ถามเรื่องข้อหา ยักยอกทรัพย์

ผมเป็นหนี้บัตรกรุงไทย 100.000 บาท ถูกฟ้องขื้นศาลธนบุรี เมื่อ 14 กันยายน 56 ผมได้ขอเลื่อนนัดมาเป็นวันที่ 25 ตุลาคม 56 ซื่งศาลท่านคงจะพิพากษาในวันนั้น ให้ผ่อนชำระ ถ้าผมไม่สามารถผ่อนได้ตามกำหนด
เพราะไม่มีเงิน ก็คงถูกเจ้าหนี้บังคับคดี อาจจะโดนยืดทรัพย์ ปัญหาที่จะเรียนถาม คือ 1บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 2 หุ้น ที่อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ณ เวลานี้ยังพอมีเวลา ถอน และโอน ออกมาได้หรือไม่ ผมไม่ทราบว่า การยักยอกทรัพย์เจ้าหนี้ (ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน) ให้นับเวลาตั้งแต่ได้รับหมายศาล หรือวันที่ศาลมีคำพิพากษา และข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นคดีอาญา ถืงขั้นจำคุกหรือไม่ โปรดกรุณาตอบให้ทราบด้วยครับ ขอบพระคุณทุก ๆ ท่านครับ

beboat เขียน: ผมเป็นหนี้บัตรกรุงไทย 100.000 บาท ถูกฟ้องขื้นศาลธนบุรี เมื่อ 14 กันยายน 56 ผมได้ขอเลื่อนนัดมาเป็นวันที่ 25 ตุลาคม 56 ซื่งศาลท่านคงจะพิพากษาในวันนั้น ให้ผ่อนชำระ ถ้าผมไม่สามารถผ่อนได้ตามกำหนด
เพราะไม่มีเงิน ก็คงถูกเจ้าหนี้บังคับคดี อาจจะโดนยืดทรัพย์ ปัญหาที่จะเรียนถาม คือ 1บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 2 หุ้น ที่อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ณ เวลานี้ยังพอมีเวลา ถอน และโอน ออกมาได้หรือไม่ ผมไม่ทราบว่า การยักยอกทรัพย์เจ้าหนี้ (ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน) ให้นับเวลาตั้งแต่ได้รับหมายศาล หรือวันที่ศาลมีคำพิพากษา และข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นคดีอาญา ถืงขั้นจำคุกหรือไม่ โปรดกรุณาตอบให้ทราบด้วยครับ ขอบพระคุณทุก ๆ ท่านครับ

อ่านแล้วตกใจ! กับนิยามคำว่ายักยอกทรัพย์!
ป.อ. มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่น เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

1.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 2 หุ้น ที่อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์

เงินฝาก ก็เป็นเงินคุณ นะครับ ถ้าถอนออกมามันยักยอกตรงไหน ไม่มีใครเค้ายักยอกเงินตัวเองหรอกครับ!

การยักยอกทรัพย์เจ้าหนี้ (ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน) ให้นับเวลาตั้งแต่ได้รับหมายศาล หรือวันที่ศาลมีคำพิพากษา และข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นคดีอาญา ถืงขั้นจำคุกหรือไม่

ผมพอจะเข้าใจคำถามของคุณนะครับ อาจจะถามไม่ตรงประเด็นด้วยความไม่รู้ ซึ่งลักษณะความผิดที่คุณกล่าวถึงเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ตาม ป.อ. ม.350 บัญญัตว่า ผู้ใด เพื่อมิให้ เจ้าหนี้ ของตน หรือ ของ ผู้อื่น ได้รับชำระหนี้ ทั้งหมด หรือ แต่บางส่วน ซึ่ง ได้ใช้ หรือ จะใช้ สิทธิเรียกร้อง ทางศาล ให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือ โอนไปให้แก่ ผู้อื่น ซึ่ง ทรัพย์ใด ก็ดี แกล้งให้ตนเอง เป็นหนี้ จำนวนใด อันไม่เป็นความจริง ก็ดี ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน สองปี หรือ ปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดตามมาตรานี้ มีลูกหนี้กระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กันมาก เพราะเมื่อรู้ว่ากำลังจะถูกฟ้องหรือศาลตัดสินให้ชำระหนี้แล้ว ก็รีบทำการโอนทรัพย์สินไปให้ญาติหรือผู้อื่นถือแทนจึงเป็นความผิดทั้งลูกหนี้ผู้โอนและผู้รับโอนที่สมรู้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากการโอนจำหน่ายทรัพย์ของลูกหนี้ได้กระทำก่อนที่เจ้าหนี้จะใช้สิทธิฟ้องร้องทางศาล ก็ไม่ถือว่าลูกหนี้มีความผิด หรือลูกหนี้ทำการโอนจำหน่ายทรัพย์ แม้เป็นช่วงเวลาที่เจ้าหนี้ใช้สิทธิเรียกร้องแล้ว แต่หากลูกหนี้โอนจำหน่ายไปเพื่อนำเงินนั้นมาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ ก็ไม่ถือเป็นความผิดเช่นกัน เพราะไม่มีเจตนาเพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้

ในกรณีของคุณอยู่ในกระบวนการทางศาลแล้ว หากกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเข้า ป.อ.ม.350 เมื่อเจ้าหนี้สืบทราบก็จะเป็นความผิดในทางอาญาได้ครับ

ด้วยประการละชะนี้แล
ขอให้โชคดีครับ

ขอบคุณ คุณ debtman ครับสำหรับคำตอบ อีกเรื่องที่จะขอถาม เรื่องกระบวนการยืดทรัพย์
คือผมได้้ไปที่เขต ขอแก้สำเนาทะเบียนบ้าน จาก เจ้าบ้าน เป็น ผู้อาศัย และ ให้ลูกสาว เป็นเจ้าบ้านแทน
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 และในวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ได้มีหมายศาลของบัตรกรุงไทย มาที่บ้าน
ในอนาคต หากมีการยืดทรัพย์เกิดขื้น เจ้าบ้าน คือ ลูกสาวผม มีสิทธิจะไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาในบ้านหรือไม่ครับ ขอขอบคุณทุกคำตอบครับ

beboat เขียน: เรื่องกระบวนการยืดทรัพย์
คือผมได้้ไปที่เขต ขอแก้สำเนาทะเบียนบ้าน จาก เจ้าบ้าน เป็น ผู้อาศัย และ ให้ลูกสาว เป็นเจ้าบ้านแทน
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 และในวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ได้มีหมายศาลของบัตรกรุงไทย มาที่บ้านในอนาคต หากมีการยืดทรัพย์เกิดขื้น เจ้าบ้าน คือ ลูกสาวผม มีสิทธิจะไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาในบ้านหรือไม่ครับ ขอขอบคุณทุกคำตอบครับ

ประเด็นนี้ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ เมื่อคุณไม่ใช่เจ้าบ้าน เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่สามารถเข้าไปยึดสังหาริมทรัพย์ในบ้านได้หากเจ้าบ้านไม่ยินยอม หรือไม่อนุญาต แต่ถ้าคุณมีชื่อเป้็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่า หากนำบ้านคุณขายทอดตลาดแล้ว จะมีเงินเหลือพอให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ บ้านคุณก็อาจจะถูกขายทอดตลาดได้ครับ แล้วทำไม? ต้องปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นล่ะ? แสดงว่าคุณยังเรียนไม่จบหลักสูตรของชมรมฯ

ผมไม่สะดวกหา link ให้อ่าน แต่ขออนุญาตแนะนำให้โทรไปปรึกษาท่านประธานชมรมฯ (พี่นกกระจอกเทศ)ในเรื่อง "การหักคอจ่าย" และการทุเลาการบังคับคดี ซึ่งท่านประธานฯ จะแนะนำได้ดีกว่าผมครับ

และขอแนะนำเพิ่มเติม ในวันนัดไกล่เกลี่ยที่ศาล หากไม่สามารถชำระตามที่ทนายเสนอมา ก็อย่าไปทำสัญญาใดๆน่ะครับ เพราะมันอาจจะผูกมัดตัวคุณได้ เอาเป็นว่า ให้แจ้งต่อศาลว่าไม่สามารถตกลงกันได้ ให้ศาลพิพากษาเลย หรือหากทนายให้ผ่อนเดือนละ 1-2 พัน นิดๆก็ตกลงไปเถอะครับ ค่อยๆชำระไป แต่ต้องตรงเวลา แล้วค่อยเก้บเงินเจรจา H/C ทีหลัง การยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆหากคุณไม่ดื้อแพ่งก็ไม่มีปัญหา อย่ากังวลไปนักเลย สู้ๆครับ

ผมจะขอความกรุณาต่อศาล อย่างไรดีครับ แนะนำผมหน่อย
ผมเป็นหนี้บัตร ktc 100,000 ถูกฟ้อง และขอเลื่อนศาลไปแล้ว 1 นัด วันที่ 25/11/56 จะต้องไปศาลนัดที่ 2
เจ้าหน้าที่ ktc โทรมาเมื่ออาทิตย์ก่อน บอกให้จ่ายงวดเดียว ลดให้ 10,000 ก่อนวันที่ 25/11/56 ผมยังไม่มีเงิน
จะจ่าย การไปศาลครั้งนี้ ktc คงจะให้ประนอมหนี้แบบเดิม คือ จ่าย 36 งวด โดยเริ่มจาก 3,000 กว่าบาทในปีแรก และเพิ่มขื้นในปีถัดไป จนครบ 3 ปี ซื่งผมยังไม่มีเงินสดพอที่จะจ่าย ในระยะนี้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ผมจะขอความกรุณาต่อศาลได้อย่างไรหรือไม่ (ผมอายุ 65 ไม่มีรายได้ บ้านและรถ โอนให้ลูกไปได้ 2 ปีแล้ว) ขอขอบพระคุณทุกคำตอบครับ