รบกวน ขอคำแนะนำเรื่องบัญชีโอดี และบัตรเครดิตที่มีอยู่ที่ธนาคารเดียวกันค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณผู้ตั้งเวปนี้และคณะทำงานทุกท่าน สำหรับเจตนาในการช่วยเหลือผู้มีความทุกข์ นะคะ ขอคุณพระคุ้มครองทุกท่านค่ะ

ได้เข้ามาอ่านกระทู้และคำแนะนำต่างๆ ในเวปนี้โดยบังเอิญ และโชคดีที่ได้พบ รวมทั้งทำให้สามารถสร้างกำลังใจ ให้สู้ต่อไปได้ในทุกๆวันค่ะ แต่ยังไม่พบผู้ที่มีปัญหาเดียวกัน เลยต้องขอรบกวนตั้งกระทู้นะคะ

มีบัญชีโอดี กับธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ทางธนาคารจะต้องทำการตัดดอกเบี้ยในบัญชีทุกเดือน ดังนั้นไม่ว่าจะหาเงินมาได้เท่าไหร่จึงจำเป็นต้องนำไปใส่ไว้ในบัญชีโอดีนี้ เพื่อให้เกิดดอกเบี้ยน้อยที่สุด มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รวมทั้งการหมุนเงินในทุกรูปแบบกับทุกธนาคารเพื่อที่จะสามารถชำระยอดขั้นต่ำให้ได้ทุกเดือน ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนณ.ปัจจุบัน ไม่สามารถแล้วค่ะ เนื่องจากไม่มีงานประจำแล้ว ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากถูกโกงเงินไปจากคนที่คิดว่าไว้ใจได้และไม่น่าจะทำกันได้ถึงเพียงนี้ เราจึงต้องรับภาระการจ่ายเงินทั้งหมดกับแบงค์ เป็นชื่อของเราก็ต้องรับผิดชอบไปตามนั้นจนกว่าจะผ่านมันไปได้ค่ะ
ตอนนี้หยุดจ่าย Citibank เรดดี้เครดิต 1ใบ และ บัตรเครดิตของซิตี้อีก 3 ใบ มาสองเดือนแล้วกำลังจะเข้าเดือนที่สาม ได้เข้ามาหาความรู้ วิธีการจัดการ และกำลังใจจากในเวปนี้ทุกวัน พยายามทำความเข้าใจกับคำแนะนำทุกๆคำแนะนำเท่าที่จะหาอ่านได้ กำลังจะหยุดจ่าย กสิกร และกรุงศรีโฮมโปร สิ้นเดือนนี้ค่ะ
สำหรับไทยพาณิชย์ กังวลมาก เพราะมีบัญชีโอดีอยู่กับเค้า หากเราหยุดจ่ายบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ ธนาคารสามารถหักเงินในบัญชีที่เรามีอยู่น้อยนิด(ซึ่งตั้งใจเก็บออมไว้จ่ายบัตรหากถึงเวลาที่จะสามารถจ่าย ตามที่หลายๆท่านแนะนำไว้ โดยตอนนี้ปฏิเสธสัญญานรก หรือปรับโครงสร้างหนี้ทีบริษัททวงหนี้เสนอมาตามที่ท่านได้แนะนำไว้แล้วค่ะ) หากเรายังจะเก็บสะสมเงินไว้ในบัญชีโอดีนี้เพื่อหวังให้ดอกเบี้ยโอดีลดลงบ้าง และหยุดจ่ายบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ในเวลาเดียวกัน ทางธนาคารไทยพาณิชย์จะสามารถหักเงินจากในบัญชีโอดีดังกล่าว เพื่อนำไปจ่ายบัญชีบัตรเครดิตของเราได้ไหมคะ

Desperado เขียน: หากเรายังจะเก็บสะสมเงินไว้ในบัญชีโอดีนี้เพื่อหวังให้ดอกเบี้ยโอดีลดลงบ้าง และหยุดจ่ายบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ในเวลาเดียวกัน ทางธนาคารไทยพาณิชย์จะสามารถหักเงินจากในบัญชีโอดีดังกล่าว เพื่อนำไปจ่ายบัญชีบัตรเครดิตของเราได้ไหมคะ

ตามกฎหมายแล้วเขาห้ามหักเงินในบัญชีอื่นเพื่อนำมาชำระหนี้ แต่พวกมันจะหน้าด้านทำครับ

ธนาคารเจ้าหนี้ ยึดเงินในบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6970&Itemid=64

ขอบพระคุณ คุณนกกระจอกเทศ มากๆสำหรับคำตอบและกรณีตัวอย่างค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะต้องเสี่ยงกับการตื่นขึ้นมาแล้วเงินหายไปจากบัญชีเพื่อนำไปจ่ายในสิ่งที่ก็คงจะเถียงกับเค้ายากอีก คงต้องกัดฟันสำหรับบัญชีนี้ไปจนกว่าฟันจะหักหมด ขอบพระคุณคณะทำงานและเพื่อนๆสมาชิกสำหรับทุกๆคำแนะนำ และทุกๆกำลังใจที่เพื่อนๆสมาชิกมีให้กัน ขอให้ทุกท่านผ่านภาวะวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดี และมีชีวิตที่ดีขึ้นทุกๆท่านนะคะ

บัญชี โอ.ดี. ที่ว่านี้เป็นสินเชื่อชื่่อว่าอะไรครับ วงเงินเท่าไร คิดดอกเบี้ยเท่าไร ทำไมถึงจ่ายเท่าไรไม่หมดสักที

ขอตอบแบบที่ผมเข้าใจนะครับ พอดีใช้โอดีอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เอาเงินปิดหมดแล้ว แต่ไม่ปิดโอดีนะครับ คือไม่ถอนออกมาใช้แล้ว คาวงเงินไว้อยู่แบบนั้น เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินจริงฯ เพราะโอดีเวลานี้ถ้าไปขอใหม่ ขอยากมากครับ อีกอย่างต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายอยู่ในการขอวงเงินโอดี แบงค์อื่นเสียค่าใช้จ่ายในการขอยังไงผมไม่รู้ แต่แบงค์ผม เสียค่าขอล้านละสองหมื่น สิบล้านผมโดนไปสองแสน นี้ยังไม่นับที่จะต้องโดนบังคับให้ทําประกันอีกเป็นแสนฯด้วยนะ สมัยก่อนประกันไม่บังคับ ตอนนี้แบงค์บังคับทําเลย

ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคุณ จ.ข.ก.ท ไม่ชําระบัตรเคดิต ผมคิดว่าทางแบงค์จะทําการระงับวงเงินโอดีของคุณไม่ให้ใช้ และผมคิดว่าแบงค์จะไม่มาหักเงินในโอดีเราหรอกครับ โอดีนี้จากที่ผมใช้มา ดอกเบี้ยจะตกอยู่ที่ 10-12%ต่อปี ผมคิดว่าทางแบงค์คงดูว่าถ้าเรามีปัญหาการเงิน ผมคิดว่าคงระงับวงเงินโอดีไม่ให้ใช้ต่อแน่ฯ ส่วนดอกก็ยังคิดต่อไปเรื่อยฯ ทบไปทบมา

ขอบคุณ คุณ Pheonix มากๆค่ะ ต้องขอโทษเป็นอย่างมากสำหรับข้อมูล และการลำดับเรื่องที่ไม่เคลียร์ค่ะ บัญชีโอดีนี้เป็น โอดีปกติที่แบงค์อนุมัติให้มาเมื่อหลายปีมาแล้ว โดยการนำบ้านไปค้ำประกัน เงินโอดีจำนวนห้าแสนบาทนี่แหละค่ะ ที่เราถอนออกมาเพื่อลงทุนทำธุรกิจแล้วถูกโกงไปหมดเลย จึงต้องรับสภาพการจ่ายดอกเบี้ย (ตามเรทปกติที่แบงค์คิด ต้องขอโทษที่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ต้องไปค้นเอกสารค่ะ แต่ต้องจ่ายแบงค์ประมาณเดือนละสี่พันกว่าบาท เกือบๆห้าพัน) มาโดยตลอด ซึ่งก็ต้องอดทน และพยายามหาเงินมาเพื่อใส่คืนบัญชีโอดีนี้ให้เต็ม แต่ยังไม่ทันได้เริ่มเก็บเงิน ก็จำเป็นต้องออกจากงานประจำอีก และต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ทำได้แค่งานพิเศษที่ทำได้ที่บ้าน รายได้จึงลดลงไปอีก บัตรเครดิตทั้งหลายที่มีก็ถูกใช้ไปมากมายช่วงระดมทุน มาหมุนเวียนก่อนที่จะถูกโกงด้วย เลยทำให้ตอนนี้หาเงินมาจ่ายให้ครบทุกบัตรไม่ไหวแล้วค่ะ ใช้บัตรเครดิตมายี่สิบปีแล้ว ยังไม่เคยค้างจ่ายเลยซักงวดเดียว หาทางออกไม่ได้เลย เครียดมาก แต่โชคยังดีที่มาพบเวปนี้ และได้เรียนรู้จากประสพการณืที่เพื่อนๆสมาชิก แชร์ให้ทราบ และแนะนำ ช่วยให้ตั้งสติ และมีกำลังใจขึ้นได้อีกมาก ถึงแม้ว่าจะยังหาทางออกไม่ได้ก็ตามค่ะ ขอบคุณคุณPheonix มากๆอีกครั้งนะคะ

ขอบพระคุณ คุณBeer ที่กรุณาแนะนำค่ะ และใช่แล้วค่ะ โอดีตอนนี้ขอยากมากๆ พยายามคิดในแง่บวกว่า เรายังโชคดีที่ขอวงเงินไปแค่ห้าแสน (ขอไปเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้วค่ะ เพื่อคิดว่าเอามาเผื่อไว้ และจะไม่ใช้มากไปกว่านี้) บ้านที่เอาไปเข้านี่ก็เป็นบ้านของแม่อีก ซึ่งเป็นตายอย่างไรก็จะไม่ยอมให้มีปัญหาเพราะเราเด็ดขาดค่ะ หากตอนนั้นขอไปเต็มวงเงินที่แบงค์ให้ได้จากการประเมินราคาบ้านและที่ดินแล้วละก็ ป่านนี้ก็คงจะเป็นหนี้โอดีแบงค์เต็มตามจำนวนนั้นแหละค่ะ คิดแล้วสยองมากค่ะคุณBeer สถานะตอนนี้ก็คือใช้วงเงินโอดีห้าแสนเต็มแล้ว และก็ยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แบงค์ทุกเดือน ซึ่งอันนี้ต้องรับสภาพและต้องพยายามให้ผ่านไปได้ทุกเดือนเพราะไม่อยากมีปัญหาเพิ่มมากไปกว่าที่มีอยู่แล้วน่ะค่ะ ส่วนบัตรเครดิตทั้งหลายนี่คงต้องศึกษา จากกรณีของเพื่อนๆสมาชิกที่กรุณามาแชร์ให้ทราบ และกรุณาแนะนำมา ตอนนี้กำลังตัดสินใจอย่างหนักว่าถ้าจะกัดฟันจ่ายขั้นต่ำของบัตรไทยพาณิชย์ เพราะไม่อยากให้กระทบกับบัญชีโอดีด้วย จะยังไปต่อได้อีกกี่เดือนน่ะค่ะ ต้องขอขอบคุณ คุณBeer อีกครั้งที่กรุณาเข้ามาแนะนำและเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังทุกข์มากๆเลยนะคะ

เข้ามารายงานตัวหลังจากตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินและเทกระเป๋าเพื่ิอ hair cut บัตรไปสี่ใบแล้ว และตอนนี้ก็กำลังมุ่งหน้าเทกระเป๋าให้กับใบที่ห้าอยู่ ในขณะเดียวกับที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในบัญชีโอดีทุกๆวันสิ้นเดือน ประมาณเดือนละสี่พันบาท บวกลบนิดหน่อยเพราะดอกเบี้ยคิดเป็นวันค่ะ มาจนถึงเมื่อวานนี้มีเงินติดอยู่ในบัญชี โอดีนี้อยู่ 1987.57 บาท วันนี้เวลา 16:04 น. ไดัรับข้อความจากแบงค์ว่าเงินในบัญชีของเราถูกหักจากบัญชีโอดีไปเป็นจำนวน 2706.03 บาท และมียอดคงเหลือ 0.00 บาท จึงรีบโทรไปที่ไทยพาณิชย์เพื่อถามรายละเอียด เจ้าหน้าที่ตอบว่า เป็นการหักจาก ปฏิบัติการสินเชื่อนครหลวง ซึ่งสาขาเป็นผู้หัก และต้องขอรายละเอียดจากทางสาขาแต่ตอนนี้สาขาปิดทำการแล้วนะคะ เนื่องจากเรายังไม่สามารถที่จะหาเงิน 90,000 บาทมาจ่ายในงวดเดียวเพื่อทำการปิดบัญชีบัตรเครดิตที่ค้างแบงค์อยู่ได้ แบงค์จึงยึดเงินเราได้ตามชอบเลยเหรอคะ พรุ่งนี้กว่าจะสามารถตามเรื่องกับแบงค์ได้คงต้องเป็นช่วงบ่าย ตอนนี้คงต้องรบกวนท่านที่มีประสบการณ์มาแนะนำว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร ก่อนที่จะติดต่อกับแบงค์ในวันพรุ่งนี้ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ