สมาชิกใหม่ครับ ขอคำปรึกษาครับ

ขอขอบคุณ คุณ เด็กหญิงส้มโอ และ kaewja ด้วยนะครับที่ให้คำแนะนำที่ดีมากครับ
ไม่คิดเลยนะครับว่า TMBจะมาเร็วขนาดนี้ครับ ตอนแรกตั้งใจว่าจะปิดบัตรและหนี้ต่างๆให้หมดก่อนแล้วจะไปขอเจรจากับTMBครับ ซึ่งตอนแรกคิดว่าน่าใช้เวลา8เดือนเพื่อจะใช้หนี้เล็กให้หมดครับ
ซึ่งตรงนี้ผมอยากขอคำแนะนำอีกเล็กน้อยนะครับ ตามความคิดของผมจากจดหมายที่เขาส่งมา แสดงว่า โครงการเงิน3เท่าของผมที่ทำไว้กับทางธนาคารได้สิ้นสุดลงแล้ว จากข้างต้น ที่ผมทำไว้คือกู้เงินมาได้2ล้านบาท ได้ใช้จริง1ล้าน3แสนบาท อีก7แสนเป็นเงินฟิกธนาคารซึ่งเราไม่สามารถเอาออกมาใช้ได้ ตรงนี้ผมต้องใช้ดอกเบี้ยเต็ม เขาคิดที่เรากู้เลยคือ2ล้านบาท ดอกเบี้ย17000บาทต่อเดือน จากตรงนี้ ถ้าผมเจรจากับเขา เขาจะคิดดอกเบี้ยผมยังไงครับ ตามความคิดผมคือ ผมเป็นหนี้จริง 1ล้าน3แสนกว่า เท่านั้น เงินฟิก7แสนไม่นับเป็นหนี้ใช่ไหมครับถ้าเป็นไปตามที่ผมกล่าวมานี้แสดงว่าผมต้องใช้หนี้ (หนี้จริงที่เป็นหนี้ + ดอกเบี้ยที่ทางธนาคารกำหนด(ดอกเบี้ยชนเพดาน) = เงินที่เราจะต้องใช้หนี้) ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นไปตามนี้ ผมก็อาจพื้นคืนชีพได้ จึงอยากให้ผู้รู้ และผู้ที่ชำนาญทางกฎหมาย ช่วยตอบโจทษ์นี้ให้ผมด้วยนะครับ

ต้องขออภัยด้วยนะครับถ้ากระทู้นี้อาจจะไม่ใช้แนวทางและไม่ตรงจุดประสงค์กับทางเว็ปนะครับ แต่เผื่ออาจจะมีสมาชิกที่เป็นหนี้คล้ายคลึงกับผมเผื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นๆ และเป็นความรู้แก่ทุกๆคนนะครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน วันนี้กระผมได้โทรไปสอบถามเกี๋ยวกับเรื่องจดหมายทวงหนี้แล้วครับเลยจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ในเคสของผมเป็นการเบิกเงินเกิน od ที่เขากำหนดไว้ครับ แต่จากการที่พูดคุยกัน หนี้ OD ก็คล้ายคลึงกับหนี้บัตรเคดิตเลยครับ ที่ผมบอกแบบนี้เพราะว่าจากการที่ศึกษามาจากเว็ปไซค์กับสิ่งที่เขาแนะนำมันเดินมาทางเดียวกันเลยครับจบที่การขึ้นศาล และต่อรองการใช้หนี้หลังศาลพิพากษาแล้วครับ แต่ในรายละเอียดของผมคือการปรับโครงสร้างหนี้ครับ เป็นทางออกทางเดียว แต่ มันก็ไม่ใช่ง่ายเหมือนกันนะครับ เพราะจากการที่ได้พูดคุยกัน เค้าจะดูหลายๆอย่างที่เป็นเราครัึบ มันต้องใช้บันทึกรายรับรายจ่าย บัญชีสเตสเม้นก็ต้องมี บพ30 การเสียภาษีย้อนหลัง 3ปี และต้องเช็คเครดิตบูโรด้วย ถ้าไม่มีพวกนี้ทางธนาคารก็จะไม่เชื่อในเคดิตเราครับการปรับโครงสร้างหนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นมาครับ เขาบอกว่าช่วงนี้จะมีจดหมายมาก้ไม่ค้องตกใจ จนกว่าจะมีจดหมายจากศาลให้ไปศาลครับ แล้วให้เราทำเรื่องยอม เพื่อจะได้ไปเจรจากับทางธนาคาร ผมถามตอว่า สมมุติว่าถ้าถึงศาลและศาลตัดสินแล้ว และลงเอยมาที่การเจรจาแต่ผมไม่มีอะไรเลยดั่งที่ธนาคารต้องการการเจรจาจะเกิดขึ้นได้ไหม เขาตอบกลับมาว่าคงจะไม่ได้ครับ เพราะเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เราพูดครับมันต้องมีอะไรที่มายืนยันว่าถ้าปรับโครงสร้างหนี้แล้ว เราสามารถจ่ายเงินเขาได้จริงๆครับ ไม่งั้น ถ้าทำไปแล้วเราจ่ายแล้วจ่ายไม่ไหว มันก็ต้องมาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่มันจะไม่จบสิ้นครับ ในใจผมคิดว่า แล้วเราจะมีที่ไหน ทำไงดีหละคราวนี้
มาถึงเรื่องหนี้สิน ตกลงน่าจะเป็นอย่างที่คิดแล้วครับ หนี้จริง+ดอกเบี้ยชนเพดาน =เงินที่เราต้องจ่ายครับ ระยะเวลาทางกฎหมายเขาให้ไม่้กิน7ปี แต่เราอาจจะคุยกับธนาคารได้ครับอาจจะยึดเวลาออกไปให้นานได้อีกครับ

ที่ผมถามว่าถ้าไม่มีอะไรเลยที่ทางธนาคารต้องการ ผมหมายถึงพวกเอกสารที่ทางเขาบอกเอาไว้ว่าต้องใช้นะครับ ส่วนเรื่องเงินถ้าผมสามารถปิดหนี้เล็ๆกหมด บวก ลบ คูณ หาร แล้วมีจ่ายเค้าจนหมดแน่นอนครับ แต่ที่ไม่มีก็พวกเอกสารนี้แหละที่ทำให้เราตึ๊บๆ

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกๆคน วันนี้มาอัพเดตสถานการณ์หลังจากหยุดจ่ายบัตรเครดิตของธนาคารนครหลวงไทยครับ หลังจากหยุดจ่ายมาเดือนที4และทางเขาไม่ได้ติดต่อกลับมาเลยช่วง1เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่าวันนี้ สำนักงานกฎหมายเขาโทรมาที่โทรศัพท์บ้านผมรับสาย

สำนักงานกฎหมาย - สวัสดีครับ ขอสายคุณ บ หน่อยครับ
บ - กำลังคุยสายครับ
สำนักงานกฏหมาย - ตามที่คุณแจ้งว่าคุณยังไม่มีเงิน ยังไม่พร้อม ที่จะจ่ายเงิน ผมกำลังจะสั่งฟ้องคุณแล้วครับ ให้ดำเนินการเลยนะครับ
บ - อ่ครับก็คงเป็นอย่างนั้นครับ
สำนักงานกฏหมาย - คุณยังอยู่ที่เดิมใช่ไหมครับ บ้านเลขที่นั้นๆ ตำบลนั้นๆ
บ - ครับ
แล้วเขาก็วางสายไปครับ
ผมอยากทราบว่าผมหยุดจ่าย 4เดือน เขากำลังส่งฟ้องจริงหรือเปล่าครับ ทำไมมาเร็วมากๆทั้งๆที่ยังไม่มีการยื่นข้อเสนอมาให้เราเลย แบบนี้ยังคงจะมีการแฮคัสอีกหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ

ก็เป็นอีกขั้นตอนของการทวงชำระหนี้ค่ะ ประหยัด อดออมไว้ อย่าไปคิดอะไรมาก มันเป็นไปตามระบบค่ะ

ซ้ำครับ

dnbb เขียน: ก็เป็นอีกขั้นตอนของการทวงชำระหนี้ค่ะ ประหยัด อดออมไว้ อย่าไปคิดอะไรมาก มันเป็นไปตามระบบค่ะ

ขอบคุณครับที่ให้คำแนะนำ ผมจะมาอัพเดตเรื่อยๆนะครับ ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรมากแล้วครับ เพราะมีปัญหาที่ใหญ่กว่านี้อีกเรื่อง TMB อะครับ โทรไปเจรจาก็แล้ว ขอผ่อนก็แล้ว ขอลดดอกเบี้ยก้แล้ว ทางเขาก็มีกฏเกรณ์ของเขาเยอะมากครับ ต้นเดือนที่ผ่านมาเพิ่งไปขึ้นศาลมาครับของ TMB จะให้ไปไกล่เกลี่ยแต่แล้วไม่ไหว ไม่มีจริงๆ ตอนนี้คงยอมรับสภาพครับ คงรอยอมให้เขาฟ้องล้มละลายดีกว่าครับ ตอนนี้ทางครอบครัวเข้าใจและให้กำลังใจดีครับ ทุกอย่างต้องเดินต่อไปครับ
แต่เรื่องบัตรอยากจะจ่ายครับตอนนี้เก็บเงินได้พอสมควรอยู่ แต่อันที่ไม่ไหวจริงๆก็คงยอม