รบกวนช่วยแนะนำด้วยค่ะ

พอดีเป็นหนี้ในส่วนของสินเชื้อบุคคลกับทางธนาคาร CIMB ค่ะ ส่งมาทุกๆเดือนก็เกือบจะหมดอยู่แล้ว (จากยอดประมาณ 70000 ตอนนี้เหลือ 20000) แต่แล้วเงินกลับมาช็อตเอาดื้อๆ ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้ เลยหยุดส่งไป ตอนนี้ได้รับจดหมาย "เตือนครั้งสุดท้ายก่อนฟ้อง" จากสำนักงานกฎหมาย ก้อเลยคิดว่าจะโทรไปเคลียเรื่องหนี้ ไม่ใช่คุยเพื่อขอจ่ายนะคะ แต่จะไปคุยว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่าย รบกวนแนะนำด้วยค่ะว่าควรจะโทรไปที่บริษัทกฏหมายหรือติดต่อกับทางธนาคารโดยตรงเลยคะ แล้วจะต้องเริ่มเรื่องยังงัยดีคะเมื่อคุยกับทางเจ้าหน้าที่ ตอนนี้คิดอะรัยไม่ยค่อยออกเลยค่ะ มัน มึนๆ งงๆ จนไม่รู้จะเริ่มอะรัยยังงัยก่อนดี (เนื่องจากมีอีกหลายที่ที่ยังคงไม่ได่จ่ายเหมือนกัน) รบกวนด้วยนะคะ



อ้อ...อีกข้อนึงค่ะ เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของ Aeon เคี่ยวสุดๆ มีอะรัยช่วยแนะนำได้ไหมคะ เพราะว่าตอนนี้เลยกำหนดจ่ายเงินมาสิบกว่าวันแล้ว เจ้าหน้าที่ก้อพยายามตามจิกกกกทุกวัน แต่ดิฉันพยายามไม่รับโทรศัพท์ เพราะไม่รู้จะพูดอะรัยยังงัยดี รบกวนช่วยแนะนำอีกข้อนึงด้วยนะคะ (ลืมบอกไปค่ะ Aeon ไม่มียอดค้างจ่ายค่ะ จ่ายทุกเดือน แต่เดือนนี้ยังมะได้จ่ายค่ะ)

ขอบคุณค่ะ

ก็ในเมื่อยังไม่มีเงินที่จ่ายหนี้แล้วจะไปกระเสือกกระสนคิดถึงเขา
ทำไมละครับเจ้าหนี้นะคุณกลัวว่าเขาจะไม่มีเงินกินข้าวหรือไง
อยู่นิ่งๆใครจะทำอะไรก็เรื่องของเจ้าหนี้ เขามีหน้าที่ทวงเงินคุณแน่ๆ
ถ้าคุณหยุดจ่ายเป็นเรื่องดีครับสำหลับตัวคุณเอง เก็บเงินไปก่อนการเจรจามันเกิดขึ้นแน่ครับ
จะวันไหนก็เท่านั้น มีเงินไหมในกระเป๋าตอนนี้ ไปทำมาหากินตามปกติ
อีออนตีน หรือ ทวงกวนตีนแต่ก็ไม่มีอะไรเห่าไปวันๆ ไปทำตามขั้นตองที่ตัวเองเป็นอยู่
หาอ่านมากๆครับจะได้มีแนวทางของตัวเอง

ขอบคุณมากค่ะ คุณ chaowalert ที่ช่วยแนะนำ มีคำถามเพิ่มเติมค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาด้วย

ตอนนี้กะลังจะเริ่มหยุดจ่ายค่ะ มีคำถามเพิ่มเติมว่า ถ้าดิฉันหยุดจ่ายหนี้ทุกๆตัว รวมถึงหนี้อีกสองตัวที่เป็นในส่วนของการ re-finance รถยนต์และรถจักรยานยนต์ (สินปราณีเลสซิ่ง - รถยนต์ กับ นิ่มซีเส็ง - รถจักรยานยนต์) ด้วยไหมคะ เป็นไปได้ไหมคะว่าหยุดจ่าย "หนี้บัตรเคดิตและสินเชื่อบุคคล"ทุกตัว แต่ยังคงจ่ายบัญชีของ "สินปราณีเลสซิ่งกับนิ่มซีเส็ง" เนื่องจากเอา"ทะเบียนรถ" ไปค้ำประกันไว้ ถ้าไม่จ่ายรถโดนยึดแน่ๆ ซึ่งรถยนต์ดิฉันซื้อให้พ่อแม่ใช้ ส่วนรถจักรยานยนต์ดิฉันต้องใช้ไปทำงานทุกวัน ถ้ารถถูกยึดไปที่นี้ลำบากแน่เลยค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ

ขอเล่าประสบการณ์ ความเถือน+ความถ่อย ของเจ้าหน้าที่ "สินปราณีเลสซิ่ง" ในการติดตามหนี้หน่อยนึงนะคะ ไม่แน่ใจว่ามีคัยเคยเจอมั่ง พอดีเคยเจอมากะตัว ตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่คนที่บ้าน (พีี่ๆ รับไม่ค่อยได้ค่ะ)

เป็นหนี้รถยนต์กับสินปราณีเลสซิ่งค่ะ ไม่ได้เข้าไปจ่าย 2 เดือน มีเจ้าหน้าที่มาตามถึงบ้านค่ะ ขอโทษนะคะ....เจ้าหน้าที่ที่บริษัทส่งมา ต่ำาาาาาาา........มากกกกกกกกกค่ะ ขอบอก (ขอโทษที่พูดไม่สุภาพ แต่ว่ามันเป็นเช่นนั้นจิงจิงค่ะ) ส่วนหน้าตาก้อไม่ต้องพูดถึง คือเหมือนมือปืนรับจ้างเลยค่ะ (คนคนนี้คงจะเกิดมาเพื่อทำงานตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ มีหน้าตาเป็นอาวุธค่ะ บริษัทก็สามารถ สรรหาคนมาทำงานได้สุดยอดจิงจิง) ครั้งแรกที่เค้าเข้ามา เค้าอยู่นอกรั้วพูดกับดิฉันค่ะ แต่จะพูดเสียงดังมากกกกกก (กะจะประจานว่างั้นเถอะ) ซึ่งดิฉันกยืนห่างจากเค้าแค่ 1 ฟุตเอง (ยังนึกในใจว่าจะแหกปากพูดให้เสียงดังทำไมไอ้ฟาย ตูยืนอยู่แค่นี้เอง), ครั้งที่สองค่ะ มือปืนรับจ้างคนเดิมค่ะ แต่คราวนี้มาแบบใหม่ บีบแตรรถมาแต่ไกลค่ะ ก่อนถึงบ้านดิฉันประมาณ 100 เมตร (ประมาณว่า ตูมาแล้วโว้ย....) พอถึงหน้าบ้านค่ะ ฟอร์มเดิม คุยเสียงดัง(มากกกกกกกก) อีกมือถือเอกสารที่ดิฉันไปทำสัญญาไว้ แล้วพูดดดดดดดดดดดดด (ปนขู่) จนทำให้ดิฉันต้องเข้าไปจ่ายวันนั้น เดี๋ยวนั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นเตรียมเอารถไปจอดที่บริษัทได้เลย แถมทิ้งท้ายให้ด้วยนะคะว่า ถ้าคุณไม่ว่างเอารถไปจอดไว้ที่บริษัทได้ เรามีบริการมารับถึงบ้าน .... อึ้งค่ะ พูดไม่ออก เครียดเลยค่ะ !!!!!!!

ขอบคุณค่ะ

อ่านปักหมุดมาบ้างหรือยังครับ ถ้ายังก็ไปอ่านก่อนนะครับ

วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=52

กรรมการชมรม เขียน: ประเภทของหนี้

1.หนี้ผ่อนบ้าน
2.หนี้ผ่อนรถ
3.หนี้ในระบบ (บัตรเครดิต สินเชื่อผ่อน/เช่าซื้อสินค้า)
4.หนี้นอกระบบ
5.หนี้ญาติมิตรเพื่อนฝูง
6.หนี้กยศ.
หากมีปัญหาการเงิน
ต้องหยุดจ่าย หนี้ 3-4-5 ระบบการเงินจะดีขึ้น
หากยังไม่พอใช้ไม่มีเงินเหลือเก็บอีก ต้องหยุดจ่ายหมายเลข 2
หากยังไม่พอใช้ไม่มีเงินเหลือเก็บอีก ต้องหยุดจ่ายหมายเลข 1 ตามลำดับ

---

เมื่อการเงินดีขึ้นมีเงินเก็บพอใช้หนี้ ให้จ่ายหนี้
4. หนี้นอกระบบ
และ 5. ญาติมิตรเพื่อน
จากนั้นค่อนสะสางปัญหาหนี้หมายเลข 3 หนี้ในระบบ
โดยเริ่มจากหนี้ผ่อน/เช่าซื้อสินค้าก่อนแล้วค่อยจัดการกับหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อ

จะหยุดจ่ายรถ ไม่ใช่หยุดเฉยๆ แล้วรอให้เขามายึด แต่ให้ขายไปซะ...ให้เป็นคนอื่นครอบครองไป

ขอบคุณมากกกค่ะ คุณ batk ที่ช่วยแนะนำ ยังงัยแล้วจะเข้าไปศึกษาตามหัวข้อที่แนะนำมานะคะ หากมีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจในส่วนไหนแล้วดิฉันจะรบกวนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

AAAA เขียน: ตอนนี้ได้รับจดหมาย "เตือนครั้งสุดท้ายก่อนฟ้อง" จากสำนักงานกฎหมาย

ให้เขียนไปรษณีย์บัตร ตอบกลับมันไปว่า

กูอนุมัติให้มึงฟ้อง

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=4428&Itemid=52

ขอบคุณมากค่ะ คุณ นกกระจอกเทศ ที่ช่วยแนะนำเพิ่มเติม ตอนนี้ดิฉันกะลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการหยุดจ่ายหนี้อยู่ และกะลังศึกษารวบรวมข้อมูลต่างๆจากทางเวปบอร์ดนี้ มีข้อมูลเยอะมากกกกกเลยมีค่ะ อ่านแล้วมีกำลังจัยขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่...แต่...แต่เมื่อกลับมาสู่ชีวิตจิงเริ่มหดหู่อีกละค่ะ มีโทรศัพท์ค่ะ "วันอาทิตย์" ค่ะ ไม่รู้เจ้าหนี้ของที่ไหนโทรมา ระยะเวลาแค่ครึ่งวัน 7 สายแล้วค่ะ (สงสัยจะเป็น อีออน ไม่ก้อ อีซี่บายแหงๆ) ไม่เหนื่อยกันเลยเนอะ วันหยุดก้อยังมีแรงทวงอยู่อีก...

เกือบลืมค่ะ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมนะคะ ตอนนี้มีเจ้าหนี้อยู่ 4-5 ที่ ที่เลยกำหนดจ่ายเงินมาแล้ว แต่ระยะเวลาที่เลยกำหนดยังไม่ครบเดือน (อีออน จ่ายวันที่ 2, อีซี่บาย จ่ายวันที่ 17, บัตรโลตัส จ่ายวันที่15, firstchoice จ่ายวันที่ 17) ถ้าเป็นอย่างนี้ เมื่อเจ้าหนี้โทรมาเราควรที่จะแจ้งไปเลยได้ไหมคะว่า เราขอปิดบัตรและบัญชีสินเชื่อ ของเรา (เพื่อตัดความรำคาญว่า ตอนนี้เราขอปิดบัญชีแล้วและกะลังหาตังค์มาจ่ายอยู่ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน) หรือว่าเราควรที่จะรอซัก 2-3 เดือนก่อน ค่อยแจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปิดบัญชีของเรา (เนื่องจาก 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราหยุดจ่ายไปละ ต่อไปก็คงมะมีอีก งั้นขอปิดบัญชีเลยละกัน) รบกวนแนะนำด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

AAA เขียน: ขอบคุณมากค่ะ คุณ นกกระจอกเทศ ที่ช่วยแนะนำเพิ่มเติม ตอนนี้ดิฉันกะลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการหยุดจ่ายหนี้อยู่ และกะลังศึกษารวบรวมข้อมูลต่างๆจากทางเวปบอร์ดนี้ มีข้อมูลเยอะมากกกกกเลยมีค่ะ อ่านแล้วมีกำลังจัยขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่...แต่...แต่เมื่อกลับมาสู่ชีวิตจิงเริ่มหดหู่อีกละค่ะ มีโทรศัพท์ค่ะ "วันอาทิตย์" ค่ะ ไม่รู้เจ้าหนี้ของที่ไหนโทรมา ระยะเวลาแค่ครึ่งวัน 7 สายแล้วค่ะ (สงสัยจะเป็น อีออน ไม่ก้อ อีซี่บายแหงๆ) ไม่เหนื่อยกันเลยเนอะ วันหยุดก้อยังมีแรงทวงอยู่อีก...

เกือบลืมค่ะ รบกวนสอบถามเพิ่มเติมนะคะ ตอนนี้มีเจ้าหนี้อยู่ 4-5 ที่ ที่เลยกำหนดจ่ายเงินมาแล้ว แต่ระยะเวลาที่เลยกำหนดยังไม่ครบเดือน (อีออน จ่ายวันที่ 2, อีซี่บาย จ่ายวันที่ 17, บัตรโลตัส จ่ายวันที่15, firstchoice จ่ายวันที่ 17) ถ้าเป็นอย่างนี้ เมื่อเจ้าหนี้โทรมาเราควรที่จะแจ้งไปเลยได้ไหมคะว่า เราขอปิดบัตรและบัญชีสินเชื่อ ของเรา (เพื่อตัดความรำคาญว่า ตอนนี้เราขอปิดบัญชีแล้วและกะลังหาตังค์มาจ่ายอยู่ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน) หรือว่าเราควรที่จะรอซัก 2-3 เดือนก่อน ค่อยแจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปิดบัญชีของเรา (เนื่องจาก 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราหยุดจ่ายไปละ ต่อไปก็คงมะมีอีก งั้นขอปิดบัญชีเลยละกัน) รบกวนแนะนำด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ไม่ต้องรีบร้อนครับ....เก็บเงินให้ได้เยอะๆก่อน รับสายทวงหนี้ไปตามสถานะการณ์ มีเงินเมื่อไหร่ เสียงย่อมดังฟังชัด.....เมื่อถึงเวลาเหมาะ เดี๋ยวข้อเสนอดีๆก็จะมาหาคุณเอง แต่ตอนนี้คุณต้องประหยัด อดออม และอดทนต่อการทวงหนี้ให้ได้ครับ....มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
อ่านให้เยอะๆนะครับ....
ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52

ขอบคุณมากค่ะคุณ batk ที่ช่วยแนะนำ....

พอดีมี่เรื่องปรึกษาอีกนิดนึงค่ะ เมื่อกี้เจ้าหน้าที่บัตรเครดิต 'home pro visa' โทรมาแจ้งให้ช่วยจ่ายขั้นต่ำเข้าไปก่อน 3000 บาท ซึ่งดิฉันก็แจ้งไปแล้วว่าตอนนี้ยังไม่มี และยังไม่แน่ใจว่าวันนี้จะหาให้ได้ไหม เค้าก็เลยบอกให้พยายามดูก่อน แล้วเค้าจะโทรมาใหม่ตอน 6 โมงเย็น พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าคุณจ่ายขั้นต่ำวันนี้ เดือนหน้าเราจะลดให้คุณ 40% เป็นเงิน ....... ในกรณีที่คุณมีเงินก้อน ถ้าคุณไม่มีเราจะทำวิธีขอประนอมหนี้ให้โดยจ่ายเดือนละ ....บาท

คำถามคือว่า....
ยังงัยวันนี้เราก็ไม่มีเงินจ่ายแน่ๆ 3000 บาท หรือถ้าเงินเดือนออกเราก็ไม่มีเงินอยู่ดี แล้วอย่างนี้ทางเลือกที่เค้าลดให้ 40 % เราคงไม่ต้องพูดถึง (ทางเลือกลด 40% น่าสนใจมากนะคะ แต่ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มหยุดจ่ายไปเมื่อ ต้นเดือนนี้เอง เงินก็ยังไม่ได้เก็บเลยสักบาทค่ะ -ส่วนวิธีขอประนอมหนี้เราไม่สน) ถ้าในกรณีนี้ เราก็สนใจในส่วนลดมาก แต่ยังไม่มีเงินก้อนให้ตอนนี้ (หรือเดือนหน้า) แล้วเราก็อยากได้ส่วนลดมากกว่านี้อีกนิดนึง รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ ว่าเราควรจะพูดยังงัยดี เพื่อให้เค้ารู้ว่าสนใจนะ แต่ยังไม่มีเงิน หรือว่าทำเฉยๆ ไม่มีก็คือไม่มี

ขอบคุณค่ะ

เงินยังไม่มี...ก็เฉยๆไว้ครับ...
ส่วนลดมันมีแน่ จะลดมากน้อย ขึ้นอยู่กับความเน่าของหนี้ ( ตามลิงค์ที่ผมให้อ่าน )
อย่าไปกู้หนี้ที่อื่นที่ต้องเสียดอกเบี้ยมาปิดหนี้เก่า เพียงเพราะสนใจส่วนลด..เพราะมันจะวนกลับมาที่เดิม
ก็บอกเขาไปว่าไม่มีเงิน หาไม่ได้...หาไม่ทัน...เอาไว้ก่อน
มันทำอะไรคุณไม่ได้หรอกครับ ก็ได้แต่ บ่นๆๆๆๆเสียดสีตามภาษาพวกทวงหนี้น่ะครับ

ผมน่ะ เคยนั่งน้ำลายไหลมาแล้ว เมื่อเขาเสนอส่วนลดโครตงาม แต่ผมไม่มีเงิน ก็ต้องผ่านไปก่อน

อ้อ...เพียงแค่ลมปาก อย่าไปหลงกลเข้าล่ะ จะจ่าย จะตกลงอะไร ต้องมีเอกสารยืนยันเสมอ...

สวัสดีค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาคะ

ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทางบัตรเครดิต homepro โทรมาค่ะ (หลังจากที่ไม่ได้จ่ายมา 6 เดือน) เค้ายื่นข้อเสนอให้ค่ะว่า จากยอดค้างทั้งหมด 3 หมื่นกว่าบาท

1. ลดให้ 45 เปอร์เซ็น เหลือ 18900 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ๆ ละประมาณ 6 พันกว่าบาท (เริ่มจ่าย 22 มีนา)

2. ถ้ายังไม่มีจ่ายยอด 6 พันต่อเดือน ให้จ่ายยอกขั้นต่ำเข้ามาก่อน 3000 บาท (เริ่มจ่าย 22 มีนา) แล้วเราก็จะสามารถรักษา ส่วนลด 45 เปอร์เซ็นนี้ต่อไปได้

3. ถ้า 2 ทางเลือกที่เค้าเสนอมา และเรายังไม่ดำเนินการ เค้าก้อจะส่งเรื่องดำเนินการต่อไป

สำหรับเรื่องที่ต้องการขอคำปรึกษา

คือ โดยส่วนตัวแล้วสนใจทางเลือกที่ 1 ค่ะ แต่ปัญหามีอยู่ว่า ยังเก็บเงินได้ไม่มากพอที่จะจ่ายตามยอดที่เค้าเสนอมา และถ้าจะจ่ายยอด 6 พันกว่าบาท 3 เดือนก็กลัวจะจ่ายไม่ครบอีก อย่างนี้เราควรทำ หรือเจรจากับเค้ายังงัยดีคะ

ส่วนทางเลือกที่สอง เค้ามีให้เลือกในการรักษาส่วนลดนี้ได้ด้วยเหรอคะ??? (เพราะเคยอ่านเจอแต่แบบว่า ส่วนลดจะมีช่วงเวลาไม่ใช่เหรอคะ)

สุดท้ายทางเลือกที่สาม ถ้าเรายังไม่สามารถจ่ายได้ทั้งสองทางเลือก เค้าจะดำเนินการต่อไปยังงัยคะ เพราะเค้าก็ได้ยื่นข้อเสนอส่วนลดมาให้แล้ว เค้าจะยื่นฟ้องเลยหรือเปล่าคะ??

รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29 นิยามคำว่าแฮร์คัท





www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=19608&Itemid=29 ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี


ยังไม่พร้อมจะจ่ายก็อย่าไปตอบตกลงสิครับ อ่านกระทู้ให้เข้าใจก่อนครับ

ส่วนลดมีเข้ามาตลอดครับ ไม่ต้องห่วง

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52#16371

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=1099&Itemid=52#1114

ผมรวมกระทู้ให้นะครับ

มีเรื่องอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประเด็นใหม่หรือเก่า มีคนละกระทู้ก็พอนะครับ

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ

สวัสดีค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาเพิ่มเติมค่ะ

พอดีเรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้ดิฉันได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่แล้ว (เนื่องจากว่าเบอร์เก่าที่ทางเจ้าหนี้โทรทวงทุกวี่ทุกวันนี้ดิฉันไม่ได้จ่ายตังค์เค้า เค้าก็เลยปิดเบอร์ไป) และช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ดิฉันพึ่งได้เบอร์ใหม่มา ดิฉันควรที่จะโทรไปแจ้งเบอร์ใหม่กับทางเจ้าหนี้ทั้งหลายแหล่ไหมคะว่า สามารถติดต่อดิฉันได้จากเบอร์นี้ และถ้าจะแจ้งดิฉันควรจะแจ้งได้ที่ไหนคะ ที่สำนักงานใหญ่ของเค้าเลยหรือเปล่า (เพราะว่าทุกๆครั้งก่อนที่เบอร์จะปิดไป แต่ละที่ที่โทรมาเบอร์มันไม่ซ้ำกันเลยค่ะ) หรือว่าปล่อยไปเลยไม่ต้องแจ้ง ยังงัยเค้าก็ตามเราเจอจนได้ (เห็นแต่ละที่เก่งกันทั้งนั้น)...

และถ้าเราไม่แจ้งมันจะมีปัญหาอะไรตามมาอีกไหมคะ (เพราะเปลี่ยนมาใช้ระบบเติมเงินอยู่ แล้วตอนซื้อเบอร์มาเค้าก็ไม่ได้ให้ลงทะเบียน) อย่างเช่น ถ้าเค้าตามตัวดิฉันไม่ได้ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นว่า
1. เค้าจะคิดว่าดิฉันหนีหนี้แน่ เลยจัดการฟ้องให้เร็วขึ้น
2. เดี๋ยวก็จะมาตามที่บริษัทอีก (อันนี้กลัวค่ะ เพราะหัวหน้าเป็นฝรั่งเค้าต้องไม่ชอบแน่ๆ)
3. เดี๋ยวก็จะมาตามที่บ้าน (อันนี้กลัวมาก ไม่อยากให้มาค่ะ ยอมรับว่าอาย เพราะเค้าไม่ค่อยจะไว้หน้ากันเท่าไหร่)

ยังงัยรบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ..รบกวนขอปรึกษาหน่อยนะคะ

พอดีว่าวันนี้เพิ่งได้คุยกับเจ้าหน้าที่กฏหมายของบัตรเครดิตโฮมโปรค่ะ (พอดีหยุดจ่ายมาได้ประมาณ 8 เดือนแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้เคลียซักที) เค้าโทรมาแจ้งวาวตกลงยอดที่ต้างไว้จะจ่ายยังงัย คือตอนนี้ยอดที่ต้องจ่ายทั้งหมดคือประมาณ 37000 แต่ลดให้เหลือยอด 25000 แล้วดิฉันก็ตอบไปว่าครั้งสุดท้ายที่ดิฉันเคยคุยไว้กับเจ้าหน้าที่เค้าบอกส่วนลดให้เหลือ 18000 แล้วทำไมตอนนี้มันถึงอยู่ที่ยอด 25000???? เค้าก็บอกว่าพอดีส่วนลดที่เราเสนอให้ครั้งแรกนั้นหมดไปแล้ว ตอนนี้เป็นยอดลดตัวใหม่???? และขอให้คุณเคลียให้เราเดือนนี้ทั้งหมด แต่ดิฉันก็ได้ปฏิเสธไปว่าถ้าจะให้เคลียหมดภายในเดือนนี้มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงยอดเต็มเลย ขนาดยอดขั้นต่ำถ้าจะให้จ่ายดิฉันก็ยังไม่มีให้เลย แล้วดิฉันก็เลยขอคำแนะนะไป เค้าก็แนะนำว่าภายในเดือนนี้(ย้ำอยู่นั่นแหละ) ให้เราหาดูว่าเราจะหาได้ไหมเท่าไหร่ แล้วเมื่อหาได้แล้วไม่ถึงตามจำนวนให้โทรมาสอบถามดูว่าเราหาได้เท่านี้จะจ่ายได้ไหม??? (ดิฉันก็ลองคิดดู แล้วจะไปหาที่ไหนมาให้ ถ้าหาได้คงไม่ต้องคุยกันแล้ว ดิฉันก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาพูดให้ยืดยาว) แล้วดิฉันก็เลยสอบถามกลับไปว่า ถ้าเดือนนี้ไม่ทันล่ะ เค้าบอกว่า ถ้าไม่ทันงั้นคงต้องรอไปเคลียที่ศาลเอง เนื่องจากตอนนี้ทางบริษัทบัตรเครดิต เค้าได้อนุมัติการสั่งฟ้องแล้ว และตอนนี้เรื่องของคุณก็กำลังอยู่ในช่วงเตรียมเอกสารฟ้อง????!!!!!! ยังงัยถ้าขึ้นศาลคุณอาจจะไม่ได้จ่ายในยอด 25000 นี้ คุณอาจจะได้จ่ายในยอดที่สูงกว่านี้...ดิฉันอึ้งค่ะ พูดไม่ออก ได้แต่ค่ะ...ค่ะ..แล้วเค้าก็วางสายไป

ก็เลยจะมาขอคำปรึกษาหน่อยค่ะว่าที่เค้าพูดมานั่นมันขู่เราหรือเปล่าคะเนี่ย หรือมันพูดจริง (แล้วทำไมมันถึงได้ฟ้องเร็วนัก เมื่อเทียบกะจำนวนเงินที่ติดหนี้อยู่) เมื่อเป็นอย่างนี้ควรแก้ไขยังงัยดีคะ เพราะถ้าพูดกันตามตรงแล้ว ดิฉันหาเงินไปจ่ายไม่ได้แน่แน่ค่ะ...รบกวนด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

เค้าจะขู่ก็ดีไม่ขู่ก็ดี น่ะเวลานี้คุณaaaก็ยังไม่มีเงินอยู่ดี ไม่ต้องคิคไรมากค่ะ ตั้งสติ แล้วเดินทางต่อไปตามระบบค่ะ มีหมายศาลมาคุณก็ไประหว่างนี้คุณต้องศึกษากระทู้การไปศาลให้ดีให้เป็นภูมิคุ้มกันให้คุณ คุณต้องพยายามศึกษาให้เข้าใจน่ะค่ะ อ่านมากๆ เป้นกำลังใจให้น่ะค่ะ

รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ...

พอดีได้รับหมายศาลวันนี้ (31/08) ของธนาคารกรุงศรีฯ (บัตรโฮมโปรวีซ่า) ค่ะ เค้านัดขึ้นศาลตอนเดือนพฤศจิกายน ตอนแรกช่วงต้นเดือนเค้าได้โทรมาหาดิฉันก่อนแล้วว่ากำลังส่งเรื่องฟ้องศาล ถ้ายังงัยภายในเดือนนี้ให้หามาตังค์เคลียด้วย (ซึ่งดิฉันก็ยังไม่ได้โทรไปเคลียเนื่องจากเงินเดือนยังไม่ออก ไม่แน่ใจว่าจะเหลือเงินเท่าไหร่) แต่ตอนนี้เพิ่งจะสิ้นเดือนวันนี้ หมายศาลมาแล้ว...อย่างนี้ดิฉันสามารถโทรไปไกล่เกลี่ยกับเค้าก่อนไปขึ้นศาลได้ไหมคะ (เพราะตอนแรกก็ว่ากะว่าจะโทรไปเหมือนกัน แต่ต้องรอดูเงินเดือนก่อน เพราะเค้าบอกดิฉันว่า ภายในเดือนนี้ แต่ปรากฏว่าหมายศาลดันมาก่อนสิ้นเดือนอีก)

รบกวนด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

คุณ batk แปะลิงคืไว้ให้ศึกษาแล้วครับ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52



Hair-cut สามารถทำได้ตลอด

ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว...ไม่ว่าจะเป็น

- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว และไปขึ้นศาลมาแล้ว โดยไปทำ"สัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ"ที่ชั้นศาลมาแล้ว
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้

เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ

แต่การ Hair-cut ที่ได้ราคางามที่สุด (หรือที่เรียกว่า "นาทีทอง" นั้น...มักจะอยู่ในช่วงของเวลาดังต่อไปนี้
- หยุดจ่ายนานเกิน 10 เดือนขึ้นไป
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาลในนัดแรก
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี อีกหลายนัด (ยังไม่ได้พิพากษา)
ถ้าพ้นกำหนดช่วงเวลาดังกล่าวนี้ไปแล้ว โปรโมชั่น "นาทีทอง" อาจหมดไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำ Hair-cut ไม่ได้...เพียงแต่ว่า อาจไม่ได้ราคางามๆตามโปรโมชั่นของ "นาทีทอง" ก็เท่านั้นเอง

และที่สำคัญ การทำ Hair-cut จะต้องให้ทางเจ้าหนี้ออกเอกสาร

ยืนยันว่า จะลดหนี้ให้ตามเงื่อนไขที่เจรจาตกลงกันไว้ ด้วยทุกครั้ง

โดยเราต้องได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหนี้

ก่อนที่จะทำการจ่ายชำระ Hair-cut ใดๆ

ขอบคุณมากกกค่ะ...จะเข้าไปศึกษาให้ขึ้นใจเลยค่ะ ตอนนี้กำลังสับสน(กับชีวิต) เลยไม่รู้ว่าควรจะเริ่มกระทู้ไหนก่อนดี เพราะข้อมูลดีดีเยอะมากเลยค่ะ...ขอบคุณอีกครั้งนะคะ