หยุดจ่ายมาเกือบปี แต่เพิ่งได้รับหมายศาล

จริงๆแล้วเป็นลูกค้าบัตรเครดิต KTC มานานหลายปีมากค่ะ จนเริ่มมีปัญหาหลังจากหย่ากับสามีแล้ว รายได้ลดน้อยลงซึ่งขณะนั้นยอดหนี้อยู่ที่ 94,000 บาทค่ะ
แต่เราก็พยายามหมุนเงินในบัตรอยู่เรื่อยๆ จนเริ่มมีปัญหาเศรษฐกิจหลายอย่างค่ะ
จนดำเนินมาปี 55 ก็หยุดใช้บัตรแล้วค่ะ แต่พยายามชำระหนี้มาเรื่อยๆ แต่เดือนไหนที่ไม่มีจริงๆก็ไม่ได้จ่ายค่ะ ก็เลยเป็นจ่ายบ้างเว้นบ้าง

พอมาปี 56 ทาง KTC ก็ขึ้นสถานะ ชำระสินเชื่อเพื่อปิดบัญชี คือไม่ให้หมุนเงินในบัตรซึ่งเราก็ไม่ได้คิดจะหมุนอยู่แล้วแต่ต้องการจะชำระหนี้ให้หมด แต่ดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนียม+ค่าติดตามก็โหดซะเหลือเกินค่ะ แต่ละเดือนยอดดอกเบี้ยและคณะพวกนี้ตกประมาณเดือนละ 1300-1500 เลยค่ะ ในขณะที่เค้าให้เราจ่ายขั้นต่ำได้เดือนละ 2000กว่าบาท เท่ากับว่าเงินต้นถูกหักนิดเดียวเอง
เราก็พยายามกัดฟันชำระแบบกระท่อนกระแท่นมาเรื่อยๆค่ะ แต่ดอกเบี้ยและคณะ ไม่เคยหยุดค่ะ
จนจบปี 55 นั้นเราพยายามจ่ายไปจนยอดหนี้เหลือ 79,000นิดๆค่ะ พอหลังจากนั้นปี 56 มาเริ่มมีปัญหาทางการเงินหลายอย่างค่ะ ไปซื้อรถให้คนรู้จักกันแล้วเค้าไม่ผ่อนต่อ กลายเป็นภาระเรา เลยเริ่มจ่ายหนี้ต่อไม่ไหวแล้วค่ะ

แต่ก็ยังพยายามจ่ายอยู่บ้าง แต่ก็น้อยลงไปมากจริงๆ จนมาปี 57 ดอกเบี้ยพร้อมคณะกับเงินต้น พรวดขึ้นมาที่ 88,000 กว่าๆแล้ว เดือนส.ค. 57 ก็เลยกัดฟันจ่ายไปอีกรอบ 3000กว่าบาทค่ะ ตัดดอกไป 1200 กว่า ไม่ช่วยอะไรเลย พอเดือน พ.ย. 57 KTC ก็แจ้งมาว่าให้ชำระให้หมดในยอด 88,xxxค่ะ ซึ่งถ้าเราสามารถเราคงไม่พยายามจ่ายดอกให้เค้ามาเรื่อยๆโดยเงินต้นไม่เคยลดลงเลยหรอกค่ะ
ก็เลยพยายามโทรไปประนอมหนี้รอบแรกค่ะ แต่แบงค์ไม่ยอมอะไรเลย ไม่ลด ไม่อะไรทั้งนั้น
จนมาปีนี้ 58 จากยอด 88,xxx นะคะ ณ ปัจจุบัน พรวดขึ้นมาเป็น 97,xxx เลยค่ะ ทะลุเป้าเกินจากวงเงินซะอีก เลยอยากรบกวนสอบถามนะคะว่า

1. เราเตรียมตัวที่จะไปขึ้นศาลวันที่ 11 ที่จะถึงนี้แล้ว ตั้งใจจะไปเจรจาน่ะค่ะว่าถ้าขอผ่อนผันชำระหนี้เป็นรายเดือนในระยะเวลา 2 ปี จะได้มั้ย
2. ยอดหนี้ที่เราต้องชำระจะเป็นยอดเต็มวงเงิน หรือยอดเกินวงเงินที่แบงค์คิดกับเราล่าสุดค่ะซึ่งมันทบดอกมาหมดเลย ทั้งที่เราพยายามชำระมาโดยไม่ได้ใช้บัตรอีกเลย เราจะสามารถขอชำระยอดล่าสุดก่อนที่จะหยุดชำระไปได้มั้ยคะ เพราะหลังจากนั้นมันมีแต่ดอกเบี้ยแบงค์ล้วนๆเลย
3.เราสามารถที่จะเจรจาขอความเห็นใจ ในการต่อรองการชำระหนี้ต่อหน้าศาลด้วยตัวเองได้มั้ยคะ หรือจำเป็นที่จะต้องมีทนายความ หรือทางศาลมีทนายแต่งตั้งให้เรามั้ยคะ
รบกวนขอความรู้หน่อยนะคะ

phanita เขียน: จริงๆแล้วเป็นลูกค้าบัตรเครดิต KTC มานานหลายปีมากค่ะ จนเริ่มมีปัญหาหลังจากหย่ากับสามีแล้ว รายได้ลดน้อยลงซึ่งขณะนั้นยอดหนี้อยู่ที่ 94,000 บาทค่ะ
แต่เราก็พยายามหมุนเงินในบัตรอยู่เรื่อยๆ จนเริ่มมีปัญหาเศรษฐกิจหลายอย่างค่ะ
จนดำเนินมาปี 55 ก็หยุดใช้บัตรแล้วค่ะ แต่พยายามชำระหนี้มาเรื่อยๆ แต่เดือนไหนที่ไม่มีจริงๆก็ไม่ได้จ่ายค่ะ ก็เลยเป็นจ่ายบ้างเว้นบ้าง

พอมาปี 56 ทาง KTC ก็ขึ้นสถานะ ชำระสินเชื่อเพื่อปิดบัญชี คือไม่ให้หมุนเงินในบัตรซึ่งเราก็ไม่ได้คิดจะหมุนอยู่แล้วแต่ต้องการจะชำระหนี้ให้หมด แต่ดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนียม+ค่าติดตามก็โหดซะเหลือเกินค่ะ แต่ละเดือนยอดดอกเบี้ยและคณะพวกนี้ตกประมาณเดือนละ 1300-1500 เลยค่ะ ในขณะที่เค้าให้เราจ่ายขั้นต่ำได้เดือนละ 2000กว่าบาท เท่ากับว่าเงินต้นถูกหักนิดเดียวเอง
เราก็พยายามกัดฟันชำระแบบกระท่อนกระแท่นมาเรื่อยๆค่ะ แต่ดอกเบี้ยและคณะ ไม่เคยหยุดค่ะ
จนจบปี 55 นั้นเราพยายามจ่ายไปจนยอดหนี้เหลือ 79,000นิดๆค่ะ พอหลังจากนั้นปี 56 มาเริ่มมีปัญหาทางการเงินหลายอย่างค่ะ ไปซื้อรถให้คนรู้จักกันแล้วเค้าไม่ผ่อนต่อ กลายเป็นภาระเรา เลยเริ่มจ่ายหนี้ต่อไม่ไหวแล้วค่ะ

แต่ก็ยังพยายามจ่ายอยู่บ้าง แต่ก็น้อยลงไปมากจริงๆ จนมาปี 57 ดอกเบี้ยพร้อมคณะกับเงินต้น พรวดขึ้นมาที่ 88,000 กว่าๆแล้ว เดือนส.ค. 57 ก็เลยกัดฟันจ่ายไปอีกรอบ 3000กว่าบาทค่ะ ตัดดอกไป 1200 กว่า ไม่ช่วยอะไรเลย พอเดือน พ.ย. 57 KTC ก็แจ้งมาว่าให้ชำระให้หมดในยอด 88,xxxค่ะ ซึ่งถ้าเราสามารถเราคงไม่พยายามจ่ายดอกให้เค้ามาเรื่อยๆโดยเงินต้นไม่เคยลดลงเลยหรอกค่ะ
ก็เลยพยายามโทรไปประนอมหนี้รอบแรกค่ะ แต่แบงค์ไม่ยอมอะไรเลย ไม่ลด ไม่อะไรทั้งนั้น
จนมาปีนี้ 58 จากยอด 88,xxx นะคะ ณ ปัจจุบัน พรวดขึ้นมาเป็น 97,xxx เลยค่ะ ทะลุเป้าเกินจากวงเงินซะอีก เลยอยากรบกวนสอบถามนะคะว่า

1. เราเตรียมตัวที่จะไปขึ้นศาลวันที่ 11 ที่จะถึงนี้แล้ว ตั้งใจจะไปเจรจาน่ะค่ะว่าถ้าขอผ่อนผันชำระหนี้เป็นรายเดือนในระยะเวลา 2 ปี จะได้มั้ย
- ได้ครับ อาจจะได้ถึง 3 ปีด้วยครับ
2. ยอดหนี้ที่เราต้องชำระจะเป็นยอดเต็มวงเงิน หรือยอดเกินวงเงินที่แบงค์คิดกับเราล่าสุดค่ะซึ่งมันทบดอกมาหมดเลย ทั้งที่เราพยายามชำระมาโดยไม่ได้ใช้บัตรอีกเลย เราจะสามารถขอชำระยอดล่าสุดก่อนที่จะหยุดชำระไปได้มั้ยคะ เพราะหลังจากนั้นมันมีแต่ดอกเบี้ยแบงค์ล้วนๆเลย
- ถ้าประนอมหนี้แล้วผ่อน 3 เดือน ส่วนมากจะคิดยิดเต็มครับ แต่ ktc อาจจะลดดอกเบี้ยให้บ้าง
3.เราสามารถที่จะเจรจาขอความเห็นใจ ในการต่อรองการชำระหนี้ต่อหน้าศาลด้วยตัวเองได้มั้ยคะ หรือจำเป็นที่จะต้องมีทนายความ หรือทางศาลมีทนายแต่งตั้งให้เรามั้ยคะ
- ไม่ต้องใช้ทนายครับกรณีจะขอความเมตตาจากศาล คุณสามารถเจรจาด้วยคำพูดได้ครับ
รบกวนขอความรู้หน่อยนะคะ

ถึงคุณ Phanita
pfs ทำตรางคำนวณยอดที่คุณต้องผ่อนจ่ายเป็นเวลา 3 ปี (แบบคร่าวนะคะ เพราะวันที่คุณไปศาลคุณ
ต้องพยายามพูดต่อรองขอลดในส่วนดอกเบี้ยที่เดิน อาจจะได้ลดไปได้เกือบเท่ายอดที่หยุด
ถ้าได้ตัดลดดอกเบี้ยไป) คุณก็จะผ่อนตกประมาณ 3000 บาท 36 งวดค่ะ good luck!

สงสัย อีกไม่นาน อาจจะต้องรบกวนคุณ pfs ด้วยล่ะครับเนี่ย เคสผมคงมีเยอะ เพราะเป็นหนี้เกือบทุกที่

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64


ข้อต่อสู้ในคดีแพ่ง ที่ลูกหนี้ควรศึกษา
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1897&Itemid=64


เตือนไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาลด้วยตัวเองเพียงลำพัง
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8372&Itemid=64