การเจรจาต่อรองกับ JMT

สวัสดีครับ

มีคำถามเล็กน้อยสอบถามสมาชิกที่เคยติดต่อกับทาง JMT ครับ

ผมเคยถูกยึดรถ (ขับไปคืนเองที่ไฟแนนซ์) เพราะส่งไม่ไหวค้างส่งมาสามเดือนเมื่อราวๆปี 51

แล้วทางไฟแนนซ์(SCB)ส่งหมายศาลไปที่อยู่เก่า(ผมย้ายออกมานานแล้ว)เลยไม่ได้รับ

พย. 52 ศาลตัดสินให้ผมต้องชำระค่าส่วนต่างราวๆ 17X,XXX บาท ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

จนกระทั่งสองสามปีก่อน เคยมี JMT โทรมาทวงผมจึงทราบว่าผมเป็นหนี้ตัวนี้อยู่

ณ ตอนนั้นเจ้าหน้าที่เจรจา ให้ผมจ่ายปิดยอดที่ 140,000 บาท แต่ผมยังแย่อยู่ในตอนนั้น

เลยไม่ตกลง เขาบอกว่าจะส่งเรื่องเข้ากรมบังคับคดี ผมเลยบอกว่า ทำตามขั้นตอนได้เลยครับ

ผมไม่มีจ่ายก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ หลังจากนั้นก็เงียบไปจนไม่นานมานี้ โทรมาอีกครั้ง

ตอนนี้ยอดไปที่ 27X,XXX บาทแล้ว เขาแจ้งว่าถ้าปิดบัญชีเลยได้ที่ 24X,XXX บาท

ผมเลยเจรจาขอจบที่ 150,000 บาทถ้วน โดยแฟนผมยินดีช่วยเอารถไปรีไฟแนนซ์ให้

แต่ทางนั้นไม่ยอมท่าเดียว ขู่แต่เรื่องส่งเข้ากรมบังคับคดี ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมก็ไม่เดือดร้อนอะไรนะ

เพราะหักแค่เดือนละหมื่น สองปีก็หมด แค่ต้องจ่ายเต็มยอดเท่านั้น 27X,XXX บาทบวกดอกเบี้ย

ถามคนที่เคยโดนบังคับคดีครับ ว่าเขาจะหักเงินเดือนก่อน หรือว่าสืบทรัพย์ก่อนครับ

ผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นชื่อผมเลย ทั้งรถและบ้านเป็นชื่อแฟน(ผ่อนหมดแล้ว) ไม่ได้จดทะเบียนด้วย

แต่แฟนไม่ได้ทำงานอะไรเลย เป็นแม่บ้าน ทั้งหมดเป็นเงินที่ผมหามาทั้งนั้น จะมีผลอะไรไหมครับ

อีกอย่างใครมีวิธีเจรจาให้มันจบที่ 150,000 บาทได้ไหมครับ จะได้จบๆกันไป

ผมมาทราบทีหลังว่าหนี้เริ่มต้นที่เป็นส่วนต่างจากการขายรถอยู่ที่ 11X,XXX บาทเท่านั้น

ที่เหลือเป็นดอกเบี้ยล้วนๆ ในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา

ในช่วงที่เป็นหนี้กับไทยพาณิชย์ ไม่เคยโทรหาผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว(ผมไม่เคยเปลี่ยนเบอร์เลย)

จนกระทั่งโอนหนี้ (เซ็งมาก) ถ้าผมรู้ว่าต้องขึ้นศาลผมคงไป และมันคงไม่บานปลายขนาดนี้

ขออภัยที่ยาวหน่อย อยากระบายด้วย

ขอบคุณที่อ่านแล้วช่วยแชร์ประสบการณ์กันนะครับ

Ranger เขียน: ถามคนที่เคยโดนบังคับคดีครับ ว่าเขาจะหักเงินเดือนก่อน หรือว่าสืบทรัพย์ก่อนครับ

เจ้าหนี้ในคดีแพ่งมีสิทธิ์เล่นงานลูกหนี้ได้ทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน ทั้งทำเรื่องอายัดเงินเดือนและยึดทรัพย์ โดยสามารถทำเรื่องพร้อมๆกันเลยก็ได้
แต่ส่วนมากเจ้าหนี้มักจะเล่นงานเรื่องอายัดเงินเดือนก่อน เพราะสามารถทำเรื่องได้ง่ายและเสียค่าธรรมเนียมในราคาที่ถูกกว่า หากเจ้าหนี้ไม่สามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้ เจ้าหนี้ก็จะหันไปทำเรื่องยึดทรัพย์ต่อไป

Ranger เขียน: ผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นชื่อผมเลย ทั้งรถและบ้านเป็นชื่อแฟน(ผ่อนหมดแล้ว) ไม่ได้จดทะเบียนด้วย

ถ้างั้น...เจ้าหนี้ของคุณ ก็สามารถเล่นงานคุณได้แค่"อายัดเงินเดือน"ของคุณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

Ranger เขียน: แต่แฟนไม่ได้ทำงานอะไรเลย เป็นแม่บ้าน ทั้งหมดเป็นเงินที่ผมหามาทั้งนั้น จะมีผลอะไรไหมครับ

คู่สามี/ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ในทางกฏหมายเขาถือว่าเป็นเพียงแค่"กิ๊ก"เท่านั้นครับ...คู่ของกิ๊กไม่มีส่วนได้เสียในทางกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือหนี้สินของกิ๊กอีกฝ่าย

และถึงแม้ว่าแฟน(กิ๊ก)ของคุณ จะมีลูก(บุตร)ด้วยกันกับคุณเป็นโขยงแล้วก็ตาม แต่ในทางกฏหมาย หากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แฟนของคุณก็จะมีฐานะเป็นเพียงแค่"กิ๊ก"ไปเรื่อยๆอยู่ดี...ตราบใดที่ยังไม่จดทะเบียนสมรสกัน

Ranger เขียน: ที่เหลือเป็นดอกเบี้ยล้วนๆ ในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา
ในช่วงที่เป็นหนี้กับไทยพาณิชย์ ไม่เคยโทรหาผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว(ผมไม่เคยเปลี่ยนเบอร์เลย)
จนกระทั่งโอนหนี้ (เซ็งมาก) ถ้าผมรู้ว่าต้องขึ้นศาลผมคงไป และมันคงไม่บานปลายขนาดนี้

ผมมีวิธีแนะนำ ที่อาจทำให้คุณไม่ต้องถูกอายัดเงินเดือนหรือถูกยึดทรัพย์จากเจ้าหนี้ได้เลยสักอย่าง
แต่...ไม่สามารถบอกในนี้ได้

เหตุผล
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40552&Itemid=64#45365

ขอบคุณครับ ขออนุญาตโทรไปปรึกษา ตามเวลาที่ระบุไว้นะครับ

ขอบคุณมากๆครับ

หลังจากที่โทรปรึกษาพี่นกกระจอกเทศ

จากที่จิตตกมากช่วงนี้ ตอนนี้บอกเลยหลังจากได้ปรึกษาผมโล่งมากไม่มีความกังวลอะไรอยู่แล้วในหัว

อยากบอกกับทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ว่าทุกปัญหามีทางออกแก้ไขได้

ถ้าท่านได้คุยหรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในนี้

ผมเชื่อว่าทุกเคสจะคลายความกังวลได้ไม่มากก็น้อย

แต่สำหรับผมบอกได้เลย "ผมไม่มีความกังวลอีกต่อไป" 555

ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากๆ ขอบคุณๆๆๆๆๆๆ