น้องใหม่ขอคำแนะนำค่ะ

สวัสดีพี่ๆ ทุกท่าน เราชื่อโอ๋ค่ะ เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยอดรวมกันประมาณ 6 แสนบาท รายการดังนี้ค่ะ
บัตรเครดิต CITIBANK 13,000 จ่ายขั้นต่ำ 2,000
บัตรกดเงินสด CITIBANK 78,000 จ่ายขั้นต่ำ 3,700
สินเชื่อส่วนบุคคล CITIBANK 105,000 จ่ายขั้นต่ำ 3,478
สินเชื่อส่วนบุคคล UOB 73,000 จ่ายขั้นต่ำ 2,300
สินเชื่อส่วนบุคคล LOTUS 38,000 จ่ายขั้นต่ำ 1,480
สินเชื่อส่วนบุคคล TMB 107,000 จ่ายขั้นต่ำ 3,210
สินเชื่อส่วนบุคคล CIMB (1) 45,000 จ่ายขั้นต่ำ 1,230
สินเชื่อส่วนบุคคล CIMB (2) 70,000 จ่ายขั้นต่ำ 2,000
สินเชื่อส่วนบุคคล SCTB 68,000 จ่ายขั้นต่ำ 2,100

ตอนนี้เรากลุ้มใจมากเลย ปัจจุบันยังไม่หยุดจ่าย ใช้วิธีหมุนโดยการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลมาจ่ายขั้นต่ำ จนสุดท้ายเหมือนจะเจอกับทางตัน พอดีมาเจอชมรม
นี้ ก็เลยลองเข้ามาอ่านรายละเอียดและวิธีการปลดหนี้ และอ่านหลายๆ กระทู้ จึงสนใจวิธี Hair Cut แต่มีความกังวลว่าระหว่างที่เราหยุดจ่ายทุกบัตร
และเก็บเงินไว้ปิดบัตรใดบัตรนึงก่อน แล้วบัตรที่เหลือจะทยอยฟ้องเราก่อนรึเปล่า

*เราต้องจ่ายขั้นต่ำประมาณเดือนละ 21,000 แต่เงินเดือนเรา 20,000 แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าเราอยาก H/C จริงๆ เราคิดจะเก็บเงินเดือนละ 7,000 บาท
อยากถามผู้รู้ค่ะ ว่าควรทำหรือไม่ และระยะเวลาที่เราเก็บเงิน จะทันกับที่เจ้าหนี้รายอื่นๆ จะฟ้องศาลรึเปล่า และเรามีเวลาเท่าไหร่ในการเก็บเงิน
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ กลุ้มใจมากจริงๆ

ถ้าหาก Hair cut ไม่ทัน ก็ปล่อยให้เจ้าหนี้ทุกรายมันฟ้องศาลซะ แล้วจัดระเบียบให้พวกมันทั้งหมดทำการ"เข้าแถว"รออายัดเงินเดือน(15-30%) ของลูกหนี้ตามที่กฎหมายกำหนด

แต่วิธีนี้ ลูกหนี้จะต้องไม่ชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์ใดๆเลย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ที่กำลังผ่อนอยู่หรือไม่ก็ตาม

เพราะทรัพย์สินใดๆ ที่ยังผ่อนอยู่ของลูกหนี้ หากมีชื่อของลูกหนี้เกี่ยวข้องในความเป็นเจ้าของ สามารถยึดได้ตามกฎหมาย

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศค่ะ ที่ให้คำปรึกษา ตอนนี้โอ๋ยังกลัวๆ กล้าๆ ที่จะหยุดจ่าย แต่คิดจะเริ่มหยุดตั้งแต่เดือนนี้ล่ะค่ะ ยังไงอาจต้องรบกวนขอคำแนะนำเป็นระยะนะคะ

รบกวนพี่ๆ อีกครั้งค่ะ พอดีวันนี้สินเชื่อ UOB โทรมาแจ้งว่าผิดนัดชำระค่ะ ซึ่งเป็นงวดแรกของการจ่ายสินเชื่อก้อนนี้ (ยอด 78,000.00)
ยังไม่เคยชำระเลยค่ะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากไม่ชำระจะทำการยกเลิกสัญญา ให้ทำการชำระงวดแรกเข้ามาก่อน แบบนี้หมายความว่า
ยังไงคะ และเราต้องทำตามที่เจ้าหน้าที่บอกรึเปล่าคะ คือชำระงวดแรกก่อน รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64#19608




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

คือมีข้อสงสัยค่ะ เนื่องจากวันนี้มีข้อความจาก UOB มาว่าทางธนาคารขอเสนอยกเลิกสัญญา และมีเจ้าหน้าที่โทรมาว่า
จะยกเลิกสัญญาและเราต้องชำระทั้งหมด แบบนี้น่ากังวลรึเปล่าคะ (คือเรายังไม่เคยชำระเลยซักงวด ตั้งแต่ทำสัญญา
เงินกู้น่ะค่ะ พอเจอชมรมนี้ก็หยุดจ่ายทุกบัตรเลย) อีกอย่างที่สงสัยก็คือ เราจะติด blacklist เมื่อไหร่คะ หลังจากถูกฟ้อง
แล้วรึเปล่า รบกวนพี่ๆ ด้วยค่ะ

ตอนนี้ทุกที่โทรมากระหน่ำทุกวันเลย เหอะๆ

oh.tanachpon เขียน: ที่สงสัยก็คือ เราจะติด blacklist เมื่อไหร่คะ หลังจากถูกฟ้อง
แล้วรึเปล่า รบกวนพี่ๆ ด้วยค่ะ

Blacklist มันติดตั้งแต่หยุดจ่ายเดือนแรกแล้วครับ


ติดแบล็ค ลิสต์มันไม่น่ากลัวหรอกนะครับ

แต่ถ้าติด แบล็ค ลิตร สิ...น่ากลัวกว่าเยอะ (เมาตายห่า)








สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64

ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากๆ ค่ะ ยังไงก็จะสู้นะคะ

วันนี้ citibank โทรมา บอกหมายศาลจะส่งมาที่บ้าน-ที่ทำงาน ประมาณกลางเดือนแล้ว ให้ไปศาลตามนัด ทำไมเร็วจังเลยคะ เพิ่งหยุดจ่ายมา 3 เดือนเอง

(สินเชื่อเงินกู้น่ะค่ะ) หรือว่าเป็นปกติคะ รู้สึกกลัวๆ แล้วอ่ะค่ะ

.
จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...

จะฟ้องจริงๆแล้วนะ...จะฟ้องจริงๆด้วย

รู้ทันการทวงหนี้ / เตรียมรับมือการทวงหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=18758&Itemid=64




ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้


1. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง

2. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (ช่วงเดือนที่ 2-3) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" , "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญานรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น) หรือ อาจโทรมาหลอกลวงให้ลูกหนี้ทำการ"จ่ายหยอด"เพื่อเดินบัญชี...เป็นต้น
ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 (ช่วงเดือนที่ 4-6) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 7-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (ช่วงเดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)

ดังนั้น หากมีลูกหนี้บางราย ที่เจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องศาลช้ากว่าปกติ (เกินกว่า 1ปีครึ่งขึ้นไป)
ลูกหนี้อาจถูกทวงหนี้โดยสำนักงานกฏหมาย(บริษัททวงหนี้) ที่ต้องถูกเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ซ้ำหน้ากัน เกินกว่า 5บริษัททวงหนี้...หรือจนกว่าหมายศาลฟ้องจะมา

---

ข้อสังเกตุ : ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างทวงหนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ประมาณพันกว่าบริษัท

ซึ่งบริษัทรับจ้างทวงหนี้พวกนี้ ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อที่ใช้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลว่า "สำนักงานกฏหมาย" หรือ "สำนักงานทนายความ" เพื่อสร้างความตกใจต่อลูกหนี้...เพราะในชื่อของบริษัทดังกล่าว มีคำว่า "กฏหมาย" หรือ "ทนายความ" ปรากฏอยู่ด้วย

พอลูกหนี้ได้ยินหรือได้เห็นชื่อของบริษัททวงหนี้เหล่านี้ ก็มักเกิดความกลัวและคิดไปเองว่า "เรื่องหนี้ของฉัน ตกไปอยู่ในขั้นตอนของกฏหมายแล้วหรือนี่? , สงสัยจะโดนฟ้องแล้วแน่เลย?"...แต่โดยแท้จริงแล้ว บริษัทพวกนี้ มีอาชีพหรือรายได้หลักมาจากการ"รับจ้างทวงหนี้ "เท่านั้น

และถ้าหากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายแรก ไม่สามารถทวงหนี้ได้ตามที่ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ (ซึ่งส่วนมากทางสถาบันการเงิน จะกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ ต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น) บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ทำการ"ถีบหัวส่ง"ออกไป...เพราะถือว่า"ไร้ความสามารถ"ในการทวงหนี้ให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ตามที่เจ้าหนี้ตัวจริงได้กำหนดเอาไว้

แล้วหลังจากนั้น...ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปทำการว่าจ้างบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายใหม่ ให้มาทำการทวงหนี้แทนบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายเดิมที่ถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไป โดยกำหนดว่าจะต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เช่นกัน

หากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายที่สองนี้ ก็ยังไม่สามารถทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนอีก ก็จะถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไปอีก แล้วทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปว่าจ้างบริษัททวงหนี้รายที่ สาม , สี่ , ห้า ให้มาทำหน้าที่ทวงหนี้แทนเหมือนเดิม...เป็น"วัฏจักร"เช่นนี้เรื่อยไปตลอด จนกว่าจะทวงหนี้ได้สำเร็จ(Hair cut สำเร็จ) หรือจนกว่าจะฟ้องศาล ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานเป็นปี

ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้โดยง่าย และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากมันไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ

แล้วอีกอย่างหนึ่ง บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")

ด้วยสาเหตุนี้...จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง"การทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรม"จากบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้บางราย ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเลวๆ ในลักษณะของการข่มขู่และกดดันลูกหนี้ เพื่อให้ตัวเองได้เงินมาจากลูกหนี้ไห้ได้(ไม่งั้นจะโดน"ถีบหัวส่ง"และ"อด แdก ค่าคอมฯด้วย") จึงต้องใช้วิธีในการทวงหนี้แบบชั่วๆ หรืออ้างข้อกฏหมาย"มั่วๆ" เพื่อข่มขู่ลูกหนี้ต่างๆนาๆ

ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากๆ ค่ะ ใจชื้นขึ้นเยอะเลย เฮ้อ มีการบอกอีกว่า ต้องหาเงินมาชำระเต็มจำนวน ตัดบางส่วนไม่ได้อีกแล้ว กลางเดือนไปศาลเลย เราก็แอบกลัว ขอบคุณจ้าาา

หมายศาลมาแล้วค่ะ ฮื่อๆๆ มาจริงๆ ด้วย สินเชื่อซิตี้ หยุดจ่าย 4 เดือน ฟ้องเร็วจริงๆ นัด 22.12.57 ตอนนี้บอกตรงๆ ค่ะว่าทำอะไรไม่ถูกเลย
รบกวนถามพี่ๆ ด้วยค่ะว่าถึงวันนัดต้องทำยังไงบ้าง (ตอนนี้ยังเก็บเงินได้นิดเดียวเอง ไม่น่าจะทำ H/C ได้หากเค้าเสนอมาน่ะค่ะ) อีกอย่าง
เรายังมีเจ้าหนี้อีกหลายรายเลย รบกวนขอคำแนะนำจริงๆ ค่ะ ว่าควรทำยังไงบ้าง ควรไปนัดนี้ แต่ดื้อแพ่งไม่จ่ายตามคำสั่งศาลและรอ
เจ้าหนี้ร้องกับกรมบังคับคดีเพื่ออายัดเงินเดือนเลยดีรึเปล่าคะ