จะไหวมั้ยเนี่ย

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57384 โดย khan6424
สวัสดีคับ พี่ๆ น้าๆ ทุกท่าน หลังที่ได้มาศึกษาอยู่นาน
คือตอนนี้ผมเป็นหนี้ ธนาคาร ไทยพานิชย์ อยู่คับ
บัตรเครดิต ยอด 136200 บ.
บัตรกดเงินสด ยอด 262300 บ.
บัตร ยูเมะ ยอด 24000 บ.
หยุดจ่ายมา 3เดือนแล้ว โทรมาทุกวันเลยคับ
แต่ตอนนี้ที่กังวลมากเลย คือ เงินเดือนผมแค่ 14210 เองคับ หักค่าเงินกู้ แล้วเหลือ ประมาณ7500 บ. เอง
ผ่อน มอไซ 2400/เดือน
ทำงานอยู่ ตจว. อีกด้วย คับ
ไม่รู้จะเอายังไงดี หวังจะเก็บเงิน ไป H C รายได้ก็น้อยมาก
คิดว่าผมควรทำไงดีล่ะคับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57389 โดย rk5715
Replied by rk5715 on topic จะไหวมั้ยเนี่ย
ภาวะเดียวกันค่ะ หยุดมา 3 งวดแล้ว ใจเย็นๆ นะคะ..ตอนนี้ก็ศึกษาจากกระทู้เก่าๆ ไปก่อน นี่ก็รับสายทวงถามทุกวันอยู่ :sweat:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57486 โดย khan6424
Replied by khan6424 on topic จะไหวมั้ยเนี่ย
ช่วงนี้มีการโทรมาบอกให้ทำประณอมหนี้ ด้วยคับ แต่ผมก็ปฏิเสธไป แล้วมีการบอกด้วยว่า บัญชีของผม อยู่ในโครงการ ฟ้องด่วน ด้วยคับ ไม่ทราบว่าเชื่อได้มั้ยคับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57513 โดย jackTs
Replied by jackTs on topic จะไหวมั้ยเนี่ย
.
ฟ้องด่วนๆๆๆ

จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...

จะฟ้องจริงๆแล้วนะ...จะฟ้องจริงๆด้วย





ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้


1. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง

2. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (ช่วงเดือนที่ 2-3) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" , "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญานรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น) หรือ อาจโทรมาหลอกลวงให้ลูกหนี้ทำการ"จ่ายหยอด"เพื่อเดินบัญชี...เป็นต้น
ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 (ช่วงเดือนที่ 4-6) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 7-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (ช่วงเดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)

ดังนั้น หากมีลูกหนี้บางราย ที่เจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องศาลช้ากว่าปกติ (เกินกว่า 1ปีครึ่งขึ้นไป)
ลูกหนี้อาจถูกทวงหนี้โดยสำนักงานกฏหมาย(บริษัททวงหนี้) ที่ต้องถูกเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ซ้ำหน้ากัน เกินกว่า 5บริษัททวงหนี้...หรือจนกว่าหมายศาลฟ้องจะมา




ข้อสังเกตุ : ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างทวงหนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ประมาณพันกว่าบริษัท

ซึ่งบริษัทรับจ้างทวงหนี้พวกนี้ ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อที่ใช้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลว่า "สำนักงานกฏหมาย" หรือ "สำนักงานทนายความ" เพื่อสร้างความตกใจต่อลูกหนี้...เพราะในชื่อของบริษัทดังกล่าว มีคำว่า "กฏหมาย" หรือ "ทนายความ" ปรากฏอยู่ด้วย

พอลูกหนี้ได้ยินหรือได้เห็นชื่อของบริษัททวงหนี้เหล่านี้ ก็มักเกิดความกลัวและคิดไปเองว่า "เรื่องหนี้ของฉัน ตกไปอยู่ในขั้นตอนของกฏหมายแล้วหรือนี่? , สงสัยจะโดนฟ้องแล้วแน่เลย?"...แต่โดยแท้จริงแล้ว บริษัทพวกนี้ มีอาชีพหรือรายได้หลักมาจากการ"รับจ้างทวงหนี้ "เท่านั้น

และถ้าหากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายแรก ไม่สามารถทวงหนี้ได้ตามที่ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ (ซึ่งส่วนมากทางสถาบันการเงิน จะกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ ต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น) บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ทำการ"ถีบหัวส่ง"ออกไป...เพราะถือว่า"ไร้ความสามารถ"ในการทวงหนี้ให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ตามที่เจ้าหนี้ตัวจริงได้กำหนดเอาไว้

แล้วหลังจากนั้น...ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปทำการว่าจ้างบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายใหม่ ให้มาทำการทวงหนี้แทนบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายเดิมที่ถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไป โดยกำหนดว่าจะต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เช่นกัน

หากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายที่สองนี้ ก็ยังไม่สามารถทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนอีก ก็จะถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไปอีก แล้วทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปว่าจ้างบริษัททวงหนี้รายที่ สาม , สี่ , ห้า ให้มาทำหน้าที่ทวงหนี้แทนเหมือนเดิม...เป็น"วัฏจักร"เช่นนี้เรื่อยไปตลอด จนกว่าจะทวงหนี้ได้สำเร็จ(Hair cut สำเร็จ) หรือจนกว่าจะฟ้องศาล ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานเป็นปี

ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้โดยง่าย และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากมันไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ


แล้วอีกอย่างหนึ่ง บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")

ด้วยสาเหตุนี้...จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง"การทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรม"จากบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้บางราย ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเลวๆ ในลักษณะของการข่มขู่และกดดันลูกหนี้ เพื่อให้ตัวเองได้เงินมาจากลูกหนี้ไห้ได้(ไม่งั้นจะโดน"ถีบหัวส่ง"และ"อด แdก ค่าคอมฯด้วย") จึงต้องใช้วิธีในการทวงหนี้แบบชั่วๆ หรืออ้างข้อกฏหมาย"มั่วๆ" เพื่อข่มขู่ลูกหนี้ต่างๆนาๆ


หากใครโดนการข่มขู่ทวงหนี้ด้วยวิธีการเลวๆแบบนี้ ก็อย่าไปตกใจ สามารถไปดูวิธีการรับมือการทวงหนี้และการใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองได้จากในกระทู้นี้

รู้ทันการทวงหนี้ / เตรียมรับมือการทวงหนี้
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=18758&Itemid=64

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57577 โดย khan6424
Replied by khan6424 on topic จะไหวมั้ยเนี่ย
ขอบคุณคับ คุณ นกกระจอกเทศ
ขอสอบถามอีกนิดนึงคับ พอดีผมได้ทำบัตรเสริม ให้แฟนอีกบัตรนึง เป็นบัตรเครดิต วงเงิน 30000 บาท ตอนนี้มีเงินคงค้างอยู่ ประมาณ 18000 บาท หยุดจ่ายมาพร้อมๆกัน ไม่ทราบว่ายอดหนี้ตรงหนี้จะไปรวมกับบัตรหลักมั้ยคับ หรือว่าแยก แล้วแฟนผมจะมีผลกระทบยังไง บ้างคับ
ขอบคุณคับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57587 โดย debtman
Replied by debtman on topic จะไหวมั้ยเนี่ย

khan6424 เขียน: ขอบคุณคับ คุณ นกกระจอกเทศ
ขอสอบถามอีกนิดนึงคับ พอดีผมได้ทำบัตรเสริม ให้แฟนอีกบัตรนึง เป็นบัตรเครดิต วงเงิน 30000 บาท ตอนนี้มีเงินคงค้างอยู่ ประมาณ 18000 บาท หยุดจ่ายมาพร้อมๆกัน ไม่ทราบว่ายอดหนี้ตรงหนี้จะไปรวมกับบัตรหลักมั้ยคับ หรือว่าแยก แล้วแฟนผมจะมีผลกระทบยังไง บ้างคับ
ขอบคุณคับ


ตามประกาศ ธปท. กรณีผู้ถือบัตรเสริม ภายใต้สัญญาที่ทำกับผู้ถือบัตรหลัก โดยวงเงินการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเสริมต้องอยู่ภายในวงเงินของผู้ถือบัตรหลักเท่านั้น และผู้ถือบัตรหลักจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชำระหนี้อันเกิดจากบัตรเสริมทั้งหมด
แต่เดี๋ยวก่อน ซาร่า...
เวลาทนายยื่นฟ้อง มักจะแกล้งโง่ฟ้องให้บัตรเสริมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ดังนั้นเมื่อโดนฟ้องจะต้องยกประกาศของ ธปท. ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ หากไม่ได้ยกขึ้นอ้าง บัตรเสริมก็ต้องรับผิดเสมือนเป็นลูกหนี้ร่วมตาม ปพพ. มาตรา 291 ครับ
(ปล.ขออนุญาตช่วยท่านประธานฯทำหน้าที่อีกแรง พอดีวันนี้ว่าง 555)

debtman

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58696 โดย khan6424
Replied by khan6424 on topic จะไหวมั้ยเนี่ย
ช่วงนี้ scb เงียบไปหลายวันเลยเกือบเดือนแล้ว ไม่เหมือน3เดือนแรกที่หยุดจ่าย
แต่ ของอีซี่บาย (ยูเมะ) โทรทุกวัน วันละหลายรอบเลย มีโทรเข้าที่ทำงานด้วยหลายครั้ง โทรจี้มากเลย 2ทุ่มก็โทรคับ รับบ้างไม่รับบ้าง :No: :No: :No:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58698 โดย jackTs
Replied by jackTs on topic จะไหวมั้ยเนี่ย

khan6424 เขียน: ขอบคุณคับ คุณ นกกระจอกเทศ
ขอสอบถามอีกนิดนึงคับ พอดีผมได้ทำบัตรเสริม ให้แฟนอีกบัตรนึง เป็นบัตรเครดิต วงเงิน 30000 บาท ตอนนี้มีเงินคงค้างอยู่ ประมาณ 18000 บาท หยุดจ่ายมาพร้อมๆกัน ไม่ทราบว่ายอดหนี้ตรงหนี้จะไปรวมกับบัตรหลักมั้ยคับ หรือว่าแยก แล้วแฟนผมจะมีผลกระทบยังไง บ้างคับ
ขอบคุณคับ


เป็นหนี้บัตรเครดิต มีหมายศาลมา
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=4273&Itemid=64&view=topic

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.504 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena