ขอความคิดเห็นและช่วยเหลือหน่อยครับ

ผมมีหนี้ทั้งหมด 3 สถาบัน แบ่งเป็น

หนี้บัตรกดเงินสดกสิกร ยอด 20000 บาท ปัจจุบันยังชำระทุกเดือน

หนี้บัตรอิออน ยอด 28000 บาท หยุดชำระมาแล้ว 10 เดือน

หนี้ับัตรเฟิสช้อย ยอด 38000 บาท หยุดชำระมาแล้ว 10 เดือน

เมื่อประมาณช่วงกลางวัน เจ้าหน้าที่ของเฟิสช้อยโทรมาและผมได้รับสาย ปกติไม่เคยรับสายจากเจ้าหน้าที่เลยเป็นระยะเวลา 10 เดือน ทางเจ้าหน้าโทรมาแจ้งขอให้ชำระหนี้เท่าที่ผมสามารถชำระได้ ซึ่งผมแจ้งว่าคงจะชำระได้เดือนละ 1000 บาท และเจ้าหน้าแจ้งว่าให้เริ่มชำระเลยทันที ผมมีคำถามดังนี้คับ

1. ผมจะชำระตามที่เจ้าหน้าบอกเดือนละ 1000 บาทไปเรื่อยจนกว่าหนี้จะหมด (เฉพาะของเฟิสช้อย) หรือไม่ต้องชำระเลย
2. หากชำระเดือนละ 1000 บาท เท่ากับบัญชีหนี้ผมเป็นหนี้ปกติหรือไม่ครับ มีผลเสียหรือดีหรือเปล่า
3. หากไม่ชำระเลย จะมีผลกระทบไหม เค้าจะฟ้องศาลได้ทันทีหรือไม่ครับ
4. หรือผมควรจะเก็บเงินปีหน้าทั้งปีให้ได้สัก 4-5 หมื่น แล้วค่อยต่อรองชำระเป็นก้อน ระหว่างนี้ทางเค้าจะทำอะไรเราบ้างหรือเปล่าครับ

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64


ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64




วิธีแก้หนี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64

คุณนกกระจอกเทศครับ

ขอบคุณครับ ผมคิดไว้เหมือนกันว่าจะใช้วิธี Hair-cut แต่ถ้าเจ้าหน้าที่โทรมาอีก ผมควรรับสายหรือไม่รับสายดีครับ หรือควรบอกเจ้าหน้าที่ไปตรงๆว่า ยังไม่พร้อมจ่าย จะจ่ายทีเดียวปีหน้า

ขอบคุณครับ

อีกหนึ่ง...ใน"มุขขำๆ" ที่เอาไว้ใช้โต้ตอบกับไอ้พวกทวงหนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1301&Itemid=64


รู้ทันการทวงหนี้ / เตรียมรับมือการทวงหนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=18758&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

หลังจากผ่านไป 4 เดือน ขอรายงานความคืบหน้านิดหนึ่งนะครับ

อิออน ยังไม่มีการโทรตามหนี้ใดๆเลย ผ่านมา 1 ปีแล้ว

เฟิสช้อยท์ โทรมาแจ้งล่าสุด วันนี้ตอนบ่าย ยอดหนี้จากเดิม 38000 ตอนนี้เป็น 80000 แล้ว และแจ้งว่าจะส่งหมายศาลไปที่บ้าน ซึ่งผมก็บอกไปว่า ส่งมาเลยรออยู่

ในขั้นต่อไปที่ผมคิดคือ รอดูว่าหมายศาลนั้นของจริงหรือแค่ขู่ ถ้่าของจริงผมก็คิดว่าจะไปขึ้นศาล

ปัจจุบันผมทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไป เงินเดือน 10500 บาท หักโน่นนี่ก็เหลือรับจริงๆประมาณ 9000

ผมมีคำถามจะถามคุณนกกระจอกเทศคือ กรณีผมไปศาลแล้วโดนตัดสินให้ชำระหนี้ แต่ผมไม่ได้ชำระจนมีคำสั่งอายัดเงินเดือน ซึ่งเงินเดือนที่ผมจะถูกอายัดคือ 500 บาทต่อเดือน ใช่หรือไม่ โดยนายจ้างจะเป็นคนโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแค่ 500 หรือว่าโอนไปทั้งหมด

ผมมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งใช้ขับขี่ไปทำงาน ในกรณียึดทรัพย์ รถคันนี้จะโดนยึดด้วยหรือเปล่า เราจะอ้างว่าเป็นพาหนะใช้ในการประกอบอาชีพได้หรือไม่

และท้ายสุด หากผมตกงาน ไม่มีเงินเดือนและขายรถ และไม่ได้ชำระหนี้ใดๆตามคำสั่งศาล ไม่มีทรัพย์สินให้ยึด ผมจะถูกดำเนินคดีใดๆในช่วงนี้หรือไม่

ขอบคุณมากครับ

Isunkrub เขียน: ผมมีคำถามจะถามคุณนกกระจอกเทศคือ กรณีผมไปศาลแล้วโดนตัดสินให้ชำระหนี้ แต่ผมไม่ได้ชำระจนมีคำสั่งอายัดเงินเดือน ซึ่งเงินเดือนที่ผมจะถูกอายัดคือ 500 บาทต่อเดือน ใช่หรือไม่ โดยนายจ้างจะเป็นคนโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแค่ 500 หรือว่าโอนไปทั้งหมด

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

Isunkrub เขียน: ผมมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งใช้ขับขี่ไปทำงาน ในกรณียึดทรัพย์ รถคันนี้จะโดนยึดด้วยหรือเปล่า เราจะอ้างว่าเป็นพาหนะใช้ในการประกอบอาชีพได้หรือไม่

ไม่ได้...เพราะคุณไม่ได้มีอาชีพเป็นแมสเซนเจอร์ หรือขับวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง

Isunkrub เขียน: หากผมตกงาน ไม่มีเงินเดือนและขายรถ และไม่ได้ชำระหนี้ใดๆตามคำสั่งศาล ไม่มีทรัพย์สินให้ยึด ผมจะถูกดำเนินคดีใดๆในช่วงนี้หรือไม่

หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

รบกวนสอบถามคุณนกกระจอกเทศอีกสักนิดครับ

กรณีโดนคำสั่งยึดทรัพย์-อายัดเงินเดือน เงินกองทุนชราภาพของประกันสังคม ตัวนี้จะโดนยึดด้วยหรือเปล่าครับ

ขอบคุณมากนะครับ ตอนนี้มีแต่ปัญหารุมเร้าเรื่องงานก็ร่อแร่ไปไม่รอด ค่าใช้จ่ายก็เยอะ บางทีก็อยากคิดสั้นหนีปัญหาเหมือนกัน

รที่ฟ้องคือ เฟิร์สช้อยครับ ยอดที่เค้าฟ้องประมาณ 80000 บาท (จำได้ว่าวงเงินกู้แค่ 28000 บาท )
ถ้าเป็นจริงตามที่บอกมา ต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดี 28,000 บาท เป็น 80,000 บาท เป็นไปได้อย่างไร ต้องเอาเรื่องมาตรวจดูแล้ว เกิดจากอะไร ดอกเบี้ยบวกค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินอัตราร้อยละ 28 ต่อป่ี ถ้าค้างมา 2 ปี ก็เท่ากับดอกเบี้ยฯ 56% เป็นเงิน 15,680 บาท รวม รวม 43,680 บาท ก็ยังต่างจาก 80,000 บาท เป็นอันมาก เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องยื่นคำให้การ เพื่อบอกศาลว่า หนี้ที่ฟ้องมาไม่ถูกต้องอย่างไรบ้าง และนับแต่เราหยุดจ่ายชำระหนี้ ถือว่าสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเลิกกันโดยปริยายแล้ว โจทก์จะอาศัยข้อสัญญาเดิมคิดดอกเบี้ยฯ ในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ไม่ได้ ข้อตกลงให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี หลังจากผิดนัดชำระหนี้ ถือเป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนอันสมควร ศาลมีอำนาจปรับลดลงให้ได้ตามที่ศาลเห็นสมควร ตามประมวลกฎมหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 แต่ต้องตั้งประเเด็นในคำให้การ ศาลเป็นเพียงกรรมการ ไม่สามารถเข้าข้างฝ่ายนจำเลยได้ จึงต้องยื่นคำให้การเป็นประเด็นโต้แย้งไว้ เป็นต้น ข้อมูํลเพิ่มเติม 087-016-4541

มาอัพเดท และสอบถามเพิ่มเติมครับ

ได้รับหมายศาลแล้ว ศาลนัดไกล่เกลี่ยและสืบพยานวันเดียวกันเลยคือวันที่ 23 พ.ค. 58 ที่จะถึงนี้ ฟ้องบัตรเฟิสช้อย ยอดฟ้อง 40,041 บาท
- ผมโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ติดตามทวงหนี้เพื่อขอส่วนลด แต่โดนปฏิเสธ เจ้าหน้าที่บอกแค่ว่า ฟ้องศาลแล้ว ช่วยเหลือไม่ได้ ให้ไปทำยอมความที่ศาลเท่านั้น
- เนื่องจากผมเป็นคนต่างจังหวัด ทำงานด้านการโรงแรมในพัทยา การไปขึ้นศาลในวันดังกล่าวผมคิดว่าจะไม่ไปขึ้นศาล
- ถ้าหลังจากที่ศาลตัดสินยืนตามที่เค้าฟ้อง นั่นหมายถึงผมจะต่อรองอะไรกับทางเค้าได้อยู่ไหมครับ เช่นการขอส่วนลด / ขอผ่อนชำระเป็นงวด
- แล้วถ้าหากมีการอายัดเงินเดือน ที่ผมเข้าใจคือ รายรับที่ต่ำกว่า 10000 บาท อายัดไม่ได้ แต่ที่ผมจะถามคือ ในสลิปเงินเดือนผม
เงินเดือนผม 10,000 บาท
เงินค่าบริการ 1,500 บาท
ค่าตำแหน่ง 2.000 บาท
รวมรายรับในสลิปเงินเดือน 13.500 บาท
หักค่าประกันสังคม 500 บาท
หักค่าหอพัก 1.500 บาท (พักในที่ทำงาน )
รวมรายรับสุทธิหลังหักคือ 11.500 บาท
การอายัดเงินเดือน จะอายัดจากยอด 1.500 ใช่หรือเปล่าครับ ค่าหอพักที่ปรากฏในสลิปเงินเดือนถือเป็นรายการหัก ก่อนนำมาคำนวนการอายัดหรือเปล่า

รบกวนตอบด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

คูณจะถูกอายัดเงินเดือน โดยคิดจากยอดรายรับรวมทั้งหมด ซึ่งนั่นก็คือ 13.500 บาท ครับ

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

รายงานความคืบหน้า และสอบถามหน่อยครับ

กรณีของผมคือ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 58 ศาลตัดสินยืนตามคำฟ้องเพราะผมไม่ได้ไปศาล

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็โทรมาแจ้งให้ชำระหนี้ทั้งหมดตามที่ฟ้องไปพร้อมดอกเบี้ย ผมจึงต่อรองกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และได้ข้อสรุปว่า ยอดหนี้ชำระเหลือเพียง 30000 บาทถ้วนไม่มีดอกเบี้ย ชำระเดือนละ 5000 บาท เป็นเวลา 6 งวด ชำระทุกวันที่ 30 ของเดือน

แต่ประเด็นคือเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถทำเรื่องให้ได้เพราะต้องรอคำตัดสินของศาล เพื่อเอามาแนบเอกสาร และให้ผมชำระเงินเข้าไปก่อนระหว่างรอดำเนินการเอกสารยินยอม ผมจึงขอสอบถามว่า

1. เจ้าหน้าที่ให้ผมชำระเงินงวดแรก 5000 บาท วันที่ 30 มิ.ย. 58 นี้ โดยให้ใช้เลขที่สัญญาเดิมของเฟิสช้อย ไปจ่ายที่ 7-11 และให้ผมเก็บใบเสร็จไว้ ผมควรไปชำระตามที่เค้าแจ้งมาหรือเปล่าครับ

2. เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผมชำระ ทุกวันที่ 30 ไปเรื่อยๆ จนครบ 6 งวด แต่ เอกสารยินยอมการชำระหนี้ยังไม่สามารถส่งให้ได้ อาจจะส่งมาให้ผมหลังจากที่ชำระไปแล้ว 1-2 เดือน แบบนี้ผมเชื่อใจเจ้าหน้าที่เค้าได้หรือเปล่าครับ

3.เจ้าหน้าที่แจ้งว่าถ้าไม่รับข้อเสนอนี้ ก็ไม่มีข้อเสนอส่วนลดอะไรให้อีก ต้องชำระเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยเท่านั้น แบบนี้เท่ากับผมปฏิเสธไม่ได้ใช่หรือเปล่าคับ

4.ส่วนตัวต้องการปลดหนี้ให้หมดอยู่แล้ว ข้อเสนอจ่าย 3000 บาท 6 เดือน ผมว่าผมรับได้อยู่ แต่ติดตรงเรื่องเอกสารอย่างเดียว

ขอบคุณครับ

ขอให้เขาส่งเอกสารหรือหนังสือรับรองมาด้วยครับ ว่าถ้าจ่าย แล้วจะหมดหนี้กันจริง

.
พอได้อ่านทั้งหมดแล้ว มันก็คือการยื่นข้อเสนอ Haircut โดยยอมให้ผ่อนได้ 6งวด นั่นเอง


ที่สำคัญ การทำ Hair cut จะต้องให้ทางเจ้าหนี้ออกเอกสาร

ยืนยันว่า จะลดหนี้ให้ตามเงื่อนไขที่เจรจาตกลงกันไว้ ด้วยทุกครั้ง

โดยเราต้องได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหนี้

ก่อนที่จะทำการจ่ายชำระ Hair cut ใดๆ

อย่าไปจ่ายหนี้ที่ตกลงกันด้วยวาจาผ่านทางโทรศัพท์โดยเด็ดขาด (สัญญาหรือข้อตกลงใดๆ ที่เป็นแค่วาจาหรือ“ลมปาก” ไม่สามารถใช้เป็นข้อยืนยันตามกฏหมายได้)

ขอย้ำอีกครั้ง...ถ้าคุณยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันการ

ลดหนี้ (หนังสือ Hair cut) เสียก่อน

ห้ามจ่ายโดยเด็ดขาด...!

ถูกหลอกให้จ่ายเงินเข้าไปเพื่อหักหนี้ในราคาเดิม(ไม่มีส่วนลด) โดยโกหกว่าจะยอมลดราคา Hair cut ให้
ด้วยคำพูด หรือการรับปากกันทางโทรศัพท์ แต่แล้วก็ไม่ยอมทำ Hair cut ให้จริงๆ

มีลูกหนี้โดนหลอกมานับไม่ถ้วนแล้วนะครับ ...ขอเตือน...

ขอบคุณครับ กังวลเรื่องที่ฝ่ายนั้นเค้าจะไม่ทำตามที่คุยเหมือนกัน งั้นรอได้เอกสารก่อนค่อยชำระ