ปัญหาจากสัญญาค้ำประกัน โดนหักเงินจาก Slip เงินเดือน

รบกวนทุกท่าน อยากขอคำแนะนำหน่อยครับ

ขอเกริ่นคราวๆก่อนนะครับ ปัจจุบันผมเป็นพนักงานบริษัท มีเงินเดือน 24,000
ต้องโดนหักเงินเดือน จ่าย เงินกู้ โครงการพนักงานบริษัท อยู่ 2 ตัว
1.ธนาคารธนชาติ ยอดเงิน 146,545 ค่างวด 4,200 บาท *หักจาก Slip
2.ธนาคารออมสิน ยอดเงิน 480,000 ค่างวด 6,200 บาท *หักจาก Slip
(หักค่าประกันสังคม , เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ) รายรับสุทธิใน Slip จะเหลืออยู่ประมาณ 12,000
ซึ่งเงิน 12,000 ก็ใช้กินอยู่ , เลี้ยงลูก 2 คน , จ่ายค่าบัตร อีก 4 ใบ ก็แทบไม่พอแล้วครับ

แต่ที่มีปัญหาคือ ก่อนหน้านี้ได้ลงชื่อค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อน (เป็นเงินกู้ โครงการพนักงานบริษัท)
ซึ่งตอนนี้เพื่อนคนดังกล่าวได้ลาออก แล้วกำลังจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศครับ ทำให้ภาระหนี้ของเพื่อน
มาตกอยู่ที่ผม

โดยที่ผมจะถูกหักเงินเดือนจาก Slip อีก เดือนละ 5,800 บาท (ยอดหนี้ 4 แสนกว่าๆ)
เนื่องจากสัญญาค้ำประกันระบุไว้ว่าหากพนักงานที่เป็นลูกหนี้พ้นสภาพผู้ค้ำต้องจ่ายค่างวดแทน

จึงทำให้ตอนนี้ รับเงินเดือนสุทธิอยู่ที่ 6,200 (เงินเข้าบัญชียอดนี้เลย)
**ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับเลี้ยงชีพจริงๆ
ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ประมาณ 3 พัน ไหนจะค่ากินอยู่ ของผม กับลูกๆ อีกประมาณ 4 พัน
ค่างวดบัตรต่างๆ ก็เลยหยุดจ่ายโดยปริยาย เนื่องจากต้องใช้เงินเพื่อดำรงชีพก่อน
ทำให้มีปัญหาโดยทวงหนี้และเงินก็ไม่พอใช้จ่ายครับ

พอมีท่านใดเคยเจอกรณีนี้บ้างครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ค่อยๆคิดค่อยๆทำครับ...เป็นกำลังใจให้ครับ
1.หยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิตไปก่อนครับ อย่างมากก็โดนทวง ถึงขั้นฟ้องคงนาน อีกอย่างก็แจงรายละเอียดให้เจ้าหนี้บัตรรับรู้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรก็ดี(ให้เค้ารู้ว่าไม่พอจ่ายจริงๆ)
2.ถ้าเป็นไปได้ก็ทวงกับเพื่อนที่ไปค้ำไว้ให้เค้ามาจ่ายซะหรือทำเป็นสัญญายืมเงินกับเรา เรามีสิทธิทวงเค้าอยู่แล้วโดยตรง(ผู้ค้ำเมื่อเสียทรัพย์แทนผู้กู้ ผู้ค้ำก็กลายเป็นเจ้าหนี้ในจำนวนนั้นแระคัฟ)
3.วางแผนการใช้เงินที่เหลือให้ดี ให้พอกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย (เดวลูกต้องเข้าโรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ)
4.หมดหนี้กับบริษัทแล้วค่อยจ่ายบัตรเครดิต ด้วยการประนอมหนี้ ทำหนังสือสัญญาขอประนอมหนี้ทีละสัญญาไป
5.คุยกับคนในครอบครัวให้เข้าใจครับ จะได้ไม่โดนกดดันจากครอบครัวด้วย แค่โดนกดดันจากภายนอก(การทำงาน/การทวงหนี้)ก็หนักพออยู่แล้ว จะได้มีครอบครัวเป็นกำลังใจฝ่าวิกฤตไปได้ครับ
คำเตือน อย่ากู้เงินอื่นเพิ่มอีก โดยเฉพาะกู้มาใช้หนี้เดิม.....ยกเว้นได้ดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม(หายาก)ครับ

อ่านทบทวนและพิจารณาให้ดีๆครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=52

และรออ่านคำแนะนำขอท่านกรรมการชมรม ที่จะเข้ามาช่วยตอบนะครับ

ขอบคุณท่าน chaiti กับ Rider V1 มากๆครับ สำหรับคำแนะนำ

ตอนนี้ก็พยายามศึกษาเรื่องกฏหมายเกี่ยวกับหนี้สิน จาก Website และผู้ที่เคยมีประสบการณ์อยู่
ล่าสุด วันนี้ก็มีโอกาสได้คุยและปรึกษากับพี่ที่ฝ่ายบุคคล ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากเลยครับ