เมื่อถึงทางตันกับหนี้ของสามี

เรารู้จักชมรมนี้เมื่อเกือบจะสาย ขอเล่าชีวิตคู่ของเราให้ฟังเป็นบางส่วนค่ะ
ด้วยความที่เราไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเงินเดือนของสามี คิดว่าเค้าบริหารเงินเป็น แต่เราคิดผิดมาตลอดเพราะเค้าเป็นหนี้มากมายจากบัตรเครดิต เค้าอ้างว่าหนี้สะสม ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ ค่าเทอมลูก ไหนจะใช้ ไหนจะกิน ฯ ก็ทะเลาะกัน และเค้าสัญญา(สาบาน) ว่าจะไม่ให้เป็นอย่างนี้อีก เราก็เชื่อใจเค้า จึงไปกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 1 ล้านบาท โดยพี่สาวเราใจดีให้ยืมคอนโดเพื่อค้ำประกันกับธนาคาร (กู้เมื่อ 2/52 ผ่อนเดือนละ 7,800 บาท /240 เดือน หักผ่านบัญชีเงินเดือนของสามี) ได้เงินมาโป๊ะหนี้บัตรเครดิต หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี จึงรู้ว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกโดยเค้าบอกหนี้บัตรเก่าใช้ไม่หมดบ้างและ กดบัตรมาใช้จ่ายและหมุนเงินตลอด (เค้าไม่บอกความจริงเรื่องยอดหนี้ในครั้งแรก) สรุปก็คือเค้าไปเงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคารร่วมกับลูกสาวมาใช้หนี้บัตรเครดิตอีก 998,000 บาท(กู้เมื่อ 31/12/55 ผ่อนเดือนละ 22,100 บาท/72 เดือน) เราก็นึกว่าคงหมดหนี้บัตรเครดิตจริง ๆเสียทีในครั้งนี้ แต่ปล่าวเลยเพราะปัจจุบันเค้าเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลประมาณ 1.3 ล้าน (ไม่ร่วมหนี้ข้างต้น 2 ราย) ก็ทะเลาะกันรุนแรงมาก เค้าก็อ้างเหมือนเดิม เราแทบอยากจะฆ่าตัวตายเพื่อจะได้ไม่ต้องรับรู้ปัญหาอีก
เราคุยกันเมื่อไรก็ทะเลาะกันทุกที สามีไม่ค่อยรับรู้ค่าดอกเบี้ยมหาโหด ดูไม่ค่อยเดือดร้อน ทั้ง ๆ ที่เราเครียดแทบตายกับปัญหาหนี้ของเขา พูดแต่ว่าคนไม่มีมันก็ต้องกด กดบัตรนี้ไปใส่บัตรนั้น ชำระขั้นต่ำมาตลอด อันไหนไปทำสัญญานรกแล้ว ก็ยังกดบัตรมาใช้อีก หนี้มันก็ไม่รู้จบ เราแนะนำให้เข้ามาหาข้อมูลในชมรมฯ และไปอบรม ก็บอกทำงานก็ไม่มีเวลาแล้ว (ที่บ้านไม่มีเน็ต) เราก็พยายามหาข้อมูลให้อันไหนมีประโยชน์ตรงกับปัญหาก็ปริ้นไปให้อ่าน ก็เห็นอ่านบ้างไม่อ่านบ้าง เวลาเราบอกอะไร พูดอะไร ก็จะพูดว่ารู้แล้วรู้แล้วไม่ต้องมาย้ำ โดยใช้น้ำเสียงไม่น่าฟัง มันทำให้เราโมโหมาก บางที่เราก็ด่า(ด่าจริง ๆ ) ว่าถ้าึงรู้จริงมันจะเกิดปัญหาอย่างนี้หรือ ก็จะทะเลาะกันยาว เพราะทั้งคู่ “ ยอมไม่เป็น เย็นไม่ได้” ซึ่งเราพยายามทำใจเวลาพูดกับเค้าแต่ก็โมโหทุกครั้งและใช้น้ำเสียงคำพูดไม่ดีกับเค้าด้วยเวลาที่โมโห ที่เราโมโหเพราะเค้าไม่เคยรุ้สึกสำนึกว่าเป็นคนทำให้ครอบครัวเดือดร้อน อ้างแต่ค่าใช้จ่ายเดิม ๆ ซึ่งไม่คิดเลยว่าโละใช้หนี้มา 2 ล้านแล้ว
ตอนนี้เราบอกให้เค้าหยุดจ่ายทุกบัตร บางบัตรหยุดได้1-2 เดือนแล้ว รอเค้าฟ้องแล้วทำผ่อนจ่าย หรือทำH/C ก็อธิบายเหตุผลให้ฟัง ดูๆ แล้วก็เหมือนไม่เชื่อเราซักเท่าไร จนเราคิดว่าที่หยุดตามที่เราบอกนี้คงเพราะหมุนบัตรไม่ได้แล้ว คงไม่ใช่เชื่อเราหรอก เค้ากลัวมีปัญหากับที่ทำงาน กลัวเสียเครดิต ทั้ง ๆ ที่มีเวลาทำงานอีกแค่ 2 ปี
ตอนนี้เราหย่ากับเค้าก่อนดีไหม เพื่อบางอย่างจะได้ไม่ต้องผูกพันกัน แต่ห่วงจิตใจลูกคนเล็กมาก( 12 ปี)
เรากลัวว่าเค้าจะแอบไปทำบัตรเครดิตใบใหม่มาใช้อีก เพราะเราไม่เชื่อใจเค้าแล้ว
จะทำอย่างไรที่จะไม่ให้เค้าสามารถทำบัตรเครดิตได้อีกตลอดชีวิต(รู้ว่าไม่มีทางแต่ก็ถามโง่ๆ ) มีคำถามมากมายแต่พยายามเข้าอ่านข้อมูลในชมรมฯ ก่อนตามที่หลาย ๆ ท่านแนะนำไว้ค่ะ

ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำ

เห็นใจและเข้าใจกับปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้
เข้าใจว่าคุณมีรายได้เป็นของตัวเอง ส่วนสามีมีอายุงานและฐานเงินเดือนที่สูงมาก
ณ เวลานี้ สามีคุณยังไม่ตระหนักว่า เขามีปัญหาตกอยู่ในหุบเหวแห่งหนี้สิน
เพราะฉะนั้น การแก้ปัญหาไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย ตบมือข้างเดียวไม่ดัง

ตอนนี้ ถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย คุณและลูกก็เจ็บปวดอยู่แล้ว
(ทุกครั้งที่คุณทะเลาะกัน เด็กรับรู้ กลัว และเสียใจไปพร้อมกับคุณ)
ตอนนี้สามีหยุดจ่ายบางบัตร 1-2 เดือน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
แต่ถ้าถูกทวงหนี้โหดกว่านี้ สามีคุณจะรับได้ไหม ทนได้ไหม กับภาพลักษณ์ที่ต้องดูดี
อีกไม่นานก็จะต้องสร้างหนี้ใหม่มาปลดหนี้เก่า
แต่น่าจะเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งแก้ปัญหายากกว่ามาก

ถามเรื่องบัตรเครดิตใหม่
โดยปกติ เวลาขอสินเชื่อ ถ้าสถาบันการเงินใหม่ตรวจสอบว่า
ผู้กู้มีภาระการผ่อนชำระหนี้เกินกว่า 40% ของรายได้
ก็จะไม่อนุมัติสินเชื่อ แม้ว่าจะเป็นลูกค้าชั้นดี จ่ายขั้นต่ำมาโดยตลอด
ยกเว้น ใช้ชื่อผู้อื่นกู้มาก่อน หรือมีหนี้อยู่กับสถาบันที่ไม่ใช่สมาชิกของเครดิตบูโร

ตอนนี้คุณต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เลือกทางที่เจ็บปวดน้อยที่สุด
ถ้าจดทะเบียนสมรส การหย่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี
อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องข้อกม. ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน สินสมรสและการยึด การอายัด
แนะนำให้คุณโทรหาพี่นกกระจอกเทศ 1-4 ทุ่มเท่านั้นนะคะ
สำหรับสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น คอนโด คุณก็ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อ

ส่วนต้นเหตุของหนี้สินมากมาย นอกจากการหมุนบัตรแล้ว
คุณอาจต้องมองหาว่ามีสาเหตุอื่นไหมเช่น ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย การพนัน ผู้หญิง
สุดท้าย เลิกคิดฆ่าตัวตายนะคะ อยู่สู้ไปด้วยกันกับเพื่อนสมาชิกแบบนี้แหละ

สู้เพื่อลูกค่ะ จดทะเบียนหย่า แบบหย่าการเมืองก็ดีนะคะเราว่า
เพื่อที่จะต่อสู้กับหนี้ต่อไป แบ่งทรัพย์สินให้เรียบร้อย

หย่าการเมือง ไม่ต้องบอกลูกสาวก็ได้นี่คะ

แต่ คุณสามียังไม่เข้าใจปัญหาแบบนี้ก็สุ่มเสี่ยงที่เขาอาจจะคิดว่าเรา
ทิ้งเขา คิดว่าเราไม่ยอมลำบากกับเขา
หรืออะไรอีก100เหตุผลที่เขาจะคิดขึ้นมาได้

บางครั้งบทเรียนชีวิตก็ราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ

เป็นเรื่องท้าทายนะคะว่าผู้หญิงสวยๆอย่างเรา
จะพูดและทำยังไงให้ผู้ชาย (ที่ไม่ได้ฉลาดไปกว่าเรา)
เชื่อและยอมทำตามเราอย่างเต็มใจ
เน้นนะว่า "เต็มใจ"
เหมือนกับช่วงที่เขาหลงรักเราใหม่ๆ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

หลังจากศึกษาข้อมูลต่าง ๆ จากชมรม ข้อมูลของคุณนกกระจอกเทศ คุณกัวบัว คุณดอกไม้ไหว คุณพ่อยอด พี่อัง และอีกหลาย ๆท่าน ทำให้มีกำลังใจและเริ่มทำใจ ดิฉันพยายามหาข้อมูลอ่านและจดจำวิธีการต่าง ๆ อันไหนมีคำถามก็พยายามหาคำตอบจากชมรมและก็พบทุกครั้ง นำไปถ่ายทอดให้สามีฟัง สรุปว่าเราจะเลือกวิธี ไม่จ่าย ไม่หยอด ไม่หมุน รอทำ HC หรือบัตรไหนฟ้อง ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ วิธีของฉันคือ
1. เรียกเก็บบัตรทั้งหมดจากสามี นำมาหักทิ้งทุกบัตรที่มีอยู่ และห้ามทำบัตรใหม่ทุกชนิด
2. ดำเนินการทำรายการบัตรต่าง ๆ ตามคำแนะของชมรม จึงทำให้ทราบว่าดอกเบี้ยมหาโหดแค่ไหน
ในแต่ละเดือน โดยเฉพาะพวกที่ทำ”สัญญานรก” ซึ่งก็มีอยู่หลายบัตร
3. ดำเนินการโอน ย้าย ทรัพย์สินที่เป็นชื่อสามีและชื่อดิฉัน(ซึ่งมีอยู่น้อยนิด-แต่ก็ต้องทำ)
4. ติดต่อ ธ. เรื่องคอนโด ซึ่งเรื่องยังอยู่ในช่วงพิจารณา
5. ให้สามีรับทุกสายที่โทรมา
6. ถ้าบัตรไหนมีข้อเสนอส่วนลด บอกให้เบอร์เค้ามาคุยกับเราโดยตรง ให้บอกเค้าไปว่าเรา
เป็นคนที่จะชำระหนี้ให้(จุดประสงค์เพื่อการต่อรองเรื่องส่วนลดและดูว่าเงินที่จะชำระไหวหรือไม่)
หลังจากหยุดชำระครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มี.ค. 56 แล้ว ก็มีโทรมาตลอดทุกบัตร สามีบอกส่วนมากพูดดี ๆ
และดีที่สุดขอยกให้สำนักงานกฎหมายลีด เข้าใจ ไม่พูดมาก ไม่ต่อว่าและมีข้อเสนอให้หลังจากหยุดเคลื่อนไหว
บัตรไปประมาณ 70 กว่าวันโดยตกลงทำ HC และชำระปิดไปแล้ว 3 บัตร
- ยอดหนี้บัตรเดือน มิ.ย. 56 = 64,000 จ่าย 37,000 (กรุงศรี)
- ยอดหนี้บัตรเดือน พ.ค. 56 = 23,000 จ่าย 14,000 (กรุงศรี)
- ยอดหนี้บัตรเดือน พ.ค. 56 = 160,000 จ่าย 85,000 (บัตรGCS-เครือกรุงศรี)
สังเกตุไหม HC เป็นของกรุงศรีทั้งนั้น เราคิดว่าน่าจะมีส่วนมาจากการที่บริษัทต่างประเทศ จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกรุงศรีมั้ง เค้าจึงพยายามเก็บหนี้ให้ได้มากที่สุดก่อนการโอนขายหุ้น ดังนั้นถ้าใครมีหนี้กับเจ้านี้คงจะได้รับข่าวดีเรื่องส่วนลดแน่ ๆ ส่วนหนี้ของสามีเราคงยังอีกยาวไกลกว่าจะหมด สักวันคงได้ถือหมายศาลไปที่สวนลุมแน่ ๆ หรือเมื่อถึงวันนั้นจนปัญญาจริง ๆ จะเข้ามาขอคำแนะนำจากทุกท่าน เพื่อความรู้ เพื่อเป็นกำลังใจที่จะสู้และทนอยู่เพื่อลูกต่อไป/ ขอบคุณข้อมูลความรู้จากทุกๆ ท่านอีกครั้ง

หนี้ของสามีคุณ ยอดไม่น้อย สูงมาก
เรื่องหย่าการเมือง ไปถึงไหนแล้วค่ะ เพราะถ้ามีทะเบียนสมรส มันเหมือนอนุญาตให้เจ้าหนี้ "เสนอหน้า" เข้ามายุ่งกับสินสมรส ของคุณได้
เรื่องหย่าการเมือง แนะนำเหมือนคุณส้มโอ โทรหาพี่นกกระจอกเทศค่ะ
พี่นกจะเสียงดุๆหน่อย แต่ใจดีค่ะ ขอแค่คุณทำการบ้านให้ดี อ่านมากๆ ไม่เข้าใจอะไร จดไว้เป็นข้อๆ
บอกจำนวนหนี้ เจ้าหนี้ได้ชัดเจน ถูกต้อง เพราะก่อนที่หมอจะทำการรักษาคนไข้ ต้องถามอาการก่อน
และขอให้ตามวันเวลาที่ระบุเอาไว้ค่ะ

ส่วนลดของกรุงศรี คุณไม่เคยอ่านเจอในเว็บบอร์ด จริงๆหรือคะ
เขาดีแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ 50% ทุกราย ถ้าพูดต่อรองเก่งๆ และมีเงินในมือ

ส่วนเรื่องสามี แนะนำอย่าทะเลาะกันด้วยถ้อยคำหยาบคาย เขาไม่ฟัง และยิ่งโมโหกันไปใหญ่
ที่ใช้ได้ผลมากๆ สำหรับครอบครัวของกอบัวคือ อยากพูด อยากคุยอะไร ต้องให้เขา "อาบน้ำให้เย็นใจ กินข้าวให้อิ่มท้อง" แล้วค่อยคุยกันค่ะ
ขอเพียงคุณเชื่อมั่นในกันและกัน สักวันคุณต้องหมดหนี้ และสามีได้ใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณ อย่างเกษมแน่ๆ สู้ๆค่ะ

อ่านคุณกอบัวสอนน้อง ทั้งหลักสูตรหนี้ และหลักสูตรการใช้ชีวิตคู่ แล้วนึกถึง

บทความเรื่อง ผู้หญิงและผู้ชายมาจากคนละดาว ผู้ชายมาจากดาวอังคาร

แต่เราสามารถเรียนรู้การอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขค่ะ


ความลับของผู้ชาย


ใครๆ ก็บอกว่าผู้ชายมาจากดาวอังคาร (หนังสือขายดีของ ดร.จอนห์ เกรย์ ที่เขียนถึง
ความแตกต่างของหญิงชาย เพื่อให้เกิดการยอมรับและเข้าใจ ลดความขัดแย้ง
ในการสร้างสัมพันธภาพระหว่างกัน) วันๆ คิดแต่เรื่องกีฬา เบียร์ และเรื่องบนเตียง
(บางทีอาจสลับกันก็ได้) พวกผู้ชายไม่ยอมถามเส้นทางเมื่อหลง ไม่เปิดเผยความ
รู้สึกในใจจริงไหม รายงานพิเศษของเราจะตีแผ่ความลับของผู้ชายซึ่งคุณอาจต้องประหลาดใจ

ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง และความเชื่อเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของชาย

ใครสะอื้นไห้เวลาดูหนังเศร้า ใครจะเป็นจะตายเวลาอกหัก ไม่น่าเชื่อว่าคำตอบคือผู้ชาย
ผลการศึกษาเผยว่าผู้ชายมีอารมณ์ความรู้สึกซับซ้อนและเข้าใจยากไม่แพ้ผู้หญิง
บางครั้งอาจลึกลับจนแม้ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ นับประสาอะไรกับผู้หญิง

แม้อารมณ์จะเป็นจุดเด่นที่สุดของผู้หญิงแต่ผู้ชายก็มีความอ่อนไหวและมี
ประสบการณ์ด้านอารมณ์ได้มากพอๆกัน ในการศึกษาภาวะด้านอารมณ์ของผู้ใหญ่
500,000 คน กลุ่มตัวอย่างเพศชายระบุว่ารู้สึกอ่อนไหวสูงพอๆ กับกลุ่มตัวอย่าง
เพศหญิง การศึกษาคู่สามีภรรยาพบว่าทั้งสองอ่อนไหวต่อความเครียดของคู่สมรส
มากเท่าๆ กัน แต่ก็สามารถปลอบโยนอีกฝ่ายได้ดีไม่แพ้กัน


อะไรซ่อนอยู่ภายหลังหน้ากากเหล็กและความเงียบขรึมของผู้ชาย

ความอ่อนแอไงละ

ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่า ผู้ชายส่วนใหญ่รู้สึกไม่มั่นคงโดยตัวเอง ยากจะยอมรับ
และไม่มั่นคงเกินกว่าที่ภรรยาคาดเดาไว้ “ผู้ชายทุกคนมีความกลัวลับๆ หนึ่งคือ
เรื่องไร้สมรรถภาพ และ สองคือความกล้าหาญ เรียกว่ากลัวตัวเองจะไม่เป็นชาย
อย่างที่ควรจะเป็น หมอกูลส์ทันกล่าว “ผู้ชายรู้ว่ามีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ถ้าข้าวของ
ในบ้านพังจะต้องซ่อมได้ เมื่อรู้สึกว่าตนไร้ความสามารถก็จะถอยห่างและปลีกตัวออกไป”

ทำไมผู้ชายระเบิดอารมณ์


แม้ผู้หญิงจะรู้สึกโกรธบ่อยพอๆ กับผู้ชาย แต่ความฉุนเฉียวก็ยังเป็นอารมณ์ประจำตัว
เพศชายอยู่ดี

แล้วทำไมผู้ชายหลายคนถึงแสดงอาการกราดเกรี้ยว “ความโกรธมีสาเหตุมาจากจิตใจ
ที่สับสนเมื่อต้องเก็บกดอารมณ์บางอย่างไว้ ชายทุกคนพยายามเก็บความรู้สึกเพราะกลัว
ว่าการเปิดเผยเพียงเล็กน้อยอาจนำไป สู่การปอกเปลือกจนหมดใจ” ดร. เคนแนท ดับเบิลยู
. คริสเตียน นักจิตวิทยาและผู้เขียนศัตรูตัวร้ายของคุณ (Your Own Worst Enemy) กล่าว
“ถ้าคุณไม่หาทางปลดปล่อยมันออกมาบ้างหรือหาวิธีจัดการอย่างถูกต้องอารมณ์ เหล่านี้
จะเป็นเหมือนไฟคุกรุ่น รอเวลาลุกโหมขึ้นมาเมื่อชีวิตของคุณพังครืนลง เพราะปัญหาบางอย่าง”


ผู้ชายสามารถแสดงอารมณ์โดยไม่ต้องร้องไห้หรือรู้สึกกลัว วิธีเริ่มต้น
หาวิธีแสดงอารมณ์อย่างสร้างสรรค์หางานอดิเรกอย่างวาดรูปหรือเล่นดนตรี ผลงาน
ศิลปะอันยิ่งใหญ่จำนวนมากเป็นการสร้างสรรค์ของเพศที่ได้ชื่อว่าเก็บกด ที่สุด
ระบายความเครียดและโกรธด้วยการออกกำลัง

ผู้หญิงต้องรู้

“ชายก็เหมือนปูเสฉวน” คริสกล่าว “ถ้าเปิดเผยความรู้สึกแล้วต้องเจ็บปวดเพิ่ม
เราจะหดกลับเข้าไปในกระดองและไม่โผล่หัวออกมาอีก เราไม่ยอมให้ใครมา
ถากถางหรือเยาะเย้ยเราต้องบ่มตัวเองอยู่นานกว่าจะรู้สึก ปลอดภัย”
ต่อไปนี้เป็นวิธีที่ผู้หญิงสามารถทำได้เพื่อช่วยให้ผู้ชายข้างกายรู้สึกสบายใจ
ที่จะแสดงความรู้สึก

เวลาพูด ให้อยู่”เคียงข้าง” แทนที่จะ “ประจันหน้า” นักจิตวิทยากล่าวว่า
การยืนเผชิญหน้ากับผู้ชายจะทำให้เขารู้สึกว่าถูกท้าทายและยั่วยุ เพราะฉะนั้น
แทนที่จะนั่งตรงข้ามกับสามี ควรนั่งข้างๆ เขา

ทำกิจกรรมประเภทกีฬาร่วมกัน เวลาปั่นจักรยานหรือเดินป่า ปราการในหัวใจ
ผู้ชายจะอ่อนบางลง ดังนั้น จึงควรปล่อยให้เรื่องราวต่างๆ ผุดขึ้นมาอย่าเร่งเร้า
ให้พูดเวลาเดิน เพราะเขาอาจปิดปากเอาดื้อๆ

หัดดูหนังชีวิตแบบผู้ชาย หนังชีวิตเกี่ยวกับกีฬาทำให้ผู้ชายไม่น้อยซึ้งถึงกับ
น้ำตาซึม “กีฬาเป็นเครื่องยึดโยงระหว่างผู้ชายกับพ่อ สำหรับผู้ชายนี่คือราก
ฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อ” อย่าพยายามวิเคราะห์หรือ
วิจารณ์ชีวิตวัยเด็กของเขา

อย่ากดดันให้เขาพูดว่าผจญอะไรมาบ้างในวันเลวร้ายสุดๆ “ถ้าวันไหนทุกอย่าง
แย่ไปหมด เขาเองก็ไม่อยากพูดถึงความเจ็บปวดแบบนี้หรอก” นักจิตวิทยากล่าว
“จะมีประโยชน์อะไรกับการนั่งคุยเรื่องหดหู่ตลอดค่ำในเมื่อไม่ช่วยให้แก้ ปัญหาได้”

แสดงออกไม่ต้องพูด การพูดคุยอาจเป็นวิธีแสดงอารมณ์ที่ผู้หญิงนิยมใช้มากที่สุด
“ผู้ชายแสดงอารมณ์ด้วยภาษากาย” นักจิตวิทยากล่าวว่า “เพศสัมพันธ์เป็นวิธี
แสดงความรักอีกอย่าง” แทนที่จะบีบคั้นให้ผู้ชายถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็น
คำพูดทางที่ดีควรหัดพูด ภาษาของเขา

หาทางทำให้เขาทราบเมื่อคุณต้องการกำลังใจ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย
โทเลวิจัยพบว่าสามีอาจอ่อนแอและต้องการกำลังใจไม่ ต่างจากภรรยา เพียงขึ้น
อยู่กับจังหวะเวลาเท่านั้น “ผู้ชายไม่ถึงกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่ภรรยาต้องทำให้
เขาทราบว่าตัวภรรยาเองต้องการอะไรและเมื่อไหร่”

บอกสามีว่าเขามีความหมายต่อคุณเพียงไร “เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังให้ถามสามีว่า
“ทุกวันนี้ ฉันทำให้คุณรู้สึกชื่นชมและให้เกียรติคุณน้อยกว่าเมื่อตอนเจอกันครั้งแรก
หรือเปล่า” จิตแพทย์แนะ “บอกเขาว่าคุณรู้สึกว่าตัวเองรู้สึกโชคดีมากที่ทีเขามาร่วม
ชีวิตด้วย และขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกให้รู้เช่นนั้นบ่อยๆ เชื่อว่าคุณผู้ชายจะต้อง
ถึงอ้าปากค้างแน่นอน”

หวังว่า บทความย่อมานี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจคนข้างกายมากขึ้นนะค่ะ ผู้หญิงเรานะ
อ่อนนอกแต่เข้มแข็งในมากกว่าพวกเขา 1000 เท่าค่ะ

อ่านกระทู้แทบทุกวัน พยายามจะเข้ามาขอบคุณ คุณกอบัว คุณเด็กหญิงส้มโอ คุณดอกไม่ไหว คุณแก้วจ๋า อยู่หลายครั้งแต่ส่งข้อความไม่ได้ทุกครั้งที่เข้า ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เลยได้แต่นั่งอ่านหาข้อมูล อันไหนอยากจะถามก็ใช้วิธีสืบค้น และก็มีคำตอบทุกครั้ง อยากบอกว่า "ขอบคุณชมรมฯ และทุกท่าน มากๆๆๆๆ"
การเจรจาต่อรองก็เป็นไปในแนวทางที่ทุกคนเจอ ดีบ้าง ร้ายบ้าง ก็ต้องทน
และได้ทำ HC เพิ่มได้อีก ดังนี้
- GCS ยอดหยุด 152,674 จ่ายปิด 85,000จ่ายเมื่อ 28/6/56
- แสตนดาร์ด ยอดหยุด 60,502 จ่ายปิด 41,000 จ่ายเมื่อ 7/8/56
- City ยอดหยุด 56,887 จ่ายปิด 42,000 จ่ายเมื่อ 15/10/56

ณ ปัจจุบัน
- UOB ฟ้องรวม 3 ใบ เลื่อนศาลมา 1 ครั้ง เลื่อนเป็นปลายเดือน พ.ย. 56
ให้เหตุผลศาล "ขอไปเจรจากับธนาคารโดยตรง" ข้อเสนอที่ศาล จ่ายยอดฟ้อง 12 งวดเท่านั้น ระหว่างผ่อนคิดดอก 13%
- KTC ฟ้องรวม 2 ใบ นัดปลายเดือน พ.ย. 56
- ธนชาต คงฟ้องเร็ว ๆ นี้ เพราะจดหมายบอกกล่าวทวงถามส่งมาเมื่อวาน
และโทรมาไม่เคยลดต้นให้ จะให้จ่ายต้นพร้อมดอกเบี้ยงวดเดียว(ลดดอกนิดหน่อย) รอไปก่อนน่ะยังไม่มีจ่าย
- TMB เจรจากันด้วยดี ไม่พูดมากเห็นอกเห็นใจให้จ่ายยอดตอนหยุดและลดให้ประมาณ 10,000 บาท (ก็คือดอกเบี้ยของเดือนที่หยุดนั้นแหละ) ยังไม่ตกลงเพราะเงินไม่มีพอ
- การดูส่วนลดของแ่ต่ละที่เราจะยึดยอด ณ เดือนที่หยุดจ่ายเป็นหลัก จะไม่ดูยอด ณ เืดือนปัจจุบันที่ส่งมาเพราะตัวเลขสูงมากมันทำให้เราท้อแท้ ดังนัั้นถ้าที่ไหนให้ส่วนลดจากยอดหยุดเราก็พิจารณา
- การไปศาล UOB ก็ไม่มีอะไร ศาลใจดี คุยกับ จนท.สำนักงานกฎหมายที่มาช่วยทนาย น้องเค้าก็น่ารักพูดง่ายเลื่อนก็เลื่อน แถุมบอกเราว่าแบงค์เค้าไม่ดูยอดเลยให้ผ่อนแค่นี้ใครจะไปจ่ายไหวเป็นเค้าเองก็คงไม่ไหวเหมือนกันและแนะนำให้ไปเจรจาดู ตอนแรกเราไม่ได้คุยกับทนายโดยตรงเพราะอยู่อีกบันลังค์หนึ่ง พอเจอเราก็บอกน้องเลื่อนไปก่อนน่ะพี่จะไปเจรจากับแบงค์ ถ้าเจรจาไม่ได้ค่อยว่ากันในนัดหน้า ศาลนัด 9.00 น. ศาลนั่งบันลังค์ 9.15 ประมาณ 9.30 เราก็ได้เอกสารแล้วกลับบ้าน ศาลมีระบบการทำงานที่ดีมาก
ระหว่างนั่งรอเอกสารก็ฟังการพิจารณาคดีอื่นไปด้วยอีก 2 คดี คดีหนึ่งยอดสูงมากจ่ายแล้ว 4 แสน ค้างอีก 8 แสน บอกศาลว่าจะหามาจ่ายแต่ขอเลื่อนไปก่อนโดยทนายจำเลยเลื่อนเป็นปลาย พ.ย. และจำเลยก็ไม่พูดอะไร แต่ศาลพูดว่ายอดสูงนะให้โอกาสเค้าเลื่อนออกไปอีกหน่อยดีไหมท่านเป็น ธ.ค. นะ หรือ ม.ค. ก็ดีนะ ตกลงทนายโจทก์ก็เลื่อนให้เป็น ม.ค. 57 ศาลใจดีมาก ๆ สมกับบุคคลิกที่สง่างามดูมีเมตตาปราณี

หลังจากเลื่อนศาลของ UOB แล้ว ก็ได้โทรเข้าไปที่แบงค์โดยตรงเลยเพื่อเจรจาดู ก็บอกเค้าไปว่าเป็นบุคคลที่ 3 ถ้าตกลงยอดกันได้ก็จะชำระแทนให้จะได้จบกันไป ก็คุยกันประมาณ 4 ครั้ง จากทุนทรัพย์ฟ้อง 248,xxx ต้นเงิน 221,xxxจ่ายงวดเดียว 180,000 บาท ได้รับหนังสือยืนยันภาระหนี้บัญชี ตรวจสอบความถูกต้องไปจ่ายปิดมาแล้วค่ะ
TMB ยอดหยุด ณ มี.ค. 56- 107,xxx บาท คุยกับสนง.กฎหมายมาตลอดไม่มีนโยบายลดให้มากเหมือนที่อื่น ณ ปัจจุบันก็ยังยืนยันให้จ่ายที่ 97,xxx บาท 2 งวด คุยกับแบงค์โดยตรงก็ไม่ให้มากกว่านี้ ถ้าจะผ่อน 4 งวดคิดยอดเต็ม เราเลยผ่อน 2 งวด แต่ขอเริ่มสิ้นเดือน พ.ย. นี้
KTC รอขึ้นศาล
ธนชาต บอกว่าิสิ้นเดือนนี้ถึงกำหนดส่งฟ้องแล้ว ก็คงยอมให้ฟ้อง เพราะเสนอมาแต่ละที่ให้จ่ายยอดเต็มบวกดอกเบี้ยทุกครั้ง ครั้งสุดท้ายลดให้ตั้ง 300 ใครจะไปจ่ายไหวยอดเกือบสองแสนงวดเดียว เข้จริง ๆ

ส่งข่าวมาบอกพี่ๆ น้องๆ ค่ะ
ส่วนลดธนชาตมาแล้วค่ะ มีหนี้ของธนชาตทั้งหมด 3 บัตร คุยกับสำนักงานกฎหมายมาตลอดส่วนลดน้อยมากตามที่เคยแจ้งไว้ วันหนึ่งตัดสินใจโทรฯเข้าไปสำนักงานกฎหมายอีกครั้ง ยิงคำถามไปตรง ๆ เลยว่าพี่พอมีเงินที่จะปิดบัตรบ้างแล้วมีส่วนลดให้หรือไม่จะได้จบๆ กันไป จนท.พูดว่าเดี่ยวโทรกลับ เราก็ย้ำว่าน้องช่วยดูให้หน่อยนะจะได้จบ ๆ ถ้าสูงเกินไปพี่ก็จ่ายไม่ได้ หลังจากนั้นก็โทรมาบอกว่าจ่ายวันนี้พรุ้งนี้ได้เลยหรือไม่ เราบอกว่าพร้อมถ้ายอดวินวินทั้งสองฝ่าย ยอดปัจจุบัน 59,xxx ให้จ่ายปิด 36,xxx, เราตกลงทันทีึ่่ ชำระเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น เราก็โทรไปอีกสำนักงานหนึ่งที่ดูแลอีก 2 บัตร บอกน้องเค้าว่าบัตรพี่ใบหนึ่งเค้าให้ส่วนลดพี่แล้ว น้องดูให้พี่หน่อยนะถ้าได้ส่วนลดเท่ากันพีึ่่จะหาจ่ายให้ทันที่ น้องเค้าก็บอกว่านโยบายบริษัทไม่เหมือนกันแต่จะดูให้ และย้ำเราว่าถ้าได้ปิดวันนี้พรุ้งนี้เลยนะ เราก็บอกว่าถ้ายอดจ่ายพี่ไหวก็ทันทีเลย สรุปจากยอดปัจจุบัน 99,xxx ปิดจ่าย 60,xxx
ชำระเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ก็รอคอย TMB และ KTC ต่อไป หวังว่าสักวันคงใจอ่อนกับลูกหนี้บ้างนะ

สุดยอดเลยคับ ปิดไปได้หลายตัวเลย เป็นกำลังใจให้อีกคนนะคับ
สักวันเราต้องทำได้แบบนี้บ้าง เลือกเป็นกระทู้โปรดเลย
จะติดตามอ่านนะคับ

ขอบคุณค่ะ Khun natoya เป็นกำลังใจให้คุณเช่นกันค่ะ

เราพยายามอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ของหลาย ๆ ท่านที่อยู่ในชมรมฯนี้ และนำมา
ประยุกต์ใช้กับตัวเองค่ะ ยามเมื่อท้อจะนึกถึงคุณกอบัว คุณนกกระจอกเทศ คุณดอกไม้ไหว พี่ลี่ และอีกหลาย ๆ ท่านที่ให้ข้อคิดและวิธีการไว้ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมากค่ะ ทั้งหมดที่คุยกับเจ้าหนี้ เราคุยในฐานะบุคคลที่สามค่ะ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทวงถามจะไม่ค่อยกล้าพูดไม่ดีกับเราค่ะ แต่ก็มีหลายเจ้าค่ะติดนิสัยไม่ดีในการทวง เราก็จะบอกว่า น้องขอคุยแบบ ปิยะวาจานะค่ะ รู้จักไหมค่ะ เราเป็นบุคคลที่สามที่จะมาีรับชำระให้นะค่ะไม่ใช่ลูกหนี้โดยตรง ถ้าคุยแบบนี้น้องก็โทรไปที่ลูกหนี้โดยตรงนะค่ะ" ก็ OK กันไปค่ะ แต่ก็มีของซิตี้ค่ะที่ยังงี่เง่าบอกไม่คุยกับเรา ถ้าจะให้คุยให้เราทำหนังสือมอบอำนาจจากลูกหนี้มาและส่งสำเนาบัตร ปปช.ของเราให้มัน เราไม่ส่งและก็ไม่คุยด้วยเลย ถือว่ามรึงไม่อยากได้เงินก็เรื่องของมรึง หลังจากนั้นเราก็ปล่อยเลย สุดท้ายก็โทรมาหาเราแต่เปลี่ยนคนโทรก็ต่อรองกันไปมา ยอดที่ต่อรองครั้งสุดท้ายน้องเค้าบอกว่าให้ไม่ได้ให้เราคุยกับหัวหน้าเค้าเอง เราถามชื่อหัวหน้าเค้าพอดีเราจำได้ก็นังคนที่ไฟว์กับเรานั้นแหละ เราเลยบอกน้องเค้าไปว่าเราไม่คุยกับคนนี้เพราะเราไม่ได้ส่งหนังสือมอบอำนาจให้เค้่า เค้าจึงไม่คุยกับเรา แต่ถ้าจะให้เราคุยด้วยตอนนี้ให้นังคนนี้ส่งหนังสือมอบอำนาจจากแบงค์ให้เราดูก่อนเราถึงจะคุย(ย้อนศรมันซะเลย 555) แล้วบอกว่าไปคุยกันเองเราไม่คุยด้วย ถ้า OK
ยอดนี้ก็โทรมาเราได้เลย
-ทุก ๆ ที่ จะให้เราส่งสำเนา ปปช.ของเราให้ และเขียนว่ารับชำระหนี้ให้กับบัตรหมายเลข........ เราพูดเลยว่าให้ไม่ได้ทำไมจะต้องให้มีผลผูกพันทางกฎหมายกับตัวของพี่ พี่ไม่ใช่ลูกหนี้ น้องต้องเค้าใจน่ะ แต่ถ้าเป็นของลูกหนี้โดยตรงพี่ส่ง เอกสารที่ส่งให้ทุก ๆ ที่ คือ
-สำเนาบัตร ปปช.ของลูกหนี้ และเขียนคาดบนบัตรตัวโต ๆ หนา ๆ เลยว่า "ใช้ขอส่วนลดเพื่อชำระปิดบัญชีเท่านั้น"
- เอกสารหน้าฟ้อง โดยลบนามสกุล, ที่อยู่ หมายเลขดำบางส่วน
- เอกสารทวงหนี้จากสำนักงานกฎหมาย โดยลบนามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรสมาชิก ส่งให้ที่ละ 2-3 รายการเท่านั้นไม่ต้องส่งไปมาก

เก่งมากคะ...คุณเก้าแสน...

เป็นสมาชิกมา 7 เดือน...เดินตามแนวทางของชมรมฯ

ปิดไปได้หลายไบ..ส่วนลดดีๆ

คำถามมีน้อย..เพราะว่าหมั่นหาอ่าน..ค้นคว้า...

อยากให้สมาชิกทุกคน..เป็นแบบนี้คะ..ขยันค้นคว้า..ขยันอ่าน..

ทุกอย่างที่มีให้น่าจะครอบคลุมทุกเรื่องแล้ว..ขอเพียงขยันเท่านั้น...

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...ไม่นานก็หมดหนี้..

หยุดธนชาตินานรึยังคะ เรื่องอยู่ที่สนง.ไหนคะพี่ ขอบคุณค่ะ

ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลยค่ะ เนื่องปัญหาต่าง ๆ หลายด้าน
เรื่องการชำระบัตรเครดิตต่าง ๆ ของสามีปัจจุบันจ่ายหมดเกือบทุกบัตรแล้ว คงเหลือแต่ของ KTC ซึ่งขึ้นศาลไปแล้วและตกลงผ่อนชำระไม่เกิน 12 งวด ที่ต้นเงินค่ะ ระหว่างชำระไม่ต้องเสียดอก ส่วนของ TMB ผ่านมา 10 เดือนก็ยืนยันให้ชำระที่ยอดเดิม จนท.บอกธนาคารไม่มีนโยบายลดมากกว่านี้ เคยขอผ่อนประมาณ 6-5-4-3 เดือน ก็ไม่ได้รับการอนุมัติ สรุปให้ผ่อนแค่ 2 เดือน ทางจนท. บอกว่าถ้าขึ้นศาลแล้วจะคุยยากเค้าจะให้จ่ายณ ยอดฟ้อง(ต้น + ดอกเบี้ย ณ ยอดปัจจุบัน) ก่อนตกลงผ่อน เราหาโอกาสไปศาลไปฟังคดีของ TMB ในคดีของคนอื่นก็เป็นไปตาม จนท.พูด เราก็เลยคิดว่าของเราเค้าลดให้จากยอดเงินตอนที่หยุดหมื่นกว่าบาท ก็เลยตกลงผ่อน 2 เดือน
การดำเนินการต่าง ๆ ที่ทำให้เราสามารถชำระหนี้ได้โดยเร็ว เพราะเราศึกษาแนวทางจากชมรมฯ อ่านเรื่องราวต่าง ๆของรุ่นพี่และนำมาปรับ
ใช้กับตัวเรา ค้นหาคำตอบที่สงสัย แนวทาง คำแนะนำ จากในชมรมฯ ทั้งนั้น
เราขอขอบคุณทุก ๆ ท่านจากใจจริงซักร้อยครั้งที่ทำให้เราหลุดพ้นวงจรบัตรเครดิต(นรก) นี้ได้ ณ ปัจจุบันถึงแม้ว่าเราจะต้องผ่อนชำระเงินที่ไปหยิบยืมมาเพื่อชำระหนี้บัตรเครดิต แต่มันก็ไม่หนักเท่ากับการหมุนจ่ายเป็นแสน ๆ ต่อ
เดือน มันยังพอมองเห็นโอกาสหมดหนี้ในอนาคตได้บ้าง เราจะสู้ต่อไปค่ะ

ธนชาต ติดอยู่สองบัญชี ให้ส่วนลดน้อยมาก ... อยากได้แบบ สนง. จขกท. จังเลย จะได้จบๆ ซะที..