kubotom เขียน: ผมมีความสามารถในการผ่อนชำระได้เดือนละประมาณ 30,000 บาท
รบกวนเพื่อนสมาชิกแนะนำว่า
- ควรทำอะไรกับบัตรใบไหนบ้างครับ
- เช่น Citi Bank ผ่อนขั้นต่ำต่อไป, BBL ปิดทีเดียว, TMB Loan ปล่อยฟ้อง ประมาณนี้ครับ
- หรือมีคำแนะนำอื่นก็ยินดีครับ
ตอนนี้ผมไม่มีภาระผ่อนสินค้า รถ หรือ บ้าน มีแค่หนี้บัตรเครดิตอย่างเดียวครับ อายุ 30 ปี โสดครับ
ให้หยุดจ่ายให้หมดทุกใบ แล้วเก็บเงินเอาไว้ทำ Hair cut
หากเจ้าหนี้รายไหน มันให้ส่วนลดที่งามๆ (ประมาณ 40-60%) ก็่จ่ายปิดบัญชีกับมันไปก่อน
ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64
แต่ต้องระวังธนาคารที่เป็นเงินเดือนเข้าด้วยนะครับ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6970&Itemid=64#6970
ส่วนเจ้าหนี้รายไหนที่มันงี่เง่ามาก ให้ส่วนลดน้อย ก็ปล่อยให้มันฟ้องไป แล้วค่อยไปตัดสินใจในชั้นศาลอีกที
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64
และในบางครั้ง การที่ลูกหนี้ถูกอายัดเงินเดือน ก็อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด
(เพราะคุณเองก็ไม่ทรัพย์สินอื่นใดให้มันยึดได้อยู่แล้วนี่)
ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64
หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64
ดังนั้น...การที่ต้องถูกอายัดเงินเดือนประมาณ 15-30% โดยให้พวกมันมาเข้าแถว"ต่อคิว"กันเอง ก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง เพราะดอกเบี้ยตามที่ศาลสั่ง ก็จะเป็นดอกเบี้ยในราคาถูกๆ(ตามกฎหมาย) โดยอยู้ที่ประมาณ 7.5-15% ต่อปี(แล้วแต่ศาลสั่ง) ซึ่งมันก็ยังดีกว่าที่คุณต้องมาเสียดอกเบี้ยในราคาแพงๆให้กับพวกมัน ตามที่พวกมันเขียนเอาไว้ในสัญญาอยู่ในขณะนี้ (20-28% ต่อปี)
***หมายเหตุ***
- ดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิต = 20% ต่อปี
- ดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล และ บัตรกดเงินสด = 28% ต่อปี
ถ้าคุณยังอยากเป็นลูกหนี้ชันดี โดยยอมผ่อนจ่ายตามสัญญาเหล่านี้ คุณก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกับดอกเบี้ยชั่วๆที่ผิดกฎหมาย(เกินกว่าที่กฎหมานกำหนด)เหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆ ไปจนกว่าจะหมดหนี้
แต่ถ้าเรื่องหนี้ไปอยู่ในมือของศาลแล้ว(ถูกฟ้องศาลแล้ว) ศาลก็จะเป็นผู้กำหนดให้ดอกเบี้ยที่จะคิดกันต่อไปหลังจากนี้ จะต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (ประมาณ 7.5-15% ต่อปี แล้วแต่ศาลจะเป็นผูพิจารณา)
แล้วคุณอยากได้ดอกเบี้ยแบบไหนล่ะ?
หากลูกหนี้ถูกอายัดเงินเดือนแล้ว ไอ้พวกบรรดาเจ้าหนี้ในรายหลังๆ มันก็จะเริ่มร้องไห้คร่ำครวญทันที เพราะมันเองก็ไม่รู้ว่าจะถึงคิวอายัดของมันเมื่อไหร่ จะต้องรอนานไปอีกกี่ปีจนกว่าจะถึงคิวของมัน หรือเผลอๆอาจต้องรอจนคดี"
ขาดอายุความ"ในการอายัดเงินเดือนไปเลย ก็เป็นไปได้(
อายุความ 10ปี ในการอายัดเงินเดือน จากที่ทำงานเก่าของลูกหนี้)
เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว...ไอ้เจ้าหนี้ในรายหลังๆหรือในคิวต่อๆไป มันก็จะรีบติดทำการติดต่อหาคุณในทันที เพื่อทำการ อ้อนวอน/ขอร้อง เพื่อให้คุณมาทำ Hair cut กับมันใหม่อีกครั้ง เพราะยังดีกว่ามาเข้าแถวรออายัดเงินเดือนอยู่แบบนี้ โดยไม่รู้ว่าจะต้องรอจนถึงเมื่อไหร่ แถมดอกเบี้ยในระหว่างที่รอคิวอยู่นี้ ก็ยังเป็นดอกเบี้ยในราคาถูกๆตามที่ศาลสั่งอีก ซึ่งมันไม่คุ้มค่ากันเลยกับการรอคอยแบบนี้
ดังนั้น...ราคา Hair cut สำหรับเจ้าหนี้ในรายหลังๆที่ต้องมารอคิวกันแบบนี้ จะไม่มีการพูดคุยตกลงกันที่ส่วนลด 50% กันอีกแล้วนะครับ
มันต้องเป็นราคาส่วนลดที่ตั้งแต่ 50% ขึ้นไป
โดยมีราคาส่วนลดอยู่ที่ประมาณ 60% , 70% , 80% (บางรายได้ถึง 90% ก็มี) ส่วนจะได้ที่เท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการเจรจา และฝีปากของลูกหนี้เอง