- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Som jai mai เขียน: ขอเกริ่นคำนิยาม คำว่าแฮร์คัต ของคุณนกกระจอกเทศ
Hair-cut สามารถทำได้ตลอด
ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว...ไม่ว่าจะเป็น
- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว และไปขึ้นศาลมาแล้ว โดยไปทำ"สัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ"ที่ชั้นศาลมาแล้ว
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้
เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ
แต่การ Hair-cut ที่ได้ราคางามที่สุด (หรือที่เรียกว่า "นาทีทอง" นั้น...มักจะอยู่ในช่วงของเวลาดังต่อไปนี้
- หยุดจ่ายนานเกิน 10 เดือนขึ้นไป
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาลในนัดแรก
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี อีกหลายนัด (ยังไม่ได้พิพากษา)
ถ้าพ้นกำหนดช่วงเวลาดังกล่าวนี้ไปแล้ว โปรโมชั่น "นาทีทอง" อาจหมดไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำ Hair-cut ไม่ได้...เพียงแต่ว่า อาจไม่ได้ราคางามๆตามโปรโมชั่นของ "นาทีทอง" ก็เท่านั้นเอง
และที่สำคัญ การทำ Hair-cut จะต้องให้ทางเจ้าหนี้ออกเอกสาร
ยืนยันว่า จะลดหนี้ให้ตามเงื่อนไขที่เจรจาตกลงกันไว้ ด้วยทุกครั้ง
โดยเราต้องได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหนี้
ก่อนที่จะทำการจ่ายชำระ Hair-cut ใดๆ
อย่าไปจ่ายหนี้ที่ตกลงกันด้วยวาจาผ่านทางโทรศัพท์โดยเด็ดขาด (สัญญาหรือข้อตกลงใดๆ ที่เป็นแค่วาจาหรือ“ลมปาก” ไม่สามารถใช้เป็นข้อยืนยันตามกฏหมายได้)
ขอย้ำอีกครั้ง...ถ้าคุณยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันการ
ลดหนี้ (หนังสือ Hair-cut) เสียก่อน
ห้ามจ่ายโดยเด็ดขาด...!
#######################################
แต่ทำไม แบงค์ม่วง...ส่งให้ สนง กฏหมาย ดำเนินเรื่องฟ้อง เพิ่งได้รับหมาย วันที่ 9 ธค 56
ก่อนหน้านี้ ตค ได้โทรเข้าไปที่ สนง นั่น เค้าถามว่าให้จ่ายมาก้อนเดียว 60,000 บ จาก 95,000 บ ได้
มั๊ย ซึ่งตอนนั้นเราก็กำลังเก็บเงินอยู่ ก็ตอบไปว่ายังไม่พร้อม และไม่มีเงินก้อน ขอจ่ายเป็นงวดก็ไม่ได้ เค้าก็บอกว่าไม่งั้นเรื่องก็จะเข้าไปอยู่ในกระบวนการส่งฟ้องศาล ตอนนั้นเราก็เลยจำใจปล่อยไปก่อน
แต่พอได้รับหมายศาลมา ก็ติดต่ิอไปที่ สนง ทันที แล้วถามเรื่องขอปิดบัญชี ว่าต้องจ่ายยอดเท่าไหร่ เค้าบอกว่ายอดเงินที่ต้องจ่ายตามที่ฟ้อง คือ 95,000 เค้าบอกว่าเรื่องไปที่ศาลไม่มีลดหนี้ให้แล้ว ถ้าจ่ายก็ต้องยอดเต็ม ไม่งั้นก็ต้องคุยกันที่ศาล แล้วขู่ว่า หากขึ้นศาลเราต้องมีคดีติดตัวไปตลอดชีวิต(อะไร ทำไมไม่มีลดให้ ก็เข้าใจว่าทำได้ทุกช่วงเวลาไม่ใช่เหรอ.... ขอผ่อนก็ไม่ได้ อะไรกัน)
ตอนนี้ยังไม่มีเิงินก้อน ตั้งใจว่าจะขอเจรจาผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ติดต่อไปทางแบงค์เค้าก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาภายหลัง ทาง สนง เหมือนว่าจะคุยได้ยาก แต่ต้องไปขึ้นศาล 27 มค 57 นี้แล้ว ทำไงดี รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า ทุกๆความเห็นค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้โดยง่าย และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ
บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")
SCBT หยุดพร้อมๆ กับรายอื่นๆ เดือน ก.ค.ค่ะ ตัวนี้ได้ส่วนลดเยอะโดยไม่ได้คาดหมายค่ะ
เพราะเพิ่งคุยกับ กรุงศรีฯ (BAY) ว่าจะปิดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับเอกสารยืนยัน
วันเดียวกัน SCBT ก็โทร.มา บอกยอดปัจจุบัน 88,400 บ. สามารถชำระหรือไม่ เลยแจ้งไปว่าเหลือแค่ 40,000 บาท เพราะเพิ่งปิดอีกตัวนึงไป
เค้าก็บอกว่าจะทำเรื่องให้ก่อน พร้อมขอยืนยันว่าถ้าอนุมัติ จะสามารถชำระได้เลยใช่มั้ย
เราก็ตอบไปว่าถ้าแจ้งแล้วต้องรอเงินอีกวันนึง เค้าก็โอเคจะทำเรื่องให้ สรุปส่งใบยืนยันลดหนี้
แจ้งมาเมื่อวานว่าได้ พร้อมกับให้ชำระภายในวันพรุ่งนี้ (11 ธ.ค.) ไม่เกิน 1 ทุ่ม ค่ะ
จริงๆ แล้ว เหตุที่ได้ส่วนลดเยอะ น่าจะเป็นเพราะเราชำระตรงเวลามาหลายงวดแล้วก็เป็นได้นะคะ
(27 งวด จาก 60 งวดค่ะ)
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Som jai mai เขียน: อยากถามว่า ณ ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยที่กฏหมายกำหนดยังอยู่ที่ 15% อยู่หรือเปล่าคะ หรือว่า 20% คะ เพราะในคำขอท้ายฟ้องระบุว่า 20% ค่ะ กรณีนี้เป็น แบงค์่ม่วงค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา