หนี้ ธ.ออมสิน จะเลือกปรับโครงสร้างหนี้ หรือ ให้ศาลตัดสินดีคะ

วันนี้ หนูไปที่ศาลมา ครั้งแรกค่ะ รายละเอียดของหนี้คือ
ธ.ออมสิน ส่งฟ้อง โดยคำนวณยอดหนี้ จนถึงวันฟ้อง 6/9/13 (อันนี้งงข้อที่ 1 วันฟ้องไม่ใช่วันที่ 2/10/13 หรือคะ)
หนี้ 146,307.73 บาท ดอกเบี้ย 44,234.46 บาท รวมทั้งสิ้น 190,542.19 บาท

ตอนแรก หนูศึกษาในนี้ไป สรุปกับตัวเองว่า จะใช้วิธี ปิดบัญชี โดยขอผ่อนเป็น งวด 6 งวด (อันนี้คิดเอาเองค่ะ)
ไปที่ศาล เจอกับทนายของ ธ. ออมสิน เค้าบอกว่า ถ้าจะปิดบัญชีทางธนาคาร ไม่ได้มีนโยบายลดดอกเบี้ย คือ ถึงหนูจะเอาเงินก้อนไปปิด หนูต้องปิดที่ยอดแสนเก้าเท่านั้น เพราะงั้น เค้าแนะนำให้ไปคุยกับธนาคาร เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ (ซึ่งจากที่อ่านมา ทำเอาหนูตกใจกลัวกับคำๆ นี้ไปแล้วค่ะ)

ทีนี้ ก็ไปที่แผนกไกลเกลี่ย ก็เล่าให้เค้าฟังว่า ที่หนูอยากทำคืออะไร เค้าก็คุยกับทนายของธนาคาร (เร็ว แล้วก็เกี่ยวกับพวกการเงินนี้แหละค่ะ หนูฟังไม่ทัน เลยไม่รู้เรื่อง)

เค้าก็บอกว่า ให้เลื่อนนัดไปก่อนแล้วให้หนูไปคุยกับธนาคารอีกทีว่าเค้าจะปรับลดอะไรได้บ้าง
แต่ที่ทนายบอกคือ ยอด แสนเก้า แต่ต่อไปจะคิดดอกเบี้ย MLR+ เท่าไหร่ไม่รู้ (น่าจะคำนี้นะคะ หนูก็ไม่แน่ใจ) สรุปประมาณ 8 บาทกว่าๆ

ทนายของธนาคารก็เสนอมาว่า หรืออีกวิธีนึงคือ ให้ศาลตัดสินเลยวันนี้ ศาลอาจจะลดดอกเบี้ยให้บ้าง หรืออาจไม่ลดก็ได้ แล้วก็เอาคำตัดสิน ไปติดต่อธนาคาร หนูก็ถามว่า ถ้าแบบนั้นคือ ธนาคาร จะให้แบ่งจ่ายหรือเปล่าคะ คุณทนายบอกว่า ก็แล้วแต่ทางธนาคาร ว่าจะให้จ่ายก้อนเดียวเลย หรือแบ่ง แต่ถ้าจ่ายก้อนเดียว แล้วหนูไม่มี เค้าก็จะยึดทรัพย์ คือยึดบ้าน (หนูไม่มี) ยึดรถ (รถยนต์ ชื่อหนูแม่ผ่อนให้ แต่ผ่อนเสร็จ สิ้นปีนี้ค่ะ) หนูก็บอกไปว่าไม่มี คุณทนายบอกว่างั้นยึดเงินเดือน 40% พี่ที่เป็นแผนกไกล่เกลี่ยก็ถามว่าทำงานที่ไหน ซึ่งหนูก็บอกไปว่า ทำร้านยา แต่เริ่มเดือนหน้า พี่่ไกล่เกลี้ยเลยบอกคุณทนายว่า ร้านยาไม่แจ้งรายได้ ไม่จ่ายผ่านบัญชี ยึดเงินเดือนไม่ได้นะ

แต่สุดท้ายก็พี่ที่ไกล่เกลี่ย ก็สรุปว่า ให้เลื่อนไปก่อน (เป็น 22/10/13) แล้วระหว่างนี้ ให้หนูไปคุยกับธนาคาร ถ้าผลการคุยไม่น่าพอใจ วันที่ 22 ก็ให้ศาลตัดสินแล้วกัน

พอกลับมาบ้าน เปิดที่นี่อีกที เจอกระทู้ที่บอกว่า ธ.ออมสิน เป็นธนาคารที่ไม่โกงประชาชนแน่นอน หนูก็เลยลังเลค่ะ ว่าจะปรับโครงสร้างหนี้ดีมั้ย

หนูมีบัตรอีกใบ เป็นบัตรกดเงินสด ยูเมะพลัส ซึ่ง หยุดจ่ายไปพร้อมๆ กัน คือตั้งแต่ สิงหาคม 2554 (จ่ายสุดท้าย กรกฏาคม 2554) เค้าโทรมาทวง แต่ที่หนูหยุดจ่ายไปคือ ตกงานค่ะ ล่าสุดเค้าเสนอลดให้เหลือ 50,000 บาท โดยประมาณ (หลายเดือนแล้ว จำยอดแน่นอนไม่ได้ค่ะ) แต่ตอนนั้น หนูปฏิเสธ เพราะยังไม่มีเงิน ตกงานอยู่ แต่ตอนนี้ หนูได้งานทำแล้ว (เริ่มเดือนหน้าค่ะ) หนูควรจะทำอย่างไรกับบัตรนี้ดี

คำถามคือ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ ของธนาคารออมสิน ไว้ใจได้ใช่มั้ยคะ (คือคุณทนายพยายามบอกหนูว่า ไปคุยปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารจะลดยอดจ่ายต่อเดือนให้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ดอกก็เพิ่มใช่มั้ยคะ ถ้าจ่ายน้อยลง)
2. สิ่งที่หนูควรทำคือ คุยกับธนาคาร เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ หรือ ควรรอวันที่ 22 แล้วให้ศาลตัดสินดีคะ
3. ถ้าควรปรับโครงสร้างหนี้ หนูควรเลือก (ถ้าเลือกได้) จ่ายให้น้อยลง (หนูกลัวดอกมันจะแพงค่ะ) หรือควรคุยกับธนาคารยังไงดีคะ
4. บัตรยูเมะพลัส จัดเป็น สินเชื่อ หรือบัตรเครดิตคะ (จากที่อ่านในกระทู้เก่าๆ บางอันบอก เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล อายุความ 5 ปี อีกกระทู้บอก มีคำพิพากษาฎีกา ว่าเป็นบัตรเครดิต อายุความ 2 ปี)
5. ถ้าบัตรยูเมะพลัส จัดเป็น บัตรเครดิต อายุความ 2 ปี แสดงว่าขาดอายุความแล้ว หนูก็ไม่ต้องทำอะไรใช่มั้ย ยกเว้นถ้าเค้ามีหมายศาลมา ก็ให้ทนายสู้คดี (ตามที่หนูเข้าใจนะคะ)
แต่ถ้าเป็น สินเชื่อ อันนี้ หนูควร เก็บตังค์ก่อน ซัก 3-4 เดือน แล้วเจรจา ปิดยอดใช่มั้ยคะ (ได้เงินเดือน เดือนละ 20,000 ค่ะ) แต่ถ้าอย่างนั้น หนี้ ธ.ออมสิน ก็ต้องจ่ายแบบเบาๆ น้อยๆ เพื่อเก็บตังค์ไว้ปิดยอดยูเมะพลัส (แต่เค้ายังไม่ฟ้องนะคะ)

หนูควรทำอย่างไรดีคะ งงไปหมด พยายามอ่าน ทำความเข้าใจแล้ว แต่ภาษากฎหมาย กับภาษาการเงิน นี่มันยากจริงๆ นะคะ

ขอบคุณค่ะ

ปรับดีมั้ย ต้องถามตัวเองนะค่ะ ว่าได้มั้ยไหวมั้ย

ถ้าพอไหว ก็เป็นการดี ทะยอยจ่ายไป

แต่ถ้าไม่ไหว ทางเลือกนี้จะกลายเป็นสัญญานรกต่อไป