สวัสดีค่ะ พอดีได้ลองอ่านกระทู้แนะนำบ้างแล้ว แต่ว่าขอคำปรึกษาเพิ่มเติมคะ
ตอนนี้มีหนี้ที่ต้องชำระอยู้คือ
1.ไทยพาณิชย์
- บัตรเครดิต 40,000 บาท ขั้นต่ำ 4,070.96 บาท กำหนดชำระวันที่ 5 ม.ค.58
สถานะหยุดชำระ เจ้าหน้าที่ยังไม่ติดต่อมา
- สินเชือ 40,000 บาท ขั้นต่ำ 891.36 บาท กำหนดชำระวันที่ 5 ม.ค.58
สถานะหยุดชำระ *ทางธนาคารโทรมาแจ้งให้ชำระเบื้องต้นแล้ว เขาขอให้จ่ายภายในวันที่ 19 ม.ค.58
2. ซิตี้แบงค์
- บัตรเครดิตจำนวน 27,300 บาท กำหนดชำระวันที่ 29 ธ.ค.57
สถานะหยุดชำระ ดิวชำระวันที่ 2 ก.พ.58
สถานะ รอชำระ ขั่นต่ำ 5,296.11 บาท
- สินเชือ 94,500 บาท กำหนดชำระวันที่ 29 ธ.ค.57
สถานะหยุดชำระ กำหนดชำระวันที่ 2 ก.พ.58
สถานะ รอชำระ ขั่นต่ำ 6,577.17 บาท ตอนนี้มีเอกสารแจ้งระงับบช.ส่งมาแล้วคะ
*ทางธนาคารโทรมาแจ้งให้ชำระเบื้องต้นแล้ว จะให้เข้าร่วมโครงการประนอมหนี้ โดยเสนอว่าให้รวมบัตรทั้ง2 ชนิดเข้าด้วยกัน ลดดอก ผ่อน 56 เดือน เฉลี่ยจ่ายเดือนละ 2,700 บาท แต่ปฎิเสทไปไม่มีจริงๆ
3. กสิกรไทย
- บัตรเครดิตจำนวน 35,000 บาท กำหนดชำระ 9 ม.ค.58 ขั้นต่ำ 3,018.22 บาท
สถานะหยุดชำระ เจ้าหน้าที่ยังไม่ติดต่อมา *ก่อนหน้านี้โทรค่อยไปขอผ่อนผันเรื่องค่าใช้จ่าย ธนาคารให้จ่ายแต่ดอกเบี้ยเดือนละ 500 บาท โดยเขาไม่ได้ระงับบช.อะไรคะ ตอนนี้ครบ 2 เดือนตามที่กำหนดแล้ว จะต้องจ่ายตามปกติ
- สินเชือ 21,000 บาท กำหนดชำระ 3 ม.ค.58 ขั้นต่ำ 1,012.21 บาท
สถานะหยุดชำระ เจ้าหน้าที่ยังไม่ติดต่อมา
4. กรุงเทพ บัตรเครดิตจำนวน 30,000 บาท กำหนดชำระ 2 ม.ค.58 ขั้นต่ำ 2,440.02 บาท
สถานะหยุดชำระ เจ้าหน้าที่ยังไม่ติดต่อมา
5. เคทีซี บัตรเครดิตจำนวน 50,000 บาท กำหนดชำระ 3 ม.ค.58 ขั้นต่ำ 2,665.02 บาท
สถานะชำระแล้ว
หนี้โดยรวมประมาณ 337,800 บาท ชำระหนี้ต่อเดือนประมาณ 20,000-23,000 บาท
ตอนนี้ตกงานค่ะ กลุ้มใจเรื่องค่าใช้จ่าย และที่บ้านยังไม่ทราบเรื่องหนี้สินด้วย เดิมทีทำงานบริษัทสามารถใช้จ่ายได้ทุกเดือน แต่เมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน ตัดสินใจออกมาทำธุรกิจกับเพื่อน แล้วขาดทุน ทำให้ทะเลาะกันคะ จึงตัดสินใจว่าออกมาหางานทำดีกว่า ตอน 2 เดือนหลังจากออกมาทำเองยังสามารถจ่ายหนี้ดังกล่าวได้อยู่ แต่พอเข้าเดือนที่ 3 ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ และส่วนตัวที่ต้องให้ทางบ้าน ค่าใช้จ่ายในชิวิตประจำวันด้วย รายรับไม่มี มีแต่รายจ่าย ได้ลองเข้ามาศึกษา และทำการหยุดชำระบัตรต่างๆตามที่ได้อ่านคำแนะนำ
แต่ว่า ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมคะ เนื่องจากตกงาน ตอนนี้จึงมุ่งหาแต่งานประจำให้ได้ก่อน คาดว่าภายในเดือน-2 เดือนจะได้งาน แต่เงินเดือนอาจจะไม่พอใช้คืนเหมือนแต่ก่อน มีวิธีหรือมีตัวอย่างต่อรองให้ลดจำนวนแต่ละเดือนบ้างไหมคะ หรือว่าเมื่อได้งานแล้วก็ไม่ควรจ่ายไปอีกสักระยะเหมือนเดิมดีกว่า เพราะตอนนี้หยุดชำระมา 1 ครั้งแล้ว แต่ของ ซิต๊้แบงค์กำลังเข้าสู่ครั้งที่ 2 ส่วนเคทีซี ยังไม่ได้หยุดชำระ
ตอนนี้ 2 จิต 2 ใจว่าจะจ่ายบัตร ไทยพาณิชย์และกสิกรที่เป็นสินเชื่อไปก่อนดีไหม ยอดน้อย แต่ถ้าไม่จ่ายบัตรเครดิตจะมีผลเชื่อมโยงกันกันหรือป่าว
และเมื่อได้งาน จะชำระของกรุงเทพ กับเคทีซี ไปด้วยดีไหมคะ ของกรุงเทพยอด 2 เดือนมารวมกันจ่ายไม่ไหวอาจแบ่งจ่ายเองเอาคะ เพราะทางแบงค์เคยแจ้งว่าถ้าจ่ายล่าช้าทางแบงค์ไม่มีนโยบายเก็บค่าอะไรเพิ่มทั้งสิ้น แนะนำมาว่าหยุดจ่ายไปก่อนไม่เกิน 2 เดือนก็ได้ ส่วนเคทีซีไม่เคยหยุดจ่ายอยู่แล้วยอดลดลงคะ ถ้าเป็นอย่างนี้ ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระหนี้ต่อเดือนจะเหลืออยู่ที่ประมาณ 6,000 - 7,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายที่บ้านและส่วนตัว ยังพอใช้พอเก็บบ้างคะ
แต่ทว่า บัตรเครดิตที่เหลืออย่างไทยพาณิชย์ กสิกร และซิตี้แบงค์ จะปล่อยให้ถึงตามกำหนด รอทำ h/c ไปเลยดีไหมคะ หรือว่ามีคำแนะนำอื่นใดที่ดีกว่า ขอความกรุณาด้วยคะ ที่เครียดตอนนี้นอกจากงานยังหาไม่ได้ คือ
มีรถยนต์ซึ่งทางบ้านโอนชื่อมาให้เป็นเจ้าของ แต่ตอนนี้ทางบ้านเอาเข้าไฟแนนซ์ไปแล้ว จะมีผลกระทบอะไรไหมคะ แต่ที่ลองอ่านเห็นว่าถ้าเข้าไฟแนนซ์จะไม่สามารถยึดรถได้ใช่ไหมคะ ไม่แน่ใจ บางกรณี แต่ถ้าทางบ้านผ่อนหมด ให้โอนเป็นน้องชายอายุ 18 ไปเลยดีกว่าไหมคะ จำเป็นต้องบุุคคลเดิมไหม และการชำระค่างวดทางบ้านไปจ่ายกันเองคะ และตอนนี้บ้าน กำลังจำทำเรื่องเปลี่ยนชื่อเจ้าบ้าน เดิมเป็นชื่อพี่สาว และพี่สาวเป็นผู้ผ่อนด้วยคะ พี่สาวจะให้เปลี่ยนมาเป็นชื่อเรา แต่เขาก็ผ่อนปกติคะ แต่กลัวว่าถ้าเปลี่ยนมาเป็นชื่อตัวเอง จะมีปัญหาให้ทางธนาคารสามารถเข้ามายึดทรัพย์ ก่อน h/c หรือผ่อนผันอะไรไหมคะ ทางที่ดีเป็นชื่อน้องไปด้วยเหมือนรถได้ไหมคะ
ลืมบอกค่ะว่า ตอนนี้เก็บเงินไว้สำหรับให้ที่บ้านและใช้จ่ายประทั้งอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน ที่ไม่เกี่ยวเอามาใช้หนี้ ภาวนาให้ได้งานเร็วๆอยู่ค่ะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะ เนื่องจากอ่านกระทู้หลายกระทู้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าที่ตัดสินใจนี้ถูกต้องหรือไหมคะ ขอความกรุณาด้วยนะคะ