ช่วยหาทางออกให้ด้วยค่ะ

เบื้องต้นก็บอกพ่อว่าถ้าเค้าโทรมาทวงหนี้ก็บอกเค้าไปตามตรงว่าเราไม่ได้ใช้บัตรเอง มันเป็นบัตรเสริม พ่อไม่มีรายได้หรอก แต่ถ้าจะให้ปิดบัตรต้องจ่ายเท่าไหร่ เผื่อจะหามาให้ได้ ถ้าเยอะๆก็ไม่ไหวหรอกนะ พ่อคิดไว้ว่า ถ้าหากระหว่างที่ทวงหนี้กันอยู่นี้ เค้าลดยอดจาก 250,000 บาท เหลือแค่ 100,000 - 150,000 ก็จะจ่ายและปิดยอดไปเลย แต่ถ้าไม่ไหว ก็รอไปจนกว่าจะขึ้นศาล แล้วค่อยต่อรองไปเรือยๆค่ะ รอไปเรื่อยๆ ถ้าหากว่าจะมีการอายัดทรัพย์สินของพ่อเมื่อไหร่ก็อาจจะต้องยอมจ่ายตามยอดที่ตกลงกันอีกทีค่ะ

ขอบคุณพี่ keawja นะค่ะ หนูเข้าใจว่าต้องปล่อยของพวกนั้นค่ะ แต่ก็เข้าใจพ่อแม่ด้วย เพราะทุกวันนี้เค้าก็ไม่มีรายได้ประจำกันแล้ว ต้องมาใช้ดอกเบี้ยจากทรัพย์สินพวกนี้แหละค่ะ แต่ละปี ก็ถอนออกมาใช้กันอยู่แล้ว เงินมีแต่จะลดลงไปเรือยๆ และกับพี่สาวคนนี้ ก็ทำให้พ่อแม่ต้องจ่ายเงินล้างหนี้มาหลายแสนแล้ว รวมทั้งทองอีก เกือบ 10 บาท เคยล้างมาให้ถึง 2 รอบ แต่ก็ไปสร้างใหม่เรือยๆ จนพ่อกับแม่ไม่อยากจะต้องเสียอะไรอีกแล้ว แถมมีลูก 2 คน ก็เอามาให้ที่บ้านเลี้ยงหมด โดยที่ไม่ช่วยเหลือเลย และเท่าที่รู้มา คือพี่สาวก็มีหนี้บัตรอีก 4 แสนกว่า ยังไม่รวมถึงหนี้นอกระบบอีก ซึ่งก็คงไม่มีทางมาช่วยเหลืออะไรได้แน่ๆ แต่ถ้ามันสุดทางจริงๆ ก็คงต้องยอมปล่อยเหมือนกันค่ะ

คุณ nungning ค่ะ น่าจะพาคุณพี่มาอบรมครั้งทีผ่านมานะ

หรือไม่ก็ไปสวนลุม หรือโทรหาคุณอาไพโรจน์ เพราะเธอคือ

ต้นตอของเรื่อง

หากเธอยังวิ่งตามวัตถุ ยังฟุ้งเฟ้อ จมไม่ลง รับไม่ได้กับสภาพที่

แท้จริงของตัวเอง คนที่แย่มากคือ ตัวเธอเอง และครอบครัวค่ะ

คนเราเกิดมามีแต่ตัว สิ่งของรอบกายเป็นเพียงของอุปมาอุปมัย

ขึ้นมาให้คนเรามีกิเลสอยากได้อยากครอบครองไม่รู้จักจบจักสิ้น

มีแล้วมีความสุขไหม เพราะสิ่งที่ได้มา ไม่ใช่ของๆเราเลย สักวัน

ก็ต้องคืนเขาไปค่ะมีแล้วทุกข์มีทำไมค่ะ ไม่ใช่พวกเราไม่เป็นค่ะ

เพราะเราเคยเป็น จึงอยากช่วย อยากบอกคนอื่นที่ยังไม่ถลำตัว

จนเกินเยียวยาให้รู้ถึงอันตราย รู้ถึงโทษของการเป็นคนไม่มีวินัย

ใช้เงินอนาคตอย่างผิดพลาด แก้ไขปัญหาแบบเอาหน้ารอด รักษา

หน้า รักษาเครดิตจนตัวเกือบตายค่ะ


ส่วนคุณพ่อคุณ เราเข้าใจท่านใช้เวลาและเงินที่หามาทั้งครึ่งชีวิต

เพื่อได้ครอบครองบ้าน รถ หุ้นทั้งหลาย จะปล่อยง่ายๆ ก็เสียดาย

แต่หากไม่ปล่อยไป แล้วคุณจะใช้สิ่งใดช่วยชีวิตพวกคุณค่ะ

รอให้เขายึดไป หรือก็เสียดายแทน มีไว้มากเวลาต่อรองก็ลำบาก

ใครเขาจะเชื่อว่า ไม่มีเงินค่ะ ปล่อยในเวลาที่ควรปล่อยดีที่สุดค่ะ

ได้ราคามากกว่าขาดทุนค่ะ

NungNing เขียน: ขอบคุณพี่ keawja นะค่ะ หนูเข้าใจว่าต้องปล่อยของพวกนั้นค่ะ แต่ก็เข้าใจพ่อแม่ด้วย เพราะทุกวันนี้เค้าก็ไม่มีรายได้ประจำกันแล้ว ต้องมาใช้ดอกเบี้ยจากทรัพย์สินพวกนี้แหละค่ะ แต่ละปี ก็ถอนออกมาใช้กันอยู่แล้ว เงินมีแต่จะลดลงไปเรือยๆ และกับพี่สาวคนนี้ ก็ทำให้พ่อแม่ต้องจ่ายเงินล้างหนี้มาหลายแสนแล้ว รวมทั้งทองอีก เกือบ 10 บาท เคยล้างมาให้ถึง 2 รอบ แต่ก็ไปสร้างใหม่เรือยๆ จนพ่อกับแม่ไม่อยากจะต้องเสียอะไรอีกแล้ว แถมมีลูก 2 คน ก็เอามาให้ที่บ้านเลี้ยงหมด โดยที่ไม่ช่วยเหลือเลย และเท่าที่รู้มา คือพี่สาวก็มีหนี้บัตรอีก 4 แสนกว่า ยังไม่รวมถึงหนี้นอกระบบอีก ซึ่งก็คงไม่มีทางมาช่วยเหลืออะไรได้แน่ๆ แต่ถ้ามันสุดทางจริงๆ ก็คงต้องยอมปล่อยเหมือนกันค่ะ

หวังว่าคุณและคุณพ่อ...คงจะไม่รอให้สุดทาง ปลายทางจริงๆแล้วค่อยยอมปล่อยนะครับ...

ประเมิณไว้ล่วงหน้า แล้วจัดการก่อนได้เลยครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ.......อ่านเยอะๆครับ เสริมกำลังใจแถมได้ความรู้

เมื่อวานนี้ HSBC โทรมาทวงหนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว โอ้ยไม่น่าเชื่อว่าจะเริ่มดุเดือดแบบที่บอกกันจริงๆ แต่พ่อเก่งมากเลย ที่เราบอกไว้ ทำได้หมด ไม่จ่าย ไม่ปรับโครงสร้างหนี้ แต่ยังไม่พร้อมจะจ่าย รอไปก่อน เถียงสู้เค้าได้ด้วย แต่พอวางสายพ่อแทบจะเป็นลมเลยทีเดียว เฮ้อ
แต่ก็แอบกังวลกลัวพ่อจะอาการไม่ดีกว่านี้ เลยโทรไปปรึกษาหลายที่ทำงานทวงหนี้กับสำนักงานกฎหมาย หลานแนะนำมาว่า ให้พ่อไปแจ้งความว่าพี่สาวนำบัตรไปใช้เอง ไม่ทราบเรื่อง เหมือนเป็นการทุจริตการใช้บัตรเครดิตนั้น และค่อยนำใบแจ้งความติดต่อกับธนาคารของบัตรอีกที วิธีนี้จะช่วยให้หยุดดอกเบี้ยไว้ได้ตั้งแต่วันที่เราแจ้งเลย และยังเป็นหลักฐานที่ดีเมื่อเวลาที่ขึ้นศาลอีกด้วย ศาลจะรับฟังเหตผลว่าเราไม่ได้ใช้งานจริง อาจจะลดหย่อน หรือ ไม่ต้องรับผิดชอบเลยก็ได้
วิธีการนี้ใช้ได้ผลจริงเหรอค่ะ

การแจ้งความอาจจะใช้ได้ แต่อย่างที่ท่านประธานนก ได้บอกไว้ว่า พี่สาวคุณก็อาจจะโดนทางเจ้าหนี้แจ้งความในข้อหาลักทรัพย์แทน คุณก็ต้องพิจารณาให้ดีในข้อนี้นะครับ
[attachment:1]



โชคดีครับ[/size][/color]

แค่มาบอกว่า การยักยอกหรือลักทรัพย์นะเป็นคดีอาญา มีสิทธิ

ถูกจำคุกนะค่ะ อยู่ที่คุณจะเล่นบทโหดกับพี่คุณหรือเปล่า

แก้วจ๋าเห็นว่า เรื่องความผิดพลาดของคนในครอบครัว สามารถ

ใช้ความรักความเข้าใจแก้ไขปัญหาได้ หากใช้แต่อารมณ์ย่อมทำ

ให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ

การไปศาลไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเป็นทางสุดท้าย ไม่ใช่ไม่มีทางออก

หากพวกคุณร่วมใจกันสามัคคีลงขันกัน สักวันหนี้ก็จะหมดเอง แต่หาก

แต่ละคนเอาแต่ตัวเองรอด สุดท้ายก็จะไม่มีใครรอดสักคน

ตามกฎหมาย เจ้าของบัีตรหลักต้องเป็นผู้รับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นจากทั้ง

บัตรหลักและบัตรเสริม หากคุณคิดแจ้งความ แล้วพี่สาวคุณเกิดกลัวและ

ซิ่งหนีไป คุณพ่อคุณก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดีค่ะ

การประนีประนอมในครอบครัวยังทำไม่ได้ แล้วคุณจะฟันฝ่าเล่ห์เจ้าหนี้

ได้ยังไงค่ะ มีหลายเคสในชมรมนี้ ที่ต้องแบกภาระจากหนี้ที่ตัวเองไม่ได้

ก่อ แต่ละคนต่างเข้ามาชมรมด้วยความโกรธ มาหาเราเพื่ออยากหาทาง

รอดจากหนี้ที่ไม่ได้ก่อ เราได้แต่แนะนำอย่างที่บอกไว้แต่ต้นค่ะ ซึ่งทุกคน

เมื่อเข้าใจก็จะยอมรับสภาพได้ค่ะ คิดถึงวันในอดีตที่คุณเองต่างก็มอบให้

พี่สาวดูแลโดยดุษฎี เขาเรียกว่า ให้ด้วยความสิเหน่หา แต่พี่สาวคุณเกิด

มีกิเลส และความโลภลุ่มหลงในวัตถุจึงทำให้ตาบอดใจบอดใช้อย่างผิดๆ

ถ้าพี่สาวอยากต่อสู้คดี เขาก็มีทางออกเช่นกันค่ะ ว่าพวกคุณมอบฉันทะ

ทางวาจาและการกระทำให้เขาดำเนินการแทน เพราะฉะนั้นคดีที่เกี่ยวกับ

บัตรนำไปใช้โดยคนในครอบครัว และ/หรือสามีภรรยา เมื่อนำขึ้นศาลฟ้อง

กันเอง น้ำหนักในการชนะมีน้อยแถมมีแต่เรื่องในครอบครัวนำมาประจานกัน

แก้วจ๋าเองก็รับภาระหนี้ที่ไม่ได้ก่อเช่นกัน แต่เรายินยอมให้เกิดขึ้น แก้วจ๋า

ก็ต้องรับผิดชอบค่ะ ซึ่งแก้วจ๋าใช้เวลาเกือบ 3ปีเคลียร์หนี้และ ณ วันนี้

ให้อภัย อโหสิกรรมคนที่นำกรรมนี้มาให้แล้วค่ะ เขาสอนบทเรียนที่ไม่มี

วันลืมให้ ชีวิตตอนนี้มีความสุขมากค่ะ

แค่เตือนมาด้วยความหวังดี และอยากเห็นครอบครัวรักกันมากกว่าค่ะ อย่า

ให้แค่เรื่องหนี้ต้องทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่รักษายากเลยค่ะ

เฮ้อ อยากมาเล่าต่อจ๊ะ ตอนนี้พ่อและแม่เอาสมบัติเก่าไปให้พี่สาวจัดการ นำเงินมาเคลียร์หนี้ให้บัตรเราแล้ว เคลียร์ไปได้ 3 ใบแล้ว ยังเหลืออีก 1 ใบ คือ Citibank เป็นสินเชื่อ พี่สาวบอกว่ายังพอไหว จะจ่ายจนกว่าจะหมด
ส่วนของพ่อ 250,000 บาท นั้น คงปล่อยให้ทวงหนี้ต่อไป เพราะเงินเยอะเกินไปยังไม่ไหวจ่าย รอจนกว่าจะขึ้นศาลโน้นแหละ และหนี้ส่วนตัวพี่สาวก็ปล่อยจนขึ้นศาลเหมือนกันจ๊ะ

แต่ที่อยากเล่าคือ พี่สาว เหมือนจะยังไม่เข็ด ไม่จำ พอเริ่มมีเงิน พอคล่องตัวนิดนึง ก็ยังมิวาย คิดอยากจะซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้ลูกสาว อีก 2 เครื่อง ถึงแม้ว่าจะเครื่องละ 2 พันกว่าบาทก็เถอะ เราก็เลยบ่นไปซะ จนไม่ซื้อแล้ว แต่คงแอบเคืองเราบ้างแหละ เฮ้อ ทำไมไม่คิดเก็บเงินเอาไว้เยอะๆ จะได้ไปปลดหนี้ได้ เราก็พูดสอนทุกครั้งที่คุยกัน แต่ไม่รู้เธอจำไม่ได้ หรือ ไม่สนใจกันแน่ แล้วแบบนี้ หนี้มันจะหมดมั้ยล่ะ หรือ จะพอกพูนขึ้นมาเอง เซ็งจิตกับพี่สาวจริงๆเล้ยยยย

เป็นกำลังใจให้ครับ

โชคดีมากเลยที่ยังมีพ่อแม่ที่มีสมบัติเก่าขายมาช่วยใช้หนี้ ส่วนผมมีแต่ตัว มีแต่การศึกษาให้เป็นมรดก คุณโชคดีมากที่ยังพอมีสมบัติเก่า แต่คุณกับพี่คุณไม่คิดบ้างเหรอครับ ว่าสมบัติเก่าบางทีอาจมีคุณค่าทางจิตใจของท่านทั้งสองก็ได้นะ เราควรแก้หนี้ด้วยตัวของเราเองเป็นดีที่สุด อย่าให้ท่านต้องลำบากมากไปกว่านี้เลย ท่านก็เลี้ยงเรามานานโขแล้ว ให้ท่านได้พักบ้าง เที่ยวต่างจังหวัดไปสูดอากาศดีๆ ไปทำบุญเข้าวัดเข้าวา ไปสมาคมกับเพื่อนวัยเดียวกัน

อยากบอกว่าตัวเราเอง คิดเสมอว่าเงินพ่อแม่ ไม่ยุ่งของท่านหรอก อุตส่าห์เก็บมาได้ ต้องเอาไว้ใช้ยามแก่ ตัวเราก็ไม่เคยเอาเงินท่านมาใช้ มีแต่เอาเงินตัวเองให้ท่านใช้เดือนละ 5 พันบาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายจิปาถะ ค่าโทรศัพท์ ค่ากินอยู่ทุกวัน ท่านสบายใจตลอดมา
จนกระทั่งพี่สาวตัวดีนั่นแหละ มาทำเรื่องเดือดร้อน พ่อแม่รู้ก็เลยไม่อยากให้เราเดือดร้อน เพราะเรายังทำงานอยู่ ไม่อยากให้เดือดร้อน และกำลังจะไปต่างประเทศอีกด้วย ท่านเลยอยากจะปลดหนี้ให้เฉพาะเราคนเดียว แล้วก็ไม่รู้จะสอนพี่สาวยังงัยให้รู้จักคำว่าพอซะที เฮ้ออออ

หายไปนาน มาอัพข้อมูลค่ะ
จากบัตรพ่อ มาสู่บัตรเราเอง โดนเข้าเต็มๆ จากการใช้ของพี่สาว
เอาบัตร citibank ready ไปใช้ จ่ายดีมาตลอดเพิ่งมาเดือน มี.ค. 58 มีโทรทวงหนี้จากธนาคาร เราแจ้งว่าไม่ได้ใช้ ยังไม่จ่าย จนตอนนี้ มิ.ย. 56 มีจดหมายจาก บริษัท แมกเนท (กฎหมาย) แจ้งให้ติดต่อกลับเพื่อผ่อนปรนลดหนี้ คุยกันแล้วเจ้าหหน้าที่ลดให้จาก 60,000 เหลือ 43,000 บาท บอกว่าเงินต้นสินเชื่อเยอะ ลดได้น้อย และแจ้งว่าจะส่งฟ้องศาลเดือนหน้า

เท่าที่อ่านข้อมูลในนี้มา เราจะยังเจอ บริษัทกฎหมายนี้อีกหลายครั้งถูกมั้ยค่ะ แล้วจะทราบมั้ยว่า จะขึ้นศาลจริงๆเมื่อไหร่ เราพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ประมาณ 20,000 บาท ตอนนี้เราเพิ่งหุ้นเปิดบริษัทกับเพื่อนด้วย จะมีปัญหาหรือไม่เกี่ยวกันหนี้พวกนี้ เราไม่ได้ใช้บัตรเอง ไม่อยากจ่ายด้วยซ้ำ แต่ถ้าขึ้นศาลยังงัยก็คงต้องจ่ายอยู่ดีใช่มั้ยค่ะ จึงขอความเห็นค่ะว่า เราควรรอไปจนกระทั่งเค้าลดเท่าที่เรารับได้ หรือ รอไปขึ้นศาล เลยค่ะ

หากมีเงินพอที่จะปิดได้ ก็จ่ายปิดไป
ถ้าเงินที่มีอยู่ ไม่พอปิด ก็ต้องปล่อยให้มันฟ้องศาลไป แล้วค่อยไปเจรจาผ่อนต่อหน้าศาลกันอีกที
ตอบไม่ได้หรอก ว่ามันจะฟ้องศาลเมื่อไหร่

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64



ส่วนเรื่องบริษัทที่คุณลงทุนทำกับเพื่อน อันนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะเรื่องหนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของใครของมัน จะไปโยงถึงญาติพี่น้องให้มาร่วมชดใช้หนี้ด้วยไม่ได้ แต่ถ้าหากคุณจะมีน้ำใจอยากจะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหนี้ของพี่สาว อันนั้นมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณเอง

ขอบคุณค่ะ คุณนกกระจอกเทศ
ยังงัยก็คงต้องต้องจ่ายแทนพี่สาวอยู่แล้วค่ะ มันดันเป็นหนี้ชื่อเราซะงั้น เฮ้อ... แต่เงินน้อยเลยอยากรอเวลาสักนิดค่อยปิด

ส่วน สนง.กฎหมาย มีน้องสะใภ้ทำงานอยู่เค้าบอกดูเรืองแล้ว เพราะเป็น บัตรกดเงินสด และซิตี้แบงค์เริ่มเขี้ยวและส่งเรื่องฟ้องไวกว่าเดิม ควรรีบปิดให้เร็วที่สุด

ควรเชื่อดีมั้ยค่ะ เคยมีกรณีที่ได้รับจดหมายจาก สนง.กฎหมายแค่ที่เดียวแล้วฟ้องศาลเลยหรือไม่ค่ะ

ปล. เรื่องหนี้นี้สามีรู้ไม่ได้เด็ดขาดบ้านแตกแน่ เพราะพี่สาวเราแอบใช้แต่เราดันต้องเอาเงินไปจ่ายแทน จึงไม่อยากให้เรื่องไปถึงศาลค่ะ

อัพเดทจ้า เริ่มเข้าสู่กระบวนการทวงหนี้ละ เร็วกว่าที่คาดไว้
ฉบับแรกจาก แมกแนท ลดยอดจาก 6 หมื่น เหลือ 43,000 บาท
ไม่เกิน 1 เดือน ฉบับที่ 2 ตามมาจากแมกเนทเช่นเคย แต่เปลี่ยนเจ้าหน้าที่
พร้อมการโทรทวงจะให้ปิดยอด จะให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตอนนี้เหลือ 41,000 ละ

เย้ เราผ่านมาแล้ว 2 ด่าน จะสู้ต่อไปคะ แค่ปฏิเสธว่ายังไม่พร้อมเท่านั้น ที่จะช่วยเราได้
พร้อมแล้วจะบอกนะจ๊ะ เจ้าหน้าที่ที่รัก

รายงานความคืบหน้าค่ะ หลังจากที่ได้รับจดหมาายทวงหนี้จาก บริษัทกฎหมายมา 3 รอบแล้ว ยังต่อรองไม่ได้ราคาตามที่ต้องการ
ณ วันนี้ มีฝ่ายกฎหมายจากซิตี้แบงค์โทรมาโดยตรงเพื่อให้ปิดบัญชี ภายใน 30/10/58 นี้
จากยอดเดิม 65,000 บาท ลดเหลือ 30,000 บาท

อยากถามว่าเมื่อหลุดจากซิตี้แบงค์ไป บริษัทข้างนอกแล้ว ทำไมเรื่องถึงย้อนกลับมาฝ่ายกฎหมายอีกครั้งได้ค่ะ แต่กลายเป็นว่าซิตี้แบงค์หน่วยอยู่ที่ชลบุรี เป็นผู้มาติดตามหนี้แทน สำนักงานใหญ่

มีใครเคยเจอแบบนี้บ้างคะ แล้วเราสามารถปิดยอดกับเค้าได้เลยหรือไม่ ปลอดภัยว่าหนี้หมดจิงๆใช่มั้ยคะ
ปล. เค้าแจ้งเลขที่สัญญามา เพื่อให้เราไปชำระผ่าน 7-11 หรือ Telewiz ก็ได้คะ