หนีหนี้ มา 12 ปี คิดได้แล้วว่าไร้ประโยชน์ ควรกลับมาใช้หนี้ ดีกว่าให้หนี้ตกไปที่ลูก คิดถูกมั

สวัสดีคะเพื่อนสมาชิก และแอดมินชมรมฯ ทุกท่าน
เริ่มต้นจาก ปี 2546 ตกลงตัดสินปัญหาหนี้ด้วยการหนีหนี้ มาเป็นเวลาเกือบ 12 ปี แล้ว
เพราะไม่มีปัญญาใช้หนี้ สามีเลิก มีปัญหาครอบครัว หนี้ที่ก่อเป็นชื่อเราคนเดียว รวมๆ 4 แสนกว่า
หนีไปใช้ชีวิตแบบไร้เครดิต มีครอบครัวใหม่ ปกปิดสามีใหม่เรื่องหนีหนี้ ในขณะที่หลบอยู่ ก็มีจดหมายทวงหนี้ส่งไปทวงที่ที่อยู่ตามภูมิลำเนา ซึ่งทางครอบครัวไม่รับจดหมายไว้เลย โดยบอกกับไปรษณีย์ ให้ตีกลับเนื่องจาก ไม่มีผู้รับ ซึ่งไม่ทราบว่ามีหมายศาลด้วยหรือไม่
จนมาวันนี้ คุณแม่ได้เสียชีวิตลง แม่มีที่ดิน ตามกม. คือดิฉันต้องได้รับมรดกนั้นด้วยตามส่วน พี่น้อง 4 คนแบ่งกัน เมื่อได้มาทบทวน ว่าการที่เราเป็นหนี้ เจ้าหนี้สามารถฟ้องบังคับคดี ยึดที่ดินขายทอดตลาดได้ ทำให้ดิฉันหนักใจมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น พี่น้องของดิฉัน ต้องมาเดือดร้อนถูกยึดที่ดินไปด้วย เนื่องจาก กำลังจะไปจดทะเบียนรับมรดกเป็นชื่อ 4 คนร่วมกัน ดิฉันมาอ่านปัญหาของท่านสมาชิกอื่น และคำตอบของแอดมิน มาเปรียบเทียบกับของตัวเอง ได้รับความรู้เรื่องหนี้ และกฎหมายต่างๆ เพิ่มเติม ดิฉันจึงอยากจะขอความเห็นจากท่านผู้รู้ ว่าดิฉันควรเริ่มต้นอย่างไร ถ้าดิฉันจะกลับมารับผิดชอบหนี้ทุกอย่างที่ค้างอยู่ เพื่อจะได้ไม่ถูกยึดที่ดินมรดก ซึ่งอนาคตจะยกให้ลูกชาย 2 คน ของดิฉัน
รายการหนี้สิน ค้างชำระ ตั้งแต่ 06/46 มีดังนี้
ธนาคาร :-
1. TFB บัตรเครดิต 2 ใบ รวม 17,xxx
2. นครหลวงไทย บัตรเครดิต 20,xxx
3. HSBC บัตรเครดิต 31,xxx
4. กรุงศรี บัตรเครดิต 48,xxx
5. UOB บัตรเครดิต 23,xxx สินเชื่อ 18,xxx
6. สแตนดาร์ดฯ บัตรเครดิต 25,xxx สินเชื่อ 47,xxx
7. DBS สินเชื่อ 86,xxx
Nonbank :-
อิออน บัตรเครดิต ผ่อนสินค้า รวม 26,xxx
กรุงไทย บัตร 37,xxx
เซ็นทรัล บัตร 17,xxx เงินกู้ 74,xxx


อันดับแรกควรจะเช็คสถานะหนี้ที่เครดิตบูโรก่อนใช่มั้ยคะ

kornja086 เขียน: สวัสดีคะเพื่อนสมาชิก และแอดมินชมรมฯ ทุกท่าน
เริ่มต้นจาก ปี 2546 ตกลงตัดสินปัญหาหนี้ด้วยการหนีหนี้ มาเป็นเวลาเกือบ 12 ปี แล้ว
เพราะไม่มีปัญญาใช้หนี้ สามีเลิก มีปัญหาครอบครัว หนี้ที่ก่อเป็นชื่อเราคนเดียว รวมๆ 4 แสนกว่า
หนีไปใช้ชีวิตแบบไร้เครดิต มีครอบครัวใหม่ ปกปิดสามีใหม่เรื่องหนีหนี้ ในขณะที่หลบอยู่ ก็มีจดหมายทวงหนี้ส่งไปทวงที่ที่อยู่ตามภูมิลำเนา ซึ่งทางครอบครัวไม่รับจดหมายไว้เลย โดยบอกกับไปรษณีย์ ให้ตีกลับเนื่องจาก ไม่มีผู้รับ ซึ่งไม่ทราบว่ามีหมายศาลด้วยหรือไม่
จนมาวันนี้ คุณแม่ได้เสียชีวิตลง แม่มีที่ดิน ตามกม. คือดิฉันต้องได้รับมรดกนั้นด้วยตามส่วน พี่น้อง 4 คนแบ่งกัน เมื่อได้มาทบทวน ว่าการที่เราเป็นหนี้ เจ้าหนี้สามารถฟ้องบังคับคดี ยึดที่ดินขายทอดตลาดได้ ทำให้ดิฉันหนักใจมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น พี่น้องของดิฉัน ต้องมาเดือดร้อนถูกยึดที่ดินไปด้วย เนื่องจาก กำลังจะไปจดทะเบียนรับมรดกเป็นชื่อ 4 คนร่วมกัน ดิฉันมาอ่านปัญหาของท่านสมาชิกอื่น และคำตอบของแอดมิน มาเปรียบเทียบกับของตัวเอง ได้รับความรู้เรื่องหนี้ และกฎหมายต่างๆ เพิ่มเติม ดิฉันจึงอยากจะขอความเห็นจากท่านผู้รู้ ว่าดิฉันควรเริ่มต้นอย่างไร ถ้าดิฉันจะกลับมารับผิดชอบหนี้ทุกอย่างที่ค้างอยู่ เพื่อจะได้ไม่ถูกยึดที่ดินมรดก ซึ่งอนาคตจะยกให้ลูกชาย 2 คน ของดิฉัน
รายการหนี้สิน ค้างชำระ ตั้งแต่ 06/46 มีดังนี้
ธนาคาร :-
1. TFB บัตรเครดิต 2 ใบ รวม 17,xxx
2. นครหลวงไทย บัตรเครดิต 20,xxx
3. HSBC บัตรเครดิต 31,xxx
4. กรุงศรี บัตรเครดิต 48,xxx
5. UOB บัตรเครดิต 23,xxx สินเชื่อ 18,xxx
6. สแตนดาร์ดฯ บัตรเครดิต 25,xxx สินเชื่อ 47,xxx
7. DBS สินเชื่อ 86,xxx
Nonbank :-
อิออน บัตรเครดิต ผ่อนสินค้า รวม 26,xxx
กรุงไทย บัตร 37,xxx
เซ็นทรัล บัตร 17,xxx เงินกู้ 74,xxx


อันดับแรกควรจะเช็คสถานะหนี้ที่เครดิตบูโรก่อนใช่มั้ยคะ

ค้างตั้งแต่ 46 นี่ ไม่โดนฟ้องเลยหรอครับ มาถึงปีนี้ก็ จะ 12 ปีแล้วนะ

เข้าใจว่า 12 ปี นี่คงมีหมายมาแน่ๆ แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเลย ไม่ทราบ ใจแรกๆคิดว่าจะหนีถึงที่สุด เพราะไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไร มารู้ตอนนี้ยังเสียใจที่ต้องหนี ทั้งทีจริงๆถ้าสู้แต่แรกป่านนี้หมดหนี้นานแล้วค่ะ เวลานี้ จะหนีไปตลอดหรือ ใช้หนี้ ดี ยังต้องขอคำแนะนำ ท่านผู้รู้ ช่วยให้แสงสว่างด้วยค่ะ

kornja086 เขียน: เข้าใจว่า 12 ปี นี่คงมีหมายมาแน่ๆ แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเลย ไม่ทราบ ใจแรกๆคิดว่าจะหนีถึงที่สุด เพราะไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไร มารู้ตอนนี้ยังเสียใจที่ต้องหนี ทั้งทีจริงๆถ้าสู้แต่แรกป่านนี้หมดหนี้นานแล้วค่ะ เวลานี้ จะหนีไปตลอดหรือ ใช้หนี้ ดี ยังต้องขอคำแนะนำ ท่านผู้รู้ ช่วยให้แสงสว่างด้วยค่ะ

ต้องลองเช็คดูก่อนเลยครับว่า หนี้ตัวไหนอยู่ในกระบวนการไหน แล้วแต่ละตัว ดอกเบี้ยเพิ่มไปเท่าไรแล้ว เพราะดอกเบี้ยมันวิ่งอยู่ตลอด ยังไงรอผู้รู้มาแนะนำอีกทีครับ

kornja086 เขียน: สวัสดีคะเพื่อนสมาชิก และแอดมินชมรมฯ ทุกท่าน
เริ่มต้นจาก ปี 2546 ตกลงตัดสินปัญหาหนี้ด้วยการหนีหนี้ มาเป็นเวลาเกือบ 12 ปี แล้ว
เพราะไม่มีปัญญาใช้หนี้ สามีเลิก มีปัญหาครอบครัว หนี้ที่ก่อเป็นชื่อเราคนเดียว รวมๆ 4 แสนกว่า
หนีไปใช้ชีวิตแบบไร้เครดิต มีครอบครัวใหม่ ปกปิดสามีใหม่เรื่องหนีหนี้ ในขณะที่หลบอยู่ ก็มีจดหมายทวงหนี้ส่งไปทวงที่ที่อยู่ตามภูมิลำเนา ซึ่งทางครอบครัวไม่รับจดหมายไว้เลย โดยบอกกับไปรษณีย์ ให้ตีกลับเนื่องจาก ไม่มีผู้รับ ซึ่งไม่ทราบว่ามีหมายศาลด้วยหรือไม่
จนมาวันนี้ คุณแม่ได้เสียชีวิตลง แม่มีที่ดิน ตามกม. คือดิฉันต้องได้รับมรดกนั้นด้วยตามส่วน พี่น้อง 4 คนแบ่งกัน เมื่อได้มาทบทวน ว่าการที่เราเป็นหนี้ เจ้าหนี้สามารถฟ้องบังคับคดี ยึดที่ดินขายทอดตลาดได้ ทำให้ดิฉันหนักใจมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น พี่น้องของดิฉัน ต้องมาเดือดร้อนถูกยึดที่ดินไปด้วย เนื่องจาก กำลังจะไปจดทะเบียนรับมรดกเป็นชื่อ 4 คนร่วมกัน ดิฉันมาอ่านปัญหาของท่านสมาชิกอื่น และคำตอบของแอดมิน มาเปรียบเทียบกับของตัวเอง ได้รับความรู้เรื่องหนี้ และกฎหมายต่างๆ เพิ่มเติม ดิฉันจึงอยากจะขอความเห็นจากท่านผู้รู้ ว่าดิฉันควรเริ่มต้นอย่างไร ถ้าดิฉันจะกลับมารับผิดชอบหนี้ทุกอย่างที่ค้างอยู่ เพื่อจะได้ไม่ถูกยึดที่ดินมรดก ซึ่งอนาคตจะยกให้ลูกชาย 2 คน ของดิฉัน
รายการหนี้สิน ค้างชำระ ตั้งแต่ 06/46 มีดังนี้
ธนาคาร :-
1. TFB บัตรเครดิต 2 ใบ รวม 17,xxx
2. นครหลวงไทย บัตรเครดิต 20,xxx
3. HSBC บัตรเครดิต 31,xxx
4. กรุงศรี บัตรเครดิต 48,xxx
5. UOB บัตรเครดิต 23,xxx สินเชื่อ 18,xxx
6. สแตนดาร์ดฯ บัตรเครดิต 25,xxx สินเชื่อ 47,xxx
7. DBS สินเชื่อ 86,xxx
Nonbank :-
อิออน บัตรเครดิต ผ่อนสินค้า รวม 26,xxx
กรุงไทย บัตร 37,xxx
เซ็นทรัล บัตร 17,xxx เงินกู้ 74,xxx


อันดับแรกควรจะเช็คสถานะหนี้ที่เครดิตบูโรก่อนใช่มั้ยคะ

ผมว่าน่าจะเช็ตสถานะได้.... การที่ที่ดินของแม่มีอยู่เขายึดไม่ได้ครับและมาถึงตอนนี้เขาก็ยึดไม่ได้ถ้ายังไม่ได้เป็นของคุณ ทางที่ดีถ้าจะมีการแบ่งมรดกกันก็ให้เขาโอนให้เป็นชื่อลูกเลย สถานะของเราตอนนี้ เจ้าหนี้คงตีเป็นหนี้สูญไปแล้ว ลอฃเช็คดูก่อนครับว่ามีการฟ้องศาลไหม ตัดสินอย่างไร

เจ้าหนี้(โจทก์)ตามคำพิพากษาของศาล จะต้องหาทางยึดทรัพย์ของลูกหนี้ให้ได้ภายใน 10ปี นับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จสิ้น

หากระยะเวลาในการสืบค้นเพื่อยึดทรัพย์ผ่านพ้น10 ปีไปแล้ว หนี้ตัวนี้ก็จะ"หมดอายุความ"ในการ ยึด/อายัด ใดๆจากทางเจ้าหนี้ทันที (จะมาอายัดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือน ที่เพิ่งจะมารู้หรือเพิ่งมาเจอ ภายหลังจาก 10 ปีผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ได้อีกต่อไป) ลูกหนี้หรือจำเลย ก็จะเป็น "ไท" ในทันที ไม่ต้องมาชดใช้หนี้สินที่เหลืออยู่อีกต่อไป

กฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีหนี้สิน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=99:2011-12-17-02-39-30&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21

ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าให้คุณไปเช็คข้อมูลที่"ศาลแพ่ง" และ"ศาลคดีผู้บริโภค" ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านเสียก่อน ว่าเคยถูกศาลพิพากษาไปแล้วกี่คดี? และพิพากษาเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อใด?
(ต้องเช็คทั้ง 2ศาลนะครับ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าหนี้ของคุณ มันจะฟ้องคุณให้เป้นคดีประเภทอะไร เนื่องจากตามข้อกฎหมาย เจ้าหนี้สามารถฟ้องคุณให้เป็นคดีแพ่งก็ได้ หรือเป็นคดีผู้บริโภคก็ได้)
แล้วหลังจากนั้น ค่อยเข้ามาขอคำแนะนำใหม่

อ้อ...อย่าลืมไปเช็คข้อมูลที่เครดิตบูโรด้วยนะครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64

ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
และที่สำคัญตอนนี้ได้แนวทางจากคุณนกกระจอกเทศแล้ว ถือว่าเป็นก้าวแรกที่จะสู้ หลังจากที่หนีมายาวนาน เดินหน้าต่อ สู้ๆ ... ขอบคุณมากค่ะ
วางแผนว่า จะเช็คเครดิตบูโร ดูในเรื่องสถานะ / อันไหนอยู่ขั้นตอนศาล จะตามไปเช็คเรื่องที่ศาล แพ่ง และ ศาลคดีผู้บริโภค แล้วจะมาขอคำแนะนำเพิ่มเติมนะคะ

สวัสดีคะเพื่อนๆสมาชิก

หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากคุณนกกระจอกเทศ ดิฉันได้ไปเช็คเครดิตบูโรแล้ว

รายการหนี้เดิม ที่หยุดจ่ายไปตั้งแต่ปี 2546
1. TFB บัตรเครดิต 2 ใบ รวม 17,xxx
2. นครหลวงไทย บัตรเครดิต 20,xxx
3. HSBC บัตรเครดิต 31,xxx
4. กรุงศรี บัตรเครดิต 48,xxx
5. UOB บัตรเครดิต 23,xxx สินเชื่อ 18,xxx
6. สแตนดาร์ดฯ บัตรเครดิต 25,xxx สินเชื่อ 47,xxx
7. DBS สินเชื่อ 86,xxx
Nonbank :-
1.อิออน บัตรเครดิต ผ่อนสินค้า รวม 26,xxx
2.กรุงไทย บัตร 37,xxx
3.เซ็นทรัล บัตร 17,xxx เงินกู้ 74,xxx

รายการเครดิตบูโร 2558 รวม 12 บ/ช

42-โอนหรือขายหนี้ 4 บ/ช

40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี 6 บ/ช

30-อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย 1 บ/ช
ซึ่งรายการนี้ เป็นธนาคารที่ไปรับซื้อหนี้มาบริหาร
ในรายละเอียด มีว่า ยอด 55,xxx
ชำระหนี้ครั้งสุดท้าย ปี เดือน 1/2555
เริ่มผิดนัด 12/2556 **อันนี้คงต้องไปตามหาหมายศาลหรือไม่**

20-หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน 1 บ/ช

ตัวเลขยอดค้างชำระ สูงมาก รวมทุกรายการ เกือบ 9 แสน
ต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรดีคะ

สำหรับที่มรดกแม่ตอนนี้ใส่ชื่อดิฉันไปแล้ว ดำเนินการรังวัดและแบกแยกชื่อเดียว คงใช่เวลาอีกประมาณ 6-8 เดือน ตอนนี้อะไรจะเกิดขึ้นจะเตรียมตั้งรับแล้วค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

ต้องไปเช็ค ที่ศาลมาหรือยังคะ 12 ปีนี้หมดอายุความไปแล้วนะคะ
การติดตามยึด ทรัพย์จะมีอายุ ความ 10ปี
ส่วนเงินยอด 55,000 บาท ต้องเช็คทื่ศาลค่ะ ตามทะเบียนเลย

นอกจากเช็คเครดิตบูรโรแล้ว ยังต้องเช็คที่ศาลด้วยค่ะ
คุณไปเช็คที่ศาลก่อนนะ แล้วกลับมาปรึกษาชมรมอีกทีค่ะ