หมุนจนไม่ไหว ตัดสินใจจะหยุดจ่าย กลัวไปหมด ช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วยคะ ขอบพระคุณที่กรุณาคะ

ถ้าไม่บอก เขาก็น่าจะรู้นะคะ จากเอกสารที่ส่งมาจากธนาคาร ที่สำคัญคือคุณเองจะยิ่งแย่คะ ควรค่อยลำดับความคิดดีๆ ตอนเรา เราตัดสินใจต้องบอกแม่ พี่น้อง เจ้านาย เรากลัวเขาผิดหวังในตัวเรา กลัวเขาเสียใจ แต่พอบอกแล้วโล่งอกมากคะ เขาเข้าใจเหตุผลเราที่เป็นหนี้ คนของเรา เขาน่าจะรัก และเข้าใจนะคะ แต่ที่ทำคือ เขียนร่างเรื่องไว้ก่อน ว่าทำไม เป็นหนี้ จะพูดอย่างไร อ่านซ้ำๆ ว่าบอกแบบนี้ แล้วเข้าท่าไม๊ เป็นการลำดับความคิดตัวเองคะ แย่ทีสุดคือเราต้องถูกอายัดเงินเดือน เราได้มีเงินเหลือเท่าไร ดูแลเขาได้เหมือนเดิม ไม๊ แนวทางที่จะแก้ไข step ที่จะเกิดขึ่นเป็นอย่างไร เช่นมีคนโทรมาที่บ้านนะ เพื่อให้เขารู้ ไม่ต้องแปลกใจ เขาจะเข้าใจ ว่าเขาจะเจออะไรบ้าง แต่ทางที่ดี ควรดูเรื่องทรัพย์สินอะไร ที่อาจถูกยึดได้ ควรรีบจัดการให้เร็วนะคะ

สู้ๆ คะ เป็นกำลังใจคะ

คุณ Chokdee
ขอบพระคุณมากคะสำหรับคำแนะนำ และกำลังใจที่มีให้คะ
จะพยายามคะ อยากบอกมากคะ อึดอัด กลุ้มจริงๆ คะ

1 ปีของผมกำลังจะผ่านไป กับการหยุดจ่าย
- ขึ้น ศาล ไป 1ตัว KTC ยอด 133,000 ประนอมเหลือจ่าย1,500/เดือน 3ปี ดอก เหลือ 10% ต้นหาปิดทีหลัง ศาลแล้วคุยกันง่าย
เริ่มหยุด หนี้1 ล้าน 2แสนโดยประมาณ 1ปีผ่านไป เหลือหนี่ 5แสน5 โดยประมาณ

สู้ไปด้วยกันครับ อดทน 3-5 ปีเราก็จะ เป็นไท..

หมอชาวบ้าน เขียน: 1 ปีของผมกำลังจะผ่านไป กับการหยุดจ่าย
- ขึ้น ศาล ไป 1ตัว KTC ยอด 133,000 ประนอมเหลือจ่าย1,500/เดือน 3ปี ดอก เหลือ 10% ต้นหาปิดทีหลัง ศาลแล้วคุยกันง่าย
เริ่มหยุด หนี้1 ล้าน 2แสนโดยประมาณ 1ปีผ่านไป เหลือหนี่ 5แสน5 โดยประมาณ

สู้ไปด้วยกันครับ อดทน 3-5 ปีเราก็จะ เป็นไท..

คุณหมอชาวบ้าน
ขอบพระคุณมากคะที่เข้ามาให้กำลังใจ
คุณเก่งมากๆ เลยคะ ปีเดียวปิดไปครึ่งทางแล้ว

มีวิธีในการเจรจาต่อรอง หรือมีอะไรที่อยากแนะนำมั๊ยคะ

ถัามีหมายศาลมา เจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ก่อนถึงวันขึ้นศาลก็ถือว่าจบกันไปใช่มั๊ยคะ

หรือถ้าไปขึ้นศาล ตกลงผ่อนกัน 36 งวด แบบ KTC ขอให้ผ่อนให้ตรงทุกงวด

ท่านใดมีคำแนะนำ ขอรบกวนด้วยคะ
ขอบพระคุณมากคะ

PatPat เขียน: ถัามีหมายศาลมา เจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ก่อนถึงวันขึ้นศาลก็ถือว่าจบกันไปใช่มั๊ยคะ

อาจไม่จบก็ได้ครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42727&Itemid=64#68797

PatPat เขียน: หรือถ้าไปขึ้นศาล ตกลงผ่อนกัน 36 งวด แบบ KTC ขอให้ผ่อนให้ตรงทุกงวด
เขาจะไม่มายุ่งกับทรัพย์สินของสามีใช่มั๊ยคะ

ใช่ครับ

PatPat เขียน: บ้าน รถ เป็นชื่อสามี จดทะเบียนกันคะ

สินสมรสทุกอย่าง ที่มีชื่อของ"คู่สมรส"เป็นเจ้าของ"เพียงคนเดียว"...ก็สามารถ ยึด/อายัด กึงหนึ่ง(ครึ่งนึง)...หากสืบได้ว่าเป็น"สินสมรส"

แต่ถ้าไม่ใช่สินสมรส ก็สามารถยึดทรัพย์ได้ทุกอย่าง หากมีชื่อของลูกหนี้(จำเลย)เป็นเจ้าของ ได้แบบเต็ม 100%

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=36134&Itemid=64&view=topic#36134

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41129&Itemid=64&limitstart=20#51447

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41059&limitstart=20&Itemid=64#51490

PatPat เขียน: ถ้าชื่อเราเป็นหนี้เสีย ติดบูโร สามียังทำธุรกรรมกับแบงค์ได้มั๊ยคะ

ถ้าอยากรู้ความจริงก็ให้สามีของคุณ ไปเช็คข้อมูลของตัวเอง ที่เครดิตบูโรสิครับ

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64

เข้ามาเป็นอีก 1 กำลังใจค่ะ

ค่อยๆคิดนะค่ะ อ่านกระทู้เยอะๆค่ะ niwan ก้อเพิ่งหยุดจะเข้าเดือนที่ 3 แล้วค่ะ

สู้ สู้นะค่ะ

ขอบพระคุณมากคะ คุณนกกระจอกเทศ

niwan เขียน: เข้ามาเป็นอีก 1 กำลังใจค่ะ

ค่อยๆคิดนะค่ะ อ่านกระทู้เยอะๆค่ะ niwan ก้อเพิ่งหยุดจะเข้าเดือนที่ 3 แล้วค่ะ

สู้ สู้นะค่ะ

ขอบพระคุณมากคะ คุณ niwan ขอเป็นกำลังใจให้คะ

การอายัดทรัพย์เกิดหลังจากที่มีการอายัดเงินเดือนใช่มั๊ยคะ
คือต้องผ่านกระบวนการฟ้อง ขึ้นศาล ตกลงจะจ่ายแบบนี้ แต่เราผิดนัดในการจ่าย เจ้าหนี้เลยส่งบังคับคดีให้อายัดเงินเดือน และยึดทรัพย์ ถูกต้องตามนี้มั๊ยคะ

ขอบพระคุณมากคะ

PatPat เขียน: สวัสดีคะ

ตามอ่านโพสต์ที่ลงไว้

มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย พร้อมกับความกลัว
หยุดทุกตัวเลยดีมั๊ย
กลัวหยุดจ่าย HC มาเร็ว หาเงินไม่ทัน
ถูกส่งฟัอง จะกระทบกับงานมั๊ย

ไม่มีเงินเก็บเลย รออย่างเดียวจากเงินเดือน เดือนละ 50,000

หนี้ที่มี โดยประมาณ
Umay+ 110,000
FC 80,000
Aeon 70,000
BBL 80,000
UOB 110,000/loan 45,000
SCB 70,000
TFB 40,000
Thanachart 70,000
Citi 330,000/ready 120,000
KTB 190,000/cash revolve 45,000
SCBT 30,000
Central 25,000
Amex 110,000

ช่วยชี้ทางให้ด้วยคะ เครียดสุดๆ คะ ขอบพระคุณมากคะ

ใจเย็นๆ นะคะ ยอดหนี้ของพวกเราไม่ต่างกันมาก เพิ่งเริ่มหยุดเหมือนกันด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะ

BenJi JumP เขียน:

PatPat เขียน: สวัสดีคะ

ตามอ่านโพสต์ที่ลงไว้

มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย พร้อมกับความกลัว
หยุดทุกตัวเลยดีมั๊ย
กลัวหยุดจ่าย HC มาเร็ว หาเงินไม่ทัน
ถูกส่งฟัอง จะกระทบกับงานมั๊ย

ไม่มีเงินเก็บเลย รออย่างเดียวจากเงินเดือน เดือนละ 50,000

หนี้ที่มี โดยประมาณ
Umay+ 110,000
FC 80,000
Aeon 70,000
BBL 80,000
UOB 110,000/loan 45,000
SCB 70,000
TFB 40,000
Thanachart 70,000
Citi 330,000/ready 120,000
KTB 190,000/cash revolve 45,000
SCBT 30,000
Central 25,000
Amex 110,000

ช่วยชี้ทางให้ด้วยคะ เครียดสุดๆ คะ ขอบพระคุณมากคะ

ใจเย็นๆ นะคะ ยอดหนี้ของพวกเราไม่ต่างกันมาก เพิ่งเริ่มหยุดเหมือนกันด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบพระคุณมากคะ คุณ BenJi Jump ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีคะ

PatPat เขียน: การอายัดทรัพย์เกิดหลังจากที่มีการอายัดเงินเดือนใช่มั๊ยคะ
คือต้องผ่านกระบวนการฟ้อง ขึ้นศาล ตกลงจะจ่ายแบบนี้ แต่เราผิดนัดในการจ่าย เจ้าหนี้เลยส่งบังคับคดีให้อายัดเงินเดือน และยึดทรัพย์ ถูกต้องตามนี้มั๊ยคะ

ขอบพระคุณมากคะ

เข้าใจแบบนี้ถูกต้องมั๊ยคะ ขอบพระคุณมากคะ

PatPat เขียน:

PatPat เขียน: การอายัดทรัพย์เกิดหลังจากที่มีการอายัดเงินเดือนใช่มั๊ยคะ
คือต้องผ่านกระบวนการฟ้อง ขึ้นศาล ตกลงจะจ่ายแบบนี้ แต่เราผิดนัดในการจ่าย เจ้าหนี้เลยส่งบังคับคดีให้อายัดเงินเดือน และยึดทรัพย์ ถูกต้องตามนี้มั๊ยคะ

ขอบพระคุณมากคะ

เข้าใจแบบนี้ถูกต้องมั๊ยคะ ขอบพระคุณมากคะ

ไม่ถูกครับ ถ้าคุณมีทรัพย์สินมีค่า ที่ยึดแล้วได้เงินเร็วกว่าการอายัดเงินเดือน เจ้าหนี้ก็คงเลือกจะยึดทรัพย์ครับ

.
ข้อกฏหมายที่ต้องจำ

ศาลไม่มีหน้าที่ไปอายัดหรือยึดทรัพย์ใดๆของลูกหนี้

หน้าที่ในการอายัดหรือยึดทรัพย์ของจำเลย เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดีเท่านั้น...ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์...แม้กระทั่งตัวของเจ้าหนี้เอง...ก็ไม่มีสิทธิ์

โดยกระบวนการอายัดหรือยึดทรัพย์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ
ต้องจบสิ้นคดีในการฟ้องร้องต่อศาลแล้ว โดยศาลได้มีคำสั่งให้ลูกหนี้ต้องจ่ายหนี้ ตามคำพิพากษาที่ศาลสั่ง

หากลูกหนี้ยังคงเพิกเฉย ไม่ยอมปฎิบัติตามคำพิพากษาของศาลอีก
เจ้าหนี้ก็จะเอาคำพิพากษาของศาลในคดีดังกล่าว ไปยื่นคำร้องต่อ"กรมบังคับคดี"
เพื่อให้ทางกรมบังคับคดีเป็นผู้ออกคำสั่ง ยึด/อายัด (หมายบังคับคดี)
โดยเจ้าหน้าที่บังคับคดีจะเป็นผู้ดำเนินการ ในการยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนของลูกหนี้ (ซึ่งเจ้าหนี้อาจยื่นคำร้อง ขอให้ทำการยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือน พร้อมๆเลยกันก็ได้) เพื่อนำมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลต่อไป


อ้างอิงข้อมูลจาก
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ขอบพระคุณมากคะ คุณ FEM

ขอบพระคุณมากคะ คุณนกกระจอกเทศ

การอายัดเงินเดือน จะเกิดก็ต่อเมื่อ เราได้ผิดสัญญาต่อเจ้าหนี้ หลังจากที่ศาลพิพากษาแล้ว ใช่มั๊ยคะ

เช่น ศาลตัดสินผ่อนจ่าย งวดละ... เป็นเวลา...
ถ้าเราจ่ายตรง ถูกต้อง ก็จะไม่มีการอายัดเงินเดือนกับทรัพย์เกิดขึ้น

ในระหว่างหยุดจ่าย เก็บเงิน รอ H/C จะไม่มีการอายัดเงินเดือนเกิดขึ้น มีแต่ดูดเงินในบัญชีของแบงค์เดียวกันเองกับเจ้าหนี้บัตรเครดิต ไม่สามารถข้ามแบงค์ไปดูดแบงค์อื่นได้

เข้าใจถูกต้องมั๊ยคะ ขอโทษด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากคะ

PatPat เขียน: ศาลตัดสินผ่อนจ่าย งวดละ... เป็นเวลา...
ถ้าเราจ่ายตรง ถูกต้อง ก็จะไม่มีการอายัดเงินเดือนกับทรัพย์เกิดขึ้น

คุณไปอ่านให้ดีๆสิครับ อยู่ในบรรทัดบนสุดของกระทู้เลยนะเนี่ย




ถ้าจะว่ากันตามกฏหมายแล้ว หากมีหนี้ซึ่งกันและกัน แล้วเกิดการไม่ชดใช้หนี้กันขึ้น ฝ่ายที่เป็นเจ้าหนี้จะต้องไปฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง(หรือศาลคดีผู้บริโภคก็ตาม) เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวตามคำฟ้อง(คดีดำ)
โดยศาลท่านจะมีหน้าที่เพียงแค่พิพากษาว่า จำเลยจะต้องจ่ายหนี้คืนให้กับโจทก์หรือเจ้าหนี้ เป็นเงินเท่าใด? ดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมควรจะต้องเป็นเท่าไหร่? จึงจะเป็นธรรมตามกฏหมาย...เท่านั้น

ท่านจะไม่มีหน้าที่โดยตรงในการไกล่เกลี่ย หรือออกคำสั่งให้ผ่อนจ่ายหนี้ได้หรือไม่? ผ่อนเท่าไหร่? และผ่อนอย่างไร? เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกมองได้ว่า ศาลลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง...ดังนั้น ส่วนมากท่านจะไม่พิจารณาในเรื่องการผ่อนชำระ ด้วยตัวของท่านเองหรอกนะครับ ยกเว้นจำเลยกับทนายโจทก์จะตกลงกันได้เองต่อหน้าศาล หรือไม่งั้นจำเลยก็ต้องภาวนา ขอให้ได้เจอกับศาลที่ใจดีแบบสุดๆ โดยท่านอาจช่วยลงมาช่วยพิจารณาในเรื่องการขอผ่อนของจำเลยให้...ก็อาจเป็นไปได้(แต่โอกาสในกรณีนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก)...ก็คงต้องไปรอลุ้นกันต่อไปในชั้นศาลเอาเองนะครับ


อ้างอิงข้อมูลจาก
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64




สรุปก็คือ
การยึด/อายัดทรัพย์ ใดๆของลูกหนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อศาลมีคำสั่งพิพากษาของศาลออกมาแล้ว แต่ลูกหนี้กลับ"ดื้อแพ่ง"ต่อคำสั่งของศาล กล่าวคือลูกหนี้ ไม่หือ ไม่อือ ไม่จ่าย ไม่ทำห่าเหวอะไรเลยสักอย่าง เจ้าหนี้ก็จำเป็นต้องทำเรื่อง ยึด/อายัดทรัพย์ ของลูกหนี้ต่อไป...เพราะไม่มีทางเลือก

หรือ

ลูกหนี้ไปเซ็นต์สัญญาทำข้อตกลงผ่อนจ่ายต่อหน้าศาล แล้วไม่ยอมจ่ายตามข้อตกลงดังกล่าว เจ้าหนี้ก็สามารถทำเรื่อง ยึด/อายัดทรัพย์ ของลูกหนี้ได้เช่นกัน


ผมว่าคุณกลับไปอ่านในกระทู้นี้อีกครั้งดีกว่านะครับ กรุณาอ่านช้าๆ...ไม่ต้องรีบ
พยายามอ่านให้เข้าใจ อย่าอ่านแค่เพียงลวกๆ พอผ่านหูผ่านตา...แล้วคุณจะเห็นภาพมากกว่านี้อีกเยอะ

ขอโทษอย่างมากคะ
ขอบพระคุณมากคะที่กรุณาคะ คุณนกกระจอกเทศ