อยู่ต่างประเทศ ขอคำปรึกษาค่ะ

ตอนนี้เราอยู่ต่างประเทศค่ะ มาได้เดือนที่ 4 แล้ว เรามีหนี้บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ตามลีสนี้ค่ะ

บัตรเครดิต kbank ยอด 78,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 10 ก.ค 56
บัตรเครดิต Standard Charter ยอด 47,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 6 ก.ค. 56
บัตรกดเงินสด Standard Charter ยอด 120,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 22 ก.ค. 56
บัตรเครดิต UOB ยอด 43,000 บาท จ่ายครั้สุดท้าย 8 ส.ค. 56
บัตรกดเงินสด UOB ยอด 27,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 10 ส.ค. 56
บัตรกดเงินสด SCB ยอด 80,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 7 ส.ค. 56
บัตรเครดิต Citibank ยอด 34,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 13 ส.ค. 56
บัตร เครดิต KTC ยอด 34,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 5 ส.ค. 56
บัตรกดเงินสด KTC ยอด 39,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 7 ส.ค. 56
บัตร yume plus ยอด 58,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 10 ก.ย. 56
บัตร firstchoice ยอด 27,000 บาท จ่ายครั้งสุดท้าย 3 ส.ค. 56

เราตั้งใจว่าจะพยายามส่งเงินเพื่อนกลับไปชำระบัตรต่างๆขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ และไม่ใช้บัตรเพิ่ม
จนกว่าจะหมดหนี้ค่ะ แต่ตอนนี้เราชักหน้าไม่ถึงหลังมากเลยค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายที่ต่างประเทศเยอะมากเลยค่ะ
เลยหยุดจ่ายไปก่อน 3 บัตรเมื่อเดือน ก.ค. และเพิ่งมาหยุดจ่ายเดือนนี้เกือบทุกบัตรค่ะ ยกเว้น บัตรยูเมะ เพราะเค้าโทรไปทวงที่บ้าน
แล้วแม่ก็ว่าค่ะ ว่าทำไมไม่จ่าย และประกอบกับพอดีเรามาเจอเวปนี้ค่ะ และแต่อ่านกระทู้ปักหมุดต่างๆ เกี่ยวกับแนวทาง
การชำระหนี้ เราเลยตั้งสินใจเลือกข้อ 2 และจะเก็บเงินไปเรื่อยๆ เพื่อขอ H/C ค่ะ เราคาดว่าน่าจะเก็บเงินได้ประมาณ
10,000 บาทต่อเดือน แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าทางธนาคารไม่สารมารถติดต่อเราได้เนื่องจากอยู่ต่างประเทศค่ะ ส่วน
เบอร์โทรศัพท์จากไทยที่เราเอามาก็เป็นเบอร์ใหม่ที่รู้แค่ 2 ธนาคารคือ kbank และ standard charter
และเราก็ไม่ได้เบอร์เครื่องเลยค่ะตั้งแต่มาก็ปิดตลอด ในกรณีของเราถ้าเราสามารถเก็บเงินได้สักก้อนแล้ว เราโทรไป
ขอต่อรองการชำระเองจะได้มั้ยคะ ตอนนี้เรายังไม่กล้าบอกแม่เลยค่ะว่าเราจะใช้วีธีนี้ เพราะแม่เราไม่ทราบว่าเรามีหนี้เยอะขนาดไหน
เรากลัวก็แต่ว่าเค้าจะไปโทรไปรบกวนแม่เราที่บ้านค่ะ กับกลัวหมายศาล เพราะถ้าได้รับยังไงก็คงกลับไปขึ้นไม่ได้ในเวลาอันใกล้นี้ค่ะ

ในกรณีของเรา เราควรโทรกลับไปแจ้งธนาคารก่อนว่าไม่สารมารถชำระได้ตอนนี้เพราะไม่มีเงิน และอยู่ต่างประเทศไม่สะดวกในการติดต่อ
หรือเราควรจะนิ่งๆ ไปก่อน รอมีเงินก้อนและติดต่อไปขอ H/C ทีเดียวเลยดีค่ะ เครียดเรื่องหยุดจ่ายไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องการติดต่อธนาคารอย่างต่อเนื่อง
เราทำได้ลำบากมากเลยค่ะ แต่ที่เครียดสุดๆ คือ จะบอกกับแม่ยังไงนี้สิคะ T T โอ้ยปวดใจ ก่อเรื่องเดือนร้อนไว้แล้วมาอยู่ไกลบ้าน

เราตัดสินใจว่าจะบอกคุณแม่แล้วค่ะ นี่ก็หยุดจ่ายบางบัตรมาเป็นเดือนที่ 3 แล้ว แต่มีเงินเก็บยังไม่ถึงหมื่นเลยค่ะ
คงจะต้องสู้กันต่อไป แต่เรื่องการติดต่อที่ค่อนข้างยากน่คงต้องหาวิธี ที่จะทำให้ทางเจ้าหนี้ติดต่อเราได้ง่ายขึ้นค่ะ
เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านไหนมีข้อแนะนำดีบ้างมั้ยคะ

คุณเก็บเงินไว้ ให้เยอะ ๆ ให้ไวหน่อย ( ก็ดี )

ศึกษาระบบให้เข้าใจ มันมีระบบของมัน

ถ่ายทอดความรู้ให้ คนทางบ้าน

คุณสะดวกตอนไหน ก็ตอนนั้นละ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29 นิยามคำว่าแฮร์คัท

อย่าเครียดครับ จะบอกว่าอย่าเครียด มันยิ่งเครียด
แต่จริงๆแล้ว เครียดไปก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ
บอกพ่อกับแม่ไปเถอะครับ มันยากตอนจะบอก แต่พอบอกไปแล้ว อธิบายให้ท่านเข้าใจ
ถ้ากลัวท่านจะเข้าใจยาก บอกไปเลยว่า ที่กู้เนี่ย เราเอามาใช้จ่าย อยู่เมืองหลวง ค่าใช้จ่ายเยอะ
พอกู้มาแล้ว เจ้าหนี้คิดดอกแพงไป บวกค่าอย่างอื่นอีกมากมาย ทำให้มันเกินอัตราที่ กม. กำหนด
เลยทำให้หนี้พอกพูน ตอนนี้ที่หยุดจ่าย เพราะจะเคลียร์ และเก็บเงินรอเคลียร์ไป ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกพ่อ กับแม่ และที่สำคัญ เรื่องแบบนี้ ไม่ทำให้ติดคุก ไม่มาตามรังควานยึดทรัพย์พ่อแม่ กว่าจะยึดก้ต้องรอศาลตัดสิน และอีกนานหลายปี ถึงตอนนั้นมีเงืนปิดหนี้หมดแล้ว
อธิบายแบบนี้ ให้ท่านเข้าใจ บอกไปเลยว่า รัฐบาล ยังเป็นหนี้เลย สาอะไรกับคนอย่างเรา

ถ้าอย่างนั้นเราควรสลด เอ้ย สงบไว้ก่อนจนมีเงินก้อนค่อยโทรติดต่อไปทางเจ้าหนี้ใช่มั้ยคะ
ส่วนทางเมืองไทยก็คงต้องให้ที่บ้านช่วยรับหน้าแทนไปก่อน ....มันสะเทือนใจก็ต้องให่แม่มาไม่สบายใจร่วมด้วยนี่แหระค่ะ

กรณีของคุณ คล้ายผมอยู่นะครับ ลองอ่านของผมดู แต่ผมว่าถ้าจะให้ดีโทรไปหาเขาเลยดีกว่า บอกเขาว่าให้ติดต่อมาเบอร์นี้แล้วกัน เอาที่สะดวกเรา และนัดเวลาคุย จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะติดต่อเราไม่ได้ ถ้ากลัวเขาจะโทรไปที่บ้าน แต่ผมว่าเขาคงไม่ตามไปเก็บเงินถึงต่างประเทศหรอกมั้ง สู้ๆนะครับ ย้ำคิด ย้ำทำ ไม่ต้องเครียดหรอก ยังมีคนที่เขาเป็นหนี้เยอะ แล้วยังไม่รู้จักวิธีแก้ไขหนี้อีกตั้งมากมาย หาข้อมูลจากในนี้ให้มากเผื่อจะเจอกรณีอย่างเราบ้างอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ประยุกต์ใช้ไป แต่ถ้าจะดีมากเลยเราควรคุยกับที่บ้านดีกว่า
คุยให้เคลียร์ไปเลย อย่างนี้นะ เราทำอะไรอยู่ตอนนี้ อาจต้องเป็นอย่างนี้ บอกไปตามตรงไม่ต้องอายถึงขั้นนี้แล้ว เดี๋ยวเขาคงเข้าใจเราเองแหล่ะ ถ้าไม่เคลียร์ก็โทรมาปรึกษาพี่เขาเลยนะครับ เขาก็จะได้ช่วยเราได้เวลาที่เราคิดไรไม่ออก อย่างน้อยก็มีคนชี้โพรงให้กระรอก สู้ๆครับ

jk1985 เขียน: กรณีของคุณ คล้ายผมอยู่นะครับ ลองอ่านของผมดู แต่ผมว่าถ้าจะให้ดีโทรไปหาเขาเลยดีกว่า บอกเขาว่าให้ติดต่อมาเบอร์นี้แล้วกัน เอาที่สะดวกเรา และนัดเวลาคุย จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะติดต่อเราไม่ได้ ถ้ากลัวเขาจะโทรไปที่บ้าน แต่ผมว่าเขาคงไม่ตามไปเก็บเงินถึงต่างประเทศหรอกมั้ง สู้ๆนะครับ ย้ำคิด ย้ำทำ ไม่ต้องเครียดหรอก ยังมีคนที่เขาเป็นหนี้เยอะ แล้วยังไม่รู้จักวิธีแก้ไขหนี้อีกตั้งมากมาย หาข้อมูลจากในนี้ให้มากเผื่อจะเจอกรณีอย่างเราบ้างอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ประยุกต์ใช้ไป แต่ถ้าจะดีมากเลยเราควรคุยกับที่บ้านดีกว่า
คุยให้เคลียร์ไปเลย อย่างนี้นะ เราทำอะไรอยู่ตอนนี้ อาจต้องเป็นอย่างนี้ บอกไปตามตรงไม่ต้องอายถึงขั้นนี้แล้ว เดี๋ยวเขาคงเข้าใจเราเองแหล่ะ ถ้าไม่เคลียร์ก็โทรมาปรึกษาพี่เขาเลยนะครับ เขาก็จะได้ช่วยเราได้เวลาที่เราคิดไรไม่ออก อย่างน้อยก็มีคนชี้โพรงให้กระรอก สู้ๆครับ

ขอบคุณค่ะคุณ jk1985 ถ้ายังไงเรารบกวนขอ link กระทู้ของคุณ jk1985 หน่อยนะคะ
อยากเข้าไปอ่านและศึกษาค่ะ บอกตรงๆ ตอนนี้เรายังไม่หายเครียดเลยค่ะ
กลัวที่สุดตรงที่ต้องบอกแม่เนี่ยแหละค่ะ

วันนี้ผมก็มีอิออนโทรมาหาที่ทำงาน บังเอิญพี่เขารับสายแทนบอกว่า
ผมทำงานอยู่ ซักพักโทรมาอีกพอผมรับสาย อิออนก็บอกว่ารับแฟกซ์
ด้วยค่ะ ผมงงอยู่ซักพักใหญ่เลยนึกขึ้นได้ว่ามันคงจะบอกเราไปจ่าย
อะไรทำนองนั้นแหล่ะครับ นึกอีกทีถ้าผมเครียดผมคงโดดน้ำทะเล
ไปแล้วหล่ะ ทำงานดีกว่าทำไมเราต้องคิดเรื่องพวกนี้ด้วย คิดเรื่อง
ทำยังไงเราจะเก็บเงินได้เร็วขึ้นดีกว่า เชื่อผมเถอะนะบอกพ่อแม่ไป
เลย เขาอาจจะว่าเราแต่ทีแรก ดีกว่าแกมารู้ทีหลังแล้วทีนี้จะไม่สบาย
ใจทั้งสองฝ่าย

jk1985 เขียน: วันนี้ผมก็มีอิออนโทรมาหาที่ทำงาน บังเอิญพี่เขารับสายแทนบอกว่า
ผมทำงานอยู่ ซักพักโทรมาอีกพอผมรับสาย อิออนก็บอกว่ารับแฟกซ์
ด้วยค่ะ ผมงงอยู่ซักพักใหญ่เลยนึกขึ้นได้ว่ามันคงจะบอกเราไปจ่าย
อะไรทำนองนั้นแหล่ะครับ นึกอีกทีถ้าผมเครียดผมคงโดดน้ำทะเล
ไปแล้วหล่ะ ทำงานดีกว่าทำไมเราต้องคิดเรื่องพวกนี้ด้วย คิดเรื่อง
ทำยังไงเราจะเก็บเงินได้เร็วขึ้นดีกว่า เชื่อผมเถอะนะบอกพ่อแม่ไป
เลย เขาอาจจะว่าเราแต่ทีแรก ดีกว่าแกมารู้ทีหลังแล้วทีนี้จะไม่สบาย
ใจทั้งสองฝ่าย

ส่วนของเราวันนี้ได้ฤกษ์บอกความจริงกับคุณแม่แล้วค่ะ ตอนแรกคุณแม่ยังไม่เห็นด้วย
แต่พอเราบอกท่านไปว่าเราไม่ไหวจริงๆ ท่านก็เข้าใจค่ะ ท่านเข้มแข็งกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลยค่ะ
เราเสียอีกที่เป็นฝ่ายร้องไห้ซะเละเทะ แม่เราบอกว่า พลาดไปแล้วก็ต้องกลับตัวใหม่
แต่แม่เราแนะนำว่าให้จ่ายอีซี่บายไปเรื่อยๆ ก่อนค่ะ เพราะคนทวงมันไม่มีมารยาทซะจนแม่รับไม่ได้ค่ะ