- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Wanaree-Ja เขียน: 1. กสิกร วงเงินบัตร 26,000 บ. หยุดจ่ายประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งเป็นบัญชีเงินเดือน อันนี้กลัวมากว่าเค้าจะมายึดเงินเดือน เพราะถ้าโดยยึดไป คงแย่แน่ๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กย. 56 มีสำนักงานทวงหนี้ โทรมาเสนอยอดปิดบัญชีที่ 15,000 บาท ยอดค้างเค้าบอกว่า 28,000 บาท ถ้าเราโอเค ให้ส่งเอกสารภาระหนี้ที่มี และใบคำร้องขอลดยอดไปให้เค้า พอดีว่า ช่วงนี้มีเงินเก็บประมาณ 20,000 บาท เลยอยากจะปิด กสิกร เพราะเหตุผลหลัก คือ เป็นบัญชีที่เงินเดือนเข้า พอส่งเอกสารครบ เมื่อ 30 กย.56 เค้าโทรบอกว่า ทาง ธ.อนุมัติแล้ว ให้จ่ายเงินเข้า ธนาคาร 15,000 บาท โดยที่เราถามว่าขอใบยืนยันได้ไหม ว่าธนาคารให้ส่วนลดจริง เค้าบอกว่าเนื่องจากเป็นวันปิดยอด ทาง ธ. ออกใบยืนยันไม่ทัน ให้จ่ายไปก่อน แล้วจะทำย้อนหลังให้ ซึ่งหนูก็กลัวโดนหลอกจากตามที่เคยอ่านมา ว่าต้องได้ หนังสือยืนยัน ถึงจะจ่ายได้ ไม่งั้นอาจโดนหลอก สนง.ทวงหนี้เลยบอกว่าให้โทรไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของ ธ. ได้เลย ก็เลยโทรไป เจ้าหน้าที่บอกเหมือนเด๊ะ ว่าให้จ่ายเข้ามาเลย รับรองหมดหนี้ ตามที่ตกลง แต่หนังสือออกไม่ทันจริงๆ หลังจากที่จ่าย 2-3 วัน เค้าจะออกหนังสือหมดภาระหนี้ให้ แต่หนู 2 จิต 2 ใจ กลัวโดนหลอกจริงๆ เพราะมีเงินอยู่แค่นี้ โทรเข้า คอลเซ็นเตอร์ เค้าก็ยืนยันว่าเบอร์นี้ เป็นเบอร์ สนง.ของ ธ. กสิกร จริง อืมมม มันก็น่าเชื่อถือ วันนั้นลังเลมาก ในที่สุดก็ตัดสินใจ ยังไม่จ่ายดีกว่า สนง. ทวงหนี้ โทรมาตื๊อ 3-4 รอบ ว่า จ่ายเถอะ รับรองหมดหนี้จริงๆ ก็ตัดสินใจแล้ว บอกเค้าไป ยังไม่จ่ายค่ะ จนกว่าจะได้รับใบยืนยัน เค้าก็บอกว่าเดือนนี้ไม่ทัน ต้องเป็นเดือนหน้าเลย แล้วจะไม่ได้ยอดนี้แล้วนะ อาจมากกว่านี้ 17000-18000 นะ ก็บอก ค่ะ ไว้ค่อยมาคุยกันใหม่ เค้าก็วางสายไป แล้วหลังจากนั้นจนวันนี้ 4/10/56 ยังไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย ว่าจะให้ปิดยอดไหม แอบ งง ว่า ทำไมเดือนที่แล้วไม่ทัน แต่เค้าก็รู้นี่นา ว่าเรามีเงินแล้ว น่าจะรีบทำเรื่องให้ ควรจะทำไงดีค่ะ แล้วการที่เจ้าหน้าที่ ธนาคาร พูดยืนยัน เชื่อถือ ได้ไหมคะ แอบเสียดายกับยอดนี้เหมือนกัน
Wanaree-Ja เขียน: 2. ซิตี้แบงค์ M วีซ่า วงเงินบัตร 15,000 บาท อันนี้หยุดจ่ายไล่เลี่ยกันทั้งหมด มีจดหมายมาที่ทำงานบ่อยมาก โดยที่เราย้ายงานใหม่ ทั้งๆที่เวลาโทรมาก็รับสายตลอด กลัวหัวหน้ารู้ค่ะ ไม่อยากให้เค้าติดต่อทางที่ทำงานเลย เคยบอกคนทวงหนี้หลายครั้งแล้ว เค้าบอกจะระบุให้ว่าไม่สะดวก ก็ยังมีมาเรื่อยๆ และเสนอให้ปิดยอดที่ 13,000 บาท ซึ่งก็ยังมากอยู่ จากยอดที่เค้าบอกว่าค้าง 18,000 บาท แล้วก็มีเสนอ ปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งอ่านมาแล้ว จ่ายเบาจริง แต่กลัว อยากจะปิดมากกว่า ล่าสุด ให้ แมชเซ็นเจอร์มาส่งจดหมายที่ทำงาน ประชาสัมพันธ์ โทรมาเรียก กลัวรู้ถึงเจ้าของ บ. มากๆ เลย มาถึงก็เป็น ผช. แต่ยังดีที่เค้าพูดจาดี ให้คุยกะ จนท. ก็เสนอมาต่างๆ เหมือนเดิม แล้วบอกให้ไปคิดก่อน จะติดต่อกลับมาใหม่อีกครั้ง จนวันนี้ก็ยังเงียบอยู่ ยังไม่มีติดต่อมา
Wanaree-Ja เขียน: 3. เฟริสช้อย วงเงินบัตร 12,000 บาท อันนี้ทวงทางโทรศัพท์ และจดหมายที่บ้าน มีครั้งนึง ไปเข้าห้องน้ำ รับมือถือไม่ทัน โทรเข้าเบอร์โต๊ะ ซึ่งทุกบัตร ทำก่อนย้ายมาทำงานปัจจุบัน ไม่รู้ว่าหาข้อมูลมาได้ไง ล่าสุดวันนี้ 4/10/56 สนง. ทวงหนี้ โทรมา
จนท: มียอดค้าง 13,500 บาท สนใจจะปิดยอดกับเราไหมที่ 10,000 บาท หรือถ้ายังไม่มีก็รบกวนจ่ายขั้นต่ำมาก่อน 1,500 บาทก่อนวันที่ 9 ได้ไหม
เรา: ยังไม่มีค่ะ
จนท. งั้น 700 ได้ไหมคะ
เรา: ยังไม่มีค่ะตอนนี้
จนท: ทำไมถึงยังไม่มีคะ แค่ 700 บาท งานคุณก็ทำ ทำไมไม่มีมาจ่าย
เรา : ทำไมคะ คุณมีปัญหาไรคะ ก็ยังไม่มี คุณชื่อไรคะเนี่ย
จนท. สุอารีย์ ค่ะ งั้นคุณสนใจ ปรับโครงสร้างไหมคะ
เรา: ขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ
จนท: งั้นรบกวนจ่าย 700 ก่อนนะคะ มาจ่ายก่อนวันที่ 9/10/56
เรา : ไม่รับปากนะคะ เพราะไม่รู้จะหาจากไหน
จนท.: งั้นเดี๋ยววันที่ 9 โทรมาใหม่ค่ะ
Wanaree-Ja เขียน: รบกวนขอคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ ด้วยนะคะ ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
Wanaree-Ja เขียน: ปัญหานี้ไม่เคยบอกที่บ้านว่าเรามายุ่งกะหนี้สินประเภทนี้
ใครเลือกใช้วิธีที่ 2
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1.หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอดอย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์
(ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย
2.ต้องบอกครอบครัวให้รู้จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไรและเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย
3.ต้องบอกที่ทำงาน(หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อนคนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร)ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชีห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักทีให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่าแล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนรวมงานตามความเหมาะสม
4.จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10,000 เหลือ 5,000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3,500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1,500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัวสำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดูส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัวพยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม
5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆที่มีสารพัดรูปแบบ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา