กำลังปลดหนี้

สอบถามค่ะเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่่
อยากทราบว่าหลังจากที่ชำระยอดหนี้ไปที่ธนาคารแล้วอีกกี่วันถึงจะได้รับเอกสารการยืนยันจากธนาคาร คือมีหนี้4ใบปลดไป2ใบแล้ว

หมายถึงเอกสาร haircut หรือ ใบปิดจบภาระหนี้ล่ะ
ถ้าเอกสาร haircut ต้องได้ก่อน จึงจะจ่ายเงิน

ขอบคุณที่ตอบค่ะ คือใบปิดจบภาระหนี้ค่ะ เริ่มจ่ายตั้งแต่29 พฤศิจายน56และ12ธันวา56 ทั้ง 2 ใบเป็นของธนาคารกรุงศรีและฮ่องกงแบ้งค์ อยากทราบว่าเราควรตามเรื่องไปที่ธนาคารหรือไม่ค่ะ

เก็บเอกสารการจ่าย และถ่ายสำเนาไว้ประกบกับหนังสือแจ้งเงื่อนไขยืนยันปิดชำระหนี้ไว้ เป็นหลักฐาน

เหลืออีก 2 ใบค่ะคือบัตรกดเงินสดของธนาคารนครหลวง(ธนชาติ)กำลังรวบรวมเงินอยู่คิดว่าเร็วๆนี้
แต่อีกใบคือของธนาคารซิตี้แบ้งค์ค่ะ ถูกฟ้องแล้วตั้งแต่ต้นปี54เพราะหยุดจ่ายปี52 คือทุกบัตรหยุดจ่ายมาตั้งแต่ปี52ค่ะแต่มีที่ซิตี้แบ้งค์ฟ้องที่เดียว แต่ไม่เคยไปขึ้นศาลเลยเพราะครั้งแรกคิดว่าตอนนั้นไม่มีปัญญาจ่าย ยอดเงินที่ถูกฟ้องรวมดอกเบี้ยประมาณ 9หมื่นกว่าๆค่ะและไม่รู้ว่าตอนนี้คดีไปถึงไหนแล้ว เพราะไ่ม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วอ่ะ
ตอนนี้เพิ่งเปิดบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารไทยพาณิชย์เมื่อต้นเดือนมกราคม57 บัญชีจะถูกอายัดหรือปล่าวค่ะ ครั้งแรกว่าจะเคลียร์หนี้ตัวนี้แต่ยอดเยอะเลยเลือกที่ยอดน้อยก่อน อยากเคลียร์หนี้เลยโทรไปที่ธนาคารเองแล้วธนาคารจะให้เบอร์สำนักงานกฏหมายให้เราเคลียร์เอง ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีส่วนลดให้
1 บัตรเครดิตกรุงศรียอด 34,455.78 ปิดยอดที่ 15,000 29/11/56

2 HSBCยอด 51,954.22 ปิดที่ 15,900 12/12/56

3 บัตรกดเงินสดนครหลวง(ธนชาติ)ยอด 38,562.15 กำลังรวบรวมเงินอยู่

4 ซิตี้แบ้งค์เป็นบัตรเครดิต+บัตรกดเงินสด เข้าโครงการรีไลท์ เงินต้น 54,000 รวมดอกเบี้ยแล้วประมาณ 9 หมื่นกว่าๆ

จ่ายไปแล้วค่ะของธนชาติจากยอด 38,562.15 ลดเหลือ19,500ค่ะ 24/06/2558 เป็นลักษณะขายหนี้ต่อค่ะชื่อบริษัทJMT แจ้งมาว่าจะได้เอกสารปิดบัญชีประมาณ120วันทำการในกรณีที่เราขอส่วนลดแต่ถ้าจ่ายยอดเต็มจะได้ประมาณ45วันทำการอันนี้เราได้แน่นอนใช่ไหม่ค่ะ

ยังเหลือของซิตี้แบ้งค์อีกใบค่ะ ดิฉันได้ทำการติดต่อไปแล้วทางธนาคาร ธนาคารให้สนงกฏหมายติดต่อกลับมาและแจ้งมาว่าคดีถูกพิพากษาแล้ว จากเงินต้นประมาณห้าหมื่นสามรวมดอกเบี้ยแล้วเป็นเงินเก้าหมื่นสามถูกฟ้องร้องเมื่อปี2554 และจนปัจจุบันมียอดรวมดอกเบี้ยเป็นเงินทั้งสิ้น 127,306 บาท ถ้าปิดบัญชีมีเงินก้อนจะลดให้ 90,000บาทแต่ดิฉันไม่มีค่ะ ดังนั้นดิฉันขอผ่อนจ่ายทางสนง.กฏหมายก้อตกลงแต่ไม่มีส่วนลดดิฉันแจ้งว่าจะผ่อนให้เดือนละ5พัน6พันหรือ7พันประมาณนี้ต่อเดือนเขาก็ตกลง แล้วดิฉันถามว่าไม่ต้องไปขึ้นศาลแล้วใช่ไหมเขาตอบมาไม่ต้องเพราะเรายังมีเจตนาที่จะชำระอยู่
ดิฉันเลยอยากถามค่ะว่าทำถูกต้องแล้วใช่ไหมค่ะ ก่อนหน้านี้ดิฉันไม่ได้รับหมายศาลเพราะไม่ได้อาศัยอยู่ตามทะเบียนบ้านมาทราบอีกทีก็ช่วงที่เริ่มชำระหนี้บัตรอื่นๆก่อนค่ะเพราะยอดน้อยคือเคลียร์ได้ทีละบัตร

มาอัพเดตกันค่ะ!!หลังจากที่ได้ทยอยจ่ายให้เดือนละ6,000 ตอนนี้5เดือนแล้วค่ะ ทางสนง.กฏหมายของบริษัทซีเอแอลก็โทรมาให้ส่วนลดพิเศษ อันนี้เป็นหนี้ของธนาคารซิคี้แบ้งค์เรดดี้สินเชื่อค่ะ จากยอดฟ้อง 127,605 -30,000=97,605 ลดเหลือ50,000จ่ายงวดเดียวจบแต่เสียดายค่ะไม่มีเงินพอเพราะช่วงปีใหม่ใช้เงินเยอะเลยขอผ่อนต่อแล้วบอกเขาว่าเดือนไหนมีลด 50%อีกโทรแจ้งอีกทีน่ะ

มาอัพเดตกันค่ะ!!
ใบนี้เป็นใบสุดท้ายค่ะ ยอดที่เราติดต่อไปตอนเดือนสิงหา2558 คือ127,605 บาท. ยอดฟ้อง95,195.05 ดอกเบี้ยเริ่มคืดตั้ง15ธ.ค 2554 คือ15%ต่อปี เราขอทยอยจ่ายเกือนละ6,000บาท *11=66,000 ยอดนี้ไม่รวมดอกเบี้ย ทางสนง.กฏหมายซีเอแอลแจ้งยอดล่าสุดว่า ยอดนี้รวมดอกเบี้ยแล้ว 65,985.57. และลดให้เหลือ30,000บาท เราตกลงจะจ่าย30,000 ทางธนาคารอนุมัติแล้ว
จบกันทีกะหนี้บัตรเครดิตจะเป็นไทยแล้วคร้า.....

ดีใจด้วยนะครับ

tewtew เขียน: มาอัพเดตกันค่ะ!!
ใบนี้เป็นใบสุดท้ายค่ะ ยอดที่เราติดต่อไปตอนเดือนสิงหา2558 คือ127,605 บาท. ยอดฟ้อง95,195.05 ดอกเบี้ยเริ่มคืดตั้ง15ธ.ค 2554 คือ15%ต่อปี เราขอทยอยจ่ายเกือนละ6,000บาท *11=66,000 ยอดนี้ไม่รวมดอกเบี้ย ทางสนง.กฏหมายซีเอแอลแจ้งยอดล่าสุดว่า ยอดนี้รวมดอกเบี้ยแล้ว 65,985.57. และลดให้เหลือ30,000บาท เราตกลงจะจ่าย30,000 ทางธนาคารอนุมัติแล้ว
จบกันทีกะหนี้บัตรเครดิตจะเป็นไทยแล้วคร้า.....

ดีใจด้วยครับผม