สอบถามหน่อยจ้าาา ยูโอบีขาโหดมาแล้ว :(

สวัสดีสมาชิกทุกท่านคะ คือจริงๆแล้ว เราเป็นสมาชิกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เข้ามาส่องทุกวัน (ทุกวันจริงๆนะ) มีบางเคสที่เหมือนกับเรา แต่บางเคสก็ไม่เหมือนกับเรา แตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันคือเราเป้นหนี้ และหนี้ของเรามีดังนี้คะ

1. TIMB 80000 บาท (หยุดจ่าย20/06/14)
2. CIMB 49000 บาท (หยุดจ่าย03/06/14)
3. ธนชา่ติ 18000 บาท (หยุดจ่าย08/06/14)
4. Kbank กดเงินสด 23000 บาท (หยุดจ่าย02/06/14)
5. Kbank บัตรเครดิต 23000 บาท (หยุดจ่าย02/06/14)
6. First Choice 32000 บาท (หยุดจ่าย17/06/14)
7. KTC สินเชืิ่อ 39000 บาท (หยุดจ่าย04/04/14)
8. KTC บัตรเครดิต 26000 บาท (หยุดจ่าย 04/04/14) ของ KTC ทั้งสองอันนี้หยุดนานก่าเพื่อน เงียบหายไปเลย สงสัยกะลังทำเรื่องส่งฟ้องศาลอยู่ (ใจเต้นเร็วเป็น hiphop มากคะ)
9. UOB บัตรเครดิต 30000 บาท (หยุดจ่าย 09/06/14)
10 UOB บัตรเสริม Flash Card 4000 บาท (หยุดจ่าย 09/06/14)
11. AEON 5000 บาท (หยุดจ่ายเดือนนี้ เมื่อวันที่ 2/07/14) เจ้านี้เป็นอะไรที่น่ารำคานมากกก พูดก้อแล้ว ง้อก้อแล้ว ขอก้อแล้ว นางตามจิกแบบอลังการงานสร้างคะ (ตอนนี้ส่งข้อความมาแทน ประมาณ 6-7 ข้อความ/วัน)

อัพเดทล่าสุดคะ เมื่อวานตอนทุ่มกว่า จนท. ธนาคารผู้หญิงของยูโอบีโทรมาแจ้งให้ชำระทั้งหมดสองเดือนภายในวันนี้ (17.07.2014) ช่วงเช้า ถ้าเกินวันนี้ไปแล้ว เค้าจะส่งสำนวนฟ้องศาล เพราะยอด balance เกิน 30000 เราเลยบอกว่าฟ้องเลยคะ รอต่อคิวหน่อยนะ เพราะหลายเจ้า นางก็ยังมิวายที่จะจิกกัด เราเองทนไม่ได้เลยวางสายคะ

แล้วประเด็นคือเงินเดือนของเราผ่านยูโอบีคะ จะเป็นปัญหาอะไรไหมคะ เพราะตอนนี้เราเองก็ไม่มีจ่ายจริงๆคะ จนปัญญามาหาคืนได้ทัน กลัวว่าตอนเงินเดือนออกนางจะริบเงินไปโดยปริยาย เหมือนที่เคยอ่านๆ (แต่เป็นของแบงค์สัญลักษณ์รูปดอกบัวเน่า ที่ใช้วิธีนี้)

ถ้าเกิดแบบนี้จริงๆ เราแย่เลย เราควรจะทำยังไงดีคะ รบกวนช่วยแนะนำเราหน่อยคะ

ปล. เราเพิ่งเคยตั้งกระทู้ถาม อันนี้เป็นอันแรก ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป ต้องขออภัยจริงๆ คะ ขอบคุณคะ

ตัวผมก็เพิ่งสอบถามไปไม่นานนี้เองครับ ได้ความสำหรับเรื่องนี้คือว่าอาจจะต้องลุ้นว่าธนาคารจะดูดเงินเรามั้ยครับเพราะถ้าทำเราก็จะเป็นฝ่ายลำบากถึงแม้ถ้าตามกฏหมายธนาคารไม่สามารถทำได้ก็ตาม

สรุปเบื้องต้นเท่าที่อ่านคือว่า
1.เราสามารถเปลี่ยนธนาคารได้หรือไม่..กับบริษัทครับ
2.กรณีถ้าไม่ได้ ก็ต้องเล่นเกมกดกันครับคือว่าเงินเดือนออกปุ๊ปเราต้องกดออกปั๊ปเลย
3.สมัคร internet banking ในการทำธุรกรรมการโอนทันทีที่ออกครับ

คงต้องลองดูครับ

เห้อออ แย่จัง 55555+ คือตอนแรกที่เราทิ้งไว้ เราไม่คิดว่าเค้าจะยกเลิกบัตรไวขนาดนี้ เพราะนี่เพิ่งเข้ารอบบิลเดือนที่ 2 เอง ในขณะที่ เคทีซี 4 เดือน ถึงจะโทรมาขอให้เราทำการยกเลิกบัตร เพราะไม่ชำระเลย เราคงต้องเล่นเกมส์กดแล้วหล่ะ เงินเดือนออกปุ๊บ กดปั๊บ เพราะที่ออฟฟิศเราจ่ายผ่านยูโอบีเท่านั้น

แต่เดี๋ยวจะลองคุยกับหัวห้นาฝ่ายบุคคลดูว่า ขอเป็นเงินสดได้หรือเปล่า แล้วทางคุณ Rabbitloso มีภาระกับทางยูโอบีเหมือนกันหรือเปล่าคะ อัพเดทเป็นยังไงบ้างคะ พอดีเราเพิ่งหยุดจ่ายได้ไม่นาน เลยกล้ากลัวๆ

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเบื้องต้นคะ ขอบคุณมากคะ

ควรจะเปลี่ยนธนาคารนะครับ ถ้ายังทัน
หรือไม่ก็เล่นเกมส์กด รีบกดออกก่อน

ที่เจอ ยูโอ จะมาธรรมดา แต่โทบ่อยมาก ล่าสุดให้ทำประนอมหนี้ พร้อมอธิบายยืดยาว เราเลยบอกขอตัดสินใจก่อน แล้วจะติดมามาอีก วางสายไป ประเด็นคือโทรมาที่ทำงานด้วยจร้า เพราะเราไม่รับมือถือ

วันนี้เราขอมาอัพเดทหน่อยคะ จากธนชาติ มาแรงมาก จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งวางสายจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราก็แจ้งความจำนงค์ไปนะคะว่า ยังไม่มีจ่ายจริงๆ ถ้ามีแล้วจะปิดยอดบัญชีทีเดียวเลย กลับโดนขู่ว่า ถ้าเช่นนั้นผมขอดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย จะส่งบุคคลเข้าไปติดตามที่ออฟฟิศนะครับ เราก็ตอบไปว่าไม่ได้คะ ไม่อนุญาติ แล้วก้อวางสาย .....



พอมาเมื่อวาน (21.08.2014) มีเจ้าหน้าที่ สนง.กฏหมายเข้ามาหาถึงที่ออฟฟิศ แต่เราก็ไม่กลัวนะคะ เราเดินออกไปแล้วถามเค้า
เรา : สวัสดีคะ ไม่ทราบว่ามาจากไหนคะ
จนท. - ผมมาจาก สนง. กฏหมายของแมคไกว จะมาติดตามหนี้ที่ทางคุณ... ติดไว้กับธนชาติครับ
เรา - อ้อ เราแจ้งไปแล้ว ถึงคุณมาวันนี้ก็เสียเวลาเปล่า ไม่มีจะจ่ายจริงๆคะ
จนท. - งั้นช่วยคุยกับคอลเซนเตอร์จของผมหน่อยนะครับ
เรา. - (มีอาการวีนเล็กน้อย) ไม่คะ !! แค่คุณมาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาติแล้ว ยังจะมาให้คุยอะไรอีกคะ ถ้าไม่พอใจก็ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายไปเลยคะ จะเจอกันที่ศาลก็ได้ หรือจะให้โทรแจ้งตำรวจคะ ว่าบุกรุก เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติ !!
จนท. - เงิบบบ + เงียบบ พร้อมยืนซองจดหมายให้เรา หลังจากนั้นเค้าก็ขอโทดขอโพยเราบอกว่า เค้าทำไปตามหน้าที่ของเค้า เราก็ได้แต่บอกว่า ไม่เป็นไรคะ ชั้นเค้าใจ

แต่จุดเด็ดมันอยู่ตรงนี้คะ เรายังไม่ทันเปิดซองจดหมาย เราเหลือบไปเห็นข้อความที่อยู่ข้างๆ ซองว่า "ผลัดมาสามงวด + ชอบโกหก" เราปรี๊ดแตกเลย โทรกลับหาเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ ปรากฏว่าไม่รับ (นึกในใจเออดี ถ้าโทรมานะ จะจัดให้งามๆ สักที)

ส่วนเจ้าหนี้รายอื่นยังคงเงียบคะ โดยเฉพาะ ทีเอ็มบี (ยอดหนี้ 70000 +) และ CIMB (ยอดหนี้ 40000 +) ส่วน เจ้าหนี้ของกรุงศรีเฟิสช้อย โทรมาให้ส่วนลดแล้วคะ ผ่านไปแค่ 3 เดือนเอง จากหนี้ 35000+ ให้เราปิดที่ 22000 ถ้วน (แต่น่าเสียดาย เงินเก็บยังไม่ถึงเลย เราเลยปฏิเสธไปก่อน)
ส่วนเจ้าหนี้ของยูโอบี ขาโหด ก็โทรมาวันเว้นวันบ้าง มีการให้ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว แต่เรายังปฏิเสธไปก่อนคะ (แบงค์นี้เงินเดือนโอนเข้าด้วยแหละ ไม่แน่อาจจะปรับโครงสร้างนี้ กลัวมันดูดเงินเอา กลัววันเงินเดือนออกแล้วเล่นเกมส์กดไม่ทัน แย่เลย 55555+)
ตอนนี้กลัวที่สุด คือเจ้าเคทีซีคะ (หนี้บัตรเครดิต 22000+ และ สินเชื่อ 35000+) เพราะหยุดจ่ายมา 5 เดือนแล้ว แต่ไม่ยอมลดอะไรให้เราเลย ก็เลยเงียบไปก่อน ขอเวลาตั้งหลัก

เห้อออออ คิดๆ แล้วก้อเหนื่อยใจนะคะ ท้อด้วย ไม่น่าเชื่อว่าปีนึงในชีวิตการทำงานจะมีหนี้มากมายเกือบสามแสนขนาดนี้ เป็นเพราะกดเงินไปจ่ายเจ้าอื่น หมุนไปเรื่อยๆ เสียใจคะ แต่ไม่ท้อ สู้ต่อไป

nattie เขียน: วันนี้เราขอมาอัพเดทหน่อยคะ จากธนชาติ มาแรงมาก จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งวางสายจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราก็แจ้งความจำนงค์ไปนะคะว่า ยังไม่มีจ่ายจริงๆ ถ้ามีแล้วจะปิดยอดบัญชีทีเดียวเลย กลับโดนขู่ว่า ถ้าเช่นนั้นผมขอดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย จะส่งบุคคลเข้าไปติดตามที่ออฟฟิศนะครับ เราก็ตอบไปว่าไม่ได้คะ ไม่อนุญาติ แล้วก้อวางสาย .....



พอมาเมื่อวาน (21.08.2014) มีเจ้าหน้าที่ สนง.กฏหมายเข้ามาหาถึงที่ออฟฟิศ แต่เราก็ไม่กลัวนะคะ เราเดินออกไปแล้วถามเค้า
เรา : สวัสดีคะ ไม่ทราบว่ามาจากไหนคะ
จนท. - ผมมาจาก สนง. กฏหมายของแมคไกว จะมาติดตามหนี้ที่ทางคุณ... ติดไว้กับธนชาติครับ
เรา - อ้อ เราแจ้งไปแล้ว ถึงคุณมาวันนี้ก็เสียเวลาเปล่า ไม่มีจะจ่ายจริงๆคะ
จนท. - งั้นช่วยคุยกับคอลเซนเตอร์จของผมหน่อยนะครับ
เรา. - (มีอาการวีนเล็กน้อย) ไม่คะ !! แค่คุณมาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาติแล้ว ยังจะมาให้คุยอะไรอีกคะ ถ้าไม่พอใจก็ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายไปเลยคะ จะเจอกันที่ศาลก็ได้ หรือจะให้โทรแจ้งตำรวจคะ ว่าบุกรุก เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติ !!
จนท. - เงิบบบ + เงียบบ พร้อมยืนซองจดหมายให้เรา หลังจากนั้นเค้าก็ขอโทดขอโพยเราบอกว่า เค้าทำไปตามหน้าที่ของเค้า เราก็ได้แต่บอกว่า ไม่เป็นไรคะ ชั้นเค้าใจ

แต่จุดเด็ดมันอยู่ตรงนี้คะ เรายังไม่ทันเปิดซองจดหมาย เราเหลือบไปเห็นข้อความที่อยู่ข้างๆ ซองว่า "ผลัดมาสามงวด + ชอบโกหก" เราปรี๊ดแตกเลย โทรกลับหาเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ ปรากฏว่าไม่รับ (นึกในใจเออดี ถ้าโทรมานะ จะจัดให้งามๆ สักที)

ส่วนเจ้าหนี้รายอื่นยังคงเงียบคะ โดยเฉพาะ ทีเอ็มบี (ยอดหนี้ 70000 +) และ CIMB (ยอดหนี้ 40000 +) ส่วน เจ้าหนี้ของกรุงศรีเฟิสช้อย โทรมาให้ส่วนลดแล้วคะ ผ่านไปแค่ 3 เดือนเอง จากหนี้ 35000+ ให้เราปิดที่ 22000 ถ้วน (แต่น่าเสียดาย เงินเก็บยังไม่ถึงเลย เราเลยปฏิเสธไปก่อน)
ส่วนเจ้าหนี้ของยูโอบี ขาโหด ก็โทรมาวันเว้นวันบ้าง มีการให้ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว แต่เรายังปฏิเสธไปก่อนคะ (แบงค์นี้เงินเดือนโอนเข้าด้วยแหละ ไม่แน่อาจจะปรับโครงสร้างนี้ กลัวมันดูดเงินเอา กลัววันเงินเดือนออกแล้วเล่นเกมส์กดไม่ทัน แย่เลย 55555+)
ตอนนี้กลัวที่สุด คือเจ้าเคทีซีคะ (หนี้บัตรเครดิต 22000+ และ สินเชื่อ 35000+) เพราะหยุดจ่ายมา 5 เดือนแล้ว แต่ไม่ยอมลดอะไรให้เราเลย ก็เลยเงียบไปก่อน ขอเวลาตั้งหลัก

เห้อออออ คิดๆ แล้วก้อเหนื่อยใจนะคะ ท้อด้วย ไม่น่าเชื่อว่าปีนึงในชีวิตการทำงานจะมีหนี้มากมายเกือบสามแสนขนาดนี้ เป็นเพราะกดเงินไปจ่ายเจ้าอื่น หมุนไปเรื่อยๆ เสียใจคะ แต่ไม่ท้อ สู้ต่อไป

อ้อเราก็เจอค่ะยูโอบีสาระพัดรูปแบบ เรื่องฟ้องนี้พูดตั้งแต่หยุดได้2เดือน ธนาคารนี้ขึ้นชื่อค่ะ ปัจจันหยุดมา 7 เดือน มีมาจะฟ้องบ้างเป็นระยะ สองสามวันให้หลังก็โทรมาให้ส่วนลด ตามอารมณ์ค่ะ เอาแน่เอานอนไม่ได้ เราก็เครียดนะทุกครั้งที่บอกว่าจะฟ้องอะ แต่พอคิดไปคิดมา เผลอๆโดนฟ้องอาจจะดีกว่าก็ได้ 555 สู้ต่อไปจ้า เป็นกำลังใจให้

ตอนแรกคิดว่าตัวเองทนได้ กับการทวงหนี้ทั้งแบงค์และ นอนแบงค์

พอมาวันนี้ รู้สึกแย่มากๆๆๆ เลยคะ เป็นอย่างที่ไม่เคยเป้นมาก่อน

เงินก้อนที่จะปิดยังไม่มี หยุดจ่ายมาสามเดือนแล้ว เห้อออ

ธนชาติกับอีออนโทรมาเกือบทุกวันเลยคะตอนนี้

ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรไปอ้างแล้วคะ พอบอกเหตุผลหลักของเราไป

ว่าจะตั้งใจปิดยอดจิงๆ อีกประมาณ 4-5 เดือนคะ ก็ยังจะโทรมากันอีก

เป็นพนักงานอออฟิศธรรมดาคะ เงินเดือน 20 K กับหนี้คำควณแล้ว 3 แสนกว่าๆ

ยิ่งคิดยิ่งเครียด ขอกำลังใจเพื่อนๆ ด้วยคะ

สู้ๆนะคะ เค้าทวงตามหน้าที่ ตั้งใจเก็บเงิน H/C กันดีกว่า ซักวันเราต้องเป็นไทกันแน่ๆค่ะ
เอาใจช่วยค่ะ

มาอัพเดทหมายศาลของ KTC ค่ะ

จริงๆ ได้รับหมายศาลมาได้สักระยะนึงแล้ว ถามว่าตื่นเต้นไหม วันแรกที่พี่สาวโทรมาบอก ใจเต้นมากๆ ค่ะ

ไม่อยากจะทำไรเลย แต่จังหวะทำบุญพอดี เลยอธิฐาน + กรวดน้ำให้ จะได้สบายๆ 5555+ เข้าเรื่องเลยนะคะ

ของเราหมายศาล KTC ฟ้องที่ศาลแขวงสมุทรปราการ (ยอดฟ้องที่ 73000 บาท) นัดวันเสาร์ที่ 24.01.2015

ใครมีไปบ้างค่ะ รบกวนมาอัพเดทกันหน่อย จะได้ไปเจอกันพร้อมสู้ ยังไม่มีเงินด้วยค่ะ เพราะว่าเก็บไม่ทัน

จริงๆคิดว่าไปเจรจาแล้วขอเลื่อนนัด เพื่อว่าจะตั้งสติแล้วเก็บเงินได้เพิ่มค่ะ ตอนแรกคิดไว้ว่าถ้าเก็บเงินไม่

ทันจริงๆ คงจะปล่อยบังคับคดีแล้วอายัดเงินเดือนเอา เพราะยังมี TMB อีก 80000 กว่าบาท ถ้าในกรณีที่

ขอเจรจาผ่อนกับเคทีซี เป้น 36 งวด เกิดเจ้าอื่นเสียบฟ้องขึ้นมา แย่เลยค่ะ เพื่อนๆ มีความเคลื่อนไหวยังไง

บ้างค่ะ เจ้าหนี้รายนี้ (คิดไม่ตก + นอนไม่หลับเลย .. ตอนแรกได้รับชื่อเข้าฟังอบรมที่พี่นกกระจอก

เทศแจ้งรายชื่อมา แต่ติดธุระตั้งแต่วันที่ 9 เป้นต้นมา เพิ่งจะได้ล็อคอินเข้าคอม ต้องขอโทดพี่นกกระจอก

เทศมา ณ ที่นี่ด้วยจริงๆ ค่ะ)

นานมั๊ยคะกว่าจะได้รับหมาย คือของดิฉันเพิ่งได้จดหมายเดือนลงวันที่ 5/1/2015 ว่าต้องชำระภายใน 20 วัน นับจากวันที่ในเอกสาร // แต่จนท.ฝ่ายประนอมหนี้บอกว่าทำเรื่องฟ้องวันนี้ 20/1 แล้ว ต้องผ่อนชำระ 6 งวด จะชะลอการฟ้องได้แบบเดือนต่อเดือนอ่ะค่ะ

ของเราหยุดชำระเดือน 4/2014 ค่ะ แล้วหมายศาลมาปิดวันที่ 05/1/2015 ค่ะ

ประมาณ 9 เดือน ซึ่งถือว่าหยุดนานพอสมควรนะคะ แต่เก็บเงินไม่ได้เลย 55555+

สำหรับคุณ Apirasda.Tan ในเมื่อตัดสินใจหยุดชำระเพื่อเก็บเงินในการเจรจา

ก็ไม่น่าจะจ่ายหยอดหรือชำระอะไรเพิ่มเติม มันเป้นธรรมดาของธนาคารที่ต้องทำหน้า

ที่ของเค้าในการเจรจากับเราเพื่อชะลอการฟ้อง เพราะคดีในชั้นศาลมันเยอะมาก

ไม่มีใครอยากเสียเวลาหรอกค่ะ ดังนั้เค้าเลยส่งจดหมายมาทวงหนี้เราบ่อยๆ และส่วน

ใหญ่จะอ้างเรื่องศาลเป็นหลัก ... ยังไงก็สู้ ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้

มาสอบถามค่ะ วันเสาร์ที่ 24.01.2015 ไปศาลแขวงสมุทรปราการแล้ว

ไม่ทราบว่ามีใครบอร์ดไปบ้างเอ่ย คดีของเคทีซีค่ะ เรากล้าๆ กลัวๆ ยังไง

ก็ไม่รู้ เห้อออออออออ

สู้ๆนะคะ เป็นหนี้ uob เหมือนกันค่ะ แสนกลางๆ จะรอสิ้นเดือนนี้ว่าจะโทรมาแบบไหนค่ะ เพิ่งเริ่มหยุดจ่ายค่ะ

สืบเนื่องจากที่เราได้รับหมายศาลของทางเคทีซีมาแล้วเมื่อวันที่ 24.01.2015 ด้วยยอดฟ้อง

73749.26บาท ฟ้องรวมกันทั้งสินเชื่อและบัตรเครดิตค่ะ เงินต้นทั้งสองส่วนนั้นคือ 59180 บาท มีดอกเบี้ย

เพิ่มมาประมาณ 14000 บาท (เยอะจัง!!!) หยุดจ่ายมาตั้งแต่เดือนเมษา/57 ค่ะ ปิดหมายวันที่

21/12/14 เป็นความโชคดี ที่เราได้อ่านกระทู้ในชมรมมาค่อนข้างที่จะเยอะค่ะ แต่....ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า

เราไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ ตั้งแต่ หยุดจ่ายจนกระทั่งตอนนี้มีเงินยอดกลมๆ เพียง 20000 บาท เท่านั้น เพราะ

ภาระในครอบครัวสูงตามอายุเลย เริ่มกันเลยแล้วกันนะค่ะ ศาลนัด 08.30 น. เราไปถึงศาลแขวง

สมุทรปราการประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ศาลให้เราเซ็นชื่อ แล้วเราก็เซ็นค่ะ ปรากฏเราเป็นคนแรกที่ไป

แต่ตอนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมายนะค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราทำใจมาก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าที่ศาลถามว่า

มาคดีเคทีซีหรือเปล่า อ้ะๆๆๆ นั้น้เหมือนรู้ เราตอบไปว่า ใช่ค่ะ เค้าบอกให้เรารอจนกระทั่งทนายโจทย์มา

ถึงได้ไกล่เกลี่ยกัน สักพักคนก็เริ่มเยอะ จนกระทั่งเรารุ้ว่า จำเลยที่ไปศาลคดีของ KTC วันนั้น 125 คน ไม่

มาศาลอีก 50 กว่าคน (อันนี้แอบเผือกเจ้าหน้าที่มาค่ะ 5555) พอเราขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องประชุมใหญ่

เราสังเกตุได้ว่า เจ้าหน้าที่ของเคทีซีมาเยอะมาก ประมาณ 30 กว่าคน !! เราก็เอ๊ะตกลงนี่มันปาร์ตี้อะไรกัน

จนกระทั้งเราได้บัตรคิว ซึ่ง เราเป็นคิวที่ 4 ค่ะ พอเข้าไปในห้องเท่านั้นแหล่ะ ถึงรู้ว่า เจ้าหน้าที่ของเคทีซี

มาเพื่อขยั้นขยอให้เราทำการประนอมยอมความนอกศาล เราก็เสนอไปตรงๆ เลยว่า



เรา : มีแนวทางยังไงบ้างคะ พอจะลดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือในส่วนอื่นๆ ได้บ้างหรือเปล่า

เคทีซี : เสนอให้ปิดที่ 60000 ถ้วน งดอัตราดอกเบี้ย + ค่าติดตามทวงถาม + บลา ๆๆๆ

เรา : ไม่ได้ค่ะ ไม่ไหวจริงๆ มันเยอะเกินไป

เคทีซี : งั้น 3 งวดค่ะ งวดละ 20000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย และส่วนอื่นๆ เช่นกัน

เรา : ขอหนึ่งหมื่นบาท 6 งวดค่ะ

เคทีซี : ไม่ได้ค่ะ แบบนั้นจะเรทอัตราดอกเบียเพิ่มเติม เคทีซีขอเสนอ 36 งวด ผ่อนเดือนละ 1500 บาทค่ะ พอผ่านงวดที่ 36 แล้วก็สามารถนำเงินก้อนมาปิดได้ อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 10 เปอร์เซนต์

เรา : ขอเวลาแปปนึงนะค่ะ (แล้วเราก้อเดินออกไปเพื่อปรึกษากับพีสาว และได้ขอสรุปว่า ขอเลื่อนจะดีดว่า เพราะถ้าเราตกลงโอเคกับเค้าไปมันก็จะกลับสู่วังวนเดิม คือผ่อนในระยะยาว ซึ่งมันสามารถยืดไปได้ก็จริงแต่ในระยะเวลา 36 งวด งวดละ 1500 บาท จะผ่อนได้เพียง 54000 บาท ซึ่งนั้นหมายถึงงวดหลังจากงวดที่ 36 เราจะต้องกาเงินมาปิดอีก !!! แล้วเคทีซีไม่ใช่เจ้าหนี้รายสุดท้ายของเรา ยังเหลือ TMB 85000 บาท และ CIMB อีกราว 50000 บาท แล้วถ้าเราเคลียร์ของเคทีซีไปจบ ณ จุดนั้น เราก็มั่นใจว่าเจ้าหนี้อีกสองรายที่เหลือจะต้องเสียบฟ้องอีกเป็นแน่คะ ! ตอนนั้นเราปวดหัวมากกก เครียดมากก ปรากฏมีสายโทรเข้ามา เห็นเบอร์ปุ๊บเรายิ้มเลย นั้นคือคุณอาไพโรจน์คะ กรุณาเรามากๆ ที่โทรกลับมาหาเรา เพราะก่อนหน้าเรามาศาลเราได้โทรติดต่อคุณอาไว้ คุณอาชี้แจงว่าให้เราขอเลื่อนไปตั้งหลักก่อน เพราะเงินก้อนก็ยังไม่มี เราจึงเดือนเข้าห้องไป)

เรา : ขอเลื่อนได้ ไหมคะ พอดียังไม่สะดวกจริงๆ

เคทีซี : ได้ค่ะ เดี๋ยวทางเคทีซีขอแจ้งทนายก่อนนะคะ ว่าคุณจะขอเลื่อน หลังจากนั้นเราก็ เดินออกมารอข้างนอกกับพี่สาว สักพักนึงก็มีทนายหน้าตาเนี้ยบ (ไม่หล่อเอาสะเลย) เก็กอีกต่างหาก ให้อภัยตรงจัดฟันค่ะ พอดูได้ ดูมีอะไรขึ้นมาหน่อย



ทนาย : คุณจะขอเลื่อนเพราะอะไรครับ

เรา : ขอเสนอที่น้องคนเมื่อกี้ให้มายังไม่เป้นผลค่ะ พอดีต้องการเวลาอีกสักหน่อย

ทนาย : KTC ไม่มีนโยบายลดเงินต้นให้นะครับ ถ้าคุณไม่โอเค ไม่เป็นไร เลื่อนไปวันที่ 28.02.2015 ก็ได้ครับ แต่ยังคงเงื่อนไขเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง (พร้อมกับยื่นเบอร์ทนายอีกคนนึงของเคทีซ๊มาให้ แล้วเบอร์เจ้าหน้าที่อีกเยอะแยะ เราก็รับไว้ก่อนคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาตั้งหลักใหม่

หลังจากนั้นเราก็เซ็นชื่อ พร้อมเจ้าหน้าทีที่ศาลว่าเลื่อนนัดไป วันนั้นเแป็นประสบการณ์วันแรกที่เราได้รับ

ต่อไปต้องเตรียมตัวดีๆ อีก เพื่อนๆ คนไหนมีคดีของเคทีซีมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ่ เพื่อว่าจะเป็นแนวทาง

ให้เราได้บ้าง ตอนนี้เรากำลังมึนอยู่ เพราะคิดว่า ถ้าตกลงยอมความผ่อนของเคทีซีไป เคทีซีก็จะถอนฟ้อง

แล้วเป้นช่องทางให้เจ้าหนี้รายอื่นมาฟ้องต่อ (ตอนนี้รู้สึกว่า อายัดเงินเดือนไปเลยก็คงจะดีกว่าต้องมานั่ง

ประนอมหนี้นอกศาลหลายๆ เจ้า มันจะทำให่เรากลับไปสู้วังวนเดิม ........ เพราะเงินก้อนก็ยังไม่มี

เห้ออออ เครียดจัง !!

nattie เขียน: สืบเนื่องจากที่เราได้รับหมายศาลของทางเคทีซีมาแล้วเมื่อวันที่ 24.01.2015 ด้วยยอดฟ้อง

73749.26บาท ฟ้องรวมกันทั้งสินเชื่อและบัตรเครดิตค่ะ เงินต้นทั้งสองส่วนนั้นคือ 59180 บาท มีดอกเบี้ย

เพิ่มมาประมาณ 14000 บาท (เยอะจัง!!!) หยุดจ่ายมาตั้งแต่เดือนเมษา/57 ค่ะ ปิดหมายวันที่

21/12/14 เป็นความโชคดี ที่เราได้อ่านกระทู้ในชมรมมาค่อนข้างที่จะเยอะค่ะ แต่....ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า

เราไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ ตั้งแต่ หยุดจ่ายจนกระทั่งตอนนี้มีเงินยอดกลมๆ เพียง 20000 บาท เท่านั้น เพราะ

ภาระในครอบครัวสูงตามอายุเลย เริ่มกันเลยแล้วกันนะค่ะ ศาลนัด 08.30 น. เราไปถึงศาลแขวง

สมุทรปราการประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ศาลให้เราเซ็นชื่อ แล้วเราก็เซ็นค่ะ ปรากฏเราเป็นคนแรกที่ไป

แต่ตอนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมายนะค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราทำใจมาก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าที่ศาลถามว่า

มาคดีเคทีซีหรือเปล่า อ้ะๆๆๆ นั้น้เหมือนรู้ เราตอบไปว่า ใช่ค่ะ เค้าบอกให้เรารอจนกระทั่งทนายโจทย์มา

ถึงได้ไกล่เกลี่ยกัน สักพักคนก็เริ่มเยอะ จนกระทั่งเรารุ้ว่า จำเลยที่ไปศาลคดีของ KTC วันนั้น 125 คน ไม่

มาศาลอีก 50 กว่าคน (อันนี้แอบเผือกเจ้าหน้าที่มาค่ะ 5555) พอเราขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องประชุมใหญ่

เราสังเกตุได้ว่า เจ้าหน้าที่ของเคทีซีมาเยอะมาก ประมาณ 30 กว่าคน !! เราก็เอ๊ะตกลงนี่มันปาร์ตี้อะไรกัน

จนกระทั้งเราได้บัตรคิว ซึ่ง เราเป็นคิวที่ 4 ค่ะ พอเข้าไปในห้องเท่านั้นแหล่ะ ถึงรู้ว่า เจ้าหน้าที่ของเคทีซี

มาเพื่อขยั้นขยอให้เราทำการประนอมยอมความนอกศาล เราก็เสนอไปตรงๆ เลยว่า



เรา : มีแนวทางยังไงบ้างคะ พอจะลดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือในส่วนอื่นๆ ได้บ้างหรือเปล่า

เคทีซี : เสนอให้ปิดที่ 60000 ถ้วน งดอัตราดอกเบี้ย + ค่าติดตามทวงถาม + บลา ๆๆๆ

เรา : ไม่ได้ค่ะ ไม่ไหวจริงๆ มันเยอะเกินไป

เคทีซี : งั้น 3 งวดค่ะ งวดละ 20000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย และส่วนอื่นๆ เช่นกัน

เรา : ขอหนึ่งหมื่นบาท 6 งวดค่ะ

เคทีซี : ไม่ได้ค่ะ แบบนั้นจะเรทอัตราดอกเบียเพิ่มเติม เคทีซีขอเสนอ 36 งวด ผ่อนเดือนละ 1500 บาทค่ะ พอผ่านงวดที่ 36 แล้วก็สามารถนำเงินก้อนมาปิดได้ อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 10 เปอร์เซนต์

เรา : ขอเวลาแปปนึงนะค่ะ (แล้วเราก้อเดินออกไปเพื่อปรึกษากับพีสาว และได้ขอสรุปว่า ขอเลื่อนจะดีดว่า เพราะถ้าเราตกลงโอเคกับเค้าไปมันก็จะกลับสู่วังวนเดิม คือผ่อนในระยะยาว ซึ่งมันสามารถยืดไปได้ก็จริงแต่ในระยะเวลา 36 งวด งวดละ 1500 บาท จะผ่อนได้เพียง 54000 บาท ซึ่งนั้นหมายถึงงวดหลังจากงวดที่ 36 เราจะต้องกาเงินมาปิดอีก !!! แล้วเคทีซีไม่ใช่เจ้าหนี้รายสุดท้ายของเรา ยังเหลือ TMB 85000 บาท และ CIMB อีกราว 50000 บาท แล้วถ้าเราเคลียร์ของเคทีซีไปจบ ณ จุดนั้น เราก็มั่นใจว่าเจ้าหนี้อีกสองรายที่เหลือจะต้องเสียบฟ้องอีกเป็นแน่คะ ! ตอนนั้นเราปวดหัวมากกก เครียดมากก ปรากฏมีสายโทรเข้ามา เห็นเบอร์ปุ๊บเรายิ้มเลย นั้นคือคุณอาไพโรจน์คะ กรุณาเรามากๆ ที่โทรกลับมาหาเรา เพราะก่อนหน้าเรามาศาลเราได้โทรติดต่อคุณอาไว้ คุณอาชี้แจงว่าให้เราขอเลื่อนไปตั้งหลักก่อน เพราะเงินก้อนก็ยังไม่มี เราจึงเดือนเข้าห้องไป)

เรา : ขอเลื่อนได้ ไหมคะ พอดียังไม่สะดวกจริงๆ

เคทีซี : ได้ค่ะ เดี๋ยวทางเคทีซีขอแจ้งทนายก่อนนะคะ ว่าคุณจะขอเลื่อน หลังจากนั้นเราก็ เดินออกมารอข้างนอกกับพี่สาว สักพักนึงก็มีทนายหน้าตาเนี้ยบ (ไม่หล่อเอาสะเลย) เก็กอีกต่างหาก ให้อภัยตรงจัดฟันค่ะ พอดูได้ ดูมีอะไรขึ้นมาหน่อย



ทนาย : คุณจะขอเลื่อนเพราะอะไรครับ

เรา : ขอเสนอที่น้องคนเมื่อกี้ให้มายังไม่เป้นผลค่ะ พอดีต้องการเวลาอีกสักหน่อย

ทนาย : KTC ไม่มีนโยบายลดเงินต้นให้นะครับ ถ้าคุณไม่โอเค ไม่เป็นไร เลื่อนไปวันที่ 28.02.2015 ก็ได้ครับ แต่ยังคงเงื่อนไขเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง (พร้อมกับยื่นเบอร์ทนายอีกคนนึงของเคทีซ๊มาให้ แล้วเบอร์เจ้าหน้าที่อีกเยอะแยะ เราก็รับไว้ก่อนคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาตั้งหลักใหม่

หลังจากนั้นเราก็เซ็นชื่อ พร้อมเจ้าหน้าทีที่ศาลว่าเลื่อนนัดไป วันนั้นเแป็นประสบการณ์วันแรกที่เราได้รับ

ต่อไปต้องเตรียมตัวดีๆ อีก เพื่อนๆ คนไหนมีคดีของเคทีซีมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ่ เพื่อว่าจะเป็นแนวทาง

ให้เราได้บ้าง ตอนนี้เรากำลังมึนอยู่ เพราะคิดว่า ถ้าตกลงยอมความผ่อนของเคทีซีไป เคทีซีก็จะถอนฟ้อง

แล้วเป้นช่องทางให้เจ้าหนี้รายอื่นมาฟ้องต่อ (ตอนนี้รู้สึกว่า อายัดเงินเดือนไปเลยก็คงจะดีกว่าต้องมานั่ง

ประนอมหนี้นอกศาลหลายๆ เจ้า มันจะทำให่เรากลับไปสู้วังวนเดิม ........ เพราะเงินก้อนก็ยังไม่มี

เห้ออออ เครียดจัง !!

ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์ครับ

สู้ๆนะครับ หมดหนี้ไปด้วยกัน