เป็นหนี้บัตรเครดิตมากอยากจะจ่ายแต่ไม่มีเงินพอครับ ควรทำยังไงดี

พรุ่งนี้บ่ายโมงครึ่งเป็นเวลาขึ้นศาลกับ KTC ครั้งแรกในชีวิตแล้วครับ ไม่กลัวแต่ตื่นเต้นครับกะจะไปขอเลื่อนนัดไปก่อน แต่ทางโน้นหลอกมาว่าถ้าจะขอเลื่อนนัด ผมต้องบอกศาลให้ได้ด้วยว่าจะเลื่อนไปเพื่อที่จะจ่ายได้เมื่อไหร่ไม่กลัวหรอกครับ ศึกษาข้อมูลมาแล้ว อิอิอิ เพียงแค่อยากมาขอกำลังใจหน่อยครับ

อย่าไปกลัวมัน

เด็กหญิงส้มโอ เขียน: อย่าไปกลัวมัน

ชัดเจนมากครับคุณเด็กหญิงส้มโอ ขอบคุณมากครับ

ขอมาอัพเดทการไปศาลครั้งแรกในชีวิตเมื่อบ่ายนี้ครับ
- อย่างแรกผมขอแจ้งบทสรุปก่อนน่ะครับ -
ก็ยินยอมประณีประนอมหน้าศาลครับ ทนายฝ่าย KTC เอาหนังสือประณีประนอมยอมความมาให้อ่านก่อน แล้วเจ้าหน้าที่ก็ตามไปนั่งคุยกันที่โต๊ะกัน จากยอดฟ้องแสนหนึ่งหมื่นห้าพันกว่าบาท ลดดอกให้เหลือต้นเก้าหมื่นปลายๆ ผ่อนเดือนล่ะไม่ต่ำกว่า 2,000 ต่อเดือน 36 งวด ดอก 10% ต่อปีเริ่มเดือนแรก ปลาย พ.ย.
ผมก็ถามทนายแล้วว่าถ้าจะปิดนี่สามารถลดได้อีกหรือปล่าว ทนายบอกว่าถึงจะปิดก็ไม่ได้ลดกว่านี้แน่นอน และต้องงวดเดียวในเวลาที่กำหนดด้วย เค้าแนะนำว่าเอาตามนี้ดีกว่ามีเยอะจ่ายมาเยอะถ้าหามาปิดช่วงไหนได้ก็ทำได้ทันทีในระหว่างสามปีนี้ ผมดูแล้วก็เป็นทางที่รับไหวเพราะสิ้นเดือนนี้จะได้เงินเดือนเพิ่มจากที่ถูกหัก สามพันกว่าก็สามารถจ่ายได้และมั่นใจว่าสามารถหาเงินก้อนมาปิดได้ภายในสองปี
ก็ถือว่าจบคดีแต่ไม่จบเรื่องเพราะต้องผ่อนจ่ายเค้าไป ในราคาที่เราไหวครับ อย่างน้อยก็ให้ได้พักหน่อย เตรียมรับหมายศาลที่อาจตามมาจากรายอื่นอีก
อ้อส่วนค่าฤชาธรรมเนียมศาล ค่าทนายโจทก์ ทางทนายเค้าไม่คิดครับ เค้าเรียกอะไรน้า ให้เป็นพับไปอะไรทำนองนั้นครับ

- ทีนี้ก็ขอเล่าการไปศาลครั้งแรกของผมครับ -
เนื่องจากผมอยู่ ตจว. ศาลและที่ทำงานห่างกันไม่ถึงสองโล ก็ไปทำงานปกติแต่บอกหัวหน้าว่าช่วงบ่ายขออนุญาตไปศาล (เรื่องที่ถูกฟ้องต้องไปศาลผมเล่าให้ที่ทำงานฟังก่อนแล้วครับ) พอบ่ายโมงก็แว้นมอไซค์ไปศาลไม่ถึงสามนาทีก็ถึง เพราะ ตจว. รถไม่ค่อยเยอะครับ
การแต่งตัวผมก็ใส่เสื้อโปโล กางเกงชุดช่างที่ทำงาน รองเท้าหุ้มข้อเซฟตี้ แค่ใส่เสื้อไว้ในกางเกงก็ได้แล้ว ไปถึงก็ไปอ่านรายละเอียดที่กระดาน ว่าคดีเราเค้านัดที่ห้องไหน เดินเข้าศาลผ่านเครื่องสแกน แลกบัตร ดีจริงมีเจ้าหน้าที่หญิงยืนรอให้ข้อมูลอยู่ผมก็ไปถามเลยครับ บัลลังค์ 0 อยู่ทางไหนครับ อ้อห้องไกล่เกลี่ยค่ะ เดินไปทางนี้น่ะค่ะ ก็เดินไปตามที่เค้าบอก
เจอแล้วห้องไกล่เกลี่ยมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว สามคนเราเด็กและหน้าตาดีสุด 555 ก็เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ก็ถามชื่อ แล้วให้เราเซ็นชื่อและลงรายละเอียดที่อยู่ ในใบเซ้นชื่อถ้าไม่ได้เซ็นถือว่าไม่ได้มารายงานตัว หนีศาลน่ะเนี่ย สามคนที่มาก่อน KTC เหมือนกันเลยครับ ทีนี้ทนาย KTC ก็เอาหนังสือประนอมหนี้มาให้อ่านก่อน แล้วซักพักเจ้าหน้าที่ก็เรียกทั้งสี่คนไปนั่งคุยกับทนาย KTC ก็เป็นตามที่บอกก่อนแล้วครับ
ตกลงได้ก็เซ็นชื่อในหนังสือมีสี่แผ่น เค้าให้เราเก็บไว้แผ่นนึง แล้วก็ไปเซ็นชื่อในเอกสารของเจ้าหน้าที่อีก ก็ลงยินยอมทำนองนั้นครับ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกให้รอศาลพิจารณาก่อน จะรอในห้องนี้แล้วค่อยไปพร้อมทนายหรือไปรอหน้าห้องพิจารณาก็ได้ แต่รอนานนิดน่ะเพราะศาลท่านยังตัดสินคดีอื่นอยู่ สี่คนไปคนล่ะห้องผมได้ห้องที่ 7 ก็ไปรอหน้าห้องครับ
ไปรอเกือบสี่สิบนาทีในห้อง 7 ก็มีคนนั่งอยู่แต่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับผมก็เลยรอข้างนอกตามที่เค้าบอก รอซักพักทนายเค้าโทรมาถามว่าผมอยู่ไหน ผมก็บอกว่ารออยู่หน้าห้องนี่ เค้าบอกเดี๋ยวมาแล้ว อีกพักนึงมีทนายอีกคนมา แต่ผมจำได้ว่าเค้ามากันสองคนเห็นเค้าจะเข้าห้องไปผมก็ไปถามว่าผมเข้าได้ยัง
ทนายก็บอกว่าเข้ามาก่อนก็ได้ มาฟังคดีคนอื่นพลางๆก่อน ก็เข้าไปนั่งข้างในครับ บรรยากาศไม่น่ากลัวแต่รู้สึกถึงความขลังของศาลได้ครับ นั่งซักสิบนาทีได้ ศาลเรียกชื่อคุณ vnukul ผมก็ลุกขึ้นยืน ครับผม ศาลก็ถามคำเดียวเลย ตกลงเอาตามนี้น่ะ ผมก็ตอบครับผมแล้วก็ยืนอยู่แป๊บเดียว ศาลท่านหันไปทางทนาย พูดแค่ อือเสร็จแล้ว โอ้ววววว งง ครับตื่นเต้นและประหม่ามาตั้งนาน แค่นี้เองเหรอ แล้วผมก็นั่งลงแบบงงๆ
มา งง ปนฮาตัวเองอีกหลังจากนั่งลงซักพัก ทนายคนที่ได้คุยกันในห้องไกล่เกลี่ย เดินผ่านหน้าห้องผม แกเดินมาเรียกครับ อ้าวพี่ไม่กลับเหรอกลับได้แล้ว ผมก็ลุกขึ้นคำนับศาลแล้วเดินตามทนายออกมา ทนายบอก ก็ผมเซ็นทุกอย่างที่ห้องไกล่เกลี่ยหมดแล้ว แต่ต้องเข้ามาฟังศาลให้ครบกระบวนการ อะไรทำนองนี้ครับ เออที่อ่านๆมาก็ไม่ค่อยเหมือนแบบนี้นี่หว่า แต่ก็พอเข้าใจหรืออาจเพราะตื่นเต้นประหม่าเลยสับสน แต่ยังไงผมก็ เน้นเซ็นชื่อว่ามาศาลแล้ว ได้เข้าห้องพิจารณาคดีแล้ว ก็ไม่น่ามีผิดไรแล้ว
ก็เดินมาแลกบัตรแว้นรถกลับมาทำงาน มาเล่าให้ที่ทำงานฟังกันครับ

ก็ยอมรับครับว่าประหม่าตื่นเต้น แต่ที่อยากบอกสมาชิกให้รับรู้เหมือนอย่างที่ท่านอื่นๆแนะนำไว้ครับ
การไปศาลไม่ใช่เป็นเรื่องน่ากลัวครับ เหมือนๆกับการไปติดต่อราชการ บนศาลากลาง บนอำเภอ บนเทศบาล บนเขต นั่นหล่ะครับเพียงแต่งกายให้สุภาพหน่อย ทำตามขั้นตอนที่เค้ากำหนด ไม่เข้าใจไปไม่ถูกก็ถามเลยครับ เพียงแต่การไปศาลต่างกับการไปติดต่อราชการอื่น ตรงที่เราไม่ได้ไปในฐานะผู้ที่มาขอหรือทำราชการ แต่เรามาในฐานะจำเลยความรู้สึกนี้ทำให้เราอาจกลัวไปเองครับ ผมเองไม่กลัวเพราะได้อ่านเรื่องการไปศาลและอ่านคำแนะนำจากสมาชิกแล้วว่าไม่น่ากลัว ทำให้มั่นใจแต่ก็ยอมรับถึงเรื่องตื่นเต้นและประหม่าครับ
ข้อมูลที่ผมลงมานี่อาจไม่ค่อยมีประโยชน์แก่สมาชิกเท่าไหร่ แค่อยากมาช่วยเน้น มือใหม่ไปศาลเหมือนผม ให้ไม่ต้องกลัวแค่นี้หล่ะครับ สบายใจได้เลยครับขอยืนยันอีกคน
ปล.เจ้าหน้าศาลผู้หญิงสวยๆน่ารักหลายคนเลย น้องที่เป็นเลขาหน้าบัลลังค์ห้องที่ผมไป น่ารักจังเลยแถมน้องเค้ายิ้มให้ผมด้วยครับ อิอิอิ

มีเรื่องมาเล่าและขอคำแนะนำเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ทวงหนี้ของบัตรกสิกรครับ
บัตรของกสิกรทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ซึ่งเลิกจ่ายขั้นต่ำมาตั้งแต่ต้นปีและโดนตามทวงหนี้ทั้งจดหมายและโทรจิก ช่วงหลังหายไปนานเลยเพิ่งโทรมาอีกเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองครับ
โทรมาทวงแบบเดิมๆครับช่วยจ่ายขั้นต่ำมาด้วยน่ะค่ะ บัตรล่ะสองพัน หลังๆเหลือพันนึง แต่ผมก็ตอบไปว่าไม่มีจ่ายเงินมีไม่ถึง สามวันที่แล้วโทรมาอีกคราวนี้ขอให้เดินบัญชีสองร้อยก็ได้ เค้าจะได้ดึงเรื่องไว้ไม่ให้ส่งฟ้อง เออสองร้อยมันก็จะเอา ผมก็แกล้งบอกไปว่าถ้ามีเวลากลับเข้าเมืองทันจะไปจ่าย เพราะงานผมต้องออกไปทำงานต่างอำเภอประจำ เค้าก็บอกว่าขอภายในหกโมงแต่ผมก็ไม่ได้ไปจ่ายให้ รุ่งขึ้นโทรมาอีกบอกวันนี้วันสุดท้ายแล้วไม่งั้นเค้าดึงเรื่องช่วยไม่ได้แล้ว แต่ต้องก่อนเที่ยงไม่งั้นจะช่วยดึงเรื่องไม่ได้แต่ผมก็ไม่ได้ไปจ่ายอีก วันนี้โทรมาอีกสองครั้งเช้ากับบ่าย แต่ผมไม่ได้รับสายกำลังทำงานครับปีนอยู่บนบันไดแก้ไขระบบไฟฟ้าถ้ามัวแต่คุยโทรศัพท์อันตรายเลยไม่รับดีกว่า บ่ายโทรมาแต่ไม่ว่างรับสายอีกงานล้นมือเลย
กลับบ้านตอนเย็นแม่บอกว่ามีโทรศัพท์มาที่บ้านตอนบ่าย ถามหาผมแล้วบอกว่าเค้าเป็นทนายให้ผมหาเงินไปจ่ายให้เค้าไม่งั้นจะฟ้องศาล แม่ก็ตกใจถามไปว่าผมติดอยู่เยอะไหม ทางนั้นก็บอกว่าเยอะแล้วสั่งกับแม่ไว้ให้ผมติดต่อกลับไปด้วย ทีแรกผมก็งงว่าจากบัตรไหน ไม่นานมีโทรเข้ามือถือเจ้าเดิมกสิกร ต่อว่าผมว่าผมไม่รับสาย ผมก็อัดกลับไปว่าผมกำลังทำงานปีนบันไดทำไฟฟ้าจะให้รับสายคุยระหว่างทำงานให้โดนไฟดูดตายเหรอ ทางนั้นเริ่มเสียงอ่อนผมก็ถามไปว่าคุณโทรมาที่บ้านผมใช่ไหม เค้าก็บอกใช่เพราะผมไม่ยอมรับสาย ผมใส่เลยว่าคุณเล่นโทรมาชู่ทางบ้านผมได้ไง ปกติผมรับสายทุกครั้งแต่คนเราเวาลงานยุ่งจะให้รับสายยังไง โมโหครับขู่แม่ผมให้ท่านกลัวผมไม่ชอบครับ ทางนั้นเลยรีบรวบรัดบอกว่าให้ผมเดินบัญชีเข้ามาบัตรล่ะสองร้อย ภายในพรุ่งนี้หรือถ้าไม่ทันเค้าให้ถึงวันที่ 2 โหไหงทีแรกบอกว่าสองวันก่อนวันสุดท้ายไงทำไมเลื่อนเวลาได้อีกหว่ามั่วนี่หว่าแถมมีโทรมาจิกถึงบ้านอีกเดียวถ้ายังมีโทรมาที่บ้านอีกคงด่ากลับไปบ้างแล้วครับ
ทีนี้ผมมีเรื่องรบกวนขอคำแนะนำครับ คือผมรู้ดีว่าเดินบัญชีไปก็สูญเปล่าโอนไปก็กลายเป็นค่าทวงให้พวกนี้ แต่ทีนี้จะใช้คำพูดแบบไหนดีครับ จะบอกว่าปล่อยตามระบบไปเลย หรือจะบอกว่าจะฟ้องก็ฟ้องเลยแต่ใจก็ยังไม่อยากให้ฟ้องอยู่ เพราะอยากให้ทิ้งระยะหลังจากหมายของ KTC ที่มาก่อนครับเดี๋ยวแม่ผมท่านเห็นหมายจะใจเสียขึ้นมาครับ ขอบคุณมาครับ

วันนี้รอเจ้าหน้าที่ของกสิกรโทรมา จากที่เค้าจะให้ไปจ่ายขั้นต่ำบัตรล่ะสองร้อยแล้วให้กำหนดวันนี้วันสุดท้าย ไม่งั้นเค้าจะไม่ช่วยดึงเรื่องให้แล้ว ก็รอว่าให้เค้าโทรมาจะได้บอกให้ปล่อยตามระบบให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ก็ดันไม่โทรมาสงสัยคงปล่อยตามระบบไปแล้วมั้งครับ ก็รอดูกันต่อไปว่าจะเป็นยังไงครับ
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยเพื่อนสมาชิกทุกท่านให้อดทนอดกลั้นมีสติฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่การหลุดหนี้ทุกท่านครับ

ผมขอรบกวนถามเรื่องของ UOB หน่อยครับ
วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากตัวแทน UOB คนใหม่จากที่เงียบหายไปนาน หลังจากเจ้าหน้าที่คนก่อนไม่ยอมลดยอดที่จะแฮร์คัทและโทรมาขู่จะส่งฟ้อง ซึ่งผ่านมากว่าสองเดือนแล้วครับ
ทางตัวแทน UOB บอกว่าเป็นผู้ที่รับเรื่องต่อและจะทำเรื่องส่งฟ้อง แต่เค้าอยากคุยกันก่อนว่าผมมีแนวทางจะชำระได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องส่งฟ้องให้เสียเวลา ผมก็ถามส่วนลดเลยซึ่งยอดรวมดอกตอนนี้ประมาณ 59,xxx เค้าลดให้เหลือ 45,000 ผมก็ลองต่อดูเค้าถามว่าต้องการที่เท่าไหร่ ผมขอไป 40,000 แต่เค้าบอกว่าต้องนำเสนอผู้ใหญ่ แต่ให้ผมแฟ๊กซ์สำเนาบัตรพร้อมเขียนว่าขอส่วนลดและระบุเจ้าหนี้รายอื่นพร้อมทั้งยอดหนี้มาด้วย แต่พอดีผมอยู่ข้างนอกเลยบอกจะขอโทรกลับไปหาเค้าใหม่พรุ่งนี้ เพราะต้องใช้แฟ๊กซ์ที่ทำงานครับ แล้วผมก็มีเรื่องสงสัยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิกครับ
1. ที่เค้าให้แฟ๊กซ์สำเนาบัตรพร้อมระบุเจ้าหนี้และยอดหนี้ให้เค้าด้วย เราต้องระบุทั้งหมดที่เป็นหนี้เลยหรือปล่าวครับ แล้วมีผลกับการที่เค้าจะลดยอดหนี้ให้ยังไงครับ หรือแค่หลอกเอาข้อมูลหนี้เราไปครับ
2. จำได้ว่าการแฮร์คัททำได้ตลอดเวลา และการที่ได้รับหมายศาลมาแล้วจะเป็นช่วงนาทีทอง แต่สำหรับ UOB นี่ถ้ายอมให้ฟ้องแล้วค่อยขอส่วนลดอีกทีนี่ จะได้ผลและได้ส่วนลดดีกว่าขอแฮร์คัทตอนนี้หรือปล่าวครับ ก็เห็นว่า UOB นี่เขี้ยวมากน่ะครับ
ขอบคุณมากๆครับสำหรับคำแนะนำ

มันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะแจ้งเจ้าหนี้กี่เจ้า มูลหนี้มากน้อยแค่ไหน
แจ้งหนี้น้อย ก็อาจไม่ได้ส่วนลด
แจ้งหนี้มาก ก็อาจได้ส่วนลด หรือ เจ้าหนี้อาจชิงฟ้องก่อน ชิงบังคับคดีก่อน

ใครบอกว่า จอมมารยูไม่มีส่วนลด
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=8&id=829&Itemid=64#36972
แต่เอาว่า มีจ่าย ปิดจบหนี้ ไม่ต้องเทียบกับคนอื่นหรอก

ขอบคุณครับคุณเด็กหญิงส้มโอ แต่ผมมีเรื่องสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนี้ของ UOB อีกครับ
เจ้าหน้าที่คนที่ผมติดต่ออยู่ตอนนี้เค้าบอกหนี้ทั้งหมด เก้าหมื่นกว่าๆซึ่งอันนี้ผมงงมากครับ เพราะจำได้ว่ามันไม่น่าถึงเลยไปค้นเอกสารแจ้งหนี้ก็เจอของล่าสุด ในหนังสือขอให้ชำระหนี้ซึ่งเป็นของธนาคารเองเลย ได้ระบุยอดค่าใช้จ่ายรวม ณ.วันที่ 10 ต.ค. 56 อยู่ที่ 52,515 บาท ผมได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถึงกลายเป็นเก้าหมื่นกว่า เค้าบอกว่าเป็นค่าดอกเบี้ยตั้งแต่ที่ผมผิดนัดชำระ ซึ่งวันที่ผมชำระครั้งสุดท้ายคือ 4 ม.ค. 56 หนี้ตอนนี้ประมาณสี่หมื่น ถ้ารวมดอกเบี้ยถึงตอนนี้อยู่ที่ 52,515 ตามที่ธนาคารบอกผมยอมรับได้ แต่นี่มันมันเกินเหตุซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันว่าเป็นดอกเบี้ยปรับ ผมว่าดอกเบี้ยปรับอะไรโหดเกินไปน่ะครับเกือบเท่าต้นเลยค้างชำระก็ไม่ถึงปี อย่างนี้ผมควรทำยังไงดีครับขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ

เข้ามาอัพเดทครับเช้านี้ได้ปิด UOB ไปอีกรายครับเค้าให้ปิดที่ 45,000 ผมต่อที่ 40,000 เห็นว่าผู้ใหญ่ไม่ผ่านให้ได้ที่ 43,500 เอาก็เอาครับจะได้หมดศัตรูไปอีกราย เมื่อเช้าไปที่ธนาคารขอเบอร์แฟีกซ์ ให้เค้าแฟ๊กซ์หนังสือ แฮร์คัทมาให้ก็ไม่นานครับได้ปิดเลย
แต่ยังไงผมก็ยังสงสัยเรื่องยอดหนี้ที่คนใหม่แจ้งมาครับรวมดอกเบี้ยรวมค่าปรับ 96,xxx ทั้งๆที่หนังสือแจ้งภาระหนี้จากทาง UOB โดยตรงสรุปยอด ณ.วันที่ 10 ตุลา อยู่ที่ 52,515 อันนี้ยังคาใจครับค่าปรับและดอกเบี้ยไรเดือนกว่าๆขึ้นมาเกือบเท่ายอดหนี้ แต่ยังไงก็ยังพอใจที่ได้จบไปต่ำกว่ายอดหนี้วันที่ 10 ตุลาครับ
ไทยพาณิชย์มีหนังสือแจ้งจะให้ปิดที่ 31,500 จากยอดรวมประมาณห้าหมื่นเศษ แต่ผมได้โทรไปคุยขอดูก่อนสิ้นปี เพราะจะได้โบนัสมาปิด เจ้าหน้าที่ก็ดีครับบอกว่ายอดนี้ให้ไม่เกือนสิ้นเดือนนี้ แต่ถ้าเป็นเดือนหน้าเค้าจะดูยอดใหม่ให้อีกที ยังไงเค้าจะโทรมาบอกว่าได้เท่าไหร่อาจมีลุ้นได้ลดกว่าเดิมครับ

เนื่องในโอกาสวันสิ้นปี ขอให้เพื่อนๆสมาชิกมีความสุข สิ่งไม่ดีในปีนี้ขอให้ติดค้างไปกับปีเก่า สิ่งดีๆจงติดตามมาในปีใหม่และขอให้ปีใหม่พานพบแต่สิ่งดีๆ มีสุขภาพที่แข็งแรงมีพลังใจที่เข้มแข็ง ท่านที่ได้ปลดหนี้ไปหมดแล้วขอให้หลุดพ้นวังวนแห่งหนี้ไม่มีหนี้สินอีกต่อไป ท่านที่ได้ปลดหนี้ไปบ้างแล้วและท่านที่ยังไม่ได้ปลดหนี้ ขอให้ได้ปลดหนี้เป็นไทแก่ตัวเองในเร็ววัน และขออย่าให้มีหนี้สินอีกเลยครับ
สุขสันต์ปีใหม่ครับเพื่อนสมาชิก

ขอคำแนะนำวิธีคิดเงินที่ผ่อนจ่ายกับบัตร KTC หน่อยครับ จากที่ผมได้ขึ้นศาลและยินยอมผ่อนจ่ายหนี้ไปแล้ว ซึ่งทาง KTC คิดเงินต้น 96,xxx ดอกเบี้ยปีล่ะ 10% ผ่อนจ่ายขั้นต่ำ 2,000 36 งวด ซึ่งผมก็ผ่อนทุกเดือน 2,000 ทีนี้ใกล้จะครบ 36 งวดผมก็เลยโทรไปถามยอดคงเหลือ พนักงานแจ้งว่าคงเหลืออีก 80,xxx ผมงงกับยอดที่เหลือมาก ต้น 96,xxx ผ่อนมาเกือบเจ็ดหมื่น แต่ทำไมยอดหนี้ยังเหลือมากขนาดนี้ครับ เลยอยากขอคำแนะนำจากสมาชิกหน่อยครับ
1.รบกวนแนะนำวิธีคิดของ KTC หน่อยครับว่าเค้าคิดยังไงหักหนี้แบบไหน งงมากครับผ่อนมานานแต่ยอดหนี้แทบไม่ลดเลย
2.ถ้าผมจะขอรายละเอียดที่ผมผ่อนไปทุกงวด จะสามารถขอได้หรือไม่ครับ เพราะผมโทรไปถามพนักงานก็บอกแค่ยอดหนี้คงเหลือ
ปล.พนักงานบอกว่าถ้าผมอยากปิดเค้าลดให้เหลือ 50,000 แต่ต้องก่อนสิ้นเดือน กันยายน แต่ยอดก็ยังสูงคงไม่มีปัญญาหาเงินปิดครับ

จากที่ลองคำนวณเงินต้น 96,000 ดอกเบี้ย 10% จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 2 พัน พอจ่ายครบ 36 เดือน จะมียอดหนี้คงเหลือประมาณ 48,000 บาท

keng เขียน: จากที่ลองคำนวณเงินต้น 96,000 ดอกเบี้ย 10% จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 2 พัน พอจ่ายครบ 36 เดือน จะมียอดหนี้คงเหลือประมาณ 48,000 บาท

นั่นสิครับผมงงมากๆเลย ถึงแม้ผมจะไม่รู้วิธีคำนวน แต่ที่ผ่อนๆมาผมว่ายอดน่าจะลดไปมากกว่าที่พนักงานบอกมา ผมจ่ายมานับถึงงวดล่าสุดก็ 34 งวดเลยโทรไปถามยอดคงเหลือ พนักงานบอกว่าขอเวลาคำนวนแล้วจะโทรมาบอก รอประมาณเกือบ 20 นาทีพนักงานโทรบอกว่าเหลือหนี้คงเหลือ 80,xxx บาท ยอดหนี้ลดลงนิดเดียวเองผมงงปนอึ้งมากๆครับ แถมยังทำใจดีแจ้งว่าถ้าจะปิด เค้าลดให้เหลือ 50,000 ยอดก็ยังสูงกว่าที่คุณเก่งช่วยคิดให้อีก
ถ้าหากจะโทรไปขอรายละเอียดการผ่อนพร้อมยอดคงเหลือของแต่ละงวดนี่ จะสามารถทำได้หรือปล่าวครับ รู้สึกแปลกๆจัง