถอนอัตโนมัติหรือเคาน์เตอร์ของธนาคารฯ โจทก์จะจัดส่งใบแจ้งหนี้ไปเรียกเก็บเงินจากจำเลยทุกรอบบัญชีหรือทุกเดือน ตามประกาศโจทก์ สินเชื่อบุคคล KTC CASH และสินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒, ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒, ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓, ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔, ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕, ๑ มกราคม ๒๕๕๖, ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ และ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ รวม ๘ ฉบับ กำหนดไว้ว่า • อัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve หรือ KTC PROUD ขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้างทั้งสิ้น แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท
จำเลยได้จัดทำตารางการผ่อนชำระ สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve วงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี ผ่อนชำระตามที่โจทก์ประกาศกำหนด สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ ปรากฏว่า จำเลยต้องผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นระยะเวลา ๒๓๐ เดือน ผ่อนชำระขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้างทั้งสิ้น แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท เดือนสุดท้าย ผ่อนชำระหนี้ที่เหลือจำนวน ๑๓๕.๕๐ บาท เงินที่ผ่อนชำระในแต่ละเดือนนำไปชำระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินก่อนส่วนที่เหลือนำไปหักชำระเงินต้น รวมจำนวนเงินที่จำเลยต้องผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๑๐๙,๕๖๓.๑๑ บาท (๓๖๕.๒๑% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๔๒,๖๒๓.๐๙ บาท นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๓๖,๙๔๐.๐๑ บาท นำไปชำระเงินต้น เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น ๗๙,๕๖๓.๑๐ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๒๖๕.๒๑ ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐%) โจทก์อนุมัติสินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ให้จำเลย วงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี ผ่อนชำระขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้าง แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท ทำให้จำเลยต้องผ่อนชำระนานถึง ๑๙ ปี ๒ เดือน จึงจะหมดหนี้ รวมเงินที่จำเลยต้องผ่อนชำระเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐๙,๕๖๓.๑๑ บาท คิดเป็น ๓๖๕,๒๑% ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาทดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ต้องผ่อนชำระ ๗๙,๕๖๓.๑๐ บาท คิดเป็น ๒๖๕.๒๑% ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงการคลังที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน และเป็นการฝ่าผืนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมา เพื่อเป็นการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชน และเป็นการป้องกันปัญหาจากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๐ จำเลยเป็นประชาชนผู้บริโภค ไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน จึงไม่เข้าใจถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้น และถ้ามีการเบิกใช้สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ระยะเวลาที่ต้องผ่อนชำระก็จะเกินกว่า ๑๙ ปี ๒ เดือน ไปอีกมาก อาจถึงตลอดชีวิต ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินก็จะเกิดขึ้นอีกมาก โจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลย่อมทราบสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี จำเลยจึงกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา จำเลยขอปฏิเสธยอดหนี้สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ที่โจทก์ส่งมาเพียง ๓ ฉบับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #85387 โดย rainy2016

Pheonix เขียน: ข้อ ๔. ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ ความว่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๕ ข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๑๔ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงออกประกาศกำหนดให้การให้สินเชื่อส่วนบุคคล อันเป็นกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการธนาคาร ซี่งมีลักษณะตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้ เป็นกิจการที่ต้องขออนุญาต ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑. ในประกาศนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด แก่บุคคลธรรมดา โดยมิได้ระบุวัตถุประสงค์ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจของตนเอง “สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” หมายความว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ฯ
ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ ความว่า ๑. เหตุผลในการออกประกาศ ประกาศนี้เดิมออกมาตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๘ เพื่อเป็นการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชน และเป็นการป้องกันปัญหาจากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ๒. อำนาจตามกฎหมาย อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๘ แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเงินทุน ปฏิบัติตามที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ คำนิยาม ๔.๒ ในประกาศนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด แก่บุคคลธรรมดา โดยมิได้ระบุวัตถุประสงค์ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจของตนเอง “สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” หมายความว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ฯ
ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใด ๆ และค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ๔.๕ ให้ผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติในเรื่องการเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม ใด ๆ และค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บต้องไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ (ร้อยละ ๑๕ ต่อปี) โดยอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ดังกล่าว รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ ๒๘ ต่อปี (Effective rate) (๒) นอกจากดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ตาม (๑) แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุได้ ฯ ตามคำฟ้องข้อ ๓. เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ จำเลยได้ยื่นคำขอสมัครสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี(KTC CASH Revolve) ไว้กับโจทก์ โดยโจทก์ได้อนุมัติเงินกู้ให้จำเลยในวงเงินจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี โจทก์ได้ออกบัตรเงินสดพร้อมรหัสส่วนตัวเพื่อให้จำเลยใช้เบิกถอนเงินสดจากเครื่องฝากถอนอัตโนมัติหรือเคาน์เตอร์ของธนาคารฯ โจทก์จะจัดส่งใบแจ้งหนี้ไปเรียกเก็บเงินจากจำเลยทุกรอบบัญชีหรือทุกเดือน ตามประกาศโจทก์ สินเชื่อบุคคล KTC CASH และสินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒, ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒, ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓, ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔, ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕, ๑ มกราคม ๒๕๕๖, ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ และ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ รวม ๘ ฉบับ กำหนดไว้ว่า • อัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve หรือ KTC PROUD ขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้างทั้งสิ้น แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท
จำเลยได้จัดทำตารางการผ่อนชำระ สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve วงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี ผ่อนชำระตามที่โจทก์ประกาศกำหนด สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ ปรากฏว่า จำเลยต้องผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นระยะเวลา ๒๓๐ เดือน ผ่อนชำระขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้างทั้งสิ้น แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท เดือนสุดท้าย ผ่อนชำระหนี้ที่เหลือจำนวน ๑๓๕.๕๐ บาท เงินที่ผ่อนชำระในแต่ละเดือนนำไปชำระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินก่อนส่วนที่เหลือนำไปหักชำระเงินต้น รวมจำนวนเงินที่จำเลยต้องผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๑๐๙,๕๖๓.๑๑ บาท (๓๖๕.๒๑% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๔๒,๖๒๓.๐๙ บาท นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๓๖,๙๔๐.๐๑ บาท นำไปชำระเงินต้น เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น ๗๙,๕๖๓.๑๐ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๒๖๕.๒๑ ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐%) โจทก์อนุมัติสินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ให้จำเลย วงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี ผ่อนชำระขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้าง แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท ทำให้จำเลยต้องผ่อนชำระนานถึง ๑๙ ปี ๒ เดือน จึงจะหมดหนี้ รวมเงินที่จำเลยต้องผ่อนชำระเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐๙,๕๖๓.๑๑ บาท คิดเป็น ๓๖๕,๒๑% ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาทดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ต้องผ่อนชำระ ๗๙,๕๖๓.๑๐ บาท คิดเป็น ๒๖๕.๒๑% ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงการคลังที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน และเป็นการฝ่าผืนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมา เพื่อเป็นการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชน และเป็นการป้องกันปัญหาจากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๐ จำเลยเป็นประชาชนผู้บริโภค ไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน จึงไม่เข้าใจถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้น และถ้ามีการเบิกใช้สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ระยะเวลาที่ต้องผ่อนชำระก็จะเกินกว่า ๑๙ ปี ๒ เดือน ไปอีกมาก อาจถึงตลอดชีวิต ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินก็จะเกิดขึ้นอีกมาก โจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลย่อมทราบสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี จำเลยจึงกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา จำเลยขอปฏิเสธยอดหนี้สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ที่โจทก์ส่งมาเพียง ๓ ฉบับ

#ได้สำเนาในหมายศาล 3 ฉบับ จริงๆ(เริ่มใช้-หยุดจ่าย-ฟ้อง)...เอาไงดี??? ตอนนี้ขอเลื่อนศาลแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.889 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena