ขอคำปรึกษาครับ

จริงๆ แล้วผมก็อ่านปักหมุดแล้วล่ะครับ
แต่เนื่องจากผมไม่อาจจะรอเวลาให้ผ่านไปนานกว่านี้ได้ โดยมีเงื่อนไข คือ
1.แฟนรู้ไม่ได้ (รู้ได้บ้าง แต่เอาเป็นว่าให้รู้ไม่ได้ครับ ไม่งั้นได้หย่ากันแน่นอน)

ซึ่งหนี้ผมมีประมาณ 500000-600000 บาท (หลายบัตรรวมกัน) ผมไม่สามารถผ่อนได้มากกว่าเดือนละ 40000 บาท แต่ผมสามารถผ่อนได้เดือนละประมาณ 20000 บาท
กรณีนี้ผมอยากจะรวมหนี้เป็นจ่ายธนาคารเดียว โดยกู้จ่ายรวมภายใน 4-6 ปี ดอกเบี้ยเท่าไหร่ก็ช่างมัน ให้หมดภายในระยะเวลาที่ว่า (โดยเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น คือ แฟนห้ามรู้)

เพราะฉะนั้น ผมจึงมีทางออกทางเดียวครับ คือ อยากจะหาที่กู้รวมจ่ายปิดทั้งหมด แต่ตอนนี้ผมไม่ได้จ่ายเงินมา 3 เดือน แล้ว ไม่รุ้ติดblacklist ไปแล้วหรือยัง

ไม่ทราบว่าผมพอจะมีทางเลือก หรือทางออกสำหรับปัญหานี้มั้ยครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับคำแนะนำครับ

อ่านปักหมุดจริงก็น่าจะเข้าใจ คุณจะรอเร็วหรือนานกว่านี้ก็ต้องบอกให้คนรอบข้างรู้

โดยเฉพาะแฟนคุณ จะบอกด้วยตัวคุณเองหรือจะรอให้เจ้าหนี้บอกล่ะ ข้อแม้แฟนห้ามรู้

แล้วคุณรู้ได้ไงว่าเจ้าหนี้มันจะไม่โทรไปหาคนอื่นๆ เช่น เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย พ่อแม่

ญาติพี่น้อง

การเอาหนี้บัตรหลายๆใบมารวมกันแล้วผ่อนจ่ายตามที่คุณบอก ดอกเบี้ยเท่าไรช่างหัวมัน

เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้่า ระยะเวลาการผ่อนยาวนาน อนาคตถ้าผ่อนไม่ไหว

อะไรจะเกิดขึ้น คุณได้คิดถึงตรงนี้บ้างไหม

ที่บอกว่าอ่านปักหมุดแล้ว ไม่ทราบว่าอ่านหัวข้อไหน หนี้คุณปล่อยมาเนิ่นนาน

จนรอไม่ไหว ตอนนี้กลับรอให้ผ่านนานกว่านี้ไม้ได้ แล้วระหว่างนั้นคุณอ่านปักหมุดเพื่อทำอะไร

poopae เขียน: อ่านปักหมุดจริงก็น่าจะเข้าใจ คุณจะรอเร็วหรือนานกว่านี้ก็ต้องบอกให้คนรอบข้างรู้

โดยเฉพาะแฟนคุณ จะบอกด้วยตัวคุณเองหรือจะรอให้เจ้าหนี้บอกล่ะ ข้อแม้แฟนห้ามรู้

แล้วคุณรู้ได้ไงว่าเจ้าหนี้มันจะไม่โทรไปหาคนอื่นๆ เช่น เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย พ่อแม่

ญาติพี่น้อง

การเอาหนี้บัตรหลายๆใบมารวมกันแล้วผ่อนจ่ายตามที่คุณบอก ดอกเบี้ยเท่าไรช่างหัวมัน

เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้่า ระยะเวลาการผ่อนยาวนาน อนาคตถ้าผ่อนไม่ไหว

อะไรจะเกิดขึ้น คุณได้คิดถึงตรงนี้บ้างไหม

ที่บอกว่าอ่านปักหมุดแล้ว ไม่ทราบว่าอ่านหัวข้อไหน หนี้คุณปล่อยมาเนิ่นนาน

จนรอไม่ไหว ตอนนี้กลับรอให้ผ่านนานกว่านี้ไม้ได้ แล้วระหว่างนั้นคุณอ่านปักหมุดเพื่อทำอะไร

ขอบคุณที่ตอบครับ

คือต่อไปในอนาคตเขาอาจจะโทร แต่ตอนนี้ไม่โทร เงื่อนไขเดียว ของผม คือแฟนรู้ไม่ได้จริงๆ ครับ

จะด่าผมก็ด่าเถอะ เพราะมันเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจริงๆ ครับ แต่ผมมีวิธีเดียวจริงๆ ครับ

ผมมีเวลาน้อยมากในการเคลียหนี้ตรงนี้ น่ะครับ เพราะผมเพิ่งจะมาเจอเว็ปนี้ เลยมีเวลาศึกษาแค่แป้บเดียว ซึ่งแต่ละวิธีใช้เวลานาน

งั้นคุณต้องไปหาทางออกที่อื่นแล้วละคะ
เพราะบ้านนี้ ชมรมฯนี้ ไม่สนับสนุนให้มีการ "รวมหนี้" หรือ Thirdway out
กรรมการรับเคสนี้มานาน ฟังปัญหา ตอบปัญหาจน...แค่หลับตาก็รู้แล้วว่า ใครจะถามอะไร
และใครจะต้องมีบั้นปลายเป็นแบบใด
หลายๆคน ก็เป็นแบบคุณ หมุนเงิน หมุนบัตร ด้วยเหตุผลต่างๆนานๆ
แล้วก็ไปไม่รอด เพราะ รายจ่ายมากเกินกว่ารายรับ
"ดอกเท่าไหร่ก็ได้" แล้วคุณรู้ไหม ดอกที่คุณต้องทนจ่ายทุกวันนี้ สถาบันการเงินมันคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดทั้งนั้น
คุณแก้ปํญหาแบบ "แก้ผ้าเอาหน้ารอด" เออ..พูดถูกไหมเนี้ย
คุณจะไปไม่รอด บ้าน รถ แม้แต่กางเกงในคุณก็อาจจะโดนยึด
ถ้าคุณยังยืนยันที่จะทำดังกล่าว
ต้องหาชมรมใหม่แล้วหล่ะคะ เพราะชมรมเรามีชื่ออีกอย่างว่า "ชมรมยิ้มสู้หนี้" ไม่ใช่ "ชมรมชวนกันเป็นหนี้"

โชคดีค่ะ...

กอบัว เขียน: งั้นคุณต้องไปหาทางออกที่อื่นแล้วละคะ
เพราะบ้านนี้ ชมรมฯนี้ ไม่สนับสนุนให้มีการ "รวมหนี้" หรือ Thirdway out
กรรมการรับเคสนี้มานาน ฟังปัญหา ตอบปัญหาจน...แค่หลับตาก็รู้แล้วว่า ใครจะถามอะไร
และใครจะต้องมีบั้นปลายเป็นแบบใด
หลายๆคน ก็เป็นแบบคุณ หมุนเงิน หมุนบัตร ด้วยเหตุผลต่างๆนานๆ
แล้วก็ไปไม่รอด เพราะ รายจ่ายมากเกินกว่ารายรับ
"ดอกเท่าไหร่ก็ได้" แล้วคุณรู้ไหม ดอกที่คุณต้องทนจ่ายทุกวันนี้ สถาบันการเงินมันคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดทั้งนั้น
คุณแก้ปํญหาแบบ "แก้ผ้าเอาหน้ารอด" เออ..พูดถูกไหมเนี้ย
คุณจะไปไม่รอด บ้าน รถ แม้แต่กางเกงในคุณก็อาจจะโดนยึด
ถ้าคุณยังยืนยันที่จะทำดังกล่าว
ต้องหาชมรมใหม่แล้วหล่ะคะ เพราะชมรมเรามีชื่ออีกอย่างว่า "ชมรมยิ้มสู้หนี้" ไม่ใช่ "ชมรมชวนกันเป็นหนี้"

โชคดีค่ะ...

ขอบคุณครับ งั้นผมขอเวลาทบทวนก่อน เผื่อทางที่คิดมันไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดจริงๆ

ผมเคยคิดจะรวมหนี้เหมือนกันครับ
แต่ก็โชคดีที่มาเจอชมรมนี้ก่อน

ไม่งั้นไม่รู้จะพ้นขุมนรกเมื่อไหร่

ตอนนี้ หนี้ล้านกว่าของผม เหลือแค่ แสนเดียว ครับ

ลองไปคิดใคร่ครวญดูให้ดีนะครับ

ขอเสนอความเห็นนะครับ...

การปกปิดคนในครอบครัวก็คือการเก็บความทุกข์ใจไว้คนเดียว
นอกจากจะทุกข์เรื่องหนี้แล้วยังต้องทุกข์เรื่องปกปิดอีก
เปิดใจยอมรับเถอะครับ ไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกแล้ว
สุดท้ายก็ปิดไม่ได้เพราะหนี้มันฟ้อง

ผมเองผ่านจุดนี้มาแล้ว ผ่านโดยโดนจับได้
ก็เสียใจกันพอควร แล้วช่วยกันหาทางออก
สุดท้ายมันก็จะผ่านไปเองครับ
เอาใจช่วยคนหัวอกเดียวกัน
สุดท้ายอยู่ที่ท่านเลือกเองครับ
ว่าจะสู้ด้วยวิธีไหน ด้วยจิตคาระวะ

เท้าความนืดหนึ่งครับ
ผมทำงานเอกชน เงินเดือน 53,000-65,000
ช่วงนี้ทำอาชีพเสริม คือ ขายประกันรถยนต์ ได้เพิ่มมาอีก เดือนละ 2000-4000
แล้วก็เพิงจะเริ่มขายรองเท้าทางเน็ต ( www.facebook.com/kikkanuionishop ) อีก ได้เดือนละ ราวๆ 20,000-30,000 ในเดือนแรก
รวมแล้วน่าจะมีรายได้ซัก 70,000-90,000 บาท

ด้วยว่าไปติดสิ่งไม่ดี และตัวเองเป็นคนอารมณ์ชั่ววูบ และระงับอารมณ์ไม่อยู่ แทนที่จะหยุด แต่ดันทุรัง จนติดหนี้

ผมมีหนี้บัตรเครดิตอยู่
1.บัตร กรุงไทย ต้น 80,000 รวมดอก 92,000 ปัจจุบัน มีแต่จดหมายทวง และมีหมายศาลแล้ว
2.บัตร กศิกร ต้น 90,000 รวมดอก 108,500 มีแต่จดหมายทวง
3.บัตรธนชาติ ต้น 60,000 รวมดอก 75,000 มีโทรมาอาทิตก่อน ให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 2,000 ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีส่วนลด อะไรทั้งสิน เลยตัดสนใจไม่จ่าย
4.บัตรไทยพานิช ต้น 350,000 รวมดอก 330,000 มีแต่จดหมายทวง
5.บัตรอิออน ต้น 40,000 รวมดอก 46,100 มีแต่จดหมายทวง

รวมทั้งหมด ต้น 620,000 ดอก 651,600 บาท

ทั้งหมด หยุดจ่าย เกือบปี

แต่มีหนี้ที่ยืมจากเพื่อนอีก = 9,000+20,000+35,000+42,000+22,000 = 128,000 บาท
เฉพาะของเพื่อน ก้อ ทยอยจ่าย เพราะเป็นบัตร เครดิต ไม่อยากให้เพื่อนมีปัญหา จ่ายเดือนละ 2,000+3,000+5,000+2,500 = 12,500
(จริงๆ มีของเพื่อนอีกคน แต่จ่ายหมดแล้ว เหลือเศษนิดหน่อย ไม่เกินพัน จะปิดหมดเดือนหน้า)
หนี้เพื่อนๆ จะหมด ภายในไม่เกิน 8 เดือน ส่วนหนีเยอะ 42,000 น่าจะอีกอย่างน้อย 36 งวด


มีหนี้สินที่จ่ายประจำ คือ
1.ผ่อนบ้าน 6,500
2.ผ่อนรถ 8,900
3.ค่าจิปาถะ 1,700
4.ค่าจ้างเลี้ยงลูก 5,000
5.ใช้เอง 3,000
รวม

เบ็ดเตล็ดอีก รวมแล้วรายจ่ายเดือนหนึ่ง ราวๆ 40,000-50,000 บาท

จริงๆ อาจจะเหลือเงินซักเดือนละ 20000-30000 บาท
แต่ในช่วงที่ผ่านมา ผมต้องเอาเงินไปปิดหนี้นอกระบบด้วย ทำให้ยังไม่มีเงินเก็บเลย

และคิดว่าน่าจะเริ่มนับหนึ่งได้ในเดือน ตุลาคม

---

ช่วงเป็นหนี้แรกๆ เครียดมาก ทำตัวหนีปัญหา ไม่กล้าเปิดจดหมายทวง จนมาเจอเว็ปนี้ในช่วงเดือน กรกฎาคม ปี 2555 ทำให้ผมตัดสินใจทำ HC เลิกจ่าย (เคยมีกระทู้ผมตั้งไว้ ว่า ทำยังไงจะหากูเงิน 500000 มาปิดหนี้ได้ อาจจะลืมไปแล้วมั้ง) ทั้งหมด นี่ก็ผ่านมาราวๆ 1 ปีได้
ในช่วงแรก เครียด ไม่กล้าบอกแฟน จนสุดท้ายต้องบอก เกือบจะต้องเลิกกัน แต่ด้วยเรามีลูกแล้ว แฟนก็เลยช่วยกันหาทางออก โดยหาเงินไปจ่ายหนี้นอกระบบก่อน ส่วนหนี้บัตรตัวเอง ผมบอกแฟนว่าจะหยุดจ่าย แล้ว ทำ HC ในภายหลัง

---

ทีนี้ มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า
ผมได้รับหมายศาลของ ธ.กรุงไทย มาเมื่อเดือน ก.ค. 2556 นัดประนอมหนี้ และไต่สวนพยานวันที่ 2 ต.ค. นี้ เวลา 13.30 น.
ซึ่งวันนี้ผมได้โทรไปที่ KTC พนักงานแจ้งมาว่า ถ้าจะข่ายปิดเลย สามารถผ่อนได้ 3 งวด โดยลดหนี้จาก 92,000 รวมดอก เหลือ 85,000 ต้น 80,000 ดอก 5,000
ซึ่ง ผมไม่สามารถจ่ายได้
และก็เป็นเหมือนที่เพื่อนๆ ว่า KTC เขี้ยวมากตอนนี้
พนักงานเลยแจ้งว่า ถ้างั้นก้อต้องไปเจรจากับทนายที่ศาลตามนัดหมาย ซึ่งอาจจะสามารถผ่อนได้ 36 งวด ดอกเบี้ย 10 เปอเซน/ ปี
ทีแรกก็เครียด ไม่เคยขึ้นศาล กลัวศาล อายคน
แต่พอได้มานั่งไล่รายได้-รายจ่าย และพอคำนวณ การจ่ายในระยะเวลา 3 ปี ก้อพบว่า สามารถจ่ายได้เดือนละ 2,800 บาท รวมจ่าย 36 งวด 98,000 บาทโดยประมาณ ก็เริ่มหายเครียดลงบ้างแล้ว

โดยส่วนตัว คิดว่าจะยอมจ่ายเดือนละ 2800 จนหมดหนี้

ทีนี้ ผม อยากจะถามความเห็นของพี่ๆ ว่า
1.ขอผ่อนจ่ายตามที่ผมคำนวณ น่าจะโอเคมั้ยคับ (ในเคสที่ว่า พอมีกำลังจ่าย)
2.เวลาไปศาล เขาจะให้เราคุยกับทนายฝ่ายโจทย์ก่อนขึ้นศาลใช่หรือเปล่าครับ (ผมไม่อยากขึ้นศาล)

1.ขอผ่อนจ่ายตามที่ผมคำนวณ น่าจะโอเคมั้ยคับ (ในเคสที่ว่า พอมีกำลังจ่าย)

จ่ายไหวคุณก้จ่ายไป แต่อย่าลืม วางแผนเก็บเงินเพื่อปิดจบตัวอื่นด้วยละครับ


2.เวลาไปศาล เขาจะให้เราคุยกับทนายฝ่ายโจทย์ก่อนขึ้นศาลใช่หรือเปล่าครับ (ผมไม่อยากขึ้นศาล)[/quote]

ไปศาลได้คุยกับทุกคนละครับ ทั้งเจ้าหน้าที่ศาล ทนายโจทย์ ผู้พิพากษา

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40205&Itemid=64#40517 แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาล​แบบบ้านๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ เพราะเล็กก็ได้หมายแรกเป็นของ เคทีซีเหมือนกัน ขึ้นศาลวันที่ 10 กันยายน 2556 นี้ หมายต่อไปก็เตรียมของยูโอบี เพราะมีจดหมายเตือนก่อนฟ้องมาแล้ว แต่แปลกนะ เหมือนว่า ยูโอบีแยกฟ้อง แต่ เคทีซี ฟ้องรวมค่ะ

ของเรามาแล้วศาลส่งธรรมดาไม่ปิดหมายค่ะ เราไปรับเองเลย เพราะเจ้าหน้าที่มาส่งไม่เจอเราพี่ข้างบ้านบอก เค้าก็ดีน่ะค่ะบอกพี่ว่ามาส่งเอกสาร เรารู้อยู่แล้วเพราะเช็ควันยื่นฟ้องกับ ktc แล้ว ไปศาล 14/9/56 นี้ค่ะ ยอด 3 ใบรวมกัน 158000 เย้โล่งอก เหลือตัวนี้สุดท้ายแล้วค่ะ สู้ ๆ น่ะค่ะ เราขึ้นศาลแขวงนนทบุรีค่ะ

ดีดีจัง เขียน: ของเรามาแล้วศาลส่งธรรมดาไม่ปิดหมายค่ะ เราไปรับเองเลย เพราะเจ้าหน้าที่มาส่งไม่เจอเราพี่ข้างบ้านบอก เค้าก็ดีน่ะค่ะบอกพี่ว่ามาส่งเอกสาร เรารู้อยู่แล้วเพราะเช็ควันยื่นฟ้องกับ ktc แล้ว ไปศาล 14/9/56 นี้ค่ะ ยอด 3 ใบรวมกัน 158000 เย้โล่งอก เหลือตัวนี้สุดท้ายแล้วค่ะ สู้ ๆ น่ะค่ะ เราขึ้นศาลแขวงนนทบุรีค่ะ

เล็กขึ้นศาลที่ภูเก็ตค่ะ เวลา 16.30 น. เอาไปปิดผิดบ้านอีกค่ะ บ้านเลขที่ 18 เอาไปปิดบ้านเลขที่ 8 เจ้าของบ้านตกใจมาก มีเขียนว่า ไม่มีผุ้รับโดยชอบ ให้ปิดมีผลทันที อีกต่างหาก

ตัวเอง หลายแบงก์มาก หยุดจ่ายทุกแบงก์เมื่อ มค. ปีนี้ ที่จ้ดมาก่อนเลยคือ UOB แต่ KTC เงียบมาก มีแต่จดหมายมาบ้างโทรศัพท์ไม่มีเลย ศาลนัด 9 กันยานี้ คงไม่ได้ไป เพราะตกงานมานาน เพิ่งได้งาน จะมีปัญหากับที่ทำงานใหม่ ขอกำลังใจด้วยนะคะ และไม่มีทรัพย์สินใดๆให้ยึดค่ะ เหลือแต่เงินเดือนของที่ใหม่นี่แหละ

wanwan เขียน: ตัวเอง หลายแบงก์มาก หยุดจ่ายทุกแบงก์เมื่อ มค. ปีนี้ ที่จ้ดมาก่อนเลยคือ UOB แต่ KTC เงียบมาก มีแต่จดหมายมาบ้างโทรศัพท์ไม่มีเลย ศาลนัด 9 กันยานี้ คงไม่ได้ไป เพราะตกงานมานาน เพิ่งได้งาน จะมีปัญหากับที่ทำงานใหม่ ขอกำลังใจด้วยนะคะ และไม่มีทรัพย์สินใดๆให้ยึดค่ะ เหลือแต่เงินเดือนของที่ใหม่นี่แหละ

ถ้าไม่มีอะไรให้ยึด เหลืออายัดเงินเดือน พี่ ๆ เขาก็บอกว่า มันเป็นวิธีการจ่ายหนี้อีกทางหนึ่ง แถมอายัดได้แค่ 1 เจ้า อายัดซ้ำไม่ได้ ก็ดีไปอย่าง แต่อยากให้ไปศาลจัง เพราะ เล็กก็จะไปศาล อีกอย่างหนึ่งของ เคทีซี คิดว่าจะให้ศาลท่านดูดอกเบี้ยคิดเกินกฎหมายกำหนดด้วย ขอความเมตตาท่าน ช่วยดูดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมด้วย เพราะ เห็นมีหลายคนในนี้แชร์ว่า เคทีซี คิดดอกเกิน ถ้าเราไม่ไปศาล ศาลท่านก็พิจารณาตามโจทย์เลย เสียผลประโยชน์นะค่ะ พอจะหาวิธีไปได้ไหมเอ่ย เพราะเล็กไปศาลก็ให้ท่านพิจารณาเลยค่ะ ใช้แนวทางที่ 3 ตามท่านประธานแนะนำ เพราะเราไม่สู้คดี แถมไม่มีเวลามาบ่อย ๆ ด้วย

สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

แนวทางในการไปศาลก็มีเล่าไว้ในนี้หลายเรื่องมากลองอ่านและเอามาปรับใช้กับของเราดูนะครับ
สำหรับของผม KT นัดแรกผมไปศาล และขอเลื่อนเพื่อเจรจากับเจ้าหนี้ก่อน
แต่นัด 2 เนื่องจากตอนนั้น้ำท่วมใหญ่ กทม. เลยไม่ได้ไปศาล ศาลท่านก็ตัดสินยอดตามโจทย์ ดอกเบี้ย 15%
ถ้านัด 2 ผมไปศาลและให้ท่านตัดสินเลย โดยขอให้ท่านพิจารณษเรื่องดอกเบี้ยให้ด้วย ท่านอาจจะกรุณาลดให้น้อยกว่ายนี้ก็ได้
เพราะในนัดแรกทนายของ KT เจรจาจะลดให้เหลือ 10% แต่ต้องผ่อนจ่ายให้หมดภายใน 36 งวด
ซึ่งโดนบีบเรื่องเวลาว่าต้องจบภายใน 36 งวด อันนี้ลองพิจารณาดูครับ
แต่ถ้าให้ศาลท่านตัดสินเลย หลังศาลตัดสินเราค่อยมาเจรจาเรื่องการชำระได้อีก
เรื่องระยะเวลา ลองหาอ่านประสบการณ์สมาชิกท่านอื่น ๆ ในนี้ดูครับ

zผมโทรไปหาเจ้าหน้าที่ เขาก้อแจ้งว่าดอกเบี้ย 10 เปอ ยาว 36 งวด ลดได้จาก 92000 เหลือ 85000 คับ

มีแนวทางนี้ด้วยเหรอคับ ให้ศาลพิจารณา ดอกเกินจริง

สงสัยนิดหนึ่ง

ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปด้ววยมั้ยครับ

มาอัพเดตสถานการณ์ครับ
(02/06/2557)
ตอนนี้ไล่ปิดหนี้นอกระบบหลายๆ เจ้า
เจ้าที่ 1 - 70,000 บาท
เจ้าที่ 2 - 20,000 บาท
เจ้าที่ 3 - 30,000 บาท
รวมเคลียหนี้นอกระบบ 102,000 บาท

แล้วก็ปิดยอดบัตรเครดิตที่ยืมเพื่อนมา
1.บัตรโลตัส - 20,000 บาท
2.บัตรธนชาต - 40,000 บาท
3.บัตรอิออน - 45,000 บาท
4.บัตรเฟิร์ศช้อย -33,000 บาท (ยังเหลือยอดอีก 27,000 บาท)
รวมเคลียไปแล้ว 135,000 บาท

บัตรเครดิต ตัวเอง
1.ไทพานิช ต้น 350,000 ยอดหนี้ 436,000 บาท เจรจาปิดบัญชี เหลือ 265,000 บาท งวดเดียว

เหลือ รอเคลียร์
1.ธนชาต ต้น 60,000 ยอดหนี้ 79,000 บาท นัดศาล 9 มิย นี้
เจ้าหน้าที่มาเจรจาปิดหนี้ที่ 61,000 บาท งวดเดียว หรือ จ่าย 3,400บาท/เดือน 24 งวด รวมแล้ว 81,600 บาท
>>>เคสนี้ผมยังไม่ติดสินใจ แต่อยากถามว่า ถ้าไปเจรจาที่ศาลวันนั้นเลย จะได้เงื่อนไขที่ดีกว่านี้หรือไม่ครับ

2.อิออน ยอดหนี้ 45,000 บาท โทรไปแล้ว ยังติดต่อไม่ได้
3.กสิกรไทย ต้น 90,000 ยอดหนี้ 119,000 บาท
เจรจา ณ ตอนนี้ผิดยอด 1 งวดที่ 95,000 บาท หรือ ผ่อน 4,000 บาท/24งวด ปิดที่ 96,000 บาท
ยังไม่มีเงื่อนไขอื่นๆ นอกจากนี้
4.กรุงไทย ต้น 89,000 ยอดหนี้ 91,700 บาท เคยเลื่อนศาล เมื่อตอนน้ำท่วม ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีนัดอีก
ติดต่อธนาคารแล้ว รอติดต่อกลับมา


ช่วยพิจารณาเคสกสิกร กับ กสิกรหน่อยครับ ว่าจะทำยังไงดี โดยเฉพาะ กสิกร เพราะ วันที่ 9 มิย นี้ต้องไปศาลแล้ว

พรุ่งนี้ไปขึ้นศาล ธนชาติละ ยอดฟ้อง 79,000 บาท
คงต้องยอมจ่ายเป็นเดือนๆ ไป ครับ

แล้วก็เหลือ กสิกร/กรุงไทย/อิออน

อีกไม่กี่เดือนก็จะเกิน 2 ปีแล้ว ยังไม่มีหมายฟ้อง ขอให้เจ้าหนี้ลืมๆ ไปเถอะ จะได้ไม่ต้องจ่ายหนี้

อิอ้อนไม่ยอมฟ้อง

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=178&Itemid=29

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=36792

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=54490

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=54490&limitstart=6

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=54722

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=129&catid=5

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=41540

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=1662

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=12379

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=211&Itemid=29

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=4118&Itemid=29




แต่มันจะใช้วิธีทวงหนี้แบบ"กดดัน"แทน...จนกว่าจะ Hair cut สำเร็จ หรือไม่ก็ขายหนี้เน่าออกไป

www.google.co.th/#q=site:debtclub.consumerthai.org+%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99+%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99