สวัสดีครับ ขอสอบถามกรณีบัตรเครดิตหายครับ

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51410 โดย wasinr
คุณแม่ผมได้ทำกระเป๋าเงินหาย ซึ่งในนั้นมีบัตรเครดิตอยู่ด้วย
แต่กว่าจะรู้ว่าบัตรหาย ก็อีกสองอาทิตย์ให้หลัง จึงค่อยอายัดบัตร
ซึ่งปรากฏว่าถูกคนเก็บได้แล้วเอาไปรูดซื้อสินค้าหลักแสนบาท

ได้มีการตามตรวจสอบจนได้ภาพกล้องวงจรปิดในตอนที่คนร้ายนำไปรูดบัตรซื้อกล้องให้ห้างสรรพสินค้า
ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนว่าคุณแม่ผมไม่ได้รูด และคนร้ายเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ ปลอมลายเซ็นแน่นอน
แจ้งความแล้ว แต่ดูวี่แววน่าจะตามตัวยากเพราะมีแต่รูปถ่าย

ธนาคารได้ให้คุณแม่ผมให้ชำระค่าบัตรเครดิตก่อน แล้วค่อยไปตามเอาคืนจากคนร้ายเอง
แต่คุณแม่ผมไม่ยอม จนปัจจุบันเรื่องมีการยื่นศาลแล้ว
เดิมมีทนายที่ฐาติแนะนำมาว่ากรณีนี้ ธพ. ต้องไปไล่เบี้ยเอาจากผู้ร้ายเอง เพราะเรามีหลักฐานชัดว่าไม่ได้รูด
แต่พอไปขึ้นศาล ทนายกลับคำบอกว่าน่าจะแพ้คดี เพราะมีสัญญาว่าเราจะรับผิดชอบแม้จะทำบัตรหาย

ผมได้หายข้อมูลบนอินตอร์เนต ได้มีคำแนะนำแตกต่างกันไป ทั้งควรชำระไปก่อน ทั้งไม่ต้องชำระเพราะสัญญาน่าจะโมฆะ

ถ้าจะไม่ยอมไปเรื่อยๆ จนหมดอายุความ จะได้ใหมครับ เข้าใจว่าคดีจะยืดไปเรื่อยๆจนกว่าจะจับผู้ร้ายได้ ซึ่งน่าจะเกินอายุความบังคับหนี้บัตรเครดิตได้

สมาชิกใหม่โพสถามครับแรก หากผิดพลาดกฏบอร์ดประการใดขออภัยด้วยครับ
ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51412 โดย jackTs
ลักษณะคำถามแบบนี้ ในอดีตเคยมีกรรมการของชมรมฯได้เคยถามผมไว้เช่นกันอยู่ในกระทู้เก่า(แต่ปัจจุบันกระทู้อันนั้นได้ถูก Hacker ทำการลบสูญหายไปแล้ว)

ผมจึงขอ Copy ข้อความในกระทู้เดิมอันนั้น ให้ได้นำมาอ่านกันอีกครั้งนะครับ

คำถามจาก pikolo
พี่นกคะ...
มีผู้หญิงคนนึงเขาไม่เคยเป็นหนี้แล้วเขาจอดรถไว้ที่ห้าง...แล้วโดนทุบรถจริง...เขาถ่ายรูปไว้...แจ้งความ...อายัดบัตร...
ตอนแรก HSBC ไม่ยอม...จะให้ใช้คืนอย่างเดียว...แถมทวงหนี้ประจานให้เธอผู้นั้นได้รับความเสื่อมเสีย...
เขาเลยเป็นลูกหนี้รายแรกที่ใช้ ป.วิ ผุ้บริโภค ฟ้องเรียกร้องสิทธิค่ะ...
ต้องตามไปหาดุคลิปของข่าว 3 มิติคืนนั้นที่ปิ๊กดู...
เขาไปขึ้นศาลแล้วก็ได้ออกทีวีด้วยค่ะ...
คนร้ายถูกจับได้...ทำมาหลายครั้งแล้ว...โดนจำคุกรวมหลายคดีเกือบ 80 ปีแน่ะค่ะ...
ส่วนตอนท้ายของข่าวที่ไปสัมภาษณ์ทนายฝ่ายจำเลยคือ HSBC เขารู้ว่าสื่อมากันเยอะ...เขาเลยบอกว่าติดต่อกะทางธนาคารแล้วเขาไม่เอาตังค์แล้วค่ะ...







ถึง : น้องปิ๊ก

ผมอ่านข้อความตามข่าวในกระทู้ที่คุณทำ Link ให้ดูแล้ว...ถ้าเป็นในกรณีเช่นนี้ สามารถใช้กฏหมายตาม ป.วิ.ผู้บริโภคได้...ด้วยเหตุผลดังนี้

ความเสียหายในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากเธอคนนี้เป็นผู้กระทำการสะเพร่า...ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

ทางสถาบันการเงินหรือธนาคาร จะมีมาตราการป้องกันการจารกรรมเงินในบัตร ไว้ค่อนข้างรอบคอบพอสมควรอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็น บัตรกดเงินสด หรือ บัตรเครดิต หรือบัตร ATM ก็ตาม...เช่น

- บัตรกดเงินสด , บัตรเครดิต หรือ บัตร ATM ใดๆ...หากผู้ถือบัตรทำบัตรสูญหาย หรือถูกขโมย แต่ถ้าผู้ที่เป็นเจ้าของบัตร ไม่ได้เขียนรหัสสำหรับกดเงินสดเอาไว้ที่ตัวบัตร หรือไม่ได้จดรหัสบัตรใส่กระดาษแล้วแนบติดไปกับตัวบัตร แล้วล่ะก็...คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัตร ก็ไม่สามารถเอาบัตรไปกดเงินที่ตู้ ATM ออกมาได้...จริงไหม?
- รหัสที่ใช้สำหรับกดเงินที่ตู้ ATM สำหรับ บัตรกดเงินสด , บัตรเครดิต จะถูกจัดส่งมาทางไปรษณีย์ให้กับเจ้าของบัตร ภายหลังจากที่ได้ส่งบัตรมาให้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยในจดหมายปิดผนึกใบนั้น จะมีรหัสที่ใช้สำหรับกดเงินกด พร้อมกับข้อความกำกับเอาไว้ว่า "กรุณาทำลายเอกสารฉบับนี้ทันที หลังจากที่ท่านจดจำรหัสตัวเลขไว้แล้ว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสำหรับข้อมูลของท่าน"




- ในกรณีที่เพิ่งได้รับบัตรเครดิตมาใหม่ๆ(โดยการส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน) เมื่อแกะซองออกดู จะเห็นว่ามีบัตรเครดิตใบใหม่อยู่ในซองนั้น พร้อมกับสติกเกอร์ข้อความที่แปะอยู่ที่บนบัตร เขียนกำกับเอาไว้ว่า "หากต้องการเปิดใช้บัตร โทร 02-xxx-xxxx กด 1 และ กด 3...และกรุณาเซ็นต์ชื่อของท่านลงบนหลังบัตรทันที หลังจากที่ได้รับบัตรแล้ว"
- ทุกครั้งที่มีการติดต่อขอข้อมูลกับทางสถาบันการเงิน ทาง Call Center จะทำการซักประวัติส่วนตัวของผู้ที่เป็นเจ้าของบัตรก่อน เช่น หมายเลขบัตรประชาชน , วัน-เดือน-ปี เกิด , เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ , ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร เป็นต้น...เพื่อยืนยันข้อมูลในเบื้องต้นว่าเป็นเจ้าของบัตรจริงๆ
- ในกรณีของการนำบัตรเครดิตไปใช้รูดซื้อสินค้า/บริการ เจ้าของร้านหรือผู้ที่ดูแลร้่านค้านั้นๆ จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบลายเซ็นต์ที่อยู่ด้านหลังของบัตรเครดิต ว่าตรงกันกับลายเซ็นต์ที่ผู้มาใช้บริการได้เซ็นต์ลงในใบสลิปหรือไม่?




หากลายเซ็นต์ไม่ตรงหรือไม่เหมือนกัน ก็ให้เซ็นต์ใหม่อีกครั้ง (เซ็นต์ใหม่ ตรงข้างๆลายเซ็นต์เดิมนั่นแหละ) หากยังเซ็นต์แล้ว ก็ยังไม่ตรงกันอีก ก็ให้เซ็นต์ใหม่อีก...และถ้าเซ็นต์รวมกันทั้งหมดครบ 3 ครั้งแล้ว (3 ลายเซ็นต์) ก็ยังไม่เหมือนลายเซ็นต์ที่อยู่บนด้านหลังบัตรอีก ก็ให้ทางร้านค้านั้นๆ ปฏิเสธการใช้บัตรเครดิตใบนี้ในการใช้รูดซื้อสินค้า/บริการ ทันที...เพราะถ้าหากมีปัญหาเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ทางธนาคารจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ในการจ่ายเงินค่ารูดบัตร คืนให้กับทางร้านค้า (ซึ่งเรื่องนี้ ทางร้านค้าที่มีบริการรับรูดบัตรเครดิต ทราบเงื่อนไขเป็นอย่างดี) และทางธนาคารจะจ่ายเงินค่ารูดบัตรคืนให้กับทางร้านค้า โดยยึดถือเอาระยะเวลาเครดิต ประมาณ 30-45 วัน
(พูดง่ายๆก็คือ ธนาคารขอให้ทางร้านสำรองจ่ายเงินออกไปก่อน แล้วธนาคารจะจ่ายเงินคืนให้ทางร้านค้า้ทีหลังภายในระยะเวลา 30-45 วัน ถ้าไม่เกิดกรณีทักท้วงใดๆจากผู้ถือบัตร)

- ผู้ที่เป็นเจ้าของบัตร สามารถปฎิเสธการชำระหนี้ได้ หากตรวจสอบพบยอดหนี้ที่ไม่ถูกต้อง โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนอยู่ในทุกใบแจ้งหนี้ ของทุกสถาบันการเงินที่จัดส่งใบแจ้งหนี้มา...เช่น











ขอยกตัวอย่างจากในกรณีที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมก็แล้วกัน

เมื่อก่อนหน้านี้(นานหลายปีแล้วล่ะ) ผมเคยขับรถปิกอัพไปเติมน้ำมัน ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.แห่งหนึ่ง เป็นจำนวนเงิน 800.-บาท แล้วใช้บัตรเครดิต(VISA) ของ ธ.ไทยพาณิชย์ ในการรูดเติมน้ำมันในครั้งนั้น โดยที่ผมก็เห็นว่าเด็กปั๊มนำบัตรเครดิตของผม ไปรูดที่เครื่องรูดบัตรประจำปั๊มจริง แต่ยืนรออยู่ตั้งนาน เครื่องรูดบัตรเครื่องนั้นก็ไม่ยอมพิมพ์ใบสลิป(Print out)ออกมาสักที จนกระทั่งเด็กปั๊มคนนั้น ทำการเคลียร์หน้าจอใหม่ แล้วก็เอาบัตรผมรูดซ้ำที่เครื่องอีกครั้ง...ผลปรากฏว่าคราวนี้ใบสลิปออกมาตามปกติ ผมจึงเซ็นต์ชื่อลงในใบสลิปที่เป็นต้นขั้ว แล้วก็ส่งคืนให้กับเด็กปั๊มไป

หลังจากนั้นก็มีใบแจ้งหนี้ส่งมาที่บ้านผม โดยมีรายการแจ้งหนี้ว่าผมนำบัตรไปรูดเติมน้ำมัน ที่ปั๊ม ปตท.ในวันดังกล่าวถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 800.-บาท

ผมจึงโทรไปที่ Call Center ของ ธ.คารไทยพาณิชย์ เพื่อแจ้งว่ารายการหนี้ดังกล่าวนั้น ไม่ถูกต้อง โดยบอกเล่าเรื่องราวที่ไปรูดบัตรในวันนั้นให้เจ้าหน้าที่ฟัง
เจ้าหน้าที่คนนั้นขอตรวจสอบข้อมูลสักครู่ แล้วก็แจ้งกลับมายังผมว่า ตรวจพบว่ามีการรูดบัตร ณ.ปั๊มน้ำมันเดียวกัน , โดยใช้"เครื่องรูดบัตร"หมายเลขเครื่องเดียวกัน , ในวันที่เดียวกัน , ในเวลาเดียวกัน(ชั่วโมง:นาที เหมือนกัน) , มีใบสลิปที่เรียกเก็บหนี้ส่งมาให้ทางธนาคาร 2 ใบ ใบละ 800.-บาท

แต่พอตรวจสอบในใบสลิปแล้ว ทั้ง 2 ใบมีลายเซ็นต์ที่ไม่เหมือนกัน สีของหมึกปากกาที่เซ็นต์ทั้ง 2 ใบ ก็เป็นคนละสีกัน มีสลิปอยู่เพียงใบเดียวที่ลายเซ็นต์ในใบสลิป เหมือนกันกับลายเซ็นต์ของเจ้าของบัตร ส่วนสลิปอีกใบหนึ่งลายเซ็นต์ไม่เหมือน...ดังนั้น ธนาคารจะได้แจ้งปฎิเสธการชำระหนี้ในส่วนของใบสลิปที่ลายเซ็นต์"ไม่เหมือน" ให้ทางเจ้าของปั๊มน้ำมันได้ทราบต่อไป ส่วนในรายการหนี้ที่ซ้ำซ้อนของผมก็ไม่ต้องจ่าย โดยทางธนาคารจะทำเรื่อง Adjust ให้ในรอบบิลหน้า

แล้วพอรอบบิลหน้ามาถึง ก็ปรากฏว่ามีการปรับแก้ไขรายการหนี้ดังกล่าวออกไปให้จริงๆ

นี่แหละครับ...การตรวจสอบรายการหนี้ และการทักท้วงในสิทธิ์ของผม


ดังนั้น...ในกรณีที่ pikolo ถามมานี้...มันจึงสามารถคุ้มครองสิทธิ์ในการใช้บัตรของเธอได้ เพราะว่า

* เธอได้ Lock รถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่โดนขโมยทุบกระจกแตก เพื่อลักทรัพย์สินที่อยู่ในรถ...เธอไม่ได้กระทำการประมาทโดยการไม่ Lock ประตูรถ

* ลายเซ็นต์ที่อยู่ในใบสลิป ไม่ใช่ลายเซ็นต์ของเธอ(เพราะมันเป็นลายเซ็นต์ของหัวขโมย) ดังนั้น ทางร้านค้าจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายเอง เนื่องจากบกพร่องในการตรวจสอบลายเซ็นต์ (แสดงว่าการตรวจสอบความเป็นเจ้าของบัตรโดยทางร้านหละหลวม ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางธนาคารกำหนดไว้)

* เธอได้ใช้สิทธิ์ในการทักท้วงรายการหนี้ดังกล่าว กับทางธนาคารแล้ว ดังนั้น ธนาคารจะต้องทำการปฎิเสธการจ่ายชำระหนี้จำนวนนี้ ให้กับทางร้านค้าต่อไป(เพราะยังติดเครดิตกันอยู่อีก 30-45 วัน) ซึ่งสามารถพิสูจน์หลักฐานได้ จากลายเซ็นต์ในใบสลิป และภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางร้านบันทึกใบหน้าของไอ้หัวขโมยรายนี้ได้...แต่นี่ ธนาคารกลับกระทำการผิดพลาดเสียเอง ด้วยการจ่ายชำระเงินให้กับทางร้านค้าตามปกติ แล้วมาทวงหนี้กับเธอแทน

จากเหตุผลดังกล่าวทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าการกระทำของธนาคาร เข้าข่ายเป็น การละเมิด , การเอาเปรียบผู้ถือบัตร อย่างชัดแจ้ง โดยทุกอย่างมีหลักฐานและพิสูจน์ทราบได้หมด
ดังนั้นในกรณีนี้จึงเป็นลักษณะที่ผู้บริโภค สามารถฟ้องผู้ประกอบการได้ ตามหลักเกณฑ์ของ ป.วิ.ผู้บริโภค ที่ได้บัญญัติไว้

นกกระจอกเทศ

หวังว่าคงพอจะเห็นภาพแล้วนะครับ




หนี้บัตรเครดิตของใคร...??
www.dailynews.co.th/Content/Article/149286/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3...%3F%3F

บัตรเครดิตถูกขโมยไปใช้หรือหายทำอย่างไรดี หนี้ดังกล่าวใครต้องรับผิดชอบ…?
webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:8MM4Vj5P59gJ:w3p-account.com/2012/09/19/credit-card-stole/+&cd=13&hl=th&ct=clnk&gl=th

บัตรเครดิตหายมีคนนำไปรูด จะทำอย่างไร
www.consumerthai.org/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1968:2011-09-27-08-44-30&catid=147:2011-08-30-03-45-47&Itemid=89

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.533 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena