- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
manas.rtaf เขียน: ดิฉันไม่ได้ไปขึ้นศาลตามหมาย และมีคำบังคับคดีมาที่บ้าน โดยให้ชดใช้หนี้เป็นจำนวนเงิน 64,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี หากไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกยึดทรัพย์ หรือ ถูกจับ ติดคุก
ดิฉันไม่มีเงินก้อนมากมายขนาดนั้น และก็ไม่มีเงินที่จะผ่อน เพราะมีภาระเยอะมาก ดิฉันจะต้องติดคุกมั๊ยคะ เคยได้ยินว่าคดีแพ่งไม่ต้องติดคุกไม่ใช่หรอค่ะ แล้วทำไมในคำบังคับบอกว่าต้องติดคุก
ดิฉันมีหนี้บัตรอยู่หลายๆ ใบ ชำระมาตลอด เพิ่งไม่ได้มาชำระก็ช่วงปี 55 นี้เอง ดิฉันจะโดนข้อหามีเจตนาฉ้อโกง เป็นคดีอาญา มั๊ยค่ะ
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)manas.rtaf เขียน: ดิฉันไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน ชื่อพ่อเป็นเจ้าบ้าน ทรัพย์สินภายในบ้านจะถูกยึดมั๊ยค่ะ
manas.rtaf เขียน: สุดท้าย ถ้าดิฉันถูกอายัดเงินเดือน 30 % แล้ว เจ้าอื่นๆ จะอายัดเงินในธนาคารได้มั๊ยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
manasrtaf เขียน: ขอถามอีกนิดค่ะ
1. ในกรณีแรก หากว่ากรมบังคับคดีส่ง จนท. เพื่อจะมายึดทรัพย์ภายในบ้าน ขณะนี้เจ้าบ้านคือ พ่อ ของดิฉันเอง แต่ขณะนี้ พ่อ ของดิฉันนอนป่วยอยู่ไม่สามารถเดินเองได้ กรณีนี้ พ่อ จะมอบหมายให้แม่ออกมาแจ้งกับ จนท. บังคับคดีได้หรือไม่ ว่าทรัพย์สินภายในบ้านเป็นของพ่อทั้งหมด ดิฉันเป็นเพียงผู้อาศัย แล้วทาง จนท. จะเชื่อหรือไม่ ว่าทรัพย์สินภายในบ้าน ไม่มีของดิฉันจริง
- เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ตรวจสอบสำเนาทะเบียนบ้านของลูกหนี้แล้ว ปรากฎว่าลูกหนี้เป็นแค่ “ผู้อาศัย”
จพค.จะไปยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามทะเบียนบ้านหลังนั้นๆ เพราะกฎหมายสันนิษฐานว่า หากลูกหนี้อาศัยอยู่ที่ไหน ทรัพย์สินของลูกหนี้ก็ควรอยู่กับลูกหนี้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วย แต่ถ้าหากไปแล้วพบว่าบ้านหลังนั้น ถูกปิดประตูหรือ ถูก Lock อยู่ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะไม่สามารถ ไข/งัด/หรือทุบทำลาย สิ่งที่ใช้ Lock บ้าน ในการเปิดบ้านเพื่อทำการยึดทรัพย์ ไม่เหมือนกับกรณีที่ลูกหนี้เป็นเจ้าบ้าน เพราะบุคคลที่อยู่ในฐานะ“เจ้าบ้าน” ก็ได้รับการสันนิษฐานตามกฎหมายว่า เจ้าบ้านก็เป็นเจ้าของทรัพย์สินภายในบ้านเช่นกัน และมีน้ำหนักหลักที่ดีกว่าทางฝ่ายลูกหนี้ ที่เป็นฐานะผู้อาศัยภายในบ้าน
ในกรณีนี้ หาก จพค.จะทำการเข้าไปตรวจสอบ
หรือยึดทรัพย์ภายในบ้านหลังนั้น
จะต้องได้รับการ“อนุญาต ”จากผู้ที่เป็น“เจ้าบ้าน”เสียก่อน
เพราะผู้ที่เป็น“เจ้าบ้าน”มิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา
แถมยังมีน้ำหนักแห่งความเป็นเจ้าของทรัพย์ภายในบ้าน
สูงมากกว่าผู้อาศัย
ดังนั้น...
หากเจ้าบ้านอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าไปในตัวบ้านได้ แล้วหลังจากนั้นมีการโต้แย้งจากทางเจ้าหนี้ว่า ทรัพย์ที่ตรวจพบภายในบ้าน เป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีหลักฐานมาแสดงยืนยัน โดยผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านไม่มีหลักฐานโต้แย้งกลับ ก็ให้ทำการยึดทรัพย์นั้นๆ
แต่ถ้าหาก“เจ้าบ้าน”ออกมาแสดงตน พร้อมกับหลักฐานความเป็น“เจ้าบ้าน”ต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ณ.ที่หน้าบ้านของตนเอง พร้อมกับยืนยันว่า ทรัพย์สินทุกอย่างภายในบ้าน เป็นทรัพย์ของเจ้าบ้านแต่เพียงผู้เดียว...“ผู้อาศัย”(ลูกหนี้)ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ภายในบ้านแต่อย่างใด แค่มาอาศัยอยู่เท่านั้น
ให้ถือว่า“เจ้าบ้าน”เป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าวตามที่แจ้ง และให้ เจ้าพนักงานบังคับคดี “งดยึด” แล้วทำรายงานต่อไปยังศาล เพื่อปลดเปลื้องความรับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 283 ต่อไป
***หมายเหตุ***
กรณีผู้ที่เป็น“เจ้าบ้าน”(ที่มิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา)
ยังไม่ได้อนุญาตให้บุคคลภายนอกอื่นใดเข้ามาในตัวบ้าน
หากบุคคลภายนอกอื่นใด
เข้าไปภายในอาณาบริเวณพื้นที่ครอบครองของ“เจ้าบ้าน”
โดยที่ยังไม่ได้รับการ“อนุญาต”
อาจมีความผิดในข้อหา“บุกรุกเคหสถาน”ได้ [/size]
manasrtaf เขียน: 2. ในกรณีที่ยึดทรัพย์ไม่ได้ เจ้าหนี้ก็ต้องอายัดเงินเดือน แล้วถ้าอายัดจนดิฉนไม่ไหวจริงๆ ขอลาออกจากที่ทำงานจะได้หรือไม่ จะโดนข้อหาจงใจหลบเลี่ยงมั๊ยค่ะ
3. ถ้าดิฉันออกจากที่ทำงานแล้วไปประกอบอาชีพส่วนตัว อย่างเช่นค้าขาย ดิฉันจะต้องส่งเงินให้กับกรมบังคับคดี เท่ากับที่บริษัทหักเงินเดือนส่งให้กับกรมบังคับคดีมั๊ยค่ะ ถ้าสมมุติว่าไม่จำเป็นต้องส่ง ดิฉันจะมีความผิดมั๊ยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา