โดนอายัดเงินเดือน เรียบร้อยแล้วค่ะ

ดิฉันต้องขอบอกว่า เป็นหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ใช้เงินเลยสักบาท (เพราะไอ้เลววววชาติ) ขอโทษนะค่ะ ถ้ามีคำหยาบคายออกไป มันสุดทนจริงๆ ดิฉันใช้หนี้คนเดียว มาเป็นเวลา 8 ปี หลายบัตรที่ปิดไปแล้วด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่หมด ยังคงมีหนีที่ยังต้องส่งอีก ที่เหลือตอนนี้ มี อีซี่บาย บัตรกรุงไทย กรุงศรีฯ สไมล์แคช
ที่ยังค้าง แต่ดิฉัน ก็มีหนี้เพิ่มอีกด้วย เนื่องจากออกรถมาใช้ในครอบครัว โดยใช้ชื่อสามี แต่ก็ส่งหนักอยู่ค่ะ
รายได้ไม่เพียงพอ กับรายจ่าย เนื่องจาก มีลูกเล็ก เพิ่ง 1 ขวบ 3 เดือนเท่านั้น ห้องก็เช่าอยู่ค่ะ

อยากจะสอบถาม ตอนนี้ การส่งบัตรกรุงไทย ของดิฉัน อาจจ่ายไม่ถึงยอดขั้นต่ำ ถึงได้โดนฟ้อง อายัดเงินเดือนเรียบร้อย เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับเอกสารอีกที ก็จดหมายมาที่ทำงานแล้วค่ะ และได้ไปทำเรื่องขอลดหย่อนเรียบร้อย แต่อนุมัติให้หักเงินเดือนเหลือ 20% ก็ยังเยอะนะค่ะ สำหรับคนเป็นหนี้อย่างดิฉัน
ได้รับเงินเดือน เดือนละ 33,xxx แต่ว่ามีค่าใช้จ่าย ที่ต้องจ่ายหลัก ๆ อยู่แล้ว คือ 29,xxx ไม่รวมค่านมลูก หรือค่าใช้จ่ายสำหรับลูกไม่สบาย ไม่มีเงินเก็บในธนาคารเลยสักบาท แฟนก็ไม่ได้ทำงาน เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน เนื่องจากไม่มีคนดูลูกให้ ลำบากมากตอนนี้ ได้รับจดหมายจากกรมบังคับคดี บริษัท จะต้องหักนำส่งทันที แต่ดิฉันได้โทรคุยกับจนท.กรมบังคับคดี เมื่อ เดือนเมษายน เพราะว่าไม่ได้ส่งเงินให้กลับกรมบังคับคดีมา 2 เดือน เพิ่งได้ส่ง เมื่อเดือน พฤษภาคม วันที่ 6 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ ดิฉันอยากจะถามว่า
1. ดิฉันส่งยอดไม่เต็มตามที่กรมบังคับคดีออกหนังสือมาหัก 20% ของเดือน จะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะ
2. ดิฉันจะส่งเงินให้กรมบังคับคดี แบบเดือนเว้นเดือน ได้ไหมค่ะ

รบกวนตอบกระทู้ด้วยค่ะ อยากทราบข้อมูลจริง ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมาย ตอนนี้เครียดมาก เครียดที่เงินไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน

sakanasan เขียน: ได้รับจดหมายจากกรมบังคับคดี บริษัท จะต้องหักนำส่งทันที แต่ดิฉันได้โทรคุยกับจนท.กรมบังคับคดี เมื่อ เดือนเมษายน เพราะว่าไม่ได้ส่งเงินให้กลับกรมบังคับคดีมา 2 เดือน เพิ่งได้ส่ง เมื่อเดือน พฤษภาคม วันที่ 6 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ ดิฉันอยากจะถามว่า
1. ดิฉันส่งยอดไม่เต็มตามที่กรมบังคับคดีออกหนังสือมาหัก 20% ของเดือน จะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะ
2. ดิฉันจะส่งเงินให้กรมบังคับคดี แบบเดือนเว้นเดือน ได้ไหมค่ะ

การนำส่งเงินเดือนตามหมายบังคับคดี

เป็นหน้าที่ของ"นายจ้าง"ครับ ไม่ใช่หน้าที่ของลูกหนี้(จำเลย)


ตัวอย่าง หนังสืออายัดเงินเดือน




กฎหมายนี้ เขาออกมาเพื่อทำการบังคับ“นายจ้าง”ให้เป็นผู้หักและนำส่งเงินเดือนที่อายัดจากลูกจ้างผู้นั้น ตามหมายอายัดของกรมบังคับคดี

หาก“นายจ้าง”ไม่ยอมปฎิบัติตาม นายจ้างอาจถูกฟ้องให้ต้องเป็นผู้ชดใช้หนี้แทนลูกจ้างผู้นั้น ตามมาตรา 312


อ้างอิงข้อมูลจาก

test.led.go.th/faqn/sara.asp?nomod=d&page=6


www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=6893&Itemid=52#6916


debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

รับทราบค่ะ
แต่ทางฝ่ายบุคคล ไม่ได้แจ้งเรื่องให้กับทางกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทราบ ไม่อย่างนั้น ดิฉันคงโดนไล่ออก
หรือต้องออกจากงานแน่แน่เลยค่ะ ถ้าได้รับหนังสือจากกรมบังคับคดี
ทางฝ่ายบุคคล เลยขอให้ดิฉัน หักเงินเดือน เพื่อ นำส่งเอง แต่ดิฉัน ส่งให้ได้เท่านี้ เพราะต้องส่ง หนี้อื่น ๆ
ด้วย ไม่อย่างนั้น ดิฉันคงไม่มีเงินเหลือพอซื้อข้าวกินแน่ ๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรทำอย่างไรดี เพิ่งเริ่มส่งไปได้ 1 เดือนเท่านั้น
รายจ่ายประจำเดือน
1. ค่างวดรถ 11,300 บาท
2. ค่าบัตรอีซี่บาย 1,000 บาท หมด เดือน กรกฎาคม ปี 2559 (ส่งอยู่ค่ะ)
3. ค่าบัตรกรุงศรี สไมล์แคช เดือนล่ะ 1,500 บาท
4. ค่าเช่าห้อง เดือนละ 4,500 บาท
5. ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ใช้ที่ดินจำนอง 2,500 บาทต่อเดือน
6. ค่าแชร์ เปียแล้ว 3,400 บาท เปียมาเพื่อใช้เก่า ก่อนที่จะโดนฟ้องอายัดเงินเดือน
7. ค่าดอกเบี้ยนอกระบบ 2,000 บาท (จะใช้คืนเงินต้น 35000 บาท ตอนสิ้นปี 2558)
8. ค่าโทรศัพท์+ค่าทรูวิชั่น (ยกเลิกไม่ได้ ไม่ครบปี) 1,000 บาท ต่อเดือน
9. ค่านม+แพมเพิส ลูก 4,000 บาท บางเดือน มีค่าฉีดวัคซีน เพิ่มอีกด้วยค่ะ
รวมแล้ว รายจ่ายต่อเดือน ก็ 30,000 กว่า แล้ว
ถ้าเงินออก 33,000 หรือ 35,000 แล้วแต่ได้โอที ทำมากก็ไม่ได้ โดนจำกัด
แต่ก็ยังเหลือเงินไม่พอนำส่งให้กรมบังคับคดีเลยค่ะ

ควรทำอย่างไรดีค่ะ ขอคำแนะนำ หน่อยค่ะ ตอนนี้เริ่มเครียดมากมาก
อยากจะลาออกจากงาน เป็นคนไม่มีรายได้ แต่ก็มีภาระมากมายรออยู่ หาทางออกไม่ได้เลยค่ะ

1. ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้รถเท่าก็ขายรถไป
2. แจ้งทางกรมบังคบคดีไปว่ามีภาระบุตรต้องเลี้ยงดู
3. ค่ากรุง ศรี และอีซี่บาย นี้จ่ายตามที่ไกล่เกลี่ยของศาลก็จ่ายไป แต่ถ้าไม่ใช่ก็แนะนำให้หยุดจ่ายไปก่อนเพื่อตั้งหลัก
4 ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่
5. ค่าน้ำค่าไฟ


1-2 4.5 สามารถทำหนังสือว่ามีภาระ ทางคมบังคดีจะพิจารณาให้ลดอีกเท่าไรค่ะ

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
แต่เราสามารถทำหนังสือไปร้องขอลดหย่อนได้อีกหรือค่ะเพราะทำเรื่องลดหย่อนไปแล้ว ลดให้จาก30% เหลือ20%ค่ะ ต้องจ่ายถึง6,000บาท. ดิฉันก็ยังไม่พอจ่ายเลยค่ะ เดือนแรกนี้เลยนำส่งไปแค่ 3,000 บาท จะมีปัญหาอะไรตามมาอีกไหมค่ะ?
ถ้าแนะนำให้หยุดส่งอีซี่บายกับกรุงศรีฯ
แล้วนำเงินมาจ่ายให้กรมบังคับคดีมากขึ้นหรือป่าวค่ะ
รถยังจำเป็นต้องใช้ค่ะเพราะใช้สำหรับเดินทางไปทำงานค่ะบริษัทไม่มีรถรับส่ง
รบกวนสอบถามอย่างนี้ขอเป็นทำเรื่องขอจ่ายตอนสิ้นปีทีเดียวได้ไหมค่่ะ
โดยไม่ต้องหักเป็นเดือนเคยมีใครทำบ้าง ? จะมีผลอย่างไรกับบริษัทที่เราทำงานอยู่คะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

1.ขอลดยอดการอายัติเงินเดือน
2.รถถ้าไม่จำเป็นมากก็ขายคะ หรือขายไปหามือสองถูกๆ มาขับก่อน
3.หนี้นอกระบบ เจรจาหยุดดอกเบี้ยจ่ายแต่ต้น เราเคยทำมาแล้ว ดีกว่าส่งแต่ดอกเบี้ยต้นไม่ลดนะคะ

ปล.ไม่รู้ว่าการส่งเงินไม่ครบ หรือแบบเดือนเว้นเดือนกับทางกรมบังคับคดีจะมีความผิดอะไรอีกมั้ยอ่ะคะ

sakanasan เขียน: ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
แต่เราสามารถทำหนังสือไปร้องขอลดหย่อนได้อีกหรือค่ะเพราะทำเรื่องลดหย่อนไปแล้ว ลดให้จาก30% เหลือ20%ค่ะ ต้องจ่ายถึง6,000บาท

การทำเรื่องขอลดหย่อนอายัดเงินเดือนที่สำนักงานบัคับคดี สามารถทำได้แค่ครั้งเดียวต่อหนึ่งคดีเท่านั้น หากคุณไม่พอใจที่ได้รับการหย่อนน้อย คุณต้องจ้างทนายให้ทำเรื่องไปถึงศาล เพื่อให้ศาลออกคำสั่งเพิ่มการลดหย่อนใหม่ได้

สามาถไปอ่านได้จากในกระทู้นี้ (อยุ่ในด้นล่างๆของกระทู้)

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64#32790

sakanasan เขียน: ดิฉันก็ยังไม่พอจ่ายเลยค่ะ เดือนแรกนี้เลยนำส่งไปแค่ 3,000 บาท จะมีปัญหาอะไรตามมาอีกไหมค่ะ?

มีปัญหาอย่างแน่นอนครับ เพราะตอนที่คุณไปทำเรื่องขอลดหย่อนอายัดเงินเดือนที่สำนักงานบังคับคดี คุณต้องแนบเอกสารส่วนตัวต่างๆไปด้วย อาทิเช่น ใบรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน และเอกสารประกอบการขอลดหย่อนต่างๆแนบไปด้วย

ทีนี้ก็เท่ากับว่า ทางสำนักงานบังคับคดีได้รับทราบแล้วว่า คุณมีเงินเดือนเท่าไหร่? และต้องถูกอายัดเงินเดือนและนำส่งเท่าไหร? หลังจากที่ได้รับการลดหย่อน 20% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หากนายจ้างของคุณไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานบังคับคดี ทางสำนักงานบังคับคดีก็อาจยื่นเรื่องไปที่ศาล เพื่อให้ศาลออกคำสั่งให้นายจ้างต้องเป็นผู้ชดใช้หนี้ของจำเลยแทน

sakanasan เขียน: ถ้าแนะนำให้หยุดส่งอีซี่บายกับกรุงศรีฯ
แล้วนำเงินมาจ่ายให้กรมบังคับคดีมากขึ้นหรือป่าวค่ะ

เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วครับ มันก็คือการปล่อยให้เจ้าหนี้ทุกราย ต้องมา"เข้าแถว"รอการอายัดเงินเดือนไปทีละเจ้า ทีละราย จนกว่าจะหมดหนี้

ผมก็ทำ Link ให้ดูแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมอ่านล่ะครับ?

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64#28150


หรือถ้าหากคุณสามารถเก็บเงินได้ในระหว่างนี้ ก็จัดการ Haircut กับเจ้าหนี้ที่หยุดไปจ่ายไปทั้งหมด ตามหลักการของการ Haircut ก็จะได้ไม่มีหนี้ที่จะต้องถูกฟ้องศาลอีกต่อไป

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

sakanasan เขียน: รถยังจำเป็นต้องใช้ค่ะเพราะใช้สำหรับเดินทางไปทำงานค่ะบริษัทไม่มีรถรับส่ง

คุณจะยังผ่อนรถ เพื่อให้เจ้าหนี้มันมายึดรถอีกหรือครับ?

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

sakanasan เขียน: รบกวนสอบถามอย่างนี้ขอเป็นทำเรื่องขอจ่ายตอนสิ้นปีทีเดียวได้ไหมค่่ะโดยไม่ต้องหักเป็นเดือน

ถ้าเรื่องไปอยู่ในมือของกรมบังคับคดีแล้ว ไม่สามารถต่อรองอะไรได้อีกเลยครับ ยกเว้นการขอทำ Haircut กับทางโจทก์เพียงอย่างเดียว

sakanasan เขียน: เคยมีใครทำบ้าง?

ไม่มีใครกล้าทำหรอกครับ เรื่องการขอต่อรองกับสำนักงานบังคับคดี เพราะมันเป็นข้อกฎหมายที่ทุกคนจะต้องปฎิบัติตาม ไม่เช่นนั้น นายจ้างจะต้องถูกคำสั่งศาลให้เป็นผู้ชดใช้หนี้แทน

sakanasan เขียน: จะมีผลอย่างไรกับบริษัทที่เราทำงานอยู่คะ

หากนายจ้างของคุณ ไม่ปฎิบัติตามหมายบังคับคดีอายัดเงินเดือนดังกล่าว อีกไม่นานก็จะมีคำสั่งศาลส่งมาเรียกตัวกรรมการบริษัทของคุณ ให้ไปขึ้นศาลเพื่อรับทราบคำสั่งการให้ชำระหนี้แทนลูกจ้าง(ตัวคุณเอง)ต่อไป

ขอบคุณมากค่ะ ละเอียดดีค่ะ

สู้ สู้ ครับ คุณ sakanasan มีทางออกเสมอ อย่าเครียดครับ

รบกวนสอบถามอีกเรื่อง
พอดี เมื่อวันที่ 28 เมษายน ได้รับหนังสือจากสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง หนังสือออกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2558 เรื่องการผ่อนปรนในการชำระหนี้ ให้ทำการติดต่อในการชำระหนี้ของ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ เป็นจำนวนที่ให้ไปชำระหนี้ 11,618.49บาท ไม่อย่างนั้น ทางสำนักงานกฎหมายจะทำการฟ้องร้องค่ะ
ซึ่งเป็นหนี้ค้างไม่เคยชำระหนี้มาตั้งแต่ปี 2552 แล้วค่ะ อย่างนี้ต้องทำอย่างไรดีค่ะ ไม่ได้โทรติดต่อกลับค่ะ
เนื่องจากกำลังเครียดเรื่องการโดนอายัดเงินเดือนอยู่เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

sakanasan เขียน: เมื่อวันที่ 28 เมษายน ได้รับหนังสือจากสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง หนังสือออกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2558 เรื่องการผ่อนปรนในการชำระหนี้ ให้ทำการติดต่อในการชำระหนี้ของ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ เป็นจำนวนที่ให้ไปชำระหนี้ 11,618.49บาท ไม่อย่างนั้น ทางสำนักงานกฎหมายจะทำการฟ้องร้องค่ะ

มันก็แค่จดหมายทวงหนี้ธรรมดา คนที่เป็นหนี้แล้วไม่จ่าย ก็ได้รับแบบนี้กันทุกคน ลองไปดูตัวอย่างสิครับ

ตัวอย่างจดหมายทวงหนี้ จดหมายขู่จากเจ้าหนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=8&id=6076&Itemid=64

sakanasan เขียน: ซึ่งเป็นหนี้ค้างไม่เคยชำระหนี้มาตั้งแต่ปี 2552 แล้วค่ะ

หนี้ตัวนี้ ได้"ขาดอายุความ"ไปแล้วครับ

อายุความในการฟ้องร้อง คดีแพ่ง (หนี้เงิน)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64

sakanasan เขียน: อย่างนี้ต้องทำอย่างไรดีค่ะ ไม่ได้โทรติดต่อกลับค่ะ

ไม่จำเป็นต้องโทรกลับไปหรอก แน่จริงก็ปล่อยให้มันฟ้องไป แล้วไปสู้คดีกันที่ชั้นศาล

ได้หมายศาลครั้งแรกในชีวิต ต้องทำไงบ้างคับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42422&Itemid=64&limitstart=0#63799

sakanasan เขียน: เนื่องจากกำลังเครียดเรื่องการโดนอายัดเงินเดือนอยู่เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี

อิอ้อนไม่ยอมฟ้อง

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=178&Itemid=29

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=36792

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=54490

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=54490&limitstart=6

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=54722

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=129&catid=5

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=41540

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=1662

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=12379

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=211&Itemid=29

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=4118&Itemid=29



โดยมันจะใช้วิธีทวงหนี้แบบ"กดดัน"แทน...จนกว่าจะ Hair cut สำเร็จ หรือไม่ก็ขายหนี้เน่าออกไป

www.google.co.th/#q=site:debtclub.consumerthai.org+%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99+%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99

.
ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20





เข้าไปอ่านซะนะครับ

.

การที่จะให้ศาลหยิบยกเอาเรื่อง การขาดอายุความขึ้นมาพิจารณานั้น ลูกหนี้จะต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีในเรื่องของการขาดอายุความ ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งศาลก็จะนำมาพิจารณาตรวจสอบดูข้อเท็จจริง และถ้าหากเป็นจริงตามที่ลูกหนี้ยื่นคำให้การต่อสู้มา ทางศาลก็จะทำการ"ยกฟ้อง"ต่อเจ้าหนี้ต่อไป

สอบถามเพิ่มเติมค่ะ คุณนกกระจอกเทศ จากที่อ่านจากลิงค์
เนื่องจากดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้ส่งชำระหนี้ให้กับ ทางบริษัท อิออน เลย ตั้งแต่ทำงานที่ใหม่ ในปี 2552
แล้วถ้าได้รับหมายศาล แล้วไปต่อสู้คดีที่ศาล เรื่องการขาดอายุความ เราจะแสดงอะไรให้ศาลพิจารณาตรวจสอบได้ค่ะว่า ไม่ได้ส่งจริง เพราะไม่มีเอกสารเก็บไว้เลย วันที่จ่ายครั้งสุดท้าย ได้แต่จำว่าเรามีหนี้อิออน แต่ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้ และตั้งแต่เริ่มทำงานที่ใหม่ก็ไม่เคยไปชำระหนี้ให้กับทางบริษัท อิออน ก็เท่านั้น
แต่เคยโทรไปสอบถามหนี้คงค้าง กับ บริษัท อิออน เมื่อต้นปี 2558 ว่ามีหนี้ค้างชำระหนี้เท่าไหร่? หลังจากนั้น ก็มีหนังสือติดตามทวงหนี้จากบริษัท สำนักงานกฎหมาย ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นคะ

ขอบคุณค่ะ

sakanasan เขียน: การที่จะให้ศาลหยิบยกเอาเรื่อง การขาดอายุความขึ้นมาพิจารณานั้น ลูกหนี้จะต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีในเรื่องของการขาดอายุความ ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งศาลก็จะนำมาพิจารณาตรวจสอบดูข้อเท็จจริง และถ้าหากเป็นจริงตามที่ลูกหนี้ยื่นคำให้การต่อสู้มา ทางศาลก็จะทำการ"ยกฟ้อง"ต่อเจ้าหนี้ต่อไป

สอบถามเพิ่มเติมค่ะ คุณนกกระจอกเทศ จากที่อ่านจากลิงค์
เนื่องจากดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้ส่งชำระหนี้ให้กับ ทางบริษัท อิออน เลย ตั้งแต่ทำงานที่ใหม่ ในปี 2552
แล้วถ้าได้รับหมายศาล แล้วไปต่อสู้คดีที่ศาล เรื่องการขาดอายุความ เราจะแสดงอะไรให้ศาลพิจารณาตรวจสอบได้ค่ะว่า ไม่ได้ส่งจริง เพราะไม่มีเอกสารเก็บไว้เลย วันที่จ่ายครั้งสุดท้าย ได้แต่จำว่าเรามีหนี้อิออน แต่ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้ และตั้งแต่เริ่มทำงานที่ใหม่ก็ไม่เคยไปชำระหนี้ให้กับทางบริษัท อิออน ก็เท่านั้น
แต่เคยโทรไปสอบถามหนี้คงค้าง กับ บริษัท อิออน เมื่อต้นปี 2558 ว่ามีหนี้ค้างชำระหนี้เท่าไหร่? หลังจากนั้น ก็มีหนังสือติดตามทวงหนี้จากบริษัท สำนักงานกฎหมาย ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นคะ

ขอบคุณค่ะ

ตอนได้หมายศาล ในหมายศาล โจทก์จะเขียนไว้ว่า จำเลยไม่ได้ชำระเงินเข้าไปตั้งแต่วันที่เท่าไร เดือนอะไร

sakanasan เขียน: สอบถามเพิ่มเติมค่ะ คุณนกกระจอกเทศ จากที่อ่านจากลิงค์
เนื่องจากดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้ส่งชำระหนี้ให้กับ ทางบริษัท อิออน เลย ตั้งแต่ทำงานที่ใหม่ ในปี 2552
แล้วถ้าได้รับหมายศาล แล้วไปต่อสู้คดีที่ศาล เรื่องการขาดอายุความ เราจะแสดงอะไรให้ศาลพิจารณาตรวจสอบได้ค่ะว่า ไม่ได้ส่งจริง เพราะไม่มีเอกสารเก็บไว้เลย วันที่จ่ายครั้งสุดท้าย ได้แต่จำว่าเรามีหนี้อิออน แต่ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้ และตั้งแต่เริ่มทำงานที่ใหม่ก็ไม่เคยไปชำระหนี้ให้กับทางบริษัท อิออน ก็เท่านั้น
แต่เคยโทรไปสอบถามหนี้คงค้าง กับ บริษัท อิออน เมื่อต้นปี 2558 ว่ามีหนี้ค้างชำระหนี้เท่าไหร่? หลังจากนั้น ก็มีหนังสือติดตามทวงหนี้จากบริษัท สำนักงานกฎหมาย ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นคะ

สอบถามเรื่องอายุความ ขอคำแนะนำด้วยครับ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41083&Itemid=64#50231


หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64

สวัสดีค่ะ คุณนกกระจอกเทศ

รบกวนสอบถามอีกเรื่องค่ะ พอดีถ้าได้งานใหม่เงินเดือนเยอะกว่าเดิม แต่เราโดนอายัดเงินเดือนไว้ครั้งก่อน เราจะส่งเงินอายัดเท่าเดิมที่ได้ทำงานที่เก่าได้หรือไม่? หรือควรทำอย่างไรค่ะ เพราะที่เปลี่ยนงานเพื่อต้องการให้ได้เงินเยอะขึ้นให้เพียงพอกับรายจ่ายที่ตามมา และต้องการเก็บเงินเพื่อรอปิดบัตรที่เราหยุดส่งไปด้วยค่ะ

เพราะเอกสารที่เราส่งต้องอ้างอิงบริษัทเดิม (ที่อยู่) ใบเสร็จรับเงินจากกรมบังคับคดี คิดว่าแจ้งเรื่องทางฝ่ายบุคคลไว้ น่าจะได้(คิดเองไว้ก่อน) แค่เก็บเอกสารไว้ให้เรา

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ คุณนกกระจอกเทศ

.
คุณเอาแต่ถามในสิ่งที่ต้องการจะโกงเจ้าหนี้ โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ตามที่คุณมโนขึ้นมาเอง
แล้วก็เอาแต่ถามผ่านทางหน้าเว็ปบอร์ดเพียงอย่างเดียวเลย...ผมไม่ให้ตอบคุณหรอกครับ

เหตุผล
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40552&Itemid=64#45365


ใครจะไปยอมติดคุกเพื่อตอบคำถามแบบนี้ให้คุณล่ะครับ?
.

ต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณนกกระจอกเทศ
ดิฉันไม่ทราบจริง ๆ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณนกกระจอกเทศ

ตามที่ได้รับคำแนะนำให้หยุดจ่ายเจ้าหนี้รายอื่นที่ค้างอยู่ ได้หยุดเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานมีเจ้าหน้าที่ทวงหนี้ เป็นของแบงกรุงศรีฯมาเสนอให้ปิดยอด 33,000 แต่ดิฉันไม่มีเงินเพียงพอสำหรับจ่ายชำระหนี้
และได้เสนอต่อว่างั้นคุณชำระเป็นเดือน ๆ ก็ได้ค่ะ อย่างนี้ดิฉันควรเลือกแบบไหนดีค่ะ
ถ้าชำระเป็นก้อน คงได้เป็นหนี้อีกแน่ (เพราะยังไม่มีเงินเก็บ)
ถ้าชำระเป็นเดือน ก็คงเข้าข่ายเหมือนเดิม ตามที่ได้ปรึกษาไป ว่าเงินคงไม่เพียงพอสำหรับแต่ละเดือน

รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ