บัตรเครดิตที่ได้มาพร้อมตอนจำนองบ้าน

ตอนที่ผมเริ่มทำสัญญาจำนองผ่อนบ้านกับ ธนาคารกสิกรไทย ทางธนาคารได้ให้บัตรเครดิตมาด้วยครับ อยากขอคำเนะนำครับว่าบัตรตัวนี้คือบัตรเครดิตทั่วไปใช่ไหมครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสัญญาจำนอง เป็นสัญญาส่วนบุคคลใช่ไหมครับ
ผมเริ่มหยุดจ่ายมาได้ 3 เดือนแล้วครับส่วนตัวผมมีเจ้าหนี้อยู่ด้วยกัน ดังนี้

1.บัตร K Home smile club ยอดหยุดจ่าย 80000

2.บัตรกดเงินสดธนาคารกสิกรไทย ได้มาพร้อมบ้านเหมือนกัน ยอด 60000 จ่ายขั้นต่ำครับยังไม่คิดจะหยุดจ่าย

3.บัตร เฟิสช้อย ยอด 28000 จ่ายขั้นต่ำ ยังไม่คิดหยุดจ่ายเหมือนกันครับ

4.อิออน บัตรโกลวีซ่ายอด 50000 หยุดจ่าย 3 เดือนเท่ากันกับบัตรเครดิตกสิกร

5.สัญญาสิ้นเชื่อส่วนบุคคล 80000 หยุดจ่าย 3 เดือน

อิออนเริ่มให้ไปทำสัญญาปรับโครงสร้างแล้วครับ แต่ไม่รับครับ ก็คงรอปิดแบบได้ส่วนลด ของอิออนท่านใดเคยได้ส่วนลดบ้างไหมครับ

กสิกรโทรแค่ช่วงแรกๆตอนนี้เงียบเลยครับ มีจดหมายมาว่ายกเลิกการใช่บัตร กสิกรผมกังวลหน่อยเพราะผ่อนบ้านกับเขาอยู่คงจะไม่ได้ส่วนลดเท่าไร แล้วอาจจะฟ้องเร็วหรือเปล่าครับ หรือว่าเขาแยกส่วนกัน ระหว่าง บ้าน กับ บัตร แล้วธนาคารกสิกรจะมีลูกเล่นอะไรไหมครับเผื่อจะต้องรับมือ
ปล.บ้านเพิ่งเริ่มผ่อนครับยังไม่ถึงปี ตั้งใจที่สุดว่ายังไงก็แล้วแต่คงตั้งหน้าตั้งทำมาหากินเพื่อรักษาบ้านเอาไว้ครับ

ขอขอบคุณครับ

หนี้ที่เป็นหนี้ในระบบ ควรหยุดทุกใบครับ ไม่งั้นเก็บเงินไม่ได้ หรือได้น้อยครับ
ส่วนที่เป็นสถาบันเดียวกันกับจำนองบ้าน จะหยุดหรือไม่ ต้องดูกำลังรายรับรายจ่ายด้วยครับ
รัดเข็มขัดให้แน่นๆครับ เป็นการฝึกวินัยการใช้จ่ายสำหรับในอนาคตเมื่อหมดหนี้ด้วยครับ

ครับ ผมกังวลกับหนี้ของทางกสิกรครับ ไม่ทราบมันจะมีผลอย่างไรหรือไม่ครับ

nimrod เขียน: ครับ ผมกังวลกับหนี้ของทางกสิกรครับ ไม่ทราบมันจะมีผลอย่างไรหรือไม่ครับ

มีผลก็ ส่วนลดจะไม่งามน่ะครับ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็หยุดได้ครับ เพื่อตั้งหลัก

ครับ คือผมทำธุรกิจส่วยตัวครับคิดว่าถ้าหยุดจ่ายได้สัก 3-6 เดือนน่าจะทำให้มีเงินก้อนไว้จ่ายได้ครับ แต่กังวลว่าธนาคารจะมีลูกเล่นอะไรหรือเปล่า แล้วโดยทั่วถ้าเคสแบบนี้ทางธนาคารจะรีบฟ้องเลยไหมครับ

ขึ้นอยู่กับนโยบายแบงค์ครับ....แต่เจ้านี้ไม่น่าต่ำกว่าแปดเดือน หรือมากกว่านั้นครับ

.
ผู้ทีมีหนี้บัตรเครดิตและหนี้ทรัพย์สินที่ยังผ่อนอยู่ เป็นเจ้าหนี้"รายเดียวกัน"
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40737&Itemid=64#47303

บ้าน/ที่ดิน ที่ยังผ่อนอยู่ สามารถยึดได้ เพราะผู้ที่ผ่อนชำระกับธนาคาร

มีชื่อเป็นเจ้าของ ที่แท้จริงแล้ว ตั้งแต่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย

ธนาคารเป็นเพียงผู้ ให้กู้เงิน ในฐานะ"ผู้รับจำนอง"เท่านั้น...แต่มิใช่เจ้าของ

(สามารถดูชื่อเจ้า ของได้จาก สำเนาโฉนดที่ดินฉบับดังกล่าว)

หากผู้ที่ผ่อนชำระ เป็นลูกหนี้(จำเลย)ตามคำพิพากษาของศาล

แล้วเจ้าหนี้ตามคำ พิพากษา ดันไปสืบเจอว่า บ้าน/ที่ดิน ดังกล่าว ลูกหนี้เป็นเจ้าของที่แท้จริง

(ถึงแม้จะยังคงต้อง จ่ายค่าผ่อนจำนองอยู่กับธนาคารก็ตาม...ไม่มีผลในทางกฏหมาย)

เจ้าหนี้(โจทก์)ก็ จะไปแจ้งหลักฐานต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี

ให้มายึดเอา บ้าน/โฉนดที่ดิน ไปขายใช้หนี้ได้ตามกฏหมาย

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=25777&Itemid=64#25784


กระทู้ตัวอย่าง
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&func=view&catid=2&id=9039

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&func=view&catid=2&id=9039&limitstart=6

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40603&Itemid=64#45715

ขอขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากครับที่เข้ามาตอบ
ผมเข้าใจว่าบ้านที่ผมติดจำนองอยู่สามารถถูกบังคับคดียึดทรัพย์ขายทอดตลาดได้ครับ โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นเจ้าหนี้ บุริมสิทธ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั่นจะต้องหลังมีคำพิพากษาก่อน อันนี้ผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ

เพระฉนั่นผมคงเป็นรองในเรื่องการต่อรองชำระหนี้กับธนาคารกสิกร (แฮร์คัท) เยอะทีเดียว แต่ยังไงทางธนาคารจะมีการเสนอการ แฮร์คัท ให้หรือเปล่าครับ (เข้าใจว่าเขาคงต้องการให้ชำระหนี้มากกว่าบังคับคดีตามคำพิพากษา)

ตอนนี้ก็หวังว่าธนาคารยังไม่รีบฟ้องให้มีเวลาได้หายใจหายคอสะดวกขึ้นหน่อย

แล้วถ้าถึงตอนที่ฟ้องเรื่องดอกเบี้ย ค่าติดตามทวงถาม ค่าธรรมเนียม ค่าปรับต่างๆ ถ้าเกินกว่ากฎหมายกำหนด ศาลท่านก็จะยกใชไหมครับ

ขอขอบคุณครับ

nimrod เขียน: ขอขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากครับที่เข้ามาตอบ
ผมเข้าใจว่าบ้านที่ผมติดจำนองอยู่สามารถถูกบังคับคดียึดทรัพย์ขายทอดตลาดได้ครับ โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นเจ้าหนี้ บุริมสิทธ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั่นจะต้องหลังมีคำพิพากษาก่อน อันนี้ผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ

เจ้าหนี้บัตรเครดิตรายอื่นๆ ที่ไม่ใช่กสิกรไทย หากมันดันเสือกฟ้องศาลขึ้นมาก่อน
มันก็มีสิทธิ์บังคับคดีให้บ้านของคุณ ให้ต้องถูกนำออกไปขายทอดตลาดได้ตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ หากคุณไม่ชำระหนี้ตามที่ศาลสั่ง

nimrod เขียน: เพระฉนั่นผมคงเป็นรองในเรื่องการต่อรองชำระหนี้กับธนาคารกสิกร (แฮร์คัท) เยอะทีเดียว แต่ยังไงทางธนาคารจะมีการเสนอการ แฮร์คัท ให้หรือเปล่าครับ (เข้าใจว่าเขาคงต้องการให้ชำระหนี้มากกว่าบังคับคดีตามคำพิพากษา)

ขอย้ำอีกครั้งว่า ให้เข้าไปอ่านในกระทู้นี้ก่อน

ผมก็ทำ Link แนะนำให้ไปแล้วนี่ครับ คุณเข้าไปอ่านดีๆสิครับ...จะได้เข้าใจ

ผู้ทีมีหนี้บัตรเครดิตและหนี้ทรัพย์สินที่ยังผ่อนอยู่ เป็นเจ้าหนี้"รายเดียวกัน"
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40737&Itemid=64#47303

nimrod เขียน: แล้วถ้าถึงตอนที่ฟ้องเรื่องดอกเบี้ย ค่าติดตามทวงถาม ค่าธรรมเนียม ค่าปรับต่างๆ ถ้าเกินกว่ากฎหมายกำหนด ศาลท่านก็จะยกใชไหมครับ

ก็อาจยกให้นะครับ ถ้าหากคุณ"ชนะคดี"แบบเด็ดขาดและเบ็ดเสร็จ(ตามแนวทางที่1.)

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ขอบคุณครับ ทำใจกับกสิกรอาจจะต้องจ่ายแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ตอนนี้ต้องหยุดจ่ายไว้ก่อนครับ ตั้งหลักสักหน่อย

คาดว่ากสิกรน่าจะฟ้องเร็วแน่เลยครับเพราะมีบ้านที่จำนองกับเขาอยู่ ถ้าฟ้องมาภายในช่วงสามเดือนนี้ผมก็คงไม่เงินไปจ่ายแน่เลย ท่านใดมีประสบการณ์ หรือ เทคนิคการต่อรองกับทางธนาคารบ้างครับ (อิออนก็ลุ้นนะว่าอย่างเพิ่งรีบฟ้อง)

อัพเดทหน่อยครับผม หยุดจ่ายมาเข้าเดือนที่สี่ครับ ทางอิออนหลังโทรมาน้อยหลังจากโทรมาทุกวันแต่ไม่ได้รับการสนองในการทวงจากผม เมื่อสัก 3-4 วันก่อนมีโทรมาว่าจะยืนสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ให้ แต่ก็เงียบไป

ส่วนกสิกรไทยเริ่มตือให้ไปเซ็นเอกสารในการขอผ่อนผันการชำระหนี้ ว่าเราไม่เคยค้างหนี้หลังจากนั่นก็ให้ผ่อนต่อตามปกติ ซึ่งผมก็คิดว่าคงไม่ไปเซ็น แต่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารถึงกับจะนัดมาเจอพร้อมอธิบายความดีงามของเอกสาร ผ่อนผันหนี้ ซึ่งผมก็ปฎิเสธไป

ใครมีประสบการณ์ในเอกสารผ่อนผันการชำระหรี้บ้างไหมครับ แล้วผมคิดถูกหรือเปล่าครับที่ไม่ไปเซ็นเอกสารแบบนี้

ขอขอบคุณครับ

วันนี้มีจดหมายมาจากสำนักกฏหมายของกสิกรส่งมาครับ เป็นการบอกเลิกสัญญาบัตรเครดิตและให้ชำระหนี้ภายใน 30 วันถ้าไม่ขำระจะส่งฟ้องศาลเพื่อ "บังคับจำนอง"
รบกวนสอบถามหน่อยครับว่าฟ้องบังคับจำนองได้เลยรึเปล่าครับ หรือว่าต้องฟ้องมูลหนี้ตามสัญญาบัตรครดิตก่อน กังวลว่าตอนทำสัญญาจำนองในสัญญาได้พ่วงสัญญาบัตรเครดิตเข้าไปด้วยหรือเปล่า

การบังคับจำนอง

ผู้รับจำนอง(เจ้าหนี้)จะต้องทำเป็นจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนอง(ลูกหนี้) ให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควร
ซึ่งปกติก็จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน
เมื่อครบกำหนดชำระแล้ว ผู้จำนอง(ลูกหนี้)ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ยอมชำระหนี้
ผู้รับจำนอง(เจ้าหนี้)ต้องฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอให้ศาลทำการยึดทรัพย์ที่จำนองนำออกขายทอดตลาด ซึ่งกระทำการโดยเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้ผู้รับจำนอง(เจ้าหนี้)

พี่ครับอย่างนี้ผมจะถูกฟ้องบังคับจำนองเลยใช่ไหมครับ

nimrod เขียน: พี่ครับอย่างนี้ผมจะถูกฟ้องบังคับจำนองเลยใช่ไหมครับ

มันยังไม่สามารถทำเรื่อง"บังคับจำนอง"ในตอนนี้ได้หรอกครับ ตราบใดที่คุณยังส่งหนี้บ้านอยู่ตามปกติ

หากลูกหนี้ยังจ่ายผ่อนค่าบ้านตามที่ระบุไว้ในสัญญา หนี้ประเภทอื่นๆจะไม่สามารถทำเรื่อง"บังคับจำนอง"ได้เลย...จนกว่าจะผ่านกระบวนการฟ้องร้องจากศาลเสียก่อน
แล้วหลังจากนั้น เจ้าหนี้จึงจะมีสิทธิ์ยื่นเรื่อง"บังคับจำนอง"ต่อกรมบังคับคดีได้ ตามขั้นตอนต่อไป