เอาไงดีกับชีวิตทำงานก็เหนื่อย เงินเดือนออกก็จ่ายบัตรหมด...เฮ้ย

สวัสดีค่ะพี่ๆชมรมทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอระบาย ความในใจก่อนคะ (ต้องขอโทษที่อาจทำให้รำคาญคะ).....
เป็นอีกคนคะที่มีเครดิตดีค่ะ (ก่อนหน้านี้) เริ่มทำงานปี 2550 หลังจากเรียนจบมหาลัย เงินเดือนเริ่มแรก 8,500 บาท แบ่งเป็นโอนให้แม่ 2000 บาท, ค่าครองชีพ 4500 บาท, เงินเก็บ 2000 บาท ตอนนั้นเริ่มมองหาความมั่นคงให้กับชีวิตข้างหน้า จึงเริ่มทำประกันชีวิตคะ เบี้ยประกันเดือนละ 582 บาท ระยะเวลาเอาประกัน 20 ปี ซึ่งตรงนี้ทำให้มีโอกาสเข้าถึงคำว่า ...เครดิตดี ...
พอทำประกันชีวิตให้ตนเองก็มองว่าน่าจะทำให้ครอบครัวบ้าง จึงตัดสินใจทำประกันชีวิตให้ยายก่อน จึงเริ่มมองหาเงินสักก้อน เพราะอยากจ่ายเป็นรายปี เงินกู้ก้อนแรก คือ อิออน ค่ะ วงเงินเริ่มแรก 8000 บาท จ่ายขั้นต่ำเดือนล่ะ 640 บาท ตอนนั้นจำได้ว่าจ่ายมากกว่าขั้นต่ำคือ 700 บาทต่อเดือน เงินกู้ก้อนที่ 2 คือ อีซี่บาย วงเงิน 7500 บาท จ่ายขั้นต่ำเดือนล่ะ 416 บาท พอเริ่มมีเงินก้อน ใช้ซื้อของให้ที่บ้าน ก็คิดต่อว่าต้องมีทรัพย์สินอะไรบ้างเพราะเป็นคนที่เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ จึงตัดสินใจนำบัตรอิออน (หลังจากใช้หนี้เงินกู้หมด) ไปผ่อนทองคำ ราคาทองตอนนั้นบาทล่ะ 15000 ผ่อนทองได้ 1 บาท กับยอดที่ต้องชำระ 1750 บาทต่อเดือน ตอนนั้นเงินเดือนขึ้นเป็น 12000 บาทต่อเดือน ช่วงนี้แหละค่ะเป็นช่วงที่เป็นหนี้บัตรมากที่สุด เพราะฐานเงินเดือนถึงหมื่น จึงมีบัตรใบที่ 3 และ 4 คือ พรอมิส วงเงิน 20000 บาท และ เฟริสช้อย วงเงิน 30000 บาท เงินที่ได้ก็นำไปสำหรับวางรากฐานให้กับครอบครัว คือคิดว่าจะซื้อบ้านร่วมกับแฟน ตั้งใจว่าจะมีบ้านก่อน ถึงจะแต่งงาน แฟนเป็นคนซื้อบ้าน ส่วนตัวเองจะตกแต่งและซื้อเฟอร์นิเจอร์ เมื่อเงินไม่พอก็ทยอยหากู้เพิ่ม เอาสลิปเงินเดือนไปปรับวงเงินบัตรเดิมบ้าง จนปัจจุบันบ้านเสร็จแล้ว และแต่งงานแล้วค่ะ พร้อมกับหนี้ที่เกิดขึ้นดังนี้

1.สินเชื่อบุคคลพรอมิส วงเงิน 20,000 บาท
ผ่อนมาเกือบ 3 ปี คงเหลือ 1,717 บาท จ่ายขั้นต่ำ 200 บาท
2.บัตร KTC วงเงิน 20,000 บาท
ผ่อนมา 1 ปี 3 เดือน คงเหลือ 19,845 บาท (จ่ายไปกดมา) จ่ายขั้นต่ำ 800
3.บัตรเฟริสช้อย วงเงิน 30,000 บาท
ผ่อนมา 3 ปี คงเหลือ 30,795 บาท (จ่ายไปกดมา) จ่ายขั้นต่ำ 2600 บาท หยุดจ่าย มิ.ย 55
4.บัตรอีซี่บาย วงเงิน 61500 บาท
ผ่อนมา 4 เกือบ 5 ปี คงเหลือ 61,286.70 บาท(จ่ายไปกดมา)จ่ายขั้นต่ำ 2600 บาทหยุดจ่าย ส.ค55
5.สินเชื่อโลตัส วงเงิน 30,000 บาท
ผ่อนมา 2 ปี คงเหลือ 29,280.53 บาท (จ่ายไปกดมา) จ่ายขั้นต่ำ 1400 บาท หยุดจ่าย มิ.ย 55
6.บัตรนครหลวงไทย ปัจจุบัน เป็นธนชาต วงเงิน 25,000 บาท
คงเหลือ 24,180.24 บาท (จ่ายไปกดมา) จ่ายขั้นต่ำ 800 บาท หยุดจ่าย มิ.ย 55
7.บัตรอิออนผ่อนสินค้า คงเหลือ 5,778 บาท ผ่อน 1256 บาท ปกติ
8.บัตรอิออนเงินกู้ วงเงิน 24,000 บาท
คงเหลือ 23,300 บาท (จ่ายไปกดมา) จ่ายขั้นต่ำ 1800 บาท ปกติ
9.สินเชื่อซิตี้แอดวานซ์(รีไฟแนนบัตร) วงเงิน 100,000 บาท
ผ่อนมา 4 งวด คงเหลือ 92,107.72 บาท จ่ายขั้นต่ำ 3400 บาท ปกติ
10.สินเชื่อกสิกร วงเงิน 20,000 บาท คงเหลือ 19,800 บาท(จ่ายไปกดมา)จ่ายขั้นต่ำ 1000 บาท ปกติ
11.บัตรเครดิตกสิกร วงเงิน 35,000 บาท
คงเหลือ 35,020 บาท (จ่ายไปกดมา) จ่ายขั้นต่ำ 4,300 บาท ปกติ
12.เงินแชร์ที่ทำงาน วงเงิน 20,000 บาท คงเหลือ 8,000 บาท
จ่ายเงินดอก+เงินต้น เดือนละ 2,804 บาท
13. เงินแชร์ที่บ้าน วงเงิน 100,000 บาท
หมด พ.ค 56 จ่ายเงินดอก+เงินต้น เดือนละ 11,712 บาท


รวมหนี้บัตรทั้งหมด 352,995 บาท จ่ายขั้นต่ำเดือนล่ะ 20,156 บาท หนี้แชร์ 120,000 บาท จ่ายเดือนล่ะ 14,516 บาท ตกแล้วรายจ่ายเฉพาะบัตร+ค่าแชร์ เดือนละเกือบ 35,000 บาท กับเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่รวมค่าผ่อนบ้านให้แม่ เนื่องจากเอาบ้านไปค้ำประกันกู้เงินให้ญาติ แต่ญาติไม่ยอมผ่อน จึงต้องผ่อนเอง เดือนละ 4,000 บาท
ช่วงแรกก็ จ่ายบัตรนี้ไป ก็กดไปจ่ายบัตรโน้นต่อ หมุนเงินอยู่อย่างนี้มาระยะหนึ่งค่ะ ถ้าเดือนใหนไม่พอก็ขอแฟนบ้าง (ตอนยังไม่แต่งงาน) ก็พอหมุนไปได้ค่ะ แต่พอแต่งงานเมื่อตอนต้นปี 55 ค่ะ แฟนให้เราเป็นคนเก็บเงินทั้งหมด รายได้เขาต่อเดือนประมาณ 40,000-50,000 บาท เราก็ใช้เงินคล่องมือเลยค่ะ จ่ายได้ทุกบัตร เว้น 2-3 เดือนถึงจะกดบัตรมาใช้ที จนแฟนออกรถยนต์มา 1 คันค่ะ ผ่อนเดือนละ 20,000 บาท จึงตกลงกันว่าเงินที่แฟนให้เก็บจะเป็นค่างวดรถ ค่าผ่อนบ้าน ประมาณเดือนละ 23,000 บาท จะเหลือเก็บประมาณเดือนละ 10000 – 15000 บาท แล้วแต่ว่าเดือนใหนมากน้อยไม่เท่ากัน เพราะต้องซื้อของใช้ฝากกลับบ้านให้ครอบครัวแฟน ที่อยู่ต่างจังหวัดค่ะ ส่วนเงินเดือนของตัวเอง ประมาณ 15000 บาทต่อเดือน แฟนให้ใช้เป็นค่ากับข้าว ค่าน้ำไฟ ซื้อของใช้ในบ้านประมาณ 10,000 บาท ที่เหลือ 5,000 บาท เป็นเงินสำหรับใช้ส่วนตัวค่ะ ผ่านมาเกือบครึ่งปี เงินเก็บก็ไม่มี แถมไม่พอใช้อีก เพราะเราเอาเงินเก็บไปหมุนบัตร จ่ายแชร์ แฟนก็เริ่มงงว่าทำไมไม่มีตัง เวลาจะใช้เงินก้อนเราก็บอกแต่ว่าไม่มีเงิน จึงเริ่มทะเลาะกันบ้างคะ จนบางทีแฟนก็คิดว่าเรามีคนอื่นแล้วเอาเงินไปให้เขาหรือเปล่า ช่วงนี้เขาก็บ่นปล่อยคะว่าเขาทำงานหนัก อยากมีลูก อยากเก็บเงินไว้ให้ลูก แต่พอให้เราเก็บเงินกลับไม่รู้เงินหายไปไหน ก็ทะเลาะกันอีกคะ บางทีตัวเองก็รู้สึกว่าแฟนเขาไม่รักเรา เรามีหนี้มากแค่ไหน ต้องจ่ายอะไรบ้าง เขาไม่เคยรับรู้ เขาให้เงินเราหมดก็ถือว่าหมดภาระ รอแต่ถามว่าเงินเหลือฝากเข้าบัญชีเท่าไหร่แล้ว เหนื่อยใจมากคะ จะบอกเขาก็ไม่ได้เพราะเขาเป็นคนเข้าใจอะไรยาก เคยเปรยให้เขาฟังว่าเรามีหนี้เพราะเอาเงินมาตกแต่งบ้าน เขาก็บอกว่า เขาก็ช่วยตลอด แล้วทำไมเป็นหนี้ได้ หากว่าเราโกหกอีกคะ

ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงดีคะ เหนื่อยมากเลย ได้อ่านของพี่ๆหลายๆคน ก็รู้สึกอิจฉาที่มีครอบครัวเป็นกำลังใจ สู้ไปด้วยกัน แต่เราต้องสู้คนเดียว


ได้เข้ามาอ่านกระทู้ที่ปักหมุด และซื้อหนังสือมาอ่านด้วยค่ะ แต่ใจก็กล้าๆกลัวๆ
จึงตัดสินใจหยุดจ่ายไป 3 บัตร คือโลตัส , ธนชาต และ เฟริสช้อย เมื่อเดือน มิ.ย 55 ค่ะ พนักงานก็โทรมาทวงคะ รับสายบ้าง ไม่รับบ้าง มีโทรเข้ามาที่ทำงาน แต่เราบอกเพื่อนที่ทำงานไว้ว่าถ้ามีโทรศัพจากบัตรโทรมาหาเราบอกว่าเราไม่อยู่ เพื่อนก็ช่วยค่ะ ตอนนี้เริ่มโทรน้อยลงบ้าง แต่เราก็ไม่ค่อยรับค่ะ กะว่าให้ผ่านไปหลายเดือนเก็บเงินได้แล้ว ถึงจะติดต่อกลับไปขอส่วนลด HC ค่ะ....ไม่รู้ว่าทำถูกหรือเปล่า
เดือนสิงหา 55 นี้ หยุดจ่ายเพิ่มอีก 1 บัตร คือ อีซี่บาย อยากจะหยุดซิตี้แอดวานด้วย แต่ยังไม่กล้าคะ กลัวเขาตามไปที่บ้าน เพราะที่อยู่ที่ให้เป็นที่บ้านใหม่ที่ซื้อกับแฟน ส่วนบัตรอื่นเป็นที่อยู่ต่างจังหวัดคะ กลัวว่าแฟนจะรู้แล้วมีปัญหาทะเลาะกันอีก จึงยังไม่หยุดจ่ายซิตี้แอดวานเลยอยาก แก้ปัญหาเงียบๆ ด้วยตัวเองคะ กะว่าแก้ปัญหาบัตรอื่นหมดแล้ว ถึงจะหยุดจ่ายโดยหยุดเป็นรายๆ แก้ไปทีละบัตรคะ ส่วนกสิกรคงต้องจ่ายต่อไปเพราะเงินเดือนผ่านธนาคารนี้คะ


หลังจากหยุดจ่ายเฟริสช้อยได้เกือบ 3 เดือน และพนักงานติดต่อเราไม่ได้ เพราะโทรมาเราไม่รับ ตอนนี้มีหนังสือมาเสนอโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้คะ ไม่ปรับคะ แต่กะว่าจะไม่รับสายต่อไป จนกว่าจะเก็บเงินก้อนได้ ถึงจะติดต่อกลับไปค่ะ .......เล่ามาเยอะ ถ้าเป็นการรบกวนก็ต้องขอโทษพี่ๆด้วยค่ะ พี่ๆในชมรมมีแนวทางแนะนำยังไง ก็เชิญคะ ยินดีรับฟังจ้า

ยินดีรับฟังจริงๆเหรอ...
ฟังอย่างเดียวไม่ได้นะ...
ต้องทำตามด้วย


ทำไมไม่บอกแฟน...
ทำไมไม่บอกความจริงกับเขา เพราะลึกๆไปแล้ว คุณกลัวจะสูญเสียเขาไปเพราะ "หนี้" ใช่ไหม?
อย่าดูถูกน้ำใจ ของคนที่เราจะฝากชีวิตเขาไว้แบบนั้น
ที่ผ่านๆมา เงินเดือนเขามาก แต่ไม่มีเก็บเพราะ คุณเอาเงินเขาไปหมุนบัตร
เหมือนกอบัวเปี๊ยบเลย...
พ่อบ้านของกอบัว ให้เงินเมียหมด แล้วคอยแต่ถามว่า "เงินไปไหนหมด เงินไปไหนหมด"
เราก็หมุนเป็นลูกข่างคนเดียว ไหนจะลูก ค่าเรียนต่อปริญญาโทของสามี ค่าใช้จ่ายในบ้าน เงินเดือนเราที่เคยมากมาย โดนลดมาลงกว่าครึ่ง เพราะย้ายกลับมาอยู่ไทย
หมุนแบบทุกคนเจออยู่หลายปี จนปีสุดท้ายมันไม่ไหว นอนไม่หลับ กระส่ายกระสับ
ใครเขานอนหลับกันทั้งบ้าน มีเราคนเดียวนั่งนิ่งในความมืด
Search หาใน google แล้วพิมพ์คำว่า "หนี้บัตรเครดิต" เข้าไป
นั่งอ่านอยู่นาน...นาน...เป็นเดือนๆ ไล่ตะบี้ตะบันอ่าน แล้วตัดสินใจหยุดจ่าย
บอกสามี คำแรกที่เขาพูด... "เงินไปไหนหมด" (กูนึกแล้วว่า เมิงต้องถามกูแบบนี้)
กว่าจะอธิบายกันให้เข้าใจ ไม่ง่าย โดนไปหลายดอก...ร้องไห้ไปหลายยก
แต่ก็ผ่านกันมาได้ด้วยดี...หยุดจ่ายแรกๆ ร่างกายซูบผอม เพราะรับโทรศัพท์ กลุ้มใจ มือใหม่ สารพัด
ผ่านมาได้หกเดือน แฮร์คัทใบแรกได้...และเรื่อยมา
ใช้เวลาหนี้เกือบล้าน 1 ปี 10 เดือน หมดหนี้...
คุณอยากทำแบบนั้นให้ได้ไหม?

วันนี้กลับบ้าน อาบน้ำปะแป้ง ใส่ชุดนอนเซะซี่...พรมน้ำหอมเอาใจเสียหน่อย
เขาอารมณ์ดีเมื่อไหร่ ก็จับไ..เอ๊ย...จับเข่าคุยกัน
บอกเขาดีๆ ยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาด เพราะเราปกปิดเลยทำให้หนี้มันพอกพูน
บอกความจริงกับเขา และบอกว่าเรามีแนวทางยังไงในการแก้ปัญหา เอาหนังสือให้เขาอ่านก็ได้
แล้วเรื่องรับโทรศัพท์ ทำไมไม่รับสาย คุณจะรู้ไหมว่า หนี่้ของคุณไปถึงไหนแล้ว
เจ้าหนี้โทรมาแล้วคุณไม่รับเขา เขาจะมองว่าคุณมีเจตนา เบี้ยวหนี้
รับตามความเหมาะสม เราเอาเงินเขามาจริง เราก็ต้องรับผิดชอบ
แต่อย่าให้เขามาด่าว่า ดูถูกเหยียดหยาม ลูกหนี้ก็มีสิทธิของความเป็นคน
ตอบโต้ตามความเหมาะสม ในหนังสือ ในเว็บบอร์ด ก็มีวิธีรับมือทวงหนี้
คุณผ่านด่านนี้ไปได้ คุณจะเข้มแข็งขึ้นมาก

บัวเชื่อมั่นเสมอว่า ความรักจะนำทางเราไป
ถ้าคุณกับแฟนรักกันจริง แฟนคุณต้องให้อภัย และคุณก็ต้องเข้มแข็งที่จะฟันฝ่าปัญหานี้ไปให้ได้
คุณอายุยังน้อย เริ่มต้นชีวิตใหม่วันนี้ยังไม่สาย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ค่อยๆคุยกันมาเป็นกำลังใจให้ครับ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้สู้ ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ

ขอบคุณมากคะ พี่กอบัว เหมือนอย่างที่พี่กอบัวบอกคะ "กลัวเสียเขาไปเพราะหนี้"

กะว่าจะเริ่มคุยกับเขาด้วยการเอาหนังสือทวงหนี้ไปให้เขาดูแล้วค่อยอธิบายคะ

แต่ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อยเหมือนกัน แต่จะพยายามคะ

ได้กำลังใจเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะคะ ต้องขอบคุณ ชายกลาง และ kunnai มากคะ

อย่างน้อยก็มีพี่ เพื่อนในชมรมที่เป็นกำลังใจให้กันคะ

สู้ ๆ ครับ...บอกแฟนให้เข้าใจ..และหยุดจ่าย รับโทรศัพท์ เก็บเงิน
ผมรับทุกวัน...เริ่มชินละะ.. ..เป็นกำลังใจให้ครับ..

เรามีล้านเหตุผลที่ทำให้ตัวเองเป็นหนี้ แต่เมื่อพลาดแล้ว ก็ไม่สาย
ที่จะกลับมาแก้ไขกันค่ะ

ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงดีคะ เหนื่อยมากเลย ได้อ่านของพี่ๆหลายๆคน
ก็รู้สึกอิจฉาที่มีครอบครัวเป็นกำลังใจ สู้ไปด้วยกัน แต่เราต้องสู้คนเดียว

คุณโชคดีเท่าไรแล้ว ที่มีสามีรักและไว้ใจให้ดูแลครอบครัว
เขาฝากหัวใจในมือคุณ



ดังนั้น เมื่อรู้แล้วว่า ที่ผ่านมาการใช้เงินของคุณผิดอย่างแรง คิดว่า
ทำเพื่อความสุขของครอบครัว แต่จริงๆ แล้ว คุณทำเพราะตัวคุณ
เอง ความอยากได้อยากมีเช่นคนรอบข้างนั้นไม่เข้าใครออกใคร
แต่การใช้เงินอนาคตที่ไม่ใช่ของเราเพื่อซื้อสิ่งของเหล่านั้น
ต่างหากที่ผิด ยิ่งใช้ยิ่งรูดยิ่งมัน เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นก็มีส่วนทำให้
คนเราหลงระเริงกับสิ่งยั่วกิเลสทั้งหลายไปได้ด้วย

คุณต้องยอมรับการเป็นหนี้ อย่าไปน้อยใจ นอยด์คนข้างกาย
คุณว่าทำไม คุณทำเพื่อเขา แบกภาระหนี้มากมาย ไม่ให้กำลังใจ
กันบ้างหรือ สู้คนเดียว อ้าว แล้วเวลาทำ คุณเคยให้เขาร่วมรับรู้
หรือไหมค่ะ บ้านอื่น เขาสารภาพกับคนใกล้ตัวเขา เขาถึงสู้ด้วยกัน

การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ไม่ได้อยู่เพราะความรักอย่างเดียวค่ะ ยังมีหลาย
ปัจจัย หากวันนี้คุณไม่กล้าสารภาพกับเขา ถ้าวันหน้าเขารู้จากคนอื่น
เขาอาจหมดความไว้วางใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตคู่ หาก
ขาดสิ่งนี้แล้ว ชีวิตคู่ก็ง่อนแง่น หวาดระแวงซึ่งกันและกันค่ะ




ถ้าเขารู้ คุณต้องทำใจรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้ได้ว่า เขาย่อม
โกรธ หงุดหงิด และ อึ้งกับยอดหนี้คุณ แต่อย่างที่คุณกอบัว
บอกไว้ เป็นแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ต่อจากนั้น ถ้าคุณมีความ
มั่นใจในการแก้ไขปัญหา เขาจะกลับมาช่วยเป็นกำลังใจคุณค่ะ

อีกอย่างหนึ่ง ที่นี่ เราสอนให้หันหน้าสู้ปัญหา ไม่ใช่หนีค่ะ
การไม่รับสาย เรียกว่า การหนี หากคนทวงหนี้เขาใช้วิธีอื่น
มาทวงหนี้คุณ คุณไม่มีสิทธิโวยว่าเขาเต็มปากนะค่ะ

หลังจากที่ทำใจอยู่นานจะบอกแฟน เรื่องหนี้ค่ะ จึงตัดสินใจเริ่มเมื่อคืนคะ โดยเริ่มจากเอารายรับ รายจ่าย

ของรอบเดือน (14 กรกฏาคม ถึง 14 สิงหาคม) ให้เขาดูค่ะ รายรับของเขา 49300 รายจ่าย 49311 ติดลบคะแล้วก็ตามด้วยรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ผ่านมา ตอนแรกเขางงค่ะ

แฟน: ค่างวดรถจ่ายหรือยัง

แป้ง: ยัง แป้งดูบัญชีก็งงว่าเราให้เงินเดือนนี้มากขนาดนี้เลยหรอ หรือว่าแป้งลงบัญชีผิดหรือเปล่า

แฟน: เงินไม่มี งวดรถยังไม่จ่าย แถมติดลบอีก เป็นไปได้ยังไง

แป้ง: เราใช้เงินช่วงกลับบ้านต่างจังหวัดประมาณ 23000 บาท ไปเที่ยวบางแสนอีก 5500 บาท แล้วก็กินข้าวนอกบ้าน, ค่าโทรศัพท์เขา, ตามรายการ

แฟน: เป็นไปไม่ได้ หลังกลับมาจากบ้านก็หาเงินได้ค่างวดรถแล้ว อย่ามาโกหก แอบเอาเงินไปโอนให้
**ชู้**แล้วมาลงบัญชีรายจ่ายอย่างอื่น แบบนี้ใครจะไปเชื่อ

แป้ง: ? เงียบ ...........เขาไม่เคยมีคนอื่น อย่ามาใส่ร้าย ตั้งแต่คบกันมาแป้งไม่เคยคิดจะมีคนอื่น
แป้งแค่เอามาให้ดูเพื่อหารือว่าเราจะทำยังไง หาทางออกด้วยกัน แต่ค่างวดรถเดือนนี้ไปถอนเงินเก็บที่่มีอยู่มาจ่ายของเดือนนี้ไปก่อน

แฟน: ไปเอาบัญชีทั้งหมดมาดู (แป้งจึงไปหยิบสมุดเงนิฝากมาให้เขาดูคะ)

แฟน: มีแค่ 40000 โอ้ยจะบ้าตาย ทำงานก็เหนื่อยมีเงินเก็บแค่ 40000 บาทเงินเดือนของแป้งก็ไม่เคยเห็นด้วย ไม่รู้เอาไปทำอะไร


แป้ง ได้ยินก็คิดในใจว่า ก็ผ่านมา 2 เดือน เดือนนี้เข้าเดือนที่ 3 กับยอดที่ติดลบ เงินเก็บ 40000 ก็เยอะแล้วนะ

แฟน: หึ หึ หาเงินแทบตาย มีเงินเก็บแค่ 40000 บาท

แป้ง: ก็มันมีเท่านี้ คิดแต่รายรับไม่หักรายจ่ายออกจะเป็นไปได้ยังไง ทั้งๆที่รายจ่ายที่เกิดขึ้น แป้งไม่ได้เอามาใช้อย่างอื่นเลย เป็นเงินที่ใช้ด้วยกันเวลากลับบ้านจ่ายอะไร ตัวเองก็เห็น

แฟน: เงียบ ............เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้ไปถอนเงินที่มีอยู่มาให้เขาทั้งหมด (เดิมเงินฝากที่บัญชีแป้งคะ) เขาจะเก็บเอง ดูสิว่ามันจะเหลือเก็บหรือเปล่า อยากจะรู้หนักว่าตัวเลขที่อยู่ในบัญชี มันจะมีเงินจริงหรือเปล่า

แป้ง: .....................

แฟน: ต่อไปเขาจะเก็บเอง ค่ารถค่าบ้าน เขาจะรับผิดชอบเอง เงินเดือนแป้งก็แล้วแต่แป้งเขาไม่ยุ่ง ข้าวก็กินฟรี เขาจะให้ค่ากับข้าววันละ 300 ส่วนซื้อของใช้ในบ้านก็ค่อยขอ

แป้ง ........คิดในใจ นี่เราจะทำยังไง แล้วความสัมพันธ์ของเราละ จะเป็นยังไงต่อไป.......


หลังจากนั้น เขาก็หยิบเสื้อใส่จะออกไปข้างนอก

แป้ง:................ตัวเองจะไปใหน ไม่กินข้าวหรอ

แฟน:.....................

แป้งได้แต่มองตามหลังเขาคะ ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอากาศไม่มีตัวตน บางครั้งก็สงสารเขา ว่าเราไม่น่าเป็นหนี้เลย เขาเป็นคนที่ร่าเริง กลายเป็นเงียบ ที่สำคัญถ้าเขาบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เขา แป้งคงรู้สึกผิดมากกว่าเดิม


ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงคะ เขาก็กลับมาบ้าน แล้วนั่งกินข้าวไม่พูดไม่จา จนกินเสร็จเขาก็พูดลอยๆมาว่า .........แล้วแต่พวกแกจะตัดสินใจ พ่อแม่ไม่ยุ่ง............

แป้ง คิดว่าเขาคงโทรไปเล่าให้ที่บ้านเขาฟังแล้วคะ

หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นไปนอนข้างบน ไม่สนใจแป้ง ไม่เรียกไปนอน ปกติเวลาจะขึ้นนอนจะไปพร้อมกันคะ ไม่เขาชวนแป้ง แป้งก็ชวนเขา แป้งจึงอาบน้ำจะตามขึ้นไปนอน ปรากฏว่าเขาล็อคห้องคะ ที่จริงแป้งมีกุญแจห้องนอน กะว่าจะไขเข้าไป แต่คิดอีกที ไม่กวนเขาดีกว่า เขาคงไม่อยากเห็นหน้าเรา แป้งจึงตัดสินใจลงมานอนข้างล่างคะ


แป้งนอนคิดไม่ตกคะว่า จะทำยังไงดี จะโทรไปเล่าให้แม่แป้งฟังเพื่อขอคำปรึกษา หรือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดี ทำตัวปกติ !!!!!!!

................เช้าวันนี้ (พฤหัสบดี) แป้งไม่ได้ไปทำงาน เนื่องจากหยุดชดเชยที่ไปทำงานวันเสาร์อาทิตย์


ประมาณ 09.00 เขาลงมาอาบน้ำ ตอนนั้นแป้งแต่งตัวเสร็จแล้ว กะว่าจะไปถอนเงินมาให้เขา


แป้งไปถอนเงินในบัญชีของไทยพานิชย์คะ ยอดเงินคงเหลือ 35000 บาท เพราะประกันหักเงินค่าเบี้ยอัตโนมัติผ่านบัญชี ซึ่งครบกำหนดหักค่ะ............แฟนโทรมา.............


แป้ง: ว่าไง

แฟน: อยู่ใหน

แป้ง: ธนาคาร แล้วจะให้โอนเข้าบัญฯชี หรือรอเอาเงินสด

แฟน: เอามาให้ที่บ้าน แล้วก็วางสายไป

ผ่านไปประมาณ 40 นาที แฟนก็โทรมาอีกคะ

แป้ง: เสร็จแล้ว ซื้อโจ๊กอยู่

แฟน: ที่ใหน แป้ง: หน้าปากซอยบ้าน เขาจึงวางสายไป หลังจากนั้นแป้งก็เดินเข้ามาในซอย ซึ่งเขากำลังจะขับรถไปทำงานคะ เขาจึงจอดรถรับเงินจากแป้ง

แป้ง: มีแค่ 35000 อีก 5000 ประกันหักไป

แฟน: ประกันใคร?

แป้ง: ประกันของเขากับยาย ครบ 3 เดือนที่ต้องจ่ายแล้ว เขาคืนให้ 2000 เหลืออีก 3000 เดี๋ยวคืนให้
(ในใจก็คิดว่า จะเอาที่ไหนมาคืน มีอยู่แค่ 2000 บาทกดหมดแล้ว เย็นนี้ต้องจ่ายค่าแชร์อีก 7000 บาท จะเอาที่ใหน)


แฟน: หึ นี่โทรไปให้ใครโอนมาให้ล่ะ มัวแต่รอเงินโอนมาสินะ

แป้ง:………..อย่าดูถูกกันให้มากนัก แล้วเขาก้ขับรถออกไปคะ แป้งจึงเดินเข้าบ้าน (นี่เขาคิดว่าแป้งมีชู้จริงๆ หรอคะ)

ตอนนี้บัตรโทรมาคะ แต่จิตใจไม่อยู่กับตัว ยังไม่ได้รับสักสาย สับสนไปหมด กลัวว่าเขาจะเกลียดเรา ไม่ให้อภัย ความสัมพันธ์ไม่เป็นเหมือนเดิมเครียดมากคะ
แล้วเรื่องหนี้ที่ยังไม่ได้บอกจะทำยังไงดี ?

ปล่อยให้เขาอยู่กับตัวเองสักพัก เวลาอาจช่วยให้อะไรดีขึ้น
ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ คุณเข้มแข็งมากที่ไม่โวยวาย ตัดพ้อ หรือ
ร้องไห้ ให้เขาเห็นว่าคุณอ่อนแอ แม้ใจคุณอยากขอแค่คำว่า เข้าใจ
จากเขา หรือแค่มากอดบอกว่า เราจะสู้ปัญหาด้วยกัน หรือแค่เขามา
กอดโดยไม่พูดสักคำ ใจคงมีแรงเดินหน้าฝ่าปัญหาได้โดยไม่หวั่นไหว

ไม่ใช่แต่คุณหรอกที่พอบอกคนที่เราคาดว่า ความรักที่เรามีให้เขาจะ
ช่วยให้เขาอยู่ข้างเรา ในวันที่เราต้องการ แต่ในความเป็นจริง น้อยมาก
ที่จะโชคดีเจอคู่ที่เข้าใจอะไรง่ายๆ

รอเวลาที่เขาตกผลึก และเห็นว่า จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพราะคุณมีใคร
ตามความคิดของคนหวาดระแวง และมักจะโยนผิดให้อีกฝ่ายมากกว่า
จะยอมรับว่า ตัวเองมีส่วนร่วมในการก่อหนี้

อดีตคนของแก้วจ๋า พอบอกเสร็จเขาก็เดินหนี ไม่พูดอะไรเลย ทิ้งเรา
ยืนซื่อบื้อ น้ำตาตกใน อยากขอแค่เขามาโอบกอดเฉยๆ ยังไม่มี แต่
หลังจากบอกไปหลายวัน เขาถึงโทรมาสอบสวนเรื่องราวต่างๆ แล้วก็
ฟังเราเล่าเรื่องชมรม ฯ แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจในตัวเรา ย้ำตลอดว่า หยุด
จ่ายแล้วจะดีหรือ แปลว่า เบี้ยวเขาใช่ไหม จะโดนฟ้องอะไรไหม อื่นๆ
อีกมากมาย ก็ฟังเขาพูดความกลัวในใจเขาไปเรื่อยๆ ทั้งที่ตัวเราเอง
ตอนนั้นก็กลัวเช่นกัน แต่เขาเป็นหนักกว่ามากค่ะ

เดินหน้าในสิ่งที่คุณมั่นใจจะทำเพื่อปลดหนี้ต่อไปค่ะ

สงสารนะ...อ่านแล้วแบบ...เออ...มันไม่ได้จบสวยหรูแบบนี้ไปเสียทุกคน
บางคนเข้าใจ บางคนไม่เข้าใจ
เรื่องหนี้ทำให้ชีวิตของใครต่อใครหลายคนพัง
ยิ่งหนี้บัตรเครดิต ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาววัยทำงานกันทั้งนั้น เสียดายมันสมองที่ต้องเอาไปกลัดกลุ้มเรื่องหนี้
ชมรมฯ จึงต้องอยู่ตรงนี้ เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆต่อไป

กรณีของคุณ ใครตอบก็คงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับคุณ
ยิ่งผัวเมียที่นอนอยู่ด้วยกันทุกคืน ย่อมจะรู้ใจมากกว่า
สามีของคุณเป็นคนจริงจังกับชีวิต เขาไว้ใจเรื่องเงินกับคุณมาโดยตลอด
สิ่งที่มันพลาดคือ คุณปกปิดความจริงกับเขา เขามองว่าคุณ "โกหก ไม่ซื่อสัตย์"
มันโกรธ มันเคืองแค้นไปหมด บางทีถ้อยคำ หรือคำพูดต่างๆนาๆ มันก็ออกมาทำร้ายให้อีกคนเจ็บ โดย "ตั้งใจให้เจ็บเหมือนที่เขาโดน"
ปล่อยให้เขาได้ระบาย ปล่อยให้เขาฟาดงวงฟาดงาไปก่อน
คุณเองต้องอดทนให้ถึงที่สุด อย่าแง่งอน อย่าทำตะบึงตะบอนใส่เขา เอาน้ำเย็นเข้าลูบ
บัวว่า ผู้หญิงก็มีหลายด้าน หากจะใช้มารยาขึ้นมาจริงๆ แมร่ง ตายทุกราย เอิ๊กๆ
ไม่แนะนำดีกว่า อาย...
เวลาคนเราทุกข์อกทุกข์ใจ มันชอบที่จะคิดแต่เรื่องร้ายๆ ประเดปะดังทับถมตัวเอง
บัวผ่านชีวิตครอบครัวมายี่สิบกว่าปี หลายๆครั้ง เคยถามตัวเองเวลาทะเลาะกัน(ซึ้งน้อยมาก) ว่า
"นี่กูต้องเลิกกับเขาหรือเปล่าว่ะ เขาจะทิ้งกูหรือเปล่าว่ะ เขาจะ...เขาจะ..." คิดแต่อะไรที่มันบั่นทอนหัวใจตัวเอง
แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ผ่านไปได้ ไม่เลวร้ายอะไร
แต่ที่สุดแล้ว หากมันจะทิ้งกันจริงๆ อะไรก็เหนี่ยวรั้งไม่ได้ กะอีแค่หนี้สิน ถ้ามันจะทิ้ง ช่างแมร่ง...555++
ตอนนี้ทำให้ดีที่สุด ถ้าคุณยังคงรักเขาอยู่ ต้องพยายามเอาอกเอาใจ ง้องอนเขามากๆนะคะ
กอบัวรีบตอบ เพราะไอ้น้องที่อยู่ตปท. มันโทรมาบอกให้ตอบ ไอ้บ้า
ฝนมืดฟ้ามัวดิน ต้องรีบไปรับลูก แล้วต้องย้อนกลับมาทำงานอีกรอบ
วันนี้บัวก็ต้องเลิกดึกเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านและตอบกันใหม่นะ...

อ่านแล้วก็อึ้ง อึ้งในหัวใจ ... เข้ามาให้กำลังใจค่ะ สู้ๆ นะคะ

คุณทำดีที่สุดแล้วค่ะ ที่บอกเขา ... ค่อยๆ พูดคุยกันะคะ เรื่องคงจะดีขึ้น

พยายามต่อไปค่ะ

ใจร่มๆ ขึ้นบ้างหรือยัง...
เวลาทะเลาะกันคนที่เรารักเนี้ย...หดหู่หัวใจเน๊อะ...
แต่ถ้าไม่ทะเลาะกันบ้าง ชีวิตก็ขาดรสชาติค่ะ แบบตบจูบ ตบจูบ อูย...มันส์เว่อร์ดี กอบัวช๊อบบบบ 555++
สังเกตเลยนะว่า เวลาเราคืนดีหลังทะเลาะกันเนี้ย มันดูดดื่ม ซาบซ่านสุดขีด คริ...คริ...
อย่าไปคิดมาก เด๋วหน้าเหี่ยว ปั๋วไม่รัก กะว่าคืนนี้จะมาคืนดีกะเมีย ตร๊ายยย เมียกรูทำไมเหี่ยวแบบนี้ฟร่ะ...
ทำตัวเศร้าสร้อย บีบน้ำตา เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู ไปก่อน

ตอนที่บัวบอกสามีเรื่องหนี้ โหย...บ้านแทบแตก ไม่มีทะเลาะ ไม่มีเสียงเอะอะนะ แต่มันแบบอึมครึมมาก
เขาถามว่า "เงินไปไหนหมด" สามีบัวก็แบบสามีคุณนั่นแหละ เงินให้เราเก็บหมด
แต่แม๊ะ...พ่อเมิงรู้ไหม ยาสีฟันอย่างเดียว ยี่ห้อดีๆ ไม่ใช่คอเกด ไม่ใช่ดากี้ มันก็ปาเข้าไปหลอดละจะร้อย สงสัยต้องให้มันเอาขี้เถ้าแปรงฟัน
แชมพู ยาสระผม ขวดร้อยกว่าบาท จนแทบเอาน้ำซาวข้าว มะกรูดหน้าบ้านสระแทนแล้วมึง
ดีเลย...ให้เขาเก็บเงินเอง เก็บไปเลยนะ จะได้รู้ว่า ข้าวของมันแพงแค่ไหน
ไปห้างที เงินพันหนึ่งได้ผ้าอนามัยมาสองห่อ มั๊ง...กูเชื่อเลย
เรื่องหนี้ยังไม่บอก เอิ๊กกกก แล้วจะทำยังไง
นอนคนเดียวไปก่อน ดี แม่จะนอนแหกแข้งแหกขา อ้าซ่า 180 องศาเลย ชอบ

กว่าจะมีวันนี้ได้ สามีคนดีที่สุดในโลก ร่างกายผ่ายผอม คิดมาก นอนก็นอนไม่หลับ แล้วหาเรื่องทะเลาะกับเราอยู่แรมเดือน
แต่ด้วยพี่บัวเสียงดังกว่า เลยชนะ 555++ เขาพูดสองคำ พี่บัวเถียงกลับสองโหล เอาดิ ใครเก่งกว่า
อ่านมากๆ จะได้มีแนวทางบอกเขาว่า เราจะทำยังไง
เรื่องหนี้บางทีมันไม่ใช่ความผิดของเราทั้งหมด การคิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ทำให้หนี้เพิ่มหนี้ จ่ายเท่าไหร่ไม่เคยหมด คุณต้องมีแนวทางเรื่องนี้ชัดเจนด้วย สามีจึงจะมั่นใจ
บทเรียนครั้งนี้จะได้ทำให้คุณเข็ดหลาบในการใช้จ่ายเสียที

กอบัวแทบจะว่ายน้ำไปรับลูก ฝนตกหนักฉิบ...
คิดเสียว่า หลังฝนซา ฟ้าย่อมสว่างแทนที่...
เป็นกำลังใจให้ อย่าให้เรื่องหนี้ ทำให้เราต้องเสียผัวไป
หยุดจ่ายบัตรไม่ว่า อย่าเอาผัวเข้าไป 555++

powder เขียน: ตอนนี้บัตรโทรมาคะ แต่จิตใจไม่อยู่กับตัว ยังไม่ได้รับสักสาย สับสนไปหมด กลัวว่าเขาจะเกลียดเรา ไม่ให้อภัย ความสัมพันธ์ไม่เป็นเหมือนเดิมเครียดมากคะ
แล้วเรื่องหนี้ที่ยังไม่ได้บอกจะทำยังไงดี ?

จะวิ่งไปทำฟันต่อนะ ขอมาบอกว่า หนี้ที่เหลือ ชะลอก่อน รอจังหวะ
วันเวลาที่ดี ให้เขาสงบลงก่อนค่ะ อย่าเพิ่งให้ระเบิดนิวเครียดลงมาอีกเลยค่ะ

ในเวลานี้ อย่าคิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวกับความทุกข์ ถ้าคุยกับคุณแม่ได้ ก็ดีค่ะ

และเรื่องรับสาย ถ้าหยุดจ่าย ต้องรับสาย ก่อนที่พวกมันจะไปตามคุณที่อื่นค่ะ
แรกๆ ยังไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขยันอ่านนะค่ะ

ผู้ชายเรานะ กำลังตกใจ ผิดหวัง เพราะเขาคาดหวังในตัวเราสูงค่ะ อดีตคนรู้ใจ
ของแก้วจ๋า เราไม่ได้จบกันเพราะหนี้ แต่เราแยกกันเดิน เพราะเขาไม่เคยพอ
ในเรื่องผู้หญิง และความเจ้าอารมณ์เรื่องลูกของเขาค่ะ

หลังจากบอกเขาไป แต่โดยไม่จาระไน เรารู้สึกดีขึ้นไม่ต้องเก็บไว้คนเดียว ก่อน
หน้านี้ แบบพ่อบ้านคุณกอบัว เวลาเราไปชอปปิ้ง เขาเป็นคนที่ใช้ของต้องแบบ
อย่างดีเลิศ ยาสีฟันแบบคอลเกตธรรมดา หรือแปรงสีฟันธรรมดาใช้ไม่เป็น ตอนที่
เริ่มรู้ตัวว่า เอาไม่อยู่เรื่องหนี้ หมุนจนหัวหมุน พอเขาหยิบของแพงใส่ตะกร้า เราก็
หยิบออก พร้อมทั้งพยายามชักจูงให้ซื้อที่ประหยัดกว่า เขาก็งง บางอย่างเชื่อ
แต่บางอย่างไม่ แต่พอบอกเรื่องหนี้ไป พอเขาคลายจากผิดหวังใน
ตัวแก้วจ๋า เพราะเขาเคยคิดว่า เราคือ 24 ชม bank สมัยแรกๆ ก็มีมาฝาก แต่
หลังๆ ดีแต่ถอน เขาก็ช่วยประหยัดขึ้นค่ะ แต่แก้วจ๋าไม่เคยพูด
ว่า เป็นเพราะเขา เราถึงเป็นหนี้ เขาก็ถามคำถามยอดฮิต เงินไปไหน ตกใจ
หนี้ตั้ง 3ล้าน ตอนบอกเขา แต่ต่อมาดอกเบี้ยมาตามกาลเวลาปาไป 4-5ล้าน
แม้เขามีส่วนร่วมสร้างหนี้ แต่ที่เพิ่มพูนมามากมาย เป็นเพราะแก้วจ๋าแก้ไขแบบ
ผิดๆ คิดว่า หมุนตรงนั้นมาปิดตรงนี้ กู้มันเข้าไป หวังจะปิด กดเงินสดจากบัตร
เพราะมักง่าย ดังนั้น สิ่งที่แก้วจ๋าทำได้คือ พยายามแก้ไข และทำหน้าเศร้า ไม่
ตีโพยตีพายว่าเขา

อย่างที่คุณกอบัวบอก ผู้หญิงเรามีมารยาอยู่กับตัวเรา อยู่ที่เราเองต้องเลือกว่า
เราจะใช้บทไหนมาขอความสงสารจากคนของเราค่ะ เวลานี้การยอมรับผิด
สารภาพ พร้อมกับคำว่า ขอโทษ ไม่มากเกินไปค่ะ

ความดี ความบริสุทธิใจของคุณจะชนะค่ะ เขาไม่เกลียดหรอกค่ะ แต่ผิดหวังอย่าง
แรง

ขอบคุณพี่กอบัว พี่แก้วจ๋า และคุณBlackSheep คะ

ได้อ่านที่พี่กอบัว และพี่แก้วจ๋าตอบกระทู้ อ่านแล้วก็จะร้องไห้คะ เข้าใจความรู้สึกของแป้งตอนนี้เลยคะ (เหมือนอยู่บ้านหลังเดียวกันคะ)

ตอนนี้ถ้าเป็นอาการป่วย ก็ทรงตัวคะ ไม่หาย ไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ตายคะ

เมื่อคืนแม่แฟนโทรมาหาคะ

แม่แฟน: เป็นอะไร ทะเลาะกันหรอ

แป้ง: เขาโทรไปเล่าให้แม่ฟังหรอคะ

แม่แฟน: เปล่าหรอก ตอนเย็นแม่โทรไปหาเขา ถามว่าเป็นไงบ้าง เขาตอบแม่ว่า มีเรื่องไม่สบายใจ แม่ก็บอกว่าเล่าให้แม่ฟัง เขาบอกว่าไม่อยากเล่า กลัวแม่ไม่สบายใจ แต่แม่ได้ฟังก็ยิ่งไม่สบายใจ แม่ก็ถามเขาต่อ จนเขาเล่าให้แม่ฟังว่าแป้งไม่เก็บเงิน เงินที่เขาหาให้ก็ไม่รู้หายไปไหนหมด แม่เลยโทรมาหาแป้ง อย่าทะเลาะกันเลยลูก คนเป็นผัวเมียกันเหมือนคนเดียวกัน อยู่ด้วยกัน แม่ไม่อยากให้ทะเลาะกัน แม่ไม่สบายใจ อย่าทำให้แม่ไม่สบายใจเลยนะลูก หรือว่าแป้งไม่รูักลูกแม่

แป้ง: รักคะ หนูก็ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ

แม่แฟน: คนรักกันถึงแต่งงานกัน มีอะไรก็พูดกันนะลูก

แป้ง: คะ แป้งแค่อยากให้เขาฟังแป้งบ้าง ให้แป้งอธิบายบ้าง

แม่แฟน: นั่นแหละ ค่อยๆคุยกัน ไม่มีผู้ชายคนใหนเก่งกว่าเมียไปได้หรอ พ่อเขายังสู้แม่ไม่ได้เลย

แป้ง: คะ

แม่แฟน: ถ้าพ่อโทรหา รับโทรศัพท์พ่อด้วยนะ พ่อเขาอยากคุยกับแป้ง พ่อเขาไม่อยากฟังจากลูกชายเขาอย่างเดียว เขาอยากฟังแป้งด้วย

แป้ง: คะ
หลังจากนั้น ท่านก็วางสายไปคะ

เช้าวันนี้ บรรยากาศยังเงียบขรึมเหมือนเดิมคะ เมื่อคืนเขาขึ้นไปนอนข้างบนกับแป้งคะ แป้งก็เลยคุยกับเขา กะว่าจะบอกเรืองหนี้

แป้ง: ตัวเองหายโกรธเขาแล้วหรอ

แฟน: เขาไม่ได้โกรธตัวเอง เขาโกรธใครไม่เป็น ยังไงตัวเองก็เมียเขา

แป้ง: แล้วตัวเองจะให้เขาทำยังไง

แฟน: แล้วแต่ตัวเอง โตแล้วคิดเอาเอง อันใหนถ้ารู้ว่าไม่ดีก็อย่าทำ (อ้าวงั้นเรื่องหนี้ก็บอกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องไม่ดี)

แป้ง:………………………….

แฟน: เรื่องเงิน เขาให้ตัวเองเก็บ แต่ตัวเองไม่เก็บ เขาก็จะเก็บเอง

แป้ง:……………………………

เย็นวันนี้ เขาซื้อน้ำดื่มเข้าบ้านคะ ปกติแป้งจะเป็นคนซื้อเองเพราะเป็นคนถือเงิน ปกติแป้งจะต้องซื้อของใช้ทุกอย่งในบ้านคะ

แป้งควรจะทำไงดีคะ น้าข้างบ้านเขาก็บอกว่า ถ้าให้ผู้ชายเก็บแล้วเขาไปมีผู้หญิงคนอื่นจะทำไง คนเป็นสามีต้องมีหน้าที่หาเงินให้เมีย แต่แป้งคิดว่าถ้าเป็นอย่างนั้น คงต้องยอมรับคะ

ถ้าเป็นอย่างนี้แป้งก็คงต้องช่วยตัวเอง แต่แชร์เดือนละเกือบหมื่นกว่า ทำเอาเครียดมากขึ้นคะ เพราะจะคืนก็ไม่ได้ เปียมาจ่ายบัตรหมดแล้วคะ (ไม่น่าเลยคะ)

*** พรุ่งนี้จะเริ่มรับสายเจ้าหนี้คะ ขอกำลังใจด้วยนะคะ***

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ เจ้าใหนจะโทรมารายแรก

โหย...แฟนพึ่งจะพูดคืนดีด้วย ไปคิดเรื่องใหม่แล้วแม่อีหนู...
คิดไปโน้นเลย...ผัวมีเงิน แล้วจะมีเมียใหม่
มีอีหนูแป้งคนเดียว มันคงหัวโกร๋นไปแล้วหล่ะ
เอาทีละเรื่อง ทีละอย่าง แค่นี้ยังกะตัวเองยังกลุ้มไม่พอ
เอาคำพูดยายป้าข้างบ้าน มาคิดอีกแน๊ะ...
ไม่เชื่อใจปั๋วบ้างเลย เออ...ดี...สม มิหน่าผัวมันเลยนึกว่า หนูแป้งไปมีชู้
โอ๊ย...อย่าไปคิดมาก
แฟนยอมพูดด้วย ในระยะเวลาสองสามวันนี่ บุญแล้วนะ
บางคนอึมครึมเป็นอาทิตย์เลย อึดอัดใจเป็นบ้า

เราผิด เราก็ต้องยอมรับผิด อย่าพึ่งสะเปะสะปะไปโลกหน้า
เอาไว้อารมณ์เย็นๆ แล้วค่อยคุยกับเขาว่า
คุณ...ที่เราเป็นเก็บเงินไม่อยู่ เพราะว่า เราเอาเงินไปหมุนบัตรเครดิต
แชร์เราก็เปียไปจ่ายบัตรเครดิต...
ตัวเองต้องฟังเราก่อนนะ ถ้าตัวเองจะฆ่าเรา เราก็ย๊อมมมม (แล้วกอดเข่าไว้แน่นๆ เผื่อมันลุกขึ้นเตะ)

แต่ก่อนจะไปพูดกับเขา น้องแป้ง เลิกร้องไห้ เลิกคิดมาก
เอาเวลาเศร้าโศกเสียใจ หดหู่ใจ ไปศึกษากระทู้ปักหมุดมากๆ
นี่แน๊ะ...ไปอ่านกระทู้ของแม่แกะดำสิ...เขาหมดหนี้ได้ยังไง ไปอ่านจะได้มีกำลังใจ
กระทู้อยู่ข้างๆกันนี่เอง
อ่านตะลุยตะบี้ตะบัน อ่านแม๋มเข้าไปเยอะๆ
เวลาปั๋วถาม เราจะได้พูดจาฉะฉาน...
ปั๋วไม่เข้าใจ เอาโทรศัพท์ให้คุยกับพี่บัว 555++
(ยังไม่ได้แจกเบอร์ Hotline ใหม่อีกเลย...)

ตอนพี่บัวพูดกับพ่อบ้าน ก็ยังงงๆ เฮ้ย...เขายอมลดราคาให้เราจริงๆเหรอ
แฮร์คัทมีจริงเหรอ เวลาเขาทวงมากๆ เราจะขาดใจตายไหม?
อูย...ตอนนั้นโทรหากรรมการ เอาโทรศัพท์ให้สามี คุยกับ พี่วัชร์ ลำผักกูด
อธิบายกันเป็นชั่วโมง เขาก็น่าแช่มชื่นขึ้น
พอพี่บัวแฮร์คัทใบแรกได้ โอ๊ย...เขาดีใจยิ่งกว่า ลิงได้แก้ว

น้องแป้งเอง พยายามทำบัญชีรายรับรายจ่ายออกมา
ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก จะได้มีตังค์เก็บ
จะได้แฮร์คัทให้สามีเห็นว่า เราตั้งใจจริง และเราทำได้

พี่บัว และเพื่อนๆทุกคนเป็นกำลังใจให้

“อย่าให้น้ำตาแซงหน้าเรา”

“เวลาที่คุณผิดหวังท้อแท้ คุณอย่าหยุดอยู่เฉยๆ

ถ้าคุณหยุดอยู่เฉยๆ ยังไงน้ำตามันก็ต้องตกแน่ๆ

คุณต้องวิ่งไปข้างหน้า

น้ำตามันจะไหลไปข้างหลัง”


พิง ลำพระเพลิง

คุณกอบัว ขอร้องอย่าเพิ่ง เชียว คนอะไรปากพระร่วง
ว่าจะไม่เข้ามาแล้วเชียว แต่สำนึกบอกว่า เพราะเราคะยั้นคะยอให้
คุณ powder เธอสารภาพบาปกับแฟน ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ

คุณเธอขา ขอซ้ำำรอยคุณกอบัวหน่อยนะเรื่อง แฟนถือเงินแล้วกลัว
นอกลู่นะ คุณป้าข้างบ้านช่างหวังดีเสียจริง จะบอกว่า จากประสบ
การณ์กับพวกหัวงูทั้งหลาย ถ้าเขาจะนอกลู่จริง เขาทำได้เสมอค่ะ
ต่อให้คุณน้องจ่ายวันละ 100 บาทหรือวันละ 20 บาทก็ตาม หรือ
คุณน้องถือเงินเองหมด อย่าไปหาเรื่องเขาเถอะ ปัญหา
ตัวเองที่หมกไว้นะ มีให้แก้ตั้งเยอะ

เรื่องของเรื่อง ต้นเหตุคือ คุณไม่บอกความจริงให้เขารับรู้ตั้งแต่แรก
ว่าคุณใช้เงินอนาคต มาช่วยเขาซื้อของตกแต่งบ้าน เพราะกลัวเขา
จะว่า ไม่ช่วยกัน เอาเปรียบเขา

เมื่อก่อนแก้วจ๋าก็เป็นแบบคุณ ผู้หญิงเรามักใจอ่อนกับคนที่เรารัก
อาจเพราะเป็นเพศแม่มาก เรามิอาจปล่อยให้คนที่เรารักผจญชะตา
กรรมแต่ลำพัง จะต้องกางปีกมาโอบอุ้มเขา ช่วยเขาทั้งที่ตัวเองยัง
เอาตัวเองไม่รอด แต่ไม่รู้ตัว แก้วจ๋าช่วยเขาผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ตอน
นั้นโคตรมีความภูมิใจว่าเราสร้างครอบครัวด้วยกับเขา โคตรสำคัญ
ตัวผิด

พอมาถึงวันที่ต้องพูด และยอมรับความจริงก็กลัวเหลือเกินว่า เขาจะทิ้ง
ไป แต่พอพูดไปแล้ว โคตรสบายใจ เหมือนยกเอาภูเขาออกจากอก
และเพราะแก้วจ๋าไม่ได้ตำหนิเขา ไม่ได้ขอร้องเขาให้มาช่วย แต่บอก
ให้เขารู้เกี่ยวกับชมรมและแนวทางแก้ปัญหา เขารับฟัง และพอถึงวัน
ไปศาลครั้งแรก แก้วจ๋าก็บอกเขาแค่ว่า ไปศาลวันนี้นะ พอกลับจากศาล
เขาโทรมาหา ถามว่าเป็นไง แค่นี้ก็ทำให้รู้ว่า เขาก็แคร์ และเป็นห่วง
คงกลัวจะย้ายไปอยู่ในคุก ต้องหอบข้าวไปเยี่ยมมัง

อยากให้คุณรู้สึกว่า เราต้องอยู่ให้ได้ แม้จะมีหรือไม่มีเขา เราไม่รู้ว่า
พื้นฐานความรักระหว่างคุณกับแฟนแข็งแรงแค่ไหน แต่คุณต้องรักตัวเอง
ก่อนที่จะไปบอกว่า รักเขา คุณต้องยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนว่า สิ่งที่
ผ่านมาคุณทำผิด เพราะเท่าที่อ่าน คุณยังไม่รู้สึกแบบนั้น และอยากบอก
ว่า การเป็นหนี้ไม่ใช่สิ่งไม่ดี แค่เป็นความผิดพลาด ตอนที่คุณให้แฟนรู้
เรื่องบัญชี คุณแค่ให้เขารู้ว่า เงินมีไม่พอ ซึ่งเป็นใครๆ เขาก็ต้องงง และ
ถามแบบแฟนคุณว่า เงินหายไปไหน และคุณยังไม่เคยสารภาพบาป และ
ยังไม่เคยบอกเขา ว่า คุณขอโทษที่ทำำลายความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น
ที่เขามีต่อคุณไป เพียงเพราะคุณแก้ปัญหาแบบผิดๆ และคุณยังไม่บอกเขา
ว่า คุณเจอทางออกของปัญหาแล้ว แต่กลับถามเขาว่า เขาต้องการให้คุณ
ทำไง ดีนะที่เขาตะคอกใส่ เรื่องของมึง ดีเท่าไรแล้วเขากลับบ้านมาหา
คุณ พูดกับคุณในเวลาอันสั้น อย่าทำงี่เง่า เซ้าซี้ให้เขาเห็นว่า คุณโยน
ปัญหาใส่เขา เพราะไม่มีใครชอบค่ะ

คุณยังโชคดีที่คุณพ่อแม่สามีให้โอกาสรับฟังคุณ ไม่มาว่าคุณแบบคุณแม่
กัปตันธีระ ในละครรักคุณเท่าฟ้า ถ้าเป็นไปได้ อิงผู้ใหญ่ไว้ดีกว่าค่ะ คิดว่า
แฟนคุณเป็นคนที่รักพ่อแม่พอสมควรนะ

ถ้าเราแก้ไขปัญหาได้เอง โดยที่แฟนเขาไม่ต้องมาเดือดร้อน เขาก็หมดความ
กังวล และกลัวค่ะ แบบคุณแม่แฟนบอกไว้ ไม่มีผู้ชายคนไหนเก่งกว่าเมียนะ
แม่แฟนยังเข้าข้างและเชียร์คุณเลย หาโอกาสดีๆ บอกความจริงว่า เราทำ
ผิดไปเพราะเรารัก และเรากลัว ก่อนที่จะอึมครึมมากกว่านี้

อ่านเรื่องของคุณแล้วระลึกชาติถึงเรื่องตัวเอง ตอนนั้นแย่กว่าคุณ เพราะไม่
มีใครจริงๆ คิดอยู่คนเดียว แต่ดีที่เจอคุณอาและชมรม ทำให้ต้องบอกกับ
ตัวเองว่า อ่อนแอไม่ได้ ต้องลุกมาสู้ เพื่อตัวเองรอด จะมาหวังหรือจมอยู่กับ
ความทุกข์เรื่องเขาไม่ได้ ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ทำตัวเองให้มีค่า ไม่ใช่
ไร้ค่าค่ะ

ค่อยๆ คิดอย่างมีสติค่ะ ไม่มีใครรู้จักเขาเท่ากับคุณค่ะ








อย่าหลอกตัวเอง และโกหกเขาเพราะความกลัวอีกต่อไปค่ะ
มันไม่ช่วยในระยะยาว แค่เอาตัวรอดไปวันๆ แต่ผลสุดท้าย คือการทำร้ายตัวเอง
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่อยู่ที่การบอกเล่าของคุณที่สร้างสรรเรียงลำดับ
อย่างดี และมีสติค่ะ การสารภาพผิดกับผู้ใหญ่เป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ ไม่ว่ากับ
คุณแม่คุณเอง หรือคุณพ่อคุณแม่เขา เพราะคุณพ่อคุณแม่เขาเป็นคนดี เขาถึง
ส่งลูกชายเขากลับมาอยู่กับความจริงค่ะ



คิดถึงช่วงเวลาดีๆที่มี เพื่อเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปค่ะ

คุณ power ได้อ่านเรื่องของคุณแล้ว เรารู้สึกเหมือนชีวิตตัวเองเลย
แล้วกลับมาเล่าความคืบหน้าต่อนะ เป็นกำลังใจให้จ๊ะ

เหมือนกันเลย ตัวเองก็ยังไม่กล้าบอกคนที่บ้าน เพราะเราไม่รู้มันจะเกิดอะไร กลัวรับคำพูดของเค้าไม่ได้เพราะแฟนเราเป็นคนพูดแรง จะทำอาการมากกว่าแฟนคุณ power แต่ยังไงเราก็ให้กำลังใจคุณ power ค่ะ