เหนื่อยกับการโกหกเป็นร้อยครั้ง พร้อมอยากจบปัญหาของหนี้สินเกือบล้าน

9 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #63667 โดย คิดถึงวัยเด็ก
ไม่คิดว่ากระทู้ที่ต้องเขียนด้วยตัวเองครั้งแรกจะเป็นกระทู้ที่อยากมาระบายในเรื่องของการผิดพลาดที่เริ่มจากจุดเพียงเล็กน้อยจนกลายมาเป็นเรื่องใหญ่โตจากเดิมที่เคยคิดว่าสามารถแก้ไขปัญหาคนเดียวได้กลายเป็นว่าต้องดึงคนในครอบครัวมาเดือดร้อนด้วย
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดิฉันอยากแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนที่กำลังจะเป็นแบบดิฉันได้อ่านเพื่อไม่ให้ตัวเองและครอบครัวเดือดร้อนหากตัดสินใจในทางที่ควรตั้งแต่แรก ดิฉันเป็นหนี้สินที่ตอนนี้รวมๆแล้วเกือบล้านบาท เริ่มจากการสมัครบัตรเครดิตที่แรกเริ่มทำงานบริษัทในช่วงหนึ่งปีแรกเหตุผลคือ อยากได้กล้อง DSLR เอาไว้ไปเที่ยว เพราะตอนนั้นเพิ่งจบมาใหม่ๆ เป็นวัยรุ่นที่มีอารมณ์ค่อนข้างติสนิดนึง อยากไปเที่ยวแบบแบคแพคพร้อมกับการสะพายกล้องตัวใหญ่ตัวนึงด้วยราคาตอนนั้นคือ 28,000 บาท กับเงินเดือนเดือนละ 16,000 บาท ซึ่งค่อนข้างเยอะมากถ้าเทียบกับเพื่อนที่จบแล้วทำงานพร้อมกัน แต่ด้วยความที่มันรูดปื้ดได้ซะทุกอย่างความตั้งใจแค่อยากมีกล้อง กลับอยากได้นั่นนู้นนี้สารพัด ทำไงล่ะทีนี้ ตัดสินใจด้วยการทำบัตรเครดิตเพิ่ม เพื่อมาสนองตัณหาที่อยากได้สารพัดเพื่อมาแข่งกับสังคมทำงานด้วยกัน เริ่มก้อคงเหมือนกับคนอื่นที่พอมีหนี้บัตรเครดิต หมุนไปหมุนมาไม่ทัน ก้อโดนโทรตามจิกที่ออฟฟิศและด้วยความที่หน้าบางมากสมัยนั้น ถึงกับโกหกเพื่อนที่เป็นรุ่นพี่ ว่าเอาไปปล่อยกู้สารพัดสารเพ เพื่อนำเงินมาปิดบัตรเครดิต และในช่วงนั้นดิฉันเองมีความรู้สึกว่าทำงานที่ที่ทำงานไม่มีความสุข เงินไม่พอใช้ ซึ่งตอนนั้นเป็นหนี้เพื่อนรุ่นพี่อยู่สามแสนนะคะ จึงย้ายที่ทำงานซึ่งได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่ด้วยความที่เราไม่ยอมพูดความจริงว่าเราไม่มีเงินกับพี่คนนั้นจึงใช้วิธีโกหกสารพัดว่าจะหาเงินมาใช้ให้ นอกจากหนี้ที่สร้างมาจากตัวเองแล้วดิฉันมีภาระที่ร่วมกับพี่น้องผ่อนบ้านและรถเดือนล่ะ 10,000 บาท อาจะงงว่าดิฉันเงืนเดือนค่อนข้างเยอะแต่เงินไปไหนหมด และเป็นที่ทำงานต่างจังหวัดไม่ได้พักที่บ้านก้อมีในส่วนของค่าที่พักอีกเดือนละ 5000 บาท จนสุดท้ายดิฉันโกหกน้าสาวว่าจะนำเงินมาลงทุนในธุรกิจขายของ แต่ความจริงนำเงินมาใช้หนี้รุ่นพี่ บางส่วนปิดบัตร ซึ่งทุกยอดมีดอกเบี้ยที่ค่อนข้างโหดร้อยละ 5 ต่อเดือน และด้วยความที่เป็นคนไม่มีระเบียบการใช้เงินถึงแม้จะยืมเงินจากน้าสาวมา 300000 ความจริงก้อสามารถปิดหนี้ได้ ดิฉันก้อนำเงินไปทำอย่างอื่นอีก และเป็นในลักษณะเช่นเดิมอีกดิฉันโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนมีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ดิฉันต้องโกหกไปอีกนานแค่ไหน ถ้าสารภาพแบบโง่เลยคือว่าทุกวันนี้ดิฉันรอถูกลอตเตอรี่เพื่ออยากให้เรื่องมันจบ แต่ในความจริงแล้วดิฉันรู้ตัวดีว่าต้องหยุดและยอมรับความเป็นจริงให้ได้ว่าเราต้องอยู่ในสภาพไหน หยุดการโกหก หลอกลวงไปวันๆ ส่วนของน้าสาวยังให้โอกาสเราทะยอยส่งได้ สำหรับรุ่นพี่เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตอนนี้ประมาณหกแสนบาท ซึ่งพร้อมจะแจ้งความเอาเราเข้าคุก เพราะดิฉันเคยปลอมแปลงเอกสารจากโรงงานเพื่อหลอกว่าจะได้เงินมาใช้หนี้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ พรุ่งนี้ดิฉันนัดรุ่นพี่เพื่อสารภาพทุกอย่าง หยุดโกหก หยุดสร้างเรื่องต่างๆ นานา และยอมรับผลทุกอย่างจากการกระทำของตัวดิฉันเอง สุดท้ายดิฉันอาจโดนจับเข้าคุกในการที่ดิฉันสร้างเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโกหกปากเปล่า หรือการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งทุกสิ่งอย่างมันเกิดมาจากการไม่ยอมรับความจริงของตัวดิฉันเอง แต่สิ่งเดียวที่ดิฉันเสียใจมาตลอดเลยก็คือการทำให้แม่เสียใจและพี่น้องผิดหวัง

ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #63680 โดย chai202519
อดีตเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้แต่เราสามารถแก้ไขปัจจุบันที่มันกำลังเกิดขึ้นได้ครับ สิ่งที่เราพลาดไปแล้วนั่นคือบทเรียนในชีวิตจริงไม่มีในห้องเรัยน ค่อยๆคิดแก้ไปทีละนิดครับแล้วมันจะผ่านไปได้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #63684 โดย jackTs

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #64074 โดย somcha78
ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นานพอสมควร และกะจะเข้ามาอ่านเฉยๆ แต่พอเห็นของ คุณ 'คิดถึงวัยเด็ก'
ทำให้อยากเข้ามาให้กำลังใจและทางออกเล็กๆน้อยๆ

1 ก่อนปี 2536 ผมไม่มีบัตรเครดิต มีความสุขตามประสาคนไม่มีบัตร (ยังไม่มีหนี้ใดๆ)
พอซื้อรถ ผ่อนบ้าน ก็ทำบัตรเครดิตในปีต่อมา หลังจากนั้น ก็มีเริ่มปัญหาแบบที่คุณเล่ามา
คือหนี้เพิ่มขี้นเรื่อยๆ เอาบัตรโน่นมาโปะบัตรนีี้ แต่ของคุณ เป็นหนี้บุคคล ไม่ใช่หนี้ธนาคาร
ก็ยังดี แต่ที่ทุกข์คือเป็นหนี้อยู่
2 การหาเหตุมาปกปิดหนี้จริง เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนอยากให้จบหนี้ด้วยดี
แต่ความจริง มันไม่ใช่ การพูดความจริงในเวลาที่เหมาะสม ดีที่สุด เพราะจะได้หมดทุกข์หนี้
เสียที
3 ผมเป็นหนี้มา ทั้งหมด ก็น่าจะล้านเศษครับ หนี้บัตรท่วมหัว แต่ผมเชื่อเถอะ
พยายามสู้ชีวิตเข้าไว้ ลำบากทำงาน ลำบากเดินทาง ก็ต้องยอม
ทำความดีเข้าไว้ อย่าเห็นแก่ตัว ช่วยเหลือคน
4 ระหว่างที่หนี้ท่วมหัว ผมขี่จักรยานไปทำงาน ถึง 4-5 ปี ไปไหนก็ขี่จักรยาน
บางครั้งไปหาลูกค้า หาคนรู้จัก ก็ยังขี่จักรยาน กลัวคนรู้ ก็จอดแอบไว้ก่อนถึงที่หมาย
เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน (การขี่จักรยาน ได้ออกกำลังกาย นี่แหละคือสิ่งวิเศษมาก)
ในที่สุด ก็มีอะไรมาช่วยเรา สิ่งที่มองไม่เห็นจริงๆ
มีลูกค้า มีงาน option มาทำเพิ่ม มีงานนอกเวลาเข้ามา มีนั้น มีโน่น
มีเงินกู้ไม่มีดอกเบี้ย มีธนาคารลดหนี้ให้เยอะๆ
5 ปัจจุบัน ผมแทบไม่มีหนี้แล้ว ขนลุก เมื่อมองกลับไปในอดีต
จะไม่มีซื้อของเด็ดขาด ถ้าไม่มีเงินสด อดก็อด ไม่กลัว
ุุุ6 อยากจะบอกว่า สู้ชีวิตต่อไป อย่ายอมแพ้เด็ดขาด แค่เป็นหนี้เงิน มีเมื่อไหร่ ก็เอาไปคืน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #64075 โดย FFM
อ่านของคุณ somcha78 แล้วชอบมากเลยครับ
ที่จริงชีวิตครอบครัวกับเรื่องหนี้ผมก็คล้ายๆคุณ somcha78 เล่า
ตอนแรกก็ไม่มีหนี้ ทำกิจการส่วนตัว รายได้ดี พอเริ่มมีบัตรเครดิต มีสินเชื่อบุคคล ชีวิตก็เปลี่ยน
ประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดี กิจการก็แย่ลง รายจ่ายเยอะขึ้น ยิ่งทำให้หนี้เพิ่ม
สุดท้ายรู้ตัวอีกที ลองมองย้อนกลับไป อยากตีหัวตัวเองแรงๆ ที่เคยฟุ่มเฟือยในอดีต

ทุกวันนี้เปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ หนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เหลือแค่ตัวที่ยอดเยอะๆ ที่ยังไม่มีเงินปิด

ตั้งแต่รู้จักชมรมนี้แล้วนำแนวทางของพี่ๆสมาชิกไปใช้ ชีวิตดีขึ้นมากจริงๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #64078 โดย chai202519
อ่านแล้วมาแนวเดียวกันครับ ตอนไม่มีหนี้พกเงินไปทำงานวันละ4000-5000 อยากไปเที่ยวไหนก็ไปพอมีรถมีบ้านก็ยังโอเคไม่เท่าไร แต่เงินเริ่มขาดมือจากที่เคยมีเงินในกระเป๋าก็เอาไปผ่อนบ้านกับรถหมดแต่ก็ดีได้สิ่งของดีกว่าเอาเงินไปเที่ยว พอเครดิตเริ่มดีก็เริ่มทำบัตรได้มาแบบง่ายๆทีนี้ก็ได้เงินไปเที่ยว กลับต่างจังหวัดบ่อยหมดครั้งละ20000-30000 งานที่ทำก็ยังโอเคมีโอทีเกือบ30000ทุกเดือน ใช้เงินจากบัตรจนเพลินมาดูอีกทีปาไป300000 เอาน่าจิ๊บๆ เดียวรีไฟแน้นรถมาปิด หลังจากปิดบัตรยังไม่เลิกใช้บัตรแล้วดันเอาเงินที่เหลือจากปิดบัตรไปซื้อรถอีกคันให้แฟนขับไปขายของลงทุนทำร้านเสื้อผ้าอีก กลายเป็นว่า ต้องผ่อนรถ2คันบ้านอีก หลังผ่านไป6เดือนร้านเสื้อผ้าไปไม่รอดรถก็ต้องผ่อนบ้านก็ต้องผ่อนเอาไงหละตังไม่พอ หมุนสิครับ หมุนไม่พอ กู้มาปิดสิครับ ผ่านไป2ปีอั้ยยะหนี้ไม่ลดแต่ดันเพิ่มจาก300000ดีดมา800000 เอ้ยก็ยังคิดว่าเดียวก็หมด หมุนไปก่อนรักษาเครดิต กลัวเสียเครดิต และแล้วอนิจจังความไม่เที่ยงก็มาเยือน บริษัทไม่มีโอทีให้ทำ เหลือแต่เงินเดือนโดดๆ ตายละ รายจ่าย60000รายได้30000 เอาแล้วไง มานั่งคิด เราพลาดแล้วตรงที่เราเอาโอทีไปรวมกับเงินเดือนเป็นรายได้ ทั้งที่ที่จริงแล้วโอทีมันคือโบนัสมันไม่แน่ไม่นอน ตายละชีวิตเอาไปฝากไว้กับโอที ยังไม่พอหลังจากโอทีหายก็คิดจะหาเงินมาปิดบัตรสักใบ เผื่อจะลดค่าใช้จ่ายลงเข้าอิหรอบเดิมเหมือนตอนรีรถมาปิดบัตร พอหายืมเงินญาติมาได้ 100000 ว่าจะเอาไปปิดบัตร ในใจหยุดคิดปิดดีป่าวว้า มันจะเหมือนเดิมป่าวว้า ถ้าไม่ปิดมีหวังไม่ได้ส่งเสียเครดิตแน่เลย ก่อนหน้านี้เคยเข้ามาอ่านในชมรมแต่ไม่ค่อยสนใจ แต่หนี้มันเยอะจนต้องย้อนกลับเข้ามาอ่าน บวกกับเงินทียืมญาติมากลัวเคาทวงคืนแล้วเราไม่มีให้เหมือนกับเราเอามาทิ้ง ก็เลยนั่งอ่านตามขั้นตอนของชมรม เค้าบอกให้อ่าน อ่านเยอะๆ และแล้ว ตาสว่าง สวรรค์มาช่วยแล้ว ถึงจะแค่เริ่มต้นแต่ก็ต้องขอบคุณจริงๆชมรมนี้ ที่ทำให้เราเห็นทางสว่าง จากที่คิดอะไรไม่ออก คิดแค่ว่าต้องหายืมเงินมาปิดบัตรตอนนี้คิดว่าเรายังดีกว่าอีกหลายคนที่ไม่มีเงินเก็บไว้ต่อรอง แต่เรามีแล้วถึงจะเงินยืมมาก็เถอะดอกร้อย1บาทหาที่ไหนได้ ส่วนตอนี้ก็ขายรถออกไป1คัน แล้วก็เตรียมมตัวปั่นจักรยานไปทำงาน ประหยัดสุดๆครับตอนนี้ สุขภาพดีด้วย คนที่มีหนี้ขอให้สู้ๆทุกคนครับ อีกไม่นานคงเป็นวันของเรา

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.647 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena