จะทำยังไง ดีครับ มันเป็นบัตรคนอื่น+กับของตัวเอง​

ยอดหนี้ทั้งหมด
1. เฟิร์สช้อยส์ 43,000 (ของคนอื่น)
2. เฟิร์สช้อยส์ 44,000 (ของคนอื่น)
3. อิออน 18,000 (ของคนอื่น)
4. อีซี่บาย 23,000 (ของคนอื่น)
5. อีซี่บาย 12,000 (ของคนอื่น)

ขั้นต่ำเดือนละ 6,600


6. อิออน 35,000 ตัวเอง
7. เฟิร์สช้อยส์ 24,000 ตัวเอง
8. อีซี่บาย 18,000 ตัวเอง
9. พาวเวอร์บาย 5,000 ตัวเอง

ขั้นต้่า เดือนละ 5,700

10 งวดรถ+ค่าบ้าน นมลูก+ โรงเรียนลูก+อื่นๆ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน = 20,000


รายได้ 29,000-
ติดลบ 3,300

ผมจะใช้วิธี แฮร์คัต บัตรตัวเองได้ไหม สัก 2 ปี จะได้ไหมครับ
รบกวนแนะนำหน่อยครับ

Tjclub เขียน: ยอดหนี้ทั้งหมด
1. เฟิร์สช้อยส์ 43,000 (ของคนอื่น)
2. เฟิร์สช้อยส์ 44,000 (ของคนอื่น)
3. อิออน 18,000 (ของคนอื่น)
4. อีซี่บาย 23,000 (ของคนอื่น)
5. อีซี่บาย 12,000 (ของคนอื่น)

ขั้นต่ำเดือนละ 6,600


6. อิออน 35,000 ตัวเอง
7. เฟิร์สช้อยส์ 24,000 ตัวเอง
8. อีซี่บาย 18,000 ตัวเอง
9. พาวเวอร์บาย 5,000 ตัวเอง

ขั้นต้่า เดือนละ 5,700

10 งวดรถ+ค่าบ้าน นมลูก+ โรงเรียนลูก+อื่นๆ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน = 20,000


รายได้ 29,000-
ติดลบ 3,300

ผมจะใช้วิธี แฮร์คัต บัตรตัวเองได้ไหม สัก 2 ปี จะได้ไหมครับ
รบกวนแนะนำหน่อยครับ

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ชมรมคนเป็นหนี้ค่ะ...การแฮร์คัต บัตรตัวเอง

ทำได้แน่นอนค่ะ.. แต่คุณต้องรู้ก่อนว่า กระบวนการที่จะไปให้ถึงขั้นตอนนั้น เป็นอย่างไร

และคุณต้องเจอกับอะไรบ้าง คุณได้ศึกษาข้อมูลการปลดหนี้แล้วหรือยัง..

หากยังก็ไปอ่านนะคะ มันอยู่ในห้อง ถามตอบ ปัญหาหนี้

หัวข้อที่เรียกว่า วิธีแก้ไขหนี้ ที่ทุกคนต้องอ่าน...พอดีน้ำมนต์วางลิงค์ไม่เป็น

เข้าไปศึกษานะคะ หรืออาจจะมีบางท่าน มาวางลิงค์ให้อ่านค่ะ..

ยังไงก็ช่วยเหลือตัวเองก่อนนะคะ

ขอให้โชคดีค่ะ

ผมได้ศึกษา อ่านกระทุ้ ปักหมุดแล้วก็ตัวอย่างต่างๆๆ หลายๆกรณีแล้วครับ

ขอบคุณนะครับที่ให้ การแนะนำ




แต่กรณีของผม คือผมได้ยิืมบัตรของคนอื่นกดเงินครับ เท่าที่ผมลองสืบค้นผมหาไม่เจอครับ

หรือใครเจอ หัวข้อ หรือบทความคลายกรณีแบบผมกรุณา รบกวน แปะ link ให้ผมด้วยครับ

ขอบพระคุณอย่าสูง แต่ผมลองคำนวนดูแล้วผมจะผ่อนขั้นตำ่ไปเรื่อยๆครับ (บัตรคนอื่นนะ)

ส่วนบัตรตัวเองก็ผ่อนไปกดไปรอบัตรคนอื่นหมดก่อนแล้วค่อยหาทาง ปิดโดยเร็ว

Tjclub เขียน: ผมได้ศึกษา อ่านกระทุ้ ปักหมุดแล้วก็ตัวอย่างต่างๆๆ หลายๆกรณีแล้วครับ

ขอบคุณนะครับที่ให้ การแนะนำ




แต่กรณีของผม คือผมได้ยิืมบัตรของคนอื่นกดเงินครับ เท่าที่ผมลองสืบค้นผมหาไม่เจอครับ

หรือใครเจอ หัวข้อ หรือบทความคลายกรณีแบบผมกรุณา รบกวน แปะ link ให้ผมด้วยครับ

ขอบพระคุณอย่าสูง แต่ผมลองคำนวนดูแล้วผมจะผ่อนขั้นตำ่ไปเรื่อยๆครับ (บัตรคนอื่นนะ)

ส่วนบัตรตัวเองก็ผ่อนไปกดไปรอบัตรคนอื่นหมดก่อนแล้วค่อยหาทาง ปิดโดยเร็ว

บัตรของคนอื่นมันก็คล้ายหนี้นอกระบบที่คุณยืมเงินคนอื่นมาแหละครับ ส่วนเงินนั้นคนอื่นเขาก็ยืมจากบัตรต่างๆมาอีกที

ในทางกฎหมายเจ้าของบัตรต้องเป็นผู้รับผิดชอบวงเงินในบัตรตัวเองทั้งหมด ไม่ว่าใครจะเป็นคนใช้เงินก็ตามครับ ในกรณีที่คุณหยุดจ่ายทั้งของตัวเองและบัตรของคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดกับคุณก็จะเกิดกับเจ้าของบัตรด้วยเช่นกันครับ รูปแบบเดียวกันเลย

ผมก็ไม่ทราบว่าคนอื่นที่คุณบอก มีความสำพันธ์ยังไงกับคุณถึงให้บัตรคุณมาใช้วงเงินไม่ใช่น้อยๆ ถ้าคุณคุยได้ก็ลองดูครับ

เรื่องระยะเวลาในการจบหนี้ไม่แน่นอนหรอกครับขึ้นอยู่กับกำลังในการออม แต่เท่าที่อ่านคือคุณตั้งใจจะหยุดจ่ายของตัวเองแล้วเคลียร์ของคนอื่นก่อน ซึ่งก็จะทำให้เก็บเงินไม่ได้ หรือได้น้อย ก็ลองศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการฟ้องร้อง และการอายัด เผื่อไว้ด้วยนะครับ

ผมได้ศึกษา อ่านกระทุ้ ปักหมุดแล้วก็ตัวอย่างต่างๆๆ หลายๆกรณีแล้วครับ

ขอบคุณนะครับที่ให้ การแนะนำ




แต่กรณีของผม คือผมได้ยิืมบัตรของคนอื่นกดเงินครับ เท่าที่ผมลองสืบค้นผมหาไม่เจอครับ

หรือใครเจอ หัวข้อ หรือบทความคลายกรณีแบบผมกรุณา รบกวน แปะ link ให้ผมด้วยครับ

ขอบพระคุณอย่าสูง แต่ผมลองคำนวนดูแล้วผมจะผ่อนขั้นตำ่ไปเรื่อยๆครับ (บัตรคนอื่นนะ)

ส่วนบัตรตัวเองก็ผ่อนไปกดไปรอบัตรคนอื่นหมดก่อนแล้วค่อยหาทาง ปิดโดยเร็ว


ที่คุณบอกว่า "ผมลองสืบค้นผมหาไม่เจอครับ" ก็คุณอ่านในกระทู้ปักหมุดสีแดง หมดหรือยัง
ถ้าคุณอ่าน 4 ห้องหมดแล้ว คำถามของคุณมันมีคำตอบอยู่แล้วค่ะ

บัตรคนอื่น หรือ บัตรตัวเอง มันก็คือหนี้ของเรา บัตรคนอื่นที่เราไปเอาเขามาใช้ ถ้าเราไม่ใช้เจ้าหนี้เขาก็ทวงกับชื่อเจ้าของบัตร นั่นแปลว่า คุณกำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับชื่อเจ้าของบัตร อย่างใหญ่หลวงที่สุด ปัญหาของคุณๆบอกว่าจะเคลียร์บัตรตัวเองก่อน อ้าว แล้วบัตรคนอื่นที่คุณเอาไปใช้ ปล่อยให้เขาเจอคนทวงหนี้โหดเองเหรอคะ โฮย พี่ล่ะตกใจมาก

เขาใจดีเอาบัตรให้คุณใช้ แต่คุณกลับจะสร้างปัญหาให้เขา ถ้าพี่เป็นชื่อเจ้าของบัตร พี่คงอยากจะบ้า

แต่ไหนๆ ก็มาเกิดปัญหาหนี้แล้ว แล้วคุณจะไปกดเงินจากบัตรนี้ไปจ่ายบัตรนั้น นี่ก็แสดงว่าคุณยังไม่ได้อ่าน "วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน" เล้ย คุณจะแก้หนี้แบบนี้ ชมรมฯ ไม่เคยแนะนำให้ทำ เพราะมันจะสร้างปัญหาให้บานปลาย ขยายออกไปอีก จากหนี้ 1 บาทจะกลายเป็น 2 บาท จาก 2 บาทจะกลายเป็น 4 บาท มันทวีคูณนะคะ จาก 4 มันจะเป็น 8 จาก 8 มันจะเป็น 16 คุณคิดเอาก็แล้วกันว่าอนาคตทำแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณไม่รู้ คุณต้องไปอ่าน "วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน" ให้รู้เรื่องก่อนนะ

การแก้ปัญหาที่ถูกวิธี คือ การช่วยเหลือให้สมาชิกเจ็บตัวน้อยที่สุด คุณต้องอ่านๆๆๆๆๆๆๆๆนะคะ

เป็นบัตรของแฟนเก่าผมครับ พ่อยอด





บัตรคนอื่น หรือ บัตรตัวเอง มันก็คือหนี้ของเรา บัตรคนอื่นที่เราไปเอาเขามาใช้ ถ้าเราไม่ใช้เจ้าหนี้เขาก็ทวงกับชื่อเจ้าของบัตร นั่นแปลว่า คุณกำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับชื่อเจ้าของบัตร อย่างใหญ่หลวงที่สุด ปัญหาของคุณๆบอกว่าจะเคลียร์บัตรตัวเองก่อน อ้าว แล้วบัตรคนอื่นที่คุณเอาไปใช้ ปล่อยให้เขาเจอคนทวงหนี้โหดเองเหรอคะ โฮย พี่ล่ะตกใจมาก


เขาใจดีเอาบัตรให้คุณใช้ แต่คุณกลับจะสร้างปัญหาให้เขา ถ้าพี่เป็นชื่อเจ้าของบัตร พี่คงอยากจะบ้า

ผมสร้าปัญหาตรงไหนครับ ผมแค่ถามว่า จะ H/C บัตรตัวเอง สัก2 ปีได้ไหมซึ่งผมก็ได้อ่านเรื่องการฟ้องการ การอายัด แล้วครับ แต่ผมมาคำนวนอีกที มันทำไม่ได้ เพราะ เราจะเก็บเงินไม่ได้เพราะเราต้องผ่อนบัตรคนอื่นอยู่ ผมเลยต้องผ่อนขั้นต่ำไปทุกบัตร

ผมไม่ได้มีอคติอะไรนะครับ ที่ผมแย้ง แต่ผมเห็นว่า มองประเดนผมผิด ไปหรือเปล่าครับ เลยว่าผมจะไม่จ่ายบัตรคนอื่น

ปล พ่อยอดเข้าใจถูกแล้วครับ


******* ตรงไหนหรอครับที่ผมบอกว่าผมจะใช้บัตร ตัวเองก่อน **************

1 ผมหมายถึงว่า ผมจะผ่อน ขั้นต่ำทุกๆ บัตรนั้นและครับ ผมไม่ได้บอกว่าผมจะไม่จ่ายบัตรคนอื่น
2 แล้วที่ผมบอกจะ จ่ายแล้วกดออกมาก็แค่ ไม่เกิน 1000 บาท ของบัตรตัวเอง บัตรใดบัตร1เท่านั้น แล้วผมก็แค่จะกดแค่3เดือนเท่านั้น เพราะผมเพิ่งทำงานใหม่ยังไม่ผ่านโปรถ้าผ่านผม จะได้เงินเพิ่มมาอีก ซึ่งผมก็จะพอจ่าย

3 เพราะผมมาคำนวนดูแล้วผมใช้วิธี การจ่ายขั้นต่ำเพื่อรักษาบัญชีและเครดิต จะดีกว่า บัตรคนอื่นก็ไม่เสีย บัตรตัวเองก็ไม่ เสีย
4.ขอบคุณครับทุกๆ ท่าน ที่ให้คำแนะนำครับ ผมได้มาเจอเวปนี้ทำให้ผมตาสว่างมากขึ้นเลยครับ

ผมว่าคุณหยุดของตัวเองไปก่อนดีกว่าครับ เงินส่วนที่จ่ายขั้นต่ำของบัตรตัวเอง 5500 เอามาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่ขาด และไปจ่ายของแฟนเก่าคุณให้หมดไปก่อนโดยต้องจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำไปเรื่อยๆ จะได้จบๆเรื่องไปก่อน

แล้วค่อยมาจัดการหนี้บัตรตัวเอง บัตรคุณเองไม่อยู่ในข่ายฟ้องเร็ว น่าจะยังพอมีเวลาตั้งหลักได้

ถ้ายังคงจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ทุกใบแล้วไม่พอใช้ยังต้องกดมาอีก เรื่องจะยาวไปเรื่อยๆ ไม่จบซะที พวกบัตรกดเงินดอกเบี้ยมันสูง จ่ายขั้นต่ำไปบางทีไม่แตะเงินต้นเลยเก็บเงินไว้ดีกว่ามั้ง ลองคิดดูนะครับ ไม่ได้บังคับ ทางเลือกเป็นของคุณเอง


ปล.ใจเย็นๆนิดนึงนะ ใจเย็นๆ บางทีคุณอธิบายไว้ไม่เยอะ อาจทำให้เข้าใจผิดกันได้ครับ

คงต้องใช้วิธี HC แหละครับ วิธีอื่นคงจัดการหนี้ไม่ได้

บัตรของคนอื่นที่ยืมเค้ามา ก็คงหยุดจ่ายไม่ได้ ถ้าหยุดก็คงมองหน้ากันไม่ติดแน่นอน... ที่หยุดจ่ายได้คงแค่บัตรของตัวเอง

ตอนนี้ติดลบอยู่ 3,300 บาท เมื่อหยุดจ่ายของตัวเองที่ต้องจ่ายขั้นต่ำเดือนละ 5,700 บาท คุณก็มีเงินสำหรับเก็บ HC หนี้เดือนละ 2,400 บาท เก็บเงิน 1 ปี ก็มีเงินก้อนประมาณ 24,000 บาท (ไม่แน่นอนครับว่าหยุดจ่ายกี่เดือน เจ้าหนี้ฟ้อง แต่ส่วนใหญ่ไม่น่าเกิน 1 ปี) เงินก้อนที่น่าจะพอ HC ได้หมดน่าจะประมาณ 5-6 หมื่น (ในความเห็นผมนะ)

ดังนั้นคงไม่สามารถ HC ได้ทันทั้งหมดก่อนเจ้าหนี้ฟ้อง นอกเสียจากว่าคุณจะประหยัดเงินส่วนอื่นเพิ่มเติมได้มากกว่านี้

ลองไปดูก่อนที่คุณบอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเดือนละ 2 หมื่น ว่าพอจะลดค่าใช้จ่ายตัวใดลงได้บ้างมั๊ย

หากเก็บเงิน HC ไม่ทันก่อนเจ้าหนี้ฟ้อง ก็ไม่เป็นไร มันมีทางให้ออกเสมอ ลองไปอ่านกระทู้เก่าๆดูนะครับ

คือผมได้หยุดจ่ายหนี้ 10,000 ไปนานละก็ มีคน มาทวงบ้างไม่ทวงบ้าง ผมจ่ายเจ้าอื่นอยู่ เจ้านี้ไม่ได้จ่าย
ผ่านไป2-3 ปีอยู่ๆ โทรมาทวงที่บริษัท ผมก็เจรจา จะผ่อนจ่ายให้

เดือนละ 1000 แต่มีข้อตกลงว่าต้องส่งใบ แจ้งที่ผมชำระแล้ว กลับมาด้วย เข้าก็ไม่ส่ง ผมโทรไปที่เบอร์ที่เขาให้ไว้ติดต่อไม่ได้ ผมเลยหยุดจ่ายไป จะครบ1 ปีแล้ว ผมโดนหลอกไหมครับ

แล้วเมื่อวันก่อนโทรมาอีกละ ที่เดิมเลย บอกว่า มาจาก สํานักกฎหมาย ธรรมสาส์น บอกให้ผมชำระ ผมก็บอกขอจ่ายครึ่งเดียวเขาก็ ok แต่ผม บอกว่าจะรู้ได้ไง ว่าไม่หลอกผมอีก

ผมหาเบอร์โทรที่เขาโทรมาหา จากอินเตอร์เนตก็ไม่มี ผมขอเบอร์มือถือเขาก็ไม่ให้

ผมเลยบอกว่าให้ส่งเอกสารการชำระหนี้ มาที่บ้าน เขาบอกว่าถ้าชำระแล้วเขาจะเคลียเรื่องคดีให้ ผมโดนหรอกไหมครับ

แล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดีครับ ที่เราจะเช็คว่า สำนักงานกฏหมายนี้ไม่หลอกเรา

คือผม อยากรู้ว่า สำนักงานกฏหมาย ส่งเอกสารมาให้แล้วเราไปจ่าย เราจะรู้ได้ไงครับว่าไม่โดนหลอก